จากสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า นายหวัง (นามสมมุติ) ในช่วงวัย 30 ปี ทำงานในไทจง ประเทศไต้หวัน อ้างว่างานและความสัมพันธ์ในชีวิตทำให้เขาเหนื่อยมาก ดังนั้นการกินจึงเป็นวิธีหนึ่งในการลดความกดดันและให้อิสระแก่ตนเอง แต่เขาไม่คาดคิดว่า “อาหารโปรด” จะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดสมอง และเป็นอัมพาตตั้งแต่อายุยังน้อยมาก
เพื่อนร่วมงานของนายหวัง เล่าว่า เช้าวันนั้นเขาดูเหนื่อยและเอาแต่นวดศีรษะ ช่วงใกล้พักกลางวันที่คนทั้งออฟฟิศมุ่งความสนใจไปที่งาน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น เมื่อหันไปมองจึงเห็นนายหวังล้มลงกับพื้น ปากของเขาบิดไปข้างหนึ่ง ตาข้างหนึ่งไม่อาจปิดได้ และมีน้ำตาไหลออกมา ทุกคนรีบเข้าไปดูอาการแต่เขาพูดไม่ได้ ร่างกายซีกซ้ายขยับไม่ได้ จึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลพาส่งห้องฉุกเฉินทันที
ดร.วู แพทย์แผนกฉุกเฉินกล่าวว่า ซีกซ้ายของผู้ป่วยบวม และการไหลเวียนของเลือดลดลงในบริเวณหลอดเลือดแดงสมองส่วนกลาง การวินิจฉัยขั้นสุดท้ายคือภาวะสมองตายเนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือดในกะโหลกศีรษะ เรารักษาผู้ป่วยอย่างเร่งด่วนด้วยยาละลายลิ่มเลือด rTPA (Alteplase) แต่ไม่ได้ผล จึงทำการผ่าตัดเอาภาวะลิ่มที่อุดตันออกทันที แม้ว่าการผ่าตัดจะประสบผลสำเร็จและช่วยชีวิตเขาได้ แต่ด้านซ้ายของผู้ป่วยก็ยังเคลื่อนไหวได้ยากมาก ปัจจุบันผู้ป่วยยังคงได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องร่วมกับการฝังเข็ม เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต และการกายภาพเพื่อฟื้นฟูอื่นๆ
การวิเคราะห์ประวัติทางการแพทย์พบว่า สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองของนายหวัง เกิดจากนิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ อาหาร 2 อย่างที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษคือไก่ทอดและชานม ซึ่งถือเป็นเมนูโปรดของคนหนุ่มสาวจำนวนมาก เพื่อนร่วมงานของนายหวังยังบอกด้วยว่า ถ้าเขาทำงานสัปดาห์ละ 5-6 วัน จะมีเวลา 3 วันที่สั่งอาหารสองอย่างนี้มาทาน สิ่งสำคัญคือรูปร่างของเขาสูงใหญ่ ดังนั้นปริมาณการทานอาหารจึงมากกว่าคนอื่นถึงสองเท่า เขากินไก่ทอดและชานมแทนอาหารมื้อหลักของวัน หากใครเตือนเขาก็จะอ้างบอกว่าเป็นวิธีคลายเครียดของเขาเอง
ตามคำอธิบายของ ดร.วู แม้จะอร่อย ช่วยกระตุ้นต่อมรับรส และทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ชั่วคราว แต่อาหารที่มีแคลอรี่สูง มันเยิ้ม เช่น ไก่ทอด และเมนูที่มีน้ำตาลสูง เช่น ชานม ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก อาหารทั้งสองอย่างนี้มีแคลอรี่สูงมาก มีน้ำตาลสูง เกลือสูง ทำให้เกิดภาระต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะไตและหัวใจ
หลังจากการทอดโปรตีนที่อุณหภูมิสูง คุณค่าทางโภชนาการจะลดลงอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างโปรตีนไกลเคตขึ้น ซึ่งการกินเข้าไปจะทำให้หลอดเลือดในร่างกายมนุษย์แข็งตัว น้ำตาล เกลือ และไขมันอิ่มตัว จะทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และการเกิดลิ่มเลือด สิ่งเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อนำไปสู่การอุดตัน หลอดเลือดกระตุก และหลอดเลือดในสมองแตก”
นอกจากนี้ การพยากรณ์โรคของนายหวังยังไม่ค่อยดีนัก แม้จะอายุเพียง 30 ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนอกจากกินดื่มแล้ว วิถีชีวิตปกติของเขาก็ไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย เขาไม่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาใดๆ เลย มักจะนั่งอยู่ที่โต๊ะเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน มักจะนอนดึกเพื่อเล่นเกม และออกไปเที่ยวดื่มกับเพื่อนๆ ในช่วงสุดสัปดาห์
จากกรณีของนายหวัง ดร.วู เตือนคนหนุ่มสาวให้ความสำคัญกับการกินและการใช้ชีวิตมากขึ้น คำนึงถึงสุขภาพของตัวเองด้วย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อมีสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น ปวดศีรษะ สูญเสียการมองเห็นชั่วคราว อาการชาหรืออ่อนแรงบริเวณใบหน้าหรือครึ่งหนึ่งของร่างกาย ปากบิดเบี้ยว หรือดวงตาไม่ตรงแนว พูดไม่ชัด การออกเสียงลำบาก เดินลำบาก เวียนศีรษะ เป็นต้น พร้อมย้ำว่าเวลาทองในการรักษาฉุกเฉินของโรคหลอดเลือดสมอง คือระหว่าง 3-4.5 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้