ดยล่าสุด “โตโน่” ได้เผยถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า “เรื่องสิ่งแวดล้อม ผมทำมาหลายปีนะครับ มันก็ดีขึ้น แต่ยังรู้สึกว่ายังไม่ได้ดีเท่าใจที่เราอยากให้เป็น เพราะเวลา PM มาทีนึง เราก็ตื่นตัวกันทีนึง ผมอยากให้มันฝังอยู่ในจิตใจของพวกเราทุกคน ว่าพวกเราทุกคนทำลายธรรมชาติ ทำลายโลกใบนี้มาหลายร้อยปีแล้ว การที่เราจะแก้ให้เขากลับมาดีได้ในระยะเวลาอันสั้น มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าเกิดเราไม่ทำอะไรเลย พังแน่
ผมเดินเก็บขยะ ถามว่าทำไมต้องเก็บ PM2.5 มันเกี่ยวกับขยะยังไง โลกร้อนมันเกี่ยวกับควันเสีย ควันดำยังไง ซึ่งจากที่ทำมาผลตอบรับมันก็ดีนะครับ ผมก็เลยคิดว่าในช่วงเวลาที่เรามีโอกาสทำ ก็พยายามทำให้เต็มที่ อันนี้ก็อยู่ที่ใจของแต่ละคนครับ เราไม่มีสิทธิไปกดดันใคร แต่ก็ไม่มีใครมีสิทธิมากดดันเราเหมือนกันว่าห้ามเดินเก็บขยะ ห้ามพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมมันไม่ใช่เรื่องของกทม.เก็บขยะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของนักร้องนักแสดง แต่มันเป็นเรื่องของทุกคน เพราะเราทุกคนมีส่วนที่ทำให้โลกเป็นแบบนี้
คำวิจารณ์ ผมเจอมาทุกรูปแบบแล้วครับ ก็เห็นครับ แต่ผมไม่ได้สนใจ (หัวเราะ) เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ศูนย์หัวใจก็เพิ่งช่วยชีวิตไปได้ตั้ง 3 คน ผมแคร์ตรงนั้นดีกว่า ใครบ้างไม่โดนว่าครับ แต่มันอยู่ที่ว่าเราทำเพื่อใคร ประโยชน์เพื่อใคร ถ้าประโยชน์เพื่อเราเอง เราไม่กล้าพูดเต็มปากหรอก แต่ถ้าเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แผ่นดิน ประเทศชาติจริงๆ จะพูดกี่ทีก็เหมือนเดิม ก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยครับ ทุกคนมีสิทธิคิด และผมเองก็ไม่เคยคิดไปตอบโต้ใครแม้สักครั้งเดียว
ส่วนเรื่องแต่งงานกับแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา” นักแสดงหนุ่มบอกว่า “ก็บอกกับณิชาครับ เคยพูดกันเล่นๆ ว่าถ้าเกิดเรายังมี PM2.5 อยู่ และถ้าประเทศของเรายังติด 1 ใน 10 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลกอยู่ เราอย่าเพิ่งมีครอบครัว อย่าเพิ่งมีลูกเลยเพราะเราไม่อยากให้ลูกต้องสูดอากาศนั้นเข้าไป ซึ่งณิชาก็เห็นด้วยนะ เขาบอกว่าก็จริงนะ และจริงๆ แล้วผมว่าน้องกำลังมีไฟในการทำงาน ตัวเราเองก็กำลังมีพลังมากๆ เลย ถ้าเกิดว่ามันมีเรื่องอยากให้โฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ยังไม่อยากให้มาคิดถึงเรื่องของเรามากครับ
เรื่องแต่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะตอนไหน ทุกวันนี้ก็มีความสุขในทุกวันอยู่แล้ว ผมก็โชคดีมากๆ อยู่แล้วที่มีณิชาในชีวิตครับ แต่แผนการแต่งงานยังไม่ได้คุยกันเลยครับ แต่เรื่องลูกคุยกันจริงๆ ว่าถ้าเกิดแต่งงานแล้วมีลูก ถ้าเกิดว่าอากาศมลภาวะมันยังเป็นแบบนี้ ก็ยังไม่อยากมี เราอยากทำให้เต็มที่ก่อนแต่ถ้าเกิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว เราแก้ไม่ได้ เราสู้ไม่ไหว ค่อยมาตัดสินใจตอนนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรครับ
การแต่งงานเป็นเรื่องเล็ก จะแต่งตอนไหน พวกเราจะได้มาร่วมงานแต่งไหม ผมว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องที่สำคัญคือการที่เราจะทำยังไงให้กรุงเทพฯ ไม่ติด 1 ใน 10 ของ PM2.50 เชียงใหม่ไม่ติด ทะเลบ้านเราสะอาด ไม่ฟอกขาว ผมว่าอันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ส่วนเรื่องแต่งงานค่อยว่ากัน”