การเมือง

Home การเมือง

ลูกสาว 2 ขวบ นอนกลางวัน ครูส่งคลิปมาให้ดู แม่เห็นขยับมือแปลกๆ พอรู้ทำอะไร น้ำตาไหล (ตปท.)

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่คุณแม่ท่านนึงคุณแม่ท่านหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ได้ตัดสินใจส่ง เป่าเปา ลูกสาวอายุ 2 ขวบ ให้เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล และยังคงเป็นห่วงไม่ได้เช่นเดียวกับพ่อแม่คนอื่นๆ จึงคอยตรวจเช็กภาพที่ครูส่งมาในกลุ่มเสมอ

บ่ายวันหนึ่ง ครูส่งวีดีโอบันทึกภาพการนอนกลางวันของเด็กๆ ให้กับผู้ปกครอง ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะจดจำตำแหน่งของลูกสาว จึงสังเกตเห็นได้ทันทีว่าลูกสาวมีพฤติกรรมแปลกๆ เป่าเปานอนหงาย คลุมร่างกายด้วยผ้าห่มผืนเล็ก แขนวางข้างลำตัว อย่างไรก็ตาม มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากใต้ผ้าห่ม แล้วขยับตบร่างกายตัวเองเบาๆ ไม่หยุด ราวกับว่ายังไม่สามารถนอนหลับได้

ในตอนแรกผู้เป็นแม่เห็นแล้วไม่สบายใจ แต่เมื่อพิจารณาอย่างใกล้ชิดจึงรู้ว่า นี่เป็นสิ่งที่ลูกสาว ติดนิสัย เวลานอนเนื่องจากปกติเธอมักจะคอยอยู่ข้างๆ และตบก้นกล่อมลูกสาวเสมอ แต่เมื่อไปโรงเรียนอนุบาล ครูไม่สามารถดูแลเด็กเพียงคนเดียวได้ เป่าเปาจึงทำท่านี้เพื่อกล่อมตัวเองให้หลับ

เมื่อเห็นภาพลูกกำลัง กล่อมตัวเองนอน คนเป็นแม่ก็น้ำตาไหลออกมา เธอทั้งรู้สึกเศร้าและมีความสุขเพราะเป่าเปาเติบโตจนดูแลตัวเองได้แล้ว เมื่อลองสอบถามครูถึงสถานการณ์ของลูก ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อพบว่า เป่าเปาเป็นเด็กดี ประพฤติตนดีกับทุกคนเสมอ

หลังจากที่เรื่องราวของคุณแม่เป่าเปาถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ผู้ปกครองหลายคนก็ได้เข้ามาเล่าเรื่องลูกๆ ที่น่าสนใจในลักษณะคล้ายกัน เช่น ลูกฉันก็ทำแบบเดียวกัน ถ้าไม่มีใครปลอบเขา เขาก็จะปลอบตัวเอง ตอนนั้นลูกดูน่ารักมากเลย

ทั้งนี้ โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่จัดตารางการงีบหลับให้กับนักเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง เพียงพอ สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ในช่วงบ่าย ขณะเดียวกันการงีบหลับยังช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจอีกด้วย

ดังนั้นเพื่อให้เด็กๆ ปรับตัวเข้ากับเวลางีบหลับของโรงเรียนได้ไม่ยากเกินไป ผู้ปกครองควรฝึกให้บุตรหลานมีนิสัยการงีบหลับตรงกับเวลางีบในโรงเรียนอนุบาล เมื่อไปโรงเรียนลูกจะหลับง่ายโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากครู เพราะการฝึกความเป็นอิสระ การควบคุมตนเอง และนิสัยการใช้ชีวิตที่ดีให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าพ่อแม่เน้นสอนเรื่องพวกนี้จะเป็นประโยชน์กับลูกมากในอนาคต

2

ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 แจกไม่ทันปีนี้ ส่วนเงินที่เหลือนำไปลงทุนเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีเงินดิจิตอล วอลเล็ต ที่จะแจกเฟสสอง ว่า เราต้องดูสองสามอย่าง ต้องดูความต่อเนื่องต้องดูเวลาที่เหมาะสม ผู้สื่อข่าวถามว่าเฟสสองจะได้ภายในปีนี้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ขอดูก่อน แต่ไม่น่าทันในปีนี้ เมื่อถามว่าถึงบประมาณที่เหลือจะใช้ในโครงการอะไรถ้าไม่ทำดิจิตอล วอลเล็ต จะใช้ในโครงการลงทุนหรือไม่ นายพิชัยยอมรับว่า

เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่รัฐบาลดูอยู่ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ อะไรที่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศเราก็จะทำ เมื่อถามว่าใช้การลงทุนในระดับฐานรากหรือไม่นายพิชัย กล่าวว่า ก็จะจัดเป็นโครงการที่สำคัญสามารถที่จะลงไปต่อเนื่องและเม็ดเงินลงไปได้เร็วที่สุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เฟสที่สองจะไม่ทันในปีนี้ใช่หรือไม่ นายพิชัยได้หันหลังกลับแล้วขึ้นลิฟต์ไปทันที

2

นายกฯ สั่งเร่งอพยพคนจากพื้นที่เสี่ยงทันที จี้มท.ดูแลด่วน หนองคาย-เลย น้ำล้นตลิ่ง

นายกฯ ไม่เสียเวลา ประชุมกลางอากาศ สั่งการเร่งช่วยอพยพคนจากพื้นที่เสี่ยงทันที สั่งการมหาดไทย ลงพื้นที่ภาคอีสานหลัง หนองคาย-เลย น้ำเริ่มล้นตลิ่ง

เมื่อเวลา 09.00 u. วันที่ 13 ก.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม พล.อ.ณัฐพงษ์ นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิช รมช.มหาดไทย และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

เดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ ไปยังท่าอากาศยานนาชาติแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางไปเชียงราย นายกฯ ใช้เวลาบนเครื่องบินประชุมร่วมกับรองนายกฯและรัฐมนตรีที่ร่วมคณะ และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

โดยนายกฯ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง รวมถึงเส้นทางการไหลของน้ำ ที่จะไหลจากจ.เชียงรายลงสู่พื้นที่ภาคอีสาน ขณะนี้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางจังหวัด ทั้งเลย และหนองคาย มีปริมาณน้ำเริ่มล้นตลิ่งแล้ว

นายกฯ ได้เน้นย้ำการช่วยเหลือประชาชนให้เร่งออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยต้องการให้มีแผนรับมือเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าแม้ออกจากบ้านแล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สินให้ อีกทั้งต้องการให้นำข้อมูลข้อเท็จจริงโดยเฉพาะเรื่องระดับน้ำ ไปเป็นข้อมูลให้ประชาชนนำไปตัดสินใจ

ด้านนายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้เครื่องมืออุปกรณ์ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์และกำลังพล ทั้งในส่วนของกระทรวงกลาโหม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) รวมทั้งกำลังพลทหาร ตำรวจ มหาดไทย ทุกหน่วยงานพร้อมเข้าไปช่วยเหลือนำประชาชนออกจากพื้นที่ รวมทั้งเฝ้าดูแลทรัพย์สินของชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้นายกฯ ยังสอบถามในพื้นที่จ.หนองคาย หลังมีการแจ้งเตือนไปว่า ประชาชนได้ขนของขึ้นที่สูงและอพพยบ้างแล้วหรือยัง รวมทั้งขอให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการลงไปในพื้นที่และให้เจ้าหน้าที่ลงไปกำกับดูแลสถานการณ์ใกล้ชิด เพราะเป็นพื้นที่ที่จะรับน้ำจากแม่น้ำโขงต่อจากพื้นที่ภาคเหนือ

2

เรือ“ไทด์ เอกพันธ์”คว่ำ อาสาสมัครเจ็บ 1 นาย ดาราดังปลอดภัย อุปกรณ์สื่อสาร เสียหาย

เมื่อเวลา 16.30 น. ทีมกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดยไทด์ เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ดารา 2 และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย ได้นำกำลังลงเรือ เพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย น้ำท่วม บริเวณชุมชนวังทอง อำเภอแม่สาย ทั้งเรื่องการอพยพ รวมถึงการนำข้าวกล่อง น้ำดื่มเข้าไปแจกจ่าย ให้ผู้ที่ติดค้างอยู่ในบ้าน

เปิดนาที ไทด์ เอกพันธ์ เรือคว่ำ ฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย

แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ขับเรือเข้าไปพื้นที่ ซึ่งกระแสน้ำยังคงไหลเชี่ยว แรง และไหลวน จู่ ๆ เครื่องเรือดับ เพราะมีเศษหญ้า เศษผ้า เศษขยะ และกิ่งไม้ เข้าไปพันที่ตัวเครื่องยนต์ จังหวะนั้นน้ำได้ซัดเข้าตัวเรือ ทำให้เรือค่อย ๆ เอียง และล่ม ทำให้ไทด์ เอกพันธ์ และกู้ภัยทุกคน จมน้ำ และถูกน้ำซัดไหลไปตามกระแส จะหว่างนั้นมีทีมขี่เจ็ตสกีที่อยู่ใกล้ขี่ผ่านมา ทีมกู้ภัยทีมร่วมภารกิจได้ช่วยกันตะโกนให้ช่วยเหลือ เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่สวมเสื้อชูชีพ ทำให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ได้รับอันตราย

เปิดนาที ไทด์ เอกพันธ์ เรือคว่ำ ฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย

แม้ว่าทุกคนจะปลอดภัย แต่ทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงโทรศัพท์มือถือ จมหายไปกับกระแสน้ำ

เปิดนาที ไทด์ เอกพันธ์ เรือคว่ำ ฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย

2

ขอให้ทุกคนปลอดภัย ฝันดี-ฝันเด่น เรือล่ม กระแสน้ำแรง ขณะเข้าพื้นที่ช่วยน้ำท่วมเชียงราย

เพจ ฝันดี – ฝันเด่น ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ไลฟ์สถานการณ์เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่เชียงราย โดย 2 พี่น้องฝาแฝดจิตอาสา ใหญ่ ฝันดี – เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร ซึ่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จ.เชียงราย

โดยเผยสภาพน้ำท่วมบ้านเรือน รถยนต์จมน้ำในพื้นที่ชุมชนที่เข้าไปช่วยเหลือ และยังได้เล่าเหตุการณ์กระแสน้ำแรงจนเรือล่มด้วยว่า

เมื่อคืนที่ ทีมได้ใช้เรือชาวบ้านเข้าพื้นที่กระแสน้ำแรงทำให้เรือล่มเมื่อคืน ขอให้ทุกคนระวังกันมากๆนะครับ วันนี้ทีมเราต้องเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

ใช้เรือใหญ่และเครื่องที่แรงขึ้นแต่ก็ยังสู้น้ำไม่ได้มาก ขอให้กู้ภัยทุกทีมปลอดภัยครับ โดยมีคอมเมนต์เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก พร้อมอวยพรให้ทุกคนปลอดภัย

2

ระทึก น้ำเริ่มสูงขึ้น แบตใกล้หมด ยังไร้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือ ไม่มีอาหาร-น้ำดื่ม

วันที่ 11 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยพบว่ายังคงมีฝนตก และกระแสน้ำยังไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ระดับน้ำสูงกว่า 1- 2 เมตร ในบางจุดพื้นที่ที่ลุ่มต่ำ ชาวบ้านได้รับผลกระทบจำนวนมาก หลายคนติดอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว

โดยตลอดทั้งวัน มีชาวบ้านได้โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลตลอดเวลา ล่าสุดมีผู้โพสต์ขอความช่วยเหลือว่าขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ พิกัด ไม้ลุงขน ซอย3 ซอยตลาดไม้ลุงขนค่ะ เป็นตึกสองชั้นซอยขายมะนาวค่ะ
คนอยู่ประมาณ 20+ ต้องการออกนอกพื้นที่ 5 คนค่ะ คนแก่1 ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 1 สุนัข 2 ตัวค่ะ ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาส่งน้ำและอาหารเลยค่ะ เบอร์ติดต่อ 0942565265 , 0972548838 แบตใกล้จะหมดแล้วค่ะ

459320447 1462977707741822 5590252454742984286 n

459407091 832558815713736 6707664451479266313 n

459081546 832558822380402 7210811309703760699 n

459009240 832558769047074 6450801806988516230 n

458599638 832558762380408 141446097784783198 n

2

อย่าซ้ำเติมกัน! พบต่างด้าวแฝงเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ระหว่างน้ำท่วมหนัก เชียงราย

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567  nationtv รายงานว่า ที่ จ.เชียงราย สถานการณ์ท่วมที่อำเภอแม่สาย ถึงน้ำจะท่วมหนักจนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่ก็ยังมีผู้ที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ จากสถานการณ์ในครั้งนี้ โดย สภ.แม่สาย ได้แจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยงาน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล คนต่างด้าว และผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฏหมาย ให้ตรวจบุคคลเหล่านี้ ที่แฝงเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ ซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อย่าซ้ำเติมกัน! พบต่างด้าวแฝงเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ช่วงชุลมุนน้ำท่วมแม่สาย

ซึ่งเช้าวันนี้ (12 ก.ย.) สถานการณ์ระดับน้ำคลี่คลายลง พบมีต่างด้าวเดินออกมาตั้งแต่เช้า ก่อนที่จะมีชาวบ้านออกมา โดยคนเหล่านี้ได้มาเก็บสิ่งของมีค่าของชาวบ้าน ที่ไหลตามน้ำมา และจมอยู่ในโคลน ซึ่งระหว่างที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ กำลังช่วยกันทางด้านอื่น โดยไม่ทันระวัง กลุ่มคนเหล่านี้จะฉวยโอกาสไปเอาสิ่งของไป

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ไปลักรถจักรยานยนต์ ที่ชาวบ้านนำไปจอดหนีน้ำท่วม ตามบ้านเรือน ร้านค้า หรือสถานที่ราชการ ที่พอจะขอจอดไปชั่วคราวไปก่อน ซึ่งก็มีทั้งที่ล็อคกุญแจ และไม่ได้ล็อคกุญแจ โดยเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ บ้างก็พากันมายกไปทั้งคัน บางกลุ่มจะเข็นไป เบื้องต้นทราบว่า มีรถจักรยานยนต์ถูกขโมยไปหลายคัน ตำรวจจึงประกาศให้ทุกหน่วยงาน คอยดูกลุ่มพวกเหล่านี้ เข้ามาก่อเหตุในช่วงชุลมุน

2

ด.ญ.วัย15 เขียนจ.ม.แอบส่งให้เพื่อนบ้านช่วย

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ร.ต.อ.ธนภัทร กำลังแรง รอง สวป.สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีเด็กหญิงถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังอยู่ในห้อง หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธินซอย 52 แยก 41 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงนำกำลังสายตรวจ สน.บางเขน เข้าร่วมตรวจสอบ พบบริเวณประตูหน้าบ้านและประตูเข้าบ้าน ปิดล็อกกุญแจ เพื่อนบ้านแจ้งว่ามีเด็กหญิง อายุ 15 ปี ถูกมารดาของตนเองกักขังไว้ในบ้าน จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ

จากนั้น ร.ต.อ.ธนภัทรจึงโทรศัพท์แจ้งมารดาพร้อมพูดจาเกลี้ยกล่อมให้กลับบ้านมาเปิดประตู จากการสอบถามมารดาถึงสาเหตุที่ล็อกกุญแจขังลูกไว้ในบ้าน เนื่องจากกลัวลูกจะหลบหนีและเกรงกลัวเรื่องความปลอดภัยในระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน

ต่อมา ร.ต.อ.ธนภัทรจึงประสานไปยังมูลนิธิปวีณา เพื่อให้การช่วยเหลือ และช่วยเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหา ของครอบครัวดังกล่าว โดยทางมูลนิธิปวีณารับตัวแม่และลูกสาวไปยังที่ทำการเพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ ร.ต.อ.ธนภัทรนำกำลังเข้าช่วยเหลือพบจดหมายที่เด็กหญิงคนดังกล่าวเขียนถึงเพื่อนบ้าน

โดยมีเนื้อหาว่า “พี่ช่วยหนูด้วยหนูโดนแม่ทำร้ายร่างกายมากว่า 2 ปีเพราะกินข้าวช้า หากได้ยินเสียงช่วยแจ้งความให้หน่อย” จากการสอบถามทราบว่าเด็กหญิงดังกล่าวไม่ได้เข้าเรียนหนังสือมา 3 วัน

2

เตือนด่วน! มวลน้ำจากเชียงราย กำลังไหลไปอีสาน จังหวัดต่อไปนี้เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 12 ก.ย. 67 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ อ.แม่สาย และอำเภอเมือง จ.เชียงราย ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง หลายพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนหลายครัวเรือน รวมถึงสัตว์เลี้ยง ไม่สามารถออกมาจากที่พักอาศัยได้ อีกทั้งยังมีรายงานผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต

โดยมีรายงานว่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนฝนตกหนักที่ฝั่งเมียนมา และตกเต็มพื้นที่ แหล่งข่าว บอกว่า “เราไม่มีสถานีวัดระดับน้ำฝนที่ฝั่งเมียนมาเลย แม้ว่าไทยจะต้องรับน้ำต่อ นี่คือจุดบอดมาตลอด” แต่จุดที่เริ่มวัดได้ในเขตไทย พบว่า ฝนตกวันที่พีคที่สุด วัดระดับน้ำได้ 230 ลบ.ม./วินาที

ส่วนเมื่อคืน (11 ก.ย. 67) ฝนตกอยู่ใน อ.แม่สาย แต่จะไม่หนักเท่า 1-2 วันก่อน น้ำจาก อ.แม่สาย จะไหลไปที่ แม่น้ำรวก ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขง และจะกลับเข้าเขตไทยที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนเข้าไปในเขต หลวงพระบาง สปป.ลาว และมวลน้ำก้อนนี้จะกลับมาที่ อ.เชียงคาน จ.เลย ไหลต่อไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ใช้เวลาราว 1-2 วัน

ปัจจุบันที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ฝนตกหนักไม่แพ้กัน และคาดการณ์ว่า อ.เชียงคาน จ.เลย จะเจอมวลน้ำก้อนนี้ประมาณวันที่ 11-14 ก.ย. ประชาชนในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังและเก็บของขึ้นที่สูง โดยมีรายงานอีกว่า เขื่อนไซยะบุรี ที่ สปป.ลาว ได้มีการเพิ่มการปล่อยน้ำ เป็น 18,000 ลบ.ม./วินาที แล้ว

มีรายงานว่าระดับน้ำที่ อ.เมือง จ.เชียงราย จะขึ้นต่อเนื่องราว 5 เซนติเมตรต่อชั่วโมง และระดับน้ำจะพีคสุดๆ ช่วงตี 2 ตี3 และจะเริ่มคงที่ และลดลง น่าจะใช้เวลา 1-2 วันกลับสู่ปกติ ยกเว้นในที่ลุ่มต่ำที่ต้องสูบน้ำออก และน้ำจาก อ.เมือง จ.เชียงราย จะไหลต่อไป อ.เชียงของ ซึ่งคาดว่าระยะเวลาน้ำไหลไปถึงน่าจะใกล้เคียงกับน้ำที่ไหลไปจาก อ.แม่สาย ก่อนเข้า สปป.ลาว และไหลกลับมาเข้าสู่ อ.เชียงคาน จ.เลย

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้า ช่วงประมาณวันที่ 14 – 28 กันยายน 67 ร่องมรสุมจะพาดผ่านอีสาน และทำให้ฝนตกในอีสาน ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี, จ.อุดรธานี, จ.สกลนคร, จ.นครพนม และ จ.เลย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สถานการณ์ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ที่อ่านค่าฝน ค่าตัวเลข ได้มีการแจ้งเตือนมาแล้ว 2 – 4 วัน แต่ยังคงเป็นที่ตั้งคำถามว่าผู้ที่รับผิดชอบถึงสถานการณ์ดังกล่าว ดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่ ที่จะแจ้งเตือนประชาชนให้ทันท่วงที หรือแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่หน่วยงานของรัฐมีอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างครบมือ

2

เตือนด่วน! มวลน้ำจากเชียงราย กำลังไหลไปอีสาน จังหวัดต่อไปนี้เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 12 ก.ย. 67 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ อ.แม่สาย และอำเภอเมือง จ.เชียงราย ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง หลายพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนหลายครัวเรือน รวมถึงสัตว์เลี้ยง ไม่สามารถออกมาจากที่พักอาศัยได้ อีกทั้งยังมีรายงานผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต

โดยมีรายงานว่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนฝนตกหนักที่ฝั่งเมียนมา และตกเต็มพื้นที่ แหล่งข่าว บอกว่า “เราไม่มีสถานีวัดระดับน้ำฝนที่ฝั่งเมียนมาเลย แม้ว่าไทยจะต้องรับน้ำต่อ นี่คือจุดบอดมาตลอด” แต่จุดที่เริ่มวัดได้ในเขตไทย พบว่า ฝนตกวันที่พีคที่สุด วัดระดับน้ำได้ 230 ลบ.ม./วินาที

ส่วนเมื่อคืน (11 ก.ย. 67) ฝนตกอยู่ใน อ.แม่สาย แต่จะไม่หนักเท่า 1-2 วันก่อน น้ำจาก อ.แม่สาย จะไหลไปที่ แม่น้ำรวก ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขง และจะกลับเข้าเขตไทยที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนเข้าไปในเขต หลวงพระบาง สปป.ลาว และมวลน้ำก้อนนี้จะกลับมาที่ อ.เชียงคาน จ.เลย ไหลต่อไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ใช้เวลาราว 1-2 วัน

ปัจจุบันที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ฝนตกหนักไม่แพ้กัน และคาดการณ์ว่า อ.เชียงคาน จ.เลย จะเจอมวลน้ำก้อนนี้ประมาณวันที่ 11-14 ก.ย. ประชาชนในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังและเก็บของขึ้นที่สูง โดยมีรายงานอีกว่า เขื่อนไซยะบุรี ที่ สปป.ลาว ได้มีการเพิ่มการปล่อยน้ำ เป็น 18,000 ลบ.ม./วินาที แล้ว

มีรายงานว่าระดับน้ำที่ อ.เมือง จ.เชียงราย จะขึ้นต่อเนื่องราว 5 เซนติเมตรต่อชั่วโมง และระดับน้ำจะพีคสุดๆ ช่วงตี 2 ตี3 และจะเริ่มคงที่ และลดลง น่าจะใช้เวลา 1-2 วันกลับสู่ปกติ ยกเว้นในที่ลุ่มต่ำที่ต้องสูบน้ำออก และน้ำจาก อ.เมือง จ.เชียงราย จะไหลต่อไป อ.เชียงของ ซึ่งคาดว่าระยะเวลาน้ำไหลไปถึงน่าจะใกล้เคียงกับน้ำที่ไหลไปจาก อ.แม่สาย ก่อนเข้า สปป.ลาว และไหลกลับมาเข้าสู่ อ.เชียงคาน จ.เลย

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้า ช่วงประมาณวันที่ 14 – 28 กันยายน 67 ร่องมรสุมจะพาดผ่านอีสาน และทำให้ฝนตกในอีสาน ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี, จ.อุดรธานี, จ.สกลนคร, จ.นครพนม และ จ.เลย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สถานการณ์ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ที่อ่านค่าฝน ค่าตัวเลข ได้มีการแจ้งเตือนมาแล้ว 2 – 4 วัน แต่ยังคงเป็นที่ตั้งคำถามว่าผู้ที่รับผิดชอบถึงสถานการณ์ดังกล่าว ดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่ ที่จะแจ้งเตือนประชาชนให้ทันท่วงที หรือแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่หน่วยงานของรัฐมีอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างครบมือ

2

Popular Posts

My Favorites

ด่วน! สั่งปิดน้ำตกแม่สา เกิดน้ำป่าไหลหลาก

0
วันที่ 27 ส.ค.2567 นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก จึงขอปิดแหล่งท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ เบื้องต้น ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และทรัพย์สินของทางราชการยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด ในส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยังติดตามสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง โดนวันนี้...