“พีเค” ยก “มีเรียน” เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ชมแบบบ้านๆ เขาหน้าด้านกว่าผม ขอบคุณเป็นเกาะกำบังที่ดี ในช่วงชีวิตที่แย่ เผยไม่โกรธ “ต้นหอม” เลือกข้าง “โยเกิร์ต” ยังเป็นน้องรักเหมือนเดิม ไม่ท้อพูดอะไรก็เป็นดรามา ส่วนที่บอกว่าเงินไม่เหลือ คือเงินบริษัท อุบตอบคิดว่าตัวเองโดนของไหม แต่รู้สึกโล่งและดีขึ้นหลังไปทำบุญ

จากเมื่อวันก่อน (17 ส.ค.) ที่หนุ่ม “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่ามีเงินแค่ 700 บาทในกระเป๋า ก็ทำเอาหลายคนไม่อยากจะเชื่อ ว่ามันเป็นไปได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) เจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้แล้ว หลังมาร่วมชมการประกวด Miss Earth Thailand 2024 รอบไฟนอล โดยเผยว่าจริงๆ ต้องแยกกัน ระหว่างเงินกินข้าว กับเงินในบัญชีส่วนตัว ซึ่งที่บอกว่าไม่เหลือแล้วคือเงินบริษัท แต่ตอนนี้มีเงินสดติดตัวแล้ว เพราะได้ค่าตัวจากงานพิธีกร Miss International Queen ที่ “อั๋น ภูวนาท คุนผลิน”

และ “จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน” ให้โอกาสได้กลับมารันเวที

“เมื่อวานมีเหลือ 700 จริงๆ ต้องแยกจากกันนะ เงินในบัญชีส่วนตัว คือเงินที่เวลาไปอ่านสปอร์ตโฆษณา อันนี้คือเงินที่ใช้กิน ใช้ซื้อข้าว แต่ที่บอกว่าไม่เหลือ (หัวเราะ) คือเงินในบริษัทที่มันไม่เหลือ แยกแยะกันนะเมื่อวานมี 700 ในกระเป๋าจริงๆ ไม่ได้พูดให้เห็นใจหรือให้คนด่าเล่น เงินในบัญชีเหลือไม่เยอะอยู่แล้ว แต่เงินในบริษัทไม่เหลือเลย เดี๋ยวก็ดูกันไปว่าจะต้องทำยังไง วันนี้มีเงินเพราะพี่อั๋นเพิ่งจ่ายค่าตัวเงินสด ดีใจมากครับ ไม่มีเงินคือไม่มีเงินส่วนตัว ไม่มีเงินกิน ใช้แต่เครดิตการ์ดจนเป็นหนี้หลายแสนเลย แล้วพอได้เงินมาก้อน ก็จ่ายหนี้หมด เงินก็หมดอีก ผมยอมรับว่าทำงานเก่งแต่เก็บเงินไม่เก่ง เลยต้องให้คนรอบข้างเก็บเงินแทน”

ไม่ท้อพูดอะไรก็เป็นดรามา
“จะบอกว่าเข้าใจทุกคนนะ เข้าใจคนที่คอมเมนต์ เข้าใจคนที่ส่งกำลังใจมาให้ เรารู้ว่าชีวิตตอนนี้ของเรามันไม่ได้ดีมาก แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราผ่านไปได้อนาคตเราจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เพียงแต่ว่าบางวันมันยาก จนเราไม่จับโทรศัพท์ พยายามไม่คิดอะไร ไม่ถึงขั้นอยากออกจากวงการ พิธีกรเก่งๆ เรามีเยอะมาก ผมหนึ่งในนั้น เพียงแค่ขอให้มีโอกาสได้กลับมาทำงานอีกเท่านั้น”

บอก “ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์” ยังเป็นน้องรัก แม้จะออกตัวว่าอยู่ข้างอดีตภรรยา อย่าง “โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงต้นหอมก็คือน้องรัก ไม่ผิดที่ ขนาดคนดูอยู่ตอนนี้ อาจจะน้อยคนที่เลือกข้างผม ที่เหลือเทไปอีกฝั่งหนึ่ง ผมไม่ว่า นี่คือธรรมชาติของคน ไม่ว่าต้นหอมจะเลือกฝั่งไหน ผมก็รักเหมือนเดิมต้นหอมเป็นคนที่น่ารัก เขาจะเลือกฝั่งที่เขารู้สึกว่าน่าจะถูก ผมไม่ว่าเลย ถ้าต้นหอมดูอยู่บอกเลยว่ารักเหมือนเดิม แต่เดี๋ยวแอบมีด่านะ (หัวเราะ) หมายถึงด่าแหย่เล่นกันครับ แต่ว่ารักเหมือนเดิม”

ยืนยันความสัมพันธ์ดีๆ ยังมีให้ทุกคนเหมือนเดิม กับ “ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผล” ก็คุยกันปกติ
“ผมยังทำแฉข่าวเช้ากับดาด้ายังคุยกันได้เหมือนเดิม ไม่มีความรู้สึกผิด ไม่มีความรู้สึกแย่อะไรกับใครเลย เพราะเรารู้ว่าทั้งหมดที่เราทำ เราทำพลาดเอง แล้วก็เข้าใจความพลาดนั้นแล้ว แล้วเราก็สะดุดมาหลายเดือน”

ไม่โกรธใครเลย เพราะทำตัวเอง แล้วยังทำให้ “โยเกิร์ต” เสียใจ
“ไม่โกรธใครเลย เพราะว่าความผิดอยู่ที่ผม ผมทำเอง ผมเลือกเอง ผมตัดสินใจเร็วเกินไปเอง แล้วก็ทำให้อดีตภรรยาเสียใจ ทำให้เพื่อนๆ เสียใจ อันนี้ยอมรับผิดเต็มๆซึ่งผมก็อยู่กับความผิดนั้นมา 5 เดือนแล้ว แล้วก็คิดว่าจะค่อยๆ นับศูนย์ใหม่ เริ่มกลับมาทำงานใหม่ถ้ายังมีโอกาสครับ”

เคลียร์ปมเข้าวัดเพราะโดนทำของ เป็นความเชื่อของผู้ใหญ่
“อันนั้นเป็นเรื่องความเชื่อของผู้ใหญ่ เอาจริงๆ ตอนไปทำบุญที่วัดท่าไม้ ไม่รู้เลย จะเรียกว่าโดนหลอกไปก็ได้ ไปถึงเราก็แบบโอ้โห! อะไรกันเนี่ย มีพญานาค เราไม่เคยเข้าวัด มีโต๊ะ มีเครื่องบวงสรวงบูชา หลวงพี่อุเทนก็บอกว่าไปนั่งตรงพญานาคแล้วก็ยกมือไหว้ เราก็ทำหน้างงๆ สงสัย คือเราไม่รู้จริงๆ ชาวพุทธอย่าเพิ่งว่ากันนะ เราก็ยกมือไหว้ เสร็จปุ๊บก็พูดว่าขอบคุณท่านครับ กลับแล้วนะครับ ก็บอกว่ายังๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เราก็ เปลี่ยนเสื้อผ้าทำไม เอาชุดขาวมาให้ เราก็ไปนั่งอะไรวะ คิดในใจ อยู่ดีๆ ก็สาดน้ำโครมๆ เราก็ไม่เข้าใจ พอสาดน้ำจบเราก็บอกขอบคุณท่านครับเดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ ก็ยังมาคุยกับหลวงพี่ก่อน จากนั้นก็ไปนั่งคุย แต่เราเข้าใจแล้วอ๋อ…นี่คือวิธีทางพุทธที่เขาทำบุญกันแบบนี้”

ไม่รู้เป็นการสะเดาะเคราะห์
“ยังไม่รู้เลยครับ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ อาทิตย์ที่แล้วก็โดนอีกรอบหนึ่ง แล้วเดี๋ยววันอังคารหน้านี้ท่านก็บอกว่าให้มาอีกครั้งหนึ่ง”

เผย “หลวงพี่อุเทน” ทักเป็นเคราะห์กรรม ถ้าหลุดพ้นแล้วชีวิตจะกลับมาดีมาก

ท่านบอกว่ามันเป็นเคราะห์กรรม อีกแป๊บหนึ่งจะหลุดและชีวิตจะกลับมาดีมาก เราก็รู้สึกว่าเป็นกำลังใจเนาะ อะไรที่มันดีกว่านี้ก็คือดีมากแล้ว ณ ตอนนี้จะบอกว่าขอบคุณพี่ๆ สื่อทุกคนเลยที่ยังให้เกียรติสัมภาษณ์กันอยู่ อะไรก็ตามที่มันดีกว่าตอนนี้ถือว่าดีมากแล้ว”

หลังทำพิธีรู้สึกโล่งและสบายใจขึ้น
“จริง อันนี้ไม่ได้บอกแม่ด้วยนะ มันสบายใจขึ้น มันโล่ง มันเหมือนปล่อยวางทุกอย่าง ใครอยากด่าอะไรก็ด่าเข้ามาเลย มันเหมือนไหลไปตามน้ำ แถมโดนพี่หนุ่ม พี่ชายบังคับให้เปลี่ยนเบอร์ด้วย เราก็เปลี่ยนเบอร์แล้วแต่พอทำแล้วจากคนที่ไม่เชื่อเริ่มเชื่อเหมือนกัน (หัวเราะ)”

คิดว่าตัวเองโดนของไหม ขอไม่ตอบ
“ขอไม่ตอบนะครับ (หัวเราะ)”

จำไม่ได้เคยกินหมูกระทะกับ “โยเกิร์ต” เพิ่งมาจำได้ตอนกินกับ “มีเรียน สุเดชา อัคเซลการ์ด”
“เอาจริงๆ จำไม่ได้นะ แล้วกลับมาจำได้ตอนที่ไปกินหมูกระทะกับมีเรียนนี่แหละ แต่ตอนนั้นจำไม่ได้จริงๆ เพราะว่ากับอดีตภรรยาเรากินอะไรกันเยอะมาก จนจำไม่ได้ครับ (แล้วทำไมถึงยอมไปกินมีเรียน?) เพราะว่าหน้าบ้านเขาที่เชียงใหม่มันมีร้านหมูกระทะ และมันหอมมาก ตอนขับรถผ่านเลยบอกเขาว่าอยากลองหมูกระทะ เขาเลยชวนครอบครัวเขามานั่งเรียงกันแล้วก็มาทำหมูกระทะให้กิน ซึ่งการนั่งกินกับครอบครัวใหญ่แบบนี้จะบอกว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ใช้ชีวิตในเมืองไทยแล้วได้กินกับครอบครัวอย่างนี้”

วันนั้นคือมีความสุข รู้สึกดีที่มี “มีเรียน” อยู่ข้างๆ
“ดีครับ ดีที่มีเขาอยู่ข้างๆ มีครอบครัวเขาที่ซัปพอร์ตเรา เขารู้ว่าเรากำลังผ่านอะไรแย่ๆ และหนักที่สุดในชีวิต แต่ครอบครัวเขาก็ซัปพอร์ตเราเต็มที่ เราก็อุ่นใจที่นอกจากมีคุณแม่ มีพี่ชายที่อยู่กรุงเทพฯ แล้ว ยังมีครอบครัวของเขาที่เชียงใหม่ที่คอยซัพพอร์ตเราอยู่ด้วย”

การมี “มีเรียน” เข้ามา ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ถือว่าดีที่สุดครับ โอ้โห! ถ้าไม่มีเขานะ แล้วทุกอย่างมันทับถมแบบนี้ แล้วเราพลาดแล้วพลาดอีก แล้วเขาพยายามมาดึงเรา ถือว่าดีที่สุดแล้วครับ”

บอกพูดแบบบ้านๆ “มีเรียน” หน้าด้านและแข็งแกร่งกว่ามาก ขอบคุณที่เป็นเหมือนกำบังที่ดี
มีเรียนเขามีลูกสาว เขาผ่านการสูญเสียสามีมาแล้ว ถ้าศัพท์บ้านๆ เลยคือ หน้าเขาเนี่ยจะด้านกว่าผม (หัวเราะ) อันนี้ชมๆ เขาแข็งแกร่งกว่าผม ผมเป็นคนที่เซนซิทีฟคน เวลาที่คนด่าเราจะดาวน์กว่าคนอื่นเยอะมาก เขาสามารถรับสิ่งเหล่านี้ได้ ผมขอบคุณเขา ที่เขาเหมือนเป็นกำบังที่ดี ในช่วงที่ชีวิตแย่”