แม่ป๋อง พิมพ์แข เปิดใจหมดเปลือก หลัง ใบเตย ประกาศหย่า ดีเจแมน เผยเป็นคนนอก-เล่าชีวิตของลูกชายในคุก แต่ละวันเหมือนตกนรก-เข้มแข็ง รอวันพิสูจน์บริสุทธิ์
หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “ใบเตย อาร์สยาม” ได้หย่ากับสามี “ดีเจ.แมน พัฒนพล” แล้ว ด้าน “แม่ป๋อง พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา” แม่ของ ดีเจแมน ออกมาบอกว่า “ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง”
ล่าสุด (26 ส.ค.2567 ) ใบเตย ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าเธอหย่ากับ ดีเจแมน แล้วจริงๆ ด้าน แม่ป๋อง ก็ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิง ถึงเรื่องนี้อีกครั้ง โดยเธอยืนยันว่า ไม่รู้มาก่อน และไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ เพราะแม่เป็นคนนอก พร้อมเล่าถึงสภาพจิตใจดีเจแมน และชีวิตในคุกของลูกชาย
“เรื่องเตยกับแมนหย่ากัน แม่ไม่รู้เรื่อง ไม่อยากยุ่งกับเขา คือไม่ค่อยได้คุยกับเตย เตยเขางานเยอะ วันๆแม่ก็ไปเยี่ยมแต่แมน ไม่ค่อยได้เจอกันไม่ค่อยได้คุยกับเตย อันนี้ก็ต้องถามเตยเขานะ คือแม่ก็เป็นคนนอกแล้ว แม่คนนอกแล้วลูกเอ้ย”
“คือเรื่องหย่า แม่คุยกับแมนตั้งแต่คราวที่แล้วตอนมีข่าว แต่ครั้งนี้ยังไม่ได้คุย ยังไม่ได้ไปเยี่ยม แต่ว่าเดี๋ยวจะไปเยี่ยมอีกทีวันพุธ แต่ว่าแม่คิดว่า เตยเขาคงคุยกับแมนแล้ว เพราะว่าเขาไปเยี่ยมแมนตลอด
คือแม่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจริงๆ เวลาไปเยี่ยมแม่ก็ให้กำลังใจอย่างเดียว ไม่พูดเรื่องอื่นเลย ไม่พูดเรื่องไม่ดีให้เขาฟัง พูดแต่เรื่องดีๆ พูดแต่เรื่องหลาน เรื่องธรรมะ เรื่องคดีความ ว่าไปถึงไหนอะไรยังไงแล้ว
คุยให้เขาฟังว่าเราคุยกับทนายเขายังไง ไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวเลย อะไรที่เป็นเรื่องไม่สบายใจ ไม่เคยคุยกับแมนเลย เพราะเรารู้ว่า ลูกเราอยู่ในนั้น มันก็ทุกข์พอแล้ว แล้วเราจะเอาความทุกข์ไปให้เขาอีกทำไม เราก็ต้องคุยแต่เรื่องดีๆ”
“และเราก็ต้องเข้มแข็งให้เขาเห็นว่าเราสู้เพื่อเขาอยู่ เขาจะได้มีกำลังใจอยู่ข้างในนั้นได้อย่างเข้มแข็งเพื่อความหวัง หวังว่าเรายังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ เรารอความยุติธรรม เรารอตรงนั้นอยู่ เราไม่สิ้นหวัง เพราะเรารู้ว่าเรายังทำอะไรกันอยู่ แต่เวลาไปเยี่ยม เรื่องไม่ดีข้างนอกไม่เคยเอาไปคุยให้ลูกฟังเลย”
พอมันเกิดเรื่องแบบนี้ ในฐานะแม่ มีความคิดเห็นอย่างไร?
“ก็มีความเป็นห่วงลูก ห่วงความรู้สึกลูก แต่ว่าอันนี้มันเป็นเรื่องครอบครัวเขา เราเป็นแม่เราไปก้าวลึกเข้าไปในเรื่องครอบครัวเขา มันก็ไม่ใช่ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องครอบครัวเขา เดี๋ยวเขาก็ออกมาแก้ของเขาเอง ถ้าเขายังรักกันอยู่ โอเคออกมาแล้วเขาก็ยังเป็นครอบครัวของเขาอยู่
เขาอาจจะมีเหตุผลอะไร ซึ่งแม่ก็ไม่รู้ ไม่รู้จริงๆแม่เป็นแม่ที่ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกเลย เอาความรู้สึกลูกอย่างเดียวเป็นใหญ่ในตอนนี้ สงสารลูกเรา ต้องเอาความรู้สึกของลูกให้เขาสบายใจเป็นใหญ่
เราเป็นแม่ที่รักลูก เราต้องประคบประหงมดูแลจิตใจลูก คือแม่รักลูกชายแม่มาก แม่มีลูกชายคนเดียว ลูกสาวแม่ น้องพี่แมนก็อยู่เมืองนอก ตอนนี้แม่ก็อยู่คนแก่กันสองคน แล้วก็มีพี่เลี้ยงที่ดูแล ที่แมนจัดการไว้ให้ ใช้เงินกันแบบประหยัด
ดีที่ยังมีคนมาจ้างเล่นละคร มีคนพาไปรีวิวสินค้า เมื่อก่อนพี่แมนซัพพอร์ตหมด ตอนนี้เราอยู่กันอย่างประหยัดมาปีกว่าแล้ว ไม่เที่ยวไม่เตร่ ไม่ฟุ่มเฟือย นอกจากไปกินข้าวกับเพื่อนให้มันสนุกสนานเฮฮา แล้วก็ไปเยี่ยมพี่แมน
ซึ่งความสุขที่สุดของแม่ในตอนนี้ก็คือวันเวลาที่ไปเยี่ยมลูกชาย ไปคุยไปทุกวันที่ว่าง จันทร์ถึงศุกร์ไปเยี่ยม ก็จะได้เจอกันแค่ 20 นาที แต่ถ้าวันไหนที่น้องเตยไป แม่ก็จะไม่ได้ไป เพราะว่ามันไปเยี่ยมกันได้แค่วันละสองคน เวลาก็จำกัด ได้แค่ 20 นาที เราต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ คุยเรื่องดีๆ เรื่องพระเรื่องลูกสาวให้เค้าฟัง”
เขาอยู่ข้างใน เขาได้เล่าให้คุณแม่ฟังไหมว่าเขาเป็นยังไงบ้าง?
“เขาเข้มแข็ง สู้ได้ อยู่ในห้องสมุด อ่านหนังสือ อ่านกฎหมายเป็นเล่มๆ และสอนวาดรูป สอนธรรมะ สอนนั่งสมาธิ เขาอยู่ได้ ในนั้นคนรักแมนเยอะ เพราะว่าเขาเป็นคนน่ารัก เขาลุกซ์แบดบอยแต่ว่าเขาเป็นคนจิตใจดี และแม่ต้องทำตัวให้เข้มแข็ง แม่ต้องไม่ป่วยไม่เป็นอะไร ไม่งั้นเขาจะเป็นห่วงเรา จะไม่ทำตัวให้เขาเป็นห่วงเลย
ต้องรักษาจิตใจลูก จนกว่าจะถึงวันที่พิสูจน์แน่ชัดแล้วว่า เราบริสุทธิ์ อีกไม่นานนี้แหละ ตอนนี้ก็สืบ สืบไปเรื่อยๆ เราต้องพิสูจน์ให้ได้ หลักฐานเรามี ทนายเราเก่ง เราโดนอยู่ในนั้นมาปีกว่าแล้วคิดดูสิ คือเขาอยู่กับพ่อกับแม่กับลูกกับเมียมาตลอด เข้าไปอยู่ในนั้นมันก็ทุกข์ ก็ต้องทำใจให้ได้ มีเพื่อนที่ดีหลายคน
คือเขาก็ยังไม่ใช่นักโทษเด็ดขาด เพราะว่าแดนที่เขาอยู่ไม่ใช่แดนโหดร้าย แต่ก็อยู่ปนกับคนหลาย 100 ชีวิต ก็ทำใจสวดมนต์ธรรมะ ทำบุญอย่างเดียว เลี้ยงข้าวน้องๆข้างในบ้าง แม่สอนให้ทำแบบนั้นเขาเลยมีคนรักเยอะ สอนให้เขามีใจเมตตา ซึ่งเขาก็มีอยู่แล้ว”
ส่วนตัวแม่เองให้กำลังใจตัวเองยังไง?
“ก็มีจากหลาน แล้วเราก็ให้กำลังใจตัวเองด้วยการสวดมนต์ ทำบุญ ไปไหว้พระ ไปปฎิบัติธรรม ไปหาหลาน ไปกับเพื่อน ไปกินข้าว แม่จะไม่ทำตัวจมดิ่ง เพราะเราต้องเข้มแข็งสู้เพื่อลูก เพราะว่า ถ้าเราเป็นอะไรไป ลูกแย่เลย ไม่มีใครดูแล เพื่อที่จะให้แมนเข้มแข็ง แรกๆแม่ก็แย่ ปรับตัวไม่ได้ แม่นึกว่าแม่จะแย่เป็นซึมเศร้าแล้ว แต่ตอนหลังไม่ได้เลย ต้องลุกขึ้นมาเข้มแข็งให้แมนเลย สู้เพื่อลูกจริงๆ”
“วันแม่ที่ผ่านมา แม่ไปเยี่ยมแมน เอาพวงมาลัยติดมือแม่ไป ไปเยี่ยมที่โน่นก็เอาพวงมาลัยไปด้วย แมนเขาก็กราบแม่จากข้างใน มันก็จะมีห้องกระจกกั้น วันสำคัญต่างๆแม่ก็จะทำให้เหมือนเป็นวันปกติเลย เหมือนที่เราทำยังไงกันตอนอยู่ข้างนอกเราก็จะทำยังงั้น
เพราะว่าทุกครั้งวันแม่ แมนก็จะพาไปกินข้าว ซื้อของขวัญให้ กราบเท้า รดน้ำล้างเท้าให้แม่ ตอนนี้สองปีแล้วไม่ได้ทำ แต่ว่าแมนเข้มแข็งมาก ก็คือลูกผู้ชายทั้งแท่งเลย แล้วข่าววันนี้ แม่ว่าเขาก็คงต้องรับได้ แม่ก็ไม่รู้นะว่าข่าวมันยังไงรายละเอียดไม่รู้เลย แม่ก็มีหน้าที่บำรุงดูแลจิตใจลูกแม่ให้แข็งแรง และตัวแม่ต้องแข็งแรง
ส่วนตอนนี้เรื่องคดีความเราก็ยังพูดไม่ได้ มันจะเสียรูปคดี ขนาดไม่พูดยังโดนหนักหนาสาหัส แต่ก็ยังผ่านมาได้ เราจะยังไม่พูดเลย รอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ รอวันฟ้าหลังฝน รอวันนั้นมันต้องมี มันต้องมีสักวัน มันต้องมี แม่เชื่อในความดีของลูกแม่ ที่เขาทำดีกับพ่อกับแม่ กตัญญูพ่อแม่ ปฎิบัติธรรม อยู่ข้างในก็ช่วยคนข้างในเยอะแยะมากมาย เราก็ต้องให้กำลังใจเขา”
“เพราะว่าบางที คนเราอยู่ในนั้น หนึ่งวันมันก็เหมือนตกนรกหนึ่งวัน เขาต้องเข้มแข็งสุดๆใช้ทางธรรม ไหว้พระสวดมนต์ เข้าโรมจิตใจ“