เมื่อเย็นวันที่27สิงหาคม2567นายชัยธวัฒน์ กีรติรัตน เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ได้เข้าแจ้งความขอความต่อร.ต.อ.ธีระพันธ์ สุนทรวิภาต พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ ว่า เมื่อวันที่ 27สิงหาคม 2567 ได้มีคนร้ายโทรศัพท์ทางไลน์มาหาตนและภรรยาแจ้งว่าได้ลักพาตัวนายโชติจิรัสย์ อายุ 17 ปี ลูกชายที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จากหน้าหอพัก ขณะนี้ได้นำตัวนายโชติจิรัสย์ อายุ 17 ปีลูกชายไปขังไว้ที่ฝั่งประเทศกัมพูชา และคนร้ายต้องการค้าไถ่ตัวเป็นเงิน 2 ล้านบาท โดยให้นายชัยธวัฒน์ ผู้เป็นพ่อได้นำเงินไปไถ่ตัวด้วย
นายชัยธวัฒน์ เปิดเผย เวลาประมาณ17.43น.น้องโชติ ลูกชายได้ติดต่อผ่านช่องทางไลน์ มาแจ้งว่าถูกคนร้ายกักขังไว้แต่ไม่รู้สถานที่ต่อมาคนร้ายได้ส่งข้อความมาในเมสเซนเจอร์ของน้องโชติว่า ให้นำเงินมาไถ่ตัวน้องโชติ ถ้าไม่ติดต่อมาให้เตรียมตัวรับร่างของน้องโชติได้เลย จึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนหาตัวลูกชายและจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ก่อนจะเข้าแจ้งความ คนร้ายแชตข้อความมาหาตนผ่านไลน์ของน้องโชติ บอกว่าน้องโชติยังอยู่ ไม่ได้ทำร้าย ไม่ให้อดอาหารและในเวลาไล่เลี่ยกันน้องโชติ ก็โทรคอลผ่านไลน์มาหาทั้งน้ำเสียงตื่นตะหนก บอกว่าถ้าแจ้งความเขาจะไม่ปล่อยตัว แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ในตึกแถวในประเทศกัมพูชาไม่ทราบเป็นที่ไหน เมื่อตนให้เจ้าเหน้าที่ตรวจการใช้โทรศัพท์พบว่าอยู่ในประเทศกัมพูชา ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ
ส่วนสาเหตุที่ลูกถูกจับตัวไปในครั้งนี้ ลูกเคยเล่าให้แม่เขาฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นตำรวจสภ.คลองหลวงบอกว่าน้องโชติเกี่ยวข้องกับกลุ่มมิฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมทั้งลอกล่อให้ออกมาพบกลุ่มคนร้ายที่รออยู่หน้าหอพัก ขณะที่ลูกชาย ออกมาพบกับกลุ่มคนร้ายได้ถูกคนร้ายจับตัวขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูขับออกจากหน้าหอพัก และมารู้ตัวอีกที่ก็พบว่าคนร้ายพามาที่ชายแดนและบังคับให้เดินทางไปตามเส้นทางธรรมชาติ และนำตัวมาขังไว้ที่ตึกแถวแห่งหนึ่ง
หลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานและส่งเรื่องดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่สภ.คลองหลวง พื้นที่เกิดเหตุให้ทราบเพื่อเร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าวต่อไป