จากกรณีที่ สาวน้อย วัย 16 ปี เสียชีวิตปริศนาในห้องนอน และ พบว่ามีคราบเลือดที่จมูก เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น วันที่ 4 กันยายน 2567 ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง หมู่บ้านลัลลี่วิลล์ ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งหลักเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนเชิญคนในบ้านหลังดังกล่าวมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 กันยานยนต์ 2567 พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทั้ง นายสุชิน(หรือตี๋) วงศ์อัสสไพบูลย์ อายุ 63 ปี, นางสาวตาล อายุ 21 ปี และ นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้พาตัว นายสุชิน ไปตรวจค้นบ้านอีกครั้งหลังเจ้าตัวยอมรับว่า ผู้ตายได้มาขอยาเสพ เจ้าหน้าที่พบ ถุงยาภายในมีพงสีขาว (ยาเฮโรอีน) และอุปกรณ์การเสพยา ที่ถูกซ้อนไว้ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะคุมตัวกลับมาที่โรงพัก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา กับ นายสุชิน จำนวน 6 ข้อหา คือ พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร(ป.อาญามาตรา 318), พาบุคคลอายุกว่าเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร(ป.อาญา มาตรา 283), กระทำอนาจาร แก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลนั้นอยู่ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้(ป.อาญา มาตรา 278), กระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ป.อาญา มาตรา 291), มียาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เฮโรอีน ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิด(พรบ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 26(3)
ส่วน นางสาวตาล และ นางสาวบี (นามสมมุติ) จำนวน 8 ข้อหา คือ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร(ป.อาญามาตรา 83,318), ร่วมกันพาบุคคลอายุกว่าเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร (ป.อาญามาตรา 83,283), ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยการเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยว กักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบและได้กระทำแก่เด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี (พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ มาตรา 6(2),52 วรรค 2), ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี( พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี มาตรา 9 วรรค 1 ,วรรค 2), ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดและกระทำการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก(พรบ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 26(3)(5) ), เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระ จัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี (ป.อาญา มาตรา 282 วรรคแรก ,วรรค 2), ร่วมกันช่วยเหลือ ให้ความสะดวกหรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น และรับผลประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ (ป.อาญา มาตรา 286(1)(2)(4), ร่วมกันโดยทุจริตรับไว้ จำหน่าย เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปซึ่งบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีแม้ผู้นั้นจะยินยอม(ป.อาญา มาตรา 312 ตรี) ก่อนจะคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เบื้องต้นขอชี้แจงละเอียดเป็นไทม์ไลน์ก่อน คือเมื่อวานเวลาประมาณ 20.30 น. ทางกู้ชีพได้รับแจ้งจากคนที่อยู่ในบ้านว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้าน เมื่อกู้ชีพไปถึงพบเป็นน้องอายุ 16 ปีนอนเสียชีวิตอยู่ บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ซึ่งกู้ชีพสงสัยว่าเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติจึงได้แจ้งตำรวจไปตรวจสอบ ทางตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุประมาณ 21.15 น. และได้สอบถามพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นลุงอายุ 63 ปี ชื่อ นายตี๋ จากการที่แพทย์ตรวจสอบชันสูตรศพเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือการถูกทำร้าย จากการสอบถาม นายตี๋ เบื้องต้นให้การว่าผู้เสียชีวิตหายใจติดขัด ตั้งแต่ช่วงบ่าย และหมดสติ ชีพจรเต้นผิดปกติ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัว อันนี้เป็นการ ให้การเบื้องต้นของ นายตี๋ จากการพิสูจน์ทราบจากข้อมูลทางเทคนิค พยานหลักฐานและพยานแวดล้อม ทำการพิสูจน์ทราบเมื่อคืนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นปรากฏว่า มีมอร์ฟีนอยู่ในปัสสาวะ ซึ่งจากการสอบถาม นายตี๋ ให้การว่า ผู้เสียชีวิตเข้ามาเพื่อที่จะทำหน้าที่ไลฟ์สดขายของ แต่ด้วยข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นการซื้อบริการทางเพศ โดยมีการติดต่อผ่านบุคคลที่ 3 ในราคา 1,100 บาท และมีคนพาผู้เสียชีวิตมาส่งที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ในส่วนของ 2 คนนี้ เป็นผู้หญิงทั้งสองรายเป็นเยาวชนหนึ่งรายและผู้ใหญ่หนึ่งราย ตอนนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวและอยู่ในระหว่างแจ้งข้อกล่าวหา ในส่วนสาเหตุการเสียชีวิต นายตี๋ บอกว่าหลังจากที่ผู้เสียชีวิตขึ้นไปบนห้องได้มีการขอสูบบุหรี่ ซึ่ง นายตี๋ ให้ผู้เสียชีวิตสูบได้และตัว นายตี๋ ได้ทำการสูบกัญชา และทางผู้เสียชีวิตได้ถาม นายตี๋ ว่ามียาไหม ซึ่ง นายตี๋ เข้าใจว่ายาที่ตัวเองได้ซื้อมาจากหญิงให้บริการก่อนหน้านี้ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครเป็นยาเคตามีน แต่ผลปรากฏว่ายาตัวนี้เป็นเฮโรอีน ซึ่งตัวน้องผู้หญิงที่มาด้วยและผู้เสียชีวิตได้ร่วมกันเสพ นายตี๋ไม่ได้เสพยาเสพติดดังกล่าว โดยใช้วิธีการสูดดมทางจมูก เป็นลักษณะโอเวอร์โดส
จากการสอบน้องคนที่พาผู้เสียชีวิตมา ให้การว่าหลังจากเสพยาเคแต่ที่จริงแล้วเป็นเฮโรอีน จะมีอาการแปลกกว่าทุกครั้ง จะมีลักษณะคันและหายใจไม่ออก และวิงเวียนศีรษะคล้ายจะหมดสติ แต่เนื่องด้วยคนที่พามาเสพในปริมาณที่น้อยจึงขอตัวกลับบ้านก่อนในเวลา 17:00 น. และผู้เสียชีวิตก็นอนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวและทำให้เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะเสียชีวิตเพื่อนคนที่มาด้วยได้มีการแจ้ง ให้ นายตี๋ นำตัวผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล แต่ นายตี๋ คิดว่าเป็นผลจากการเสพยาจึงมีการเช็ดตัวและไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิตและนายตี๋ ยืนยันว่ายังไม่มีการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้น เพราะผู้เสียชีวิตมีการเสพยาและโอเวอร์โดสก่อน ตอนนี้ได้มีการแจ้งข้อหา นายตี๋ 6 ข้อหา ในคดีหลักจะเป็นพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร และเรื่องประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และรวมถึงการครอบครองยาเสพติดประเภทที่หนึ่งคือเฮโรอีน และข้อหาอื่นย่อยอีกสามข้อหา ส่วนตัวเพื่อนผู้เสียชีวิตและตัวแม่เล้าที่ติดต่อผู้เสียชีวิต ได้แจ้งข้อหาทั้งหมด 8 ข้อหา โดยคดีหลักจะเป็นค้ามนุษย์และพรากผู้เยาว์ รวมถึงในคดีที่เป็นธุระจัดหาการค้าประเวณี ตอนนี้ นายตี๋ อยู่ระหว่างนำตัวไปตรวจสารพิษในร่างกาย เบื้องต้นยาจะเป็นหนึ่งถุงเล็กประมาณเกือบ 1 กรัม แต่ว่าตัวผู้รอดชีวิตที่เล่นยาแจ้งว่า ใช้วิธีตัดหลอดสูดเข้าไปทางจมูกแต่ว่าปริมาณน้อยแต่ตัวผู้เสียชีวิต ตัดไปเต็มหลอดทั้งสองฝั่ง ส่วนซองยาหลังจากพา นายตี๋ ไปตรวจค้นทางตำรวจได้มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีคราบยาเสพติดและได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าเป็นเฮโรอีน เบื้องต้นนายตี๋ให้การรับสารภาพแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการขยายผลของยาเสพติดในการได้มา
จากการสอบถาม นายตี๋ มียาอยู่แต่ไม่ได้เสพ โดยปกตินายตี๋จะเสพกัญชาอย่างเดียว ครั้งนี้ นายตี๋ อ้างว่าผู้เสียชีวิตมีการขอยาเสพติดดังกล่าว ซึ่ง นายตี๋ เข้าใจว่าที่ตนมีเป็นเคตามีน แต่ว่ามันเป็นเฮโรอีนซึ่งความรุนแรง เพราะเสพในปริมาณมากเลยทำให้โอเวอร์โดส เลยทำให้เสียชีวิต ไม่ใช่เป็นการมอมยาเพราะในห้องที่เกิดเหตุมี นายตี๋ และเพื่อนคนตายอยู่ในห้องด้วยตลอด เบื้องต้นคนที่จัดหาเด็กให้ นายตี๋ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนน้ำองุ่นเมื่อคืนไม่เกี่ยว เป็นการกินดื่มปกติในน้ำองุ่นไม่มีสารพิษ สารพิษที่ทำให้เสียชีวิตคือเฮโรอีนซึ่งตรงกับผลชันสูตรเบื้องต้น ตัว นายตี๋ ไม่เคยมีประวัติ ส่วนตัวผู้เสียชีวิตมีประวัติแต่จากการตรวจสอบในมือถือพบ มีการถ่ายภาพและคลิปที่มีการเสพเคตามีน ก่อนหน้านี้ เบื้องต้นได้คุยอธิบายกับทางญาติของผู้เสียชีวิตคร่าวๆ ยังไม่ได้คุยรายละเอียด เพราะทางญาติยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ
นางสาวตาล บอกว่า คือที่หมดถุงน้องใช้คนเดียว น้องดมข้างละ 3 ที และน้องมาถามตนว่าดมอีกไหมตนปฏิเสธไป เพราะตนรู้สึกว่าไม่ไหว หลังจากนั้นน้องก็ดมหมดเลย ลักษณะไม่เหมือนยาเคที่ตนเคยใช้ เพราะตอนแรกนั่งคันกัน ตนไม่รู้คิดว่าเป็นยาเค แต่ลุงเขามั่นใจว่าเป็นยาเคเพราะเป็นยาของลุง ตนดมไปข้างละที ส่วนน้องดมไปหมดถุง น่าจะประมาณครึ่งกรัม หลังจากที่ดมรู้สึกคันตัวและหนาว เหมือนคนง่วงพร้อมจะหลับตลอดเวลา ส่วนตัวน้องก็บอกว่าคันและง่วงก็เลยขอไปนอน ต้นก็ปล่อยให้น้องนอน และเหมือนน้องหายใจติดขัด ตนได้บอกลุง และสังเกตว่าน้องปากซีด มืดซีด หายใจผิดปกติ ลุงบอกว่าอาจจะเป็นเพราะผลของยาเคหรือเปล่า ตนก็ไม่ได้อะไรทำได้แค่ตบหน้าน้องให้น้องตื่น และเขย่าตัวน้อง ตนได้ถามเพื่อนที่ดมยาเคเหมือนกัน เพื่อนบอกว่าถ้าดมเคแล้วเมาอย่าให้นอนถ้านอนแล้วจะไหลตาย ต้นก็เลยพยายามปลุกน้องทุกอย่าง แล้วที่มือก็กลับมาแดงจากที่ซีด ก่อนตนจะกลับตนก็คิดว่าน้องน่าจะรอดไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ลุงก็บอกว่าน้องไม่น่าจะเป็นอะไรน่าจะเป็นเพราะผลของเค ตนได้บอกให้ลุงเรียกรถพยาบาล ลุงก็บอกว่าไม่ต้องเรียกจะตกใจทำไมเดี๋ยวน้องก็หาย หลังจากนั้นตนก็กลับเลย ตนก็ไม่คิดว่าน้องจะเสียเพราะตอนที่ต้นกลับบ้านต้นก็พยายามไม่ให้ตัวเองหลับเพราะกลัวจะไหลตาย พอรู้ว่าน้องเสีย ก็พยายามไม่นอน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสมุทรปราการ รายงาน