เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายก้อนแก้ว อายุ 70 ปี พานางสาวเปิ้ล (นามสมมุติ) หลานสาววัย 17 ปี เข้าร้องเรียนที่กองบังคับการตำรวจตำรวจสืบสวนสอบสวนอาญากรรมทางเทคโนโลยี 4 อ.เมืองเชียงใหม่ ขอให้ช่วยเหลือหลังจากที่หลานสาวถูกหลอกเปิดบัญชีม้าจนถูกหมายเรียกในข้อหาฉ้อโกงจำนวน 4 หมายจาก 4 โรงพัก ต้องขายวัวไปกว่า 10 ตัวเพื่อชดใช้ให้กับผู้เสียหายเพราะกลัวหลานติดคุกเสียอนาคต
น.ส.เปิ้ล เด็กสาวผู้เสียหาย เล่าว่า ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบการชักชวนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ให้ทำงานเสริมด้วยการเข้าไปชมและกดไลค์กดแชร์เว็บต่าง ๆ เธอสนใจเพราะเห็นว่าเป็นการหารายได้เสริมจึงสอบถามรายละเอียด ตอนแรกบอกให้ส่งหลักฐานเป็นบัตรประชาชนหน้าหลัง แต่หลังจากนั้นก็บอกว่าให้ถ่ายคลิปที่เห็นใบหน้าชัดเจนเพื่อเป็นการยืนยันตัวตน เธอจึงอัดคลิปส่งไปให้ แต่หลังจากนั้นคนที่ชักชวนก็บล็อกทุกช่องทาง ติดต่อไม่ได้อีกเลย
ต่อมา พบว่ามีหมายเรียกจากหลายโรงพักทยอยส่งมาถึงที่บ้าน โดยวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ได้รับหมายเรียกจาก สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 15 กุมภาพันธ์ หมายเรียกจาก สภ.บ่อเกลือ จ.น่าน วันที่ 11 กรกฏาคม หมายเรียกจาก สภ.เมืองสมุทรปราการ และ วันที่ 1 สิงหาคม ได้รับหมายเรียกจาก สภ.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทั้งหมดเป็นหมายเรียกในข้อหาฉ้อโกง พฤติการณ์ลักษณะเดียวกันคือมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกหลอกลวงและเงินที่ถูกหลอกโอนไปเข้าบัญชีธนาคารที่มีชื่อของเธอ รวมทั้งหมด 3 บัญชีธนาคาร เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เธอเครียดจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
นายก้อนแก้ว ปู่ของนางสาวเปิ้ล บอกว่า หลังได้รับหมายเรียกหลานสาวเครียดหนักเพราะเสียใจที่เสียรู้ถูกหลอกจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่แจ่มมาหลายเดือน ขณะที่ตนได้ติดต่อสอบถามไปทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทราบว่าฝั่งผู้เสียหายเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายที่ถูกหลอกโอนเงิน หากไม่ชดใช้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้วยความกลัวหลานจะติดคุกจึงจำใจขายลูกวัวไป 12 ตัว นำเงินไปชดใช้ให้กับผู้เสียหายท้องที่ สภ.บ่อเกลือ 5,000 บาท และคดีที่ สภ.บางปะอิน 15,000 บาท เพื่อถอนแจ้งความ ส่วนอีก 2 คดีที่เหลือตอนนี้จนปัญญาแล้ว ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครจึงเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่แจ่ม ก่อนที่นายสุระวุธ จันทร์งาม นายอำเภอแม่แจ่ม จะทำหนังสือขอให้ทาง บก.ปอท.4 ช่วยเหลือ
นายก้อนแก้ว เล่าด้วยว่า หลานสาวเป็นเด็กน่าสงสาร พ่อป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและตัดสินใจจบชีวิตไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 8 เดือน ส่วนแม่ก็ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน ที่ผ่านมามีปู่และย่าคอยเลี้ยงดูมาตลอด รู้สึกสงสารหลานสาวมากที่ตอนนี้กลายเป็นโรคซึมเศร้า ช่วงไหนที่เครียดมากจะมีอาการมือไม้สั่นและร้องไห้หวาดกลัวจนทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือ
ด้าน นายนราชัย ใจคำ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เทศบาลตำบลแม่แจ่ม ผู้ประสานงานและพาสองปู่หลานเข้าร้อง บก.สอท.4 ในครั้งนี้ เปิดเผยว่า หลังจากร้องเรียนได้พาทั้งสองไปตรวจสอบข้อมูลที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ถูกระบุว่าเปิดบัญชี ทราบว่าเป็นการเปิดบัญชีผ่านระบบดิจิทัลแบงกิ้ง จึงได้ทำคำร้องขอเอกสารเพื่อยื่นให้กับพนักงานสอบสวนเป็นหลักฐานยืนยัน โดยคาดว่าคลิปที่ถูกหลอกให้ถ่ายกลุ่มมิจฉาชีพจะนำไปใช้ในการเปิดบัญชีม้า ซึ่งหลังจากนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่แจ่มจะเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่