ที่ จ.นครพนม ผลกระทบจากแม่น้ำโขงสูง เริ่มขยายวงกว้างต่อเนื่อง หลังจากระดับน้ำโขงสูง เกือบ 11 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่งแค่ 1 เมตร ส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก เอ่อล้น ระบายลงน้ำโขง ช้า เช่นเดียวกันในพื้นที่ติดลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม และลำน้ำยาม เริ่มเอ่อล้นท่วมนาข้าว ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม อ.นาทม
ล่าสุดทางจังหวัดนครพนม ได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอุทกภัย ทั้ง 2 อำเภอ มี อ.ศรีสงคราม รวม 3 ตำบล 38 หมู่บ้าน และ อ.นาทม 3 ตำบล 31 หมู่บ้าน พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ คือนาข้าว ถูกน้ำท่วมขัง แล้วกว่า 20,000 ไร่ คาดว่าจะเสียหายทั้งหมด หากระดับน้ำโขง ลำน้ำสาขาลดช้า ทั้งนี้หน่วยงานเกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการสำรวจ ให้การช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ตามระเบียบทางราชการ
ขณะเดียวกันทางด้าน นายเกียรติศักดิ์ พงษ์พนัศ นักเดินเรือชำนาญการพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบ สร้างความเข้าใจกำชับผู้ประกอบการเดินเรือข้ามฟากไทย-ลาว ทั้งเรือสำราญเพื่อการท่องเที่ยว รวมถึงเรือโดยสารข้ามฟากระหว่าง แขวงคำม่วน สปป.ลาว กับ ตัวเมืองนครพนม ให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ติดตั้งอุปกรณ์ชูชีพทุกลำ
รวมถึงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง บรรทุกในน้ำหนักที่เหมาะสม ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เนื่องจากช่วงนี้น้ำโขงสูงไหลเชี่ยว บวกกับมีเศษไม้ ท่อนไม้ไหลมากับน้ำจำนวนมาก เป็นอุปสรรคในการเดินเรือ นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือนชาวบ้านอาชีพทำประมงหาปลา ออกเรือด้วยความระมัดระวัง
นายเกียรติศักดิ์ พงษ์พนัศ นักเดินเรือชำนาญการพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ สร้างความเข้าใจกำชับผู้ประกอบการเดินเรือข้ามฟากไทย-ลาว ทั้งเรือสำราญเพื่อการท่องเที่ยว รวมถึง เรือโดยสารข้ามฟากระหว่าง แขวงคำม่วน สปป.ลาว กับ ตัวเมืองนครพนม ให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ติดตั้งอุปกรณ์ชูชีพทุกลำ รวมถึงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง บรรทุกในน้ำหนักที่เหมาะสม ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เนื่องจากช่วงนี้น้ำโขงสูงไหลเชี่ยว บวกกับมีเศษไม้ ท่อนไม้ไหลมากับน้ำจำนวนมาก เป็นอุปสรรคในการเดินเรือ.