เหวี่ยงแล้วดัง วีนแล้วได้เดินตามฝัน ต้องยกให้กับ “ลิลลี่ เหงียน” เพราะตั้งแต่ประกาศครั้งที่ไปออกรายการ โหนกระแส ว่าอยากเข้าวงการ ตอนนี้ก็มีงานเข้ามาแบบไม่ต้องพัก แต่ในเหตุการณ์ครั้งที่ไปออกรายการก็ถูก ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ลูกสาวของทนายประมาณ ฟ้องหมิ่นประมาท ไม่ใช่แค่นั้น ยังถูก เอิร์ก เลเดอเรอร์ แฉเรื่องในอดีตไม่หยุด ยิ่งล่าสุดบอกว่าลิลลี่หนีหมายเรียกถึง 2 รอบ

งานนี้ “ลิลลี่ เหงียน” ได้ตอบประเด็นดังกล่าว ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำเอ็มวีเพลงใหม่ของนักร้องสาว “เอิร์น เดอะสตาร์” ที่ Bull bar ราชพฤกษ์ ว่า “หนูไม่เคยมีคดีอะไรเลยมาก่อนค่ะ นอกจากทนายกิ่งคนเดียว พี่ทนายกิ่งฟ้องก็เป็นสิทธิ์ของเขา หนูก็เคารพในการตัดสินใจของเขา ส่วนตัวรู้สึกว่าเขาแค่อยากจะสอนเราให้เราโตขึ้น เคารพในการสอนของพี่ทนายกิ่ง รวมถึงพี่หนุ่ม กรรชัย พี่พชร์ อานนท์ รวมถึงพี่ๆ เอฟซี หนูได้นำมาปรับใช้ จริงๆ หนูเป็นคนที่ชอบมอบความสุขอยู่แล้วแต่ที่วันนั้นหนูใช้พฤติกรรมแบบนั้นออกไป หนูก็ไม่แก้ตัว ยอมรับผิดค่ะ”

ลิลลี่ เหงียน เปิดใจเรื่องทนายกิ่งอีกครั้ง หลังโดนฟ้องข้อหานี้?

ตอนที่เราพูดและใช้กิริยาที่ทำให้ทนายกิ่ง ฟ้องเรา มันเกิดจากอะไร? “ตอนนั้นมันมีสิ่งที่เข้ามา กระทบจิตใจเรามากมาย เนื่องจากว่าหนูถ่ายหนังผี พักผ่อนน้อย โดนกดดันเรื่องคดีที่จะฟ้อง หนูกลัว เพราะว่าเกิดมายังไม่เคยเจอคดีอะไรเลย ไม่เข้าใจกฎหมายด้วย ถ้าหนูเข้าใจหนูต้องเคารพกฎหมายมากกว่านี้แน่นอน”
ได้มีการเจรจากับทนายกิ่งแบบส่วนตัวหรือยัง? “ไม่มีค่ะ ได้คุยแค่ตอนที่ไปรายการโหนกระแส 2 รอบ ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ย หนูเป็นคนที่ถ้าเรารู้ตัวว่าผิด เรายอมรับผิด ด้วยความบริสุทธิ์ใจ พร้อมที่จะแก้ไข ถ้าพี่ทนายกิ่งเมตตาให้โอกาส หนูสัญญาว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนั้นอีกจะเรียนรู้และตั้งสติให้มาก

ลิลลี่ เหงียน เปิดใจเรื่องทนายกิ่งอีกครั้ง หลังโดนฟ้องข้อหานี้?

สิ่งที่พี่กิ่งทำคือการสอนให้หนูเติบโต หนูได้เห็นข่าวที่คุณพ่อพี่กิ่งที่เคยพูดไว้ว่าถ้าออกมาขอโทษอย่างเดียวมันไม่สมควร เพราะว่าชื่อเสียงมันเสียหายไปหมดแล้ว ควรที่จะกราบเท้า อันนี้ก็ไม่รู้ว่าคุณพ่อเขาหมายถึงใคร หรือจะหมายถึงหนูรึเปล่าก็ไม่รู้ การที่หนูทำแบบนั้นกับพี่กิ่งมันก็ผิดจริง หนูไม่อยากแก้ตัวใดๆ แต่สมมุติว่าถ้าคุณพ่อพี่กิ่ง หรือพี่กิ่ง อยากให้หนูขอโทษในรูปแบบนั้น จะให้กราบเท้า หนูทำได้ เพราะหนูผิดเอง การกราบเท้าสำหรับหนู ไม่ได้เป็นการลดศักดิ์ศรีของตัวเองลง แล้วหนูคิดว่าเราไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไร ศักดิ์ศรีของเราคือการเป็นคนดี รู้ผิด แก้ไข รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
ถ้าหนูได้ขอโทษด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ถ้าหนูให้ทำแบบนั้นเชื่อว่าชีวิตเราจะเจริญ ยิ่งเราทำผิดได้แก้ไข หรือต้องกราบเท้า ชีวิตเรายิ่งเจริญขึ้นแน่นอน แต่หนูไม่รู้ว่าพี่กิ่งต้องการในรูปแบบไหน ถ้าพี่กิ่งต้องการที่จะฟ้อง หนูก็เคารพในการตัดสินใจของพี่ เราต้องทำความเข้าใจ คำสอนของพี่กิ่งก็เป็นอีกเสียงหนึ่งที่ทำให้เราได้เติบโต”

ลิลลี่ เหงียน เปิดใจเรื่องทนายกิ่งอีกครั้ง หลังโดนฟ้องข้อหานี้?

เราได้หมายศาลบ้างหรือยัง? “ตอนนี้หนูได้รับหมายเรียก 1 ครั้ง ซึ่งหนูต้องขอโทษพี่กิ่งด้วยที่หนูไม่ได้ไปตามหมายเรียก เพราะว่าตั้งแต่หนูทำพฤติกรรมแบบนั้นกับพี่กิ่งไป โอกาสเข้ามาหาหนูเยอะมาก หนูขอโทษและขอบคุณพี่กิ่งมากๆ หนูได้รับงานที่หนูอยากทำแล้วและงานหนูก็ยาวไปถึงปีหน้าเลย งานหนูก็รับเงินเขามาแล้ว มันเลื่อนไม่ได้ ส่วนตัวได้ปรึกษาทนายกุ้ง เขาก็บอกว่าสามารถเลื่อนไปก่อนได้ และสามารถไปในการมีหมายเรียกครั้งต่อไป”
ถ้าทางทนายกิ่ง ยังยืนยันที่จะไม่เจรจา? “ถ้าพี่กิ่งไม่ยกโทษให้ ไม่เมตตา หนูก็ยังเคารพในการตัดสินใจของพี่กิ่งเหมือนกัน แล้วหนูก็มั่นใจในศักยภาพของทนายกุ้ง และทนายเดชา ที่ท่านเมตตา และคอยเตือนคอยสอน คอยให้กำลังใจ บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็สู้ไปตามหลักความจริง และพยายามบอกให้หนูไม่ต้องกลัว”

“ส่วนเรื่องเอิร์ก หนูโนสนโนแคร์ เพราะที่ผ่านเขาก็ต่อว่าคนในวงการหลายคน ตอนนี้คนที่โดนก็คือหนู ถ้าเอิร์กเขาอยากให้เขาเล่นใหญ่ ก็ปล่อยเขาไป เพราะสิ่งที่เขาพูดไม่ได้เป็นความจริง”

ลิลลี่ เหงียน เปิดใจเรื่องทนายกิ่งอีกครั้ง หลังโดนฟ้องข้อหานี้?