การแข่งขันกีฬาเทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ กรองด์ ปาเลส์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ไฮไลต์อยู่ในรุ่น 67 กิโลกรัม หญิง ซึ่งไทยส่ง “ใบเตย”​ ศศิกานต์ ทองจันทร์ ลงชิงชัย

โดยในรอบสอง หรือรอบ 8 คนสุดท้าย “ใบเตย”​ ศศิกานต์ พ่ายให้กับ อเล็กซานดร้า เปริซิซ รองแชมป์โลก 2022 จากเซอร์เบีย แต่เวลาต่อมา เปริซิซ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ทำให้ “ใบเตย”​ ศศิกานต์ ได้กลับมาลุ้นในรอบแก้ตัว เพื่อล่าเหรียญทองแดง

ในรอบรอบแรกของรอบแก้ตัว “ใบเตย” ลงดวล โอซาดา โอบีร์โจโนวา มือ 14 ของรายการ จากอุซเบกิสถาน โดยในยกแรก ใบเตย ทำได้ดีเตะเข้าเป้าได้มากกว่าเอาชนะไปก่อน 7-2 แต่ในยกสอง ใบเตย พลาดท่าโดนเตะหัว ก่อนแต้มจะไหลยาวแพ้ไป 1-8 ต้องตัดสินกันในยกสุดท้าย

ผลในยกสุดท้ายปรากฏว่า ใบเตย พยายามเต็มที่แต่พลาดที่ชั้นเชิงโดนเตะไปหลายครั้ง ก่อนพ่ายไปอีก 0-11 สรุป ใบเตย พ่าย จอมเตะอุซเบกิสถาน 1-2 ยก ทำให้ชวดเข้าไปลุ้นเหรียญทองแดง อย่างน่าเสียดาย

ส่วน โอซาดา โอบีร์โจโนวา ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองแดงกับ ซาราห์ ชารี จอมเตะสาวเบลเยียม มืออันดับ 1 ของรายการ ในเวลา 01.19 น. ตามเวลวาประเทศไทย

หลังแข่งขัน “ใบเตย” ศศิกานต์ เผยว่า ในการเจอกับ เซอร์เบีย รอบ 8 คนสุดท้ายถือว่าหนัก เพราะมีอาการบาดเจ็บเข้ามาในยกที่ 2 ซึ่งพอแข่งเสร็จก็มีอาการระบมด้วย แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่าตัวเองมีข้อผิดพลาด

“ที่ผ่านมาก่อนมาโอลิมปิกซ้อมหนักมาก ไม่เคยซ้อมหนักขนาดนี้มาก่อน แล้วต้องเรียนด้วยซ้อมไปด้วย ต้องแบ่งเวลาตอนนี้ปิดเทอมพอดี จึงมาได้เต็มที่ ซึ่งตอนนี้เรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ปี 2 กลับไปก็จะรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองให้ดีขึ้น เตรียมแข่งรายการต่อไปซึ่งมี เอเชียนอินดอร์เกมส์ ที่ประเทศไทยรออยู่”

“ใบเตย” ศศิกานต์ เผยต่อว่า การมาเล่นในรุ่น 67 กิโลกรัมหญิง ครั้งนี้ถือว่าแบกน้ำหนัก จริงๆแล้วน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์แบกอยู่ราว 2-3 กิโลกรัม ซึ่งการเก็บคะแนนแรงกิ้งโลก สามารถเล่นได้ทั้งรุ่น 62 และ 67 กิโลกรัมพร้อมกันได้ ส่วนหลังจากนี้หากมีรายการโอเพ่น 62 กิโลกรัม หรือ 67 กิโลกรัม ก็แล้วแต่โค้ชว่าจะให้ลงรายการไหน”

“การมาโอลิมปิกเกมส์นั้น ได้ประสบการณ์เยอะ มีแต่คนเก่ง ซึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่สหรัฐอเมริกา ก็อยากไปอีก แต่หนูเป็นรุ่นใหญ่มีการปะทะเยอะ เจ็บเยอะ จะพยามรักษาตัวเองตัวเองให้ดีขึ้นให้ได้”

“ใบเตย” ศศิกานต์ เผยอีกว่า ปีหน้ามีการแข่งขัน ซีเกมส์ ที่ประเทศไทย กับชิงแชมป์โลก รออยู่ ก็อยากได้เหรียญชิงแชมป์โลก เพราะไป 2 ครั้งยังไม่เคยได้เช่นเดียวกับเอเชียนเกมส์

ด้าน “โค้ชเช” ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย เผยว่า จริงๆก่อนมา “ใบเตย” มีอาการเจ็บเข่าอยู่แล้ว ซึ่งก็ฟื้นฟูจนดีขึ้น แต่ว่าตอนเตะกับ เซอร์เบีย มีอาการเจ็บขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตาม “ใบเตย” อายุยังน้อย มาโอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งแรก น่าจะพัฒนาขึ้นไปได้อีก ใน 4 ปีข้างหน้า

“ปกติ ใบเตย นั้นลงเล่นในรุ่น 62 กิโลกรัม แต่ต้องมาเล่นรุ่น 67 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งคู่แข่งหลายคน ก็ลงมาจากรุ่น 70 กิโลกรัมด้วย ทำให้ความสูงและ ความใหญ่นั้นเสียเปรียบเขา แต่ก็ต้องพัฒนาด้านเทคนิก และความแข็งแกร่งต่อไป”

โค้ชเช เผยต่อว่า สรุปผลงานในโอลิมปิกเกมส์ 2024 อย่างน้อยก็มี 1 เหรียญทอง จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง แต่ในส่วนของ “หยู” บัลลังก์ ทับทิมแดง ในรุ่น 68 กิโลกรัมชาย และ “ใบเตย” ศศิกานต์ ทองจันทร์ ในรุ่น 67 กิโลกรัมหญิง ทั้งสองคนถือว่ามีฝีมือ ซึ่งการมารอบนี้ทำให้รู้ว่าอีก 4 ปีข้างหน้าเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

“สำหรับการเลิกเล่นของ พาณิภัค ในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งหน้า เรากำลังสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน ซึ่งตอนนี้ มี 2-3 คนจากเยาวชน ก็คงต้องเพิ่มประการณ์ให้กับเขา ส่วน หยู กับ ใบเตย ก็ยังอยู่ในแผนแน่นอน ซึ่งอีก 4 ปีข้างหน้าต้องดีกว่านี้ ส่วนในเรื่องรุ่นน้ำหนักนั้น หาก ใบเตย ลงมาในรุ่น 57 กิโลกรัมหญิง ไม่ไหว หรือ หยู ลงมาในรุ่น 58 กิโลกรัมชาย ไม่ไหว ก็ต้องลงเล่นในรุ่นน้ำหนักนี้”

“จริงๆกังวลเหมือนกันเกี่ยวกับการเลิกเล่นของ เทนนิส เพราะเขาเล่นมาหลายปี ทำผลงานได้ตลอด แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเลิก ไม่ใช่เล่นตลอดชีวิต เราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือในอีก 4 ปี ซึ่งจะพยายามอยางเต็มที่ ส่วนในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ชาติอื่นๆหลายคนก็เลิกเล่นเหมือนกัน คิดว่าจากนี้คงมีการเปลี่ยนเจเนเรชั่น ขึ้นมา ซึ่งก็ต้องจับตาดูหลังจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ต่อไป”