การเมือง

Home การเมือง Page 9

เตือนด่วน! พายุมาถึงเร็วแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ พรุ่งนี้ถล่มแล้ว เปิดเส้นทางจังหวัดแรกที่โดน หนักแน่เตรียมรับมือ

วันที่ 18 กันยายน นายศศิน เฉลิมลาภ นักธรณีวิทยา และนักวิชาการอิสระ ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า พายุซูริค ที่มาจากประเทศฟิลิปปินส์ นั้นเดิมทีคาดว่า ไม่น่าจะแรง และส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก แต่หลังจากพิจารณา จากแผนที่แล้ว พายุน่าจะมาเร็วและแรงมากกว่าที่ คาดการณ์ไว้เยอะ โดยเวลานี้ พายุกำลังปั่นอยู่ที่ประเทศเวียดนาม โดยพยายามขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม และจะอ่อนกำลังกลายพายุดีเปรสชั่น จากนั้น จะเข้าไปที่ประเทศลาวตอนใต้ โดยฝนจะตกหนักมากที่คอนพะเพ็ง

จากนั้น ตกดึกของคืนวันที่ 19 กันยายน ก็จะเข้ามาแตะที่ จ.นครพนม ทั้งนี้ หากพายุหมดพลังที่ ลาว ก็ไม่มีปัญหา แต่เราก็ไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร เบื้องต้น คือ คาดว่า จะเข้ามาที่ จ.นครพนม และแถบอีสานเหนือ คือ แถว อุบลราชธานี สกลนคร หนองคาย บุงกาฬ จุดที่น่าเป็นห่วงคือ เลย เพชรบูรณ์ พื้นที่ภูเขาสูง แหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำหนาว ภูหินร่องกล้า ทุ่งแสลงหลวง และประมาณ วันที่ 20 กันยายน ช่วงเย็นๆพายุ จะวกเข้าพื้นที่ พิษณุโลก สวรรคโลก น้ำจะลงที่ ตามแม่น้ำยม ลงไปที่ทุ่ง พิจิตร ซึ่งตรงนี้ แม้ว่ามีแก่งเสือเต้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะฝนจะตกใต้เขื่อน”นายศศิน กล่าว

นายศศิน กล่าวว่า พายุลูกนี้จะ หมดฤทธ์ วันที่ 21-22 กันยายน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ ทั้งนี้ สองวันนี้ ขอให้ทุกคน ต้องเชื่อประกาศ ทั้งของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ อย่างไรก็ตาม หน่วยงาน อย่ามัวแต่ดูหัวพายุ เพราะหางมันดึงฝนมาทางฝั่งอันดามันหนักแน่ โดยเฉพาะภูเก็ต พังงา ระนอง ฉ่ำมาหลายวันแล้วเจอห่านี้มีความเป็นไปได้สูงว่าเจอกับดินถล่ม โคลนไหลทันที หางมันยังพาด มาหาภาคตะวันออกชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และพาดมานครนายก เขาใหญ่ เขื่อนขุนด่าน น่าต้องเฝ้าสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดต้องมอบหมายให้อำเภอต่างๆตามเฉดสีเหลืองนี้เตรียมแผนเผชิญเหตุนะครับ ไม่ใช่แค่เฝ้าระวัง เพราะไม่รู้ว่าจะระวังอย่างไร ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์น่าจะเป็นคิวที่น้ำจะลงมาทางเมืองเพชรบูรณ์ สุโขทัยและพิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ ต้องระวังน้ำล้นแม่น้ำป่าสักช่วงเหนือเขื่อนป่าสัก น้ำน่าน น้ำยม ช่วงพิษณุโลก และทุ่งพิจิตร ต้องระวังพิเศษ ต่อมาก็คงลงบึงบรเพ็ด ซึ่งต้องติดตามอาทิตย์หน้าว่าจะมีผลต่อภาคกลางหรือไม่”นายศศิน กล่าว

ด่วนที่สุด! ประกาศเตือน 11 จังหวัดรวม กทม. ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

วันที่ 18 ก.ย. 2567 นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ ซึ่งจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

ทั้งนี้เนื่องจากมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มีปริมาณฝนตกมากขึ้น ซึ่งจากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ใน 1-7 วันข้างหน้า

โดยในวันที่ 24 กันยายน 2567 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,500 – 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำ SideFlow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทางกรมชลประทาน ได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตก ในอัตรา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได จึงจะส่งผลทำให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 60 เซนติเมตร – 1 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และที่บริเวณแม่น้ำน้อย ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเข้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ลำปางฝนหนักทั้งคืน น้ำทะลักท่วมบ้านประชาชน ตั้งแต่เช้ามืด กระทบหนัก 3 อำเภอ

วันที่ 18 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งคืน ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น. เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ จ.ลำปาง หลายอำเภอ ส่งผลให้น้ำในลำห้วยสาขาต่างๆเพิ่มปริมาณเอ่อล้นตลิ่ง ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายหมู่บ้าน

ที่บ้านห้วยเป้ง หมู่ 5 ต.บ้านค่า อ.เมืองลำปาง น้ำล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำห้วยเป้ง ทำให้น้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นและไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ระดับน้ำมีความสูงประมาณ 50-80 ซม.

เบื้องต้นคาดว่ามีบ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 50 หลังคาเรือน เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถเก็บของขึ้นที่สูงได้ทัน มีทรัพย์สิน ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าวเปลือก ถูกน้ำท่วมไปทั้งหมด

กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. น้ำเริ่มลดระดับลงแต่ยังคงมีท่วมขังอยู่บางจุด ชาวบ้านเร่งทำความสะอาด เก็บข้าวของที่จำเป็น เพื่อเตรียมรับมือเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก

นอกจากนี้ที่บ้านแม่ก๋ง หมู่ 3 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง ลำห้วยแม่ก๋ง ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ตั้งแต่ช่วงเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลา 08.00 น. น้ำเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีลำน้ำสมทบเข้ามาหลายสาขา คาดว่ามีบ้านเรือนได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน

ชาวบ้านต่างนำกระสอบทรายมาปิดกั้นประตูหน้าบ้าน บางหลังสามารถกั้นได้ทัน แต่มีหลายหลังที่ถูกน้ำท่วมเข้าไปภายในบ้าน หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่จาก อบต. เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 กอ.รมน.ลำปาง ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

ขณะที่ จังหวัดลำปาง รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ วันที่ 18 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากท่วม บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชน ได้รับความเสียหาย 3 อำเภอ 6 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประกอบด้วย

  • อ.เมืองปาน 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ทุ่งกว๋าว ม. 9 (14 หลังคาเรือน ) , ม. 8 (5 หลังคาเรือน)
  • อ.เมืองลำปาง 5 ตำบล ได้แก่ ต.ต้นธงชัย, ต.บ้านค่า, ต.บ้านเป้า, ต.บ้านเสด็จ, ต.บ้านเอื้อม (อยู่ระหว่างการสำรวจ)
  • อ.แม่เมาะ 1 ตำบล ได้แก่ ต.บ้านดง (อยู่ระหว่างการสำรวจ)

ล่าสุดทางนายอำเภอในพื้นที่ รวมทั้ง สำนักงาน ปภ.ลำปาง และ ปภ.สาขา ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ อปท. กำนันผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายแล้ว

ดราม่าสนั่น รถบรรทุกของไปช่วยน้ำท่วม กลับ ถูกจับน้ำหนักเกิน ล่าสุดตำรวจแจงแล้ว

โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของผู้ใช้ tiktok รายหนึ่ง ที่ได้ออกมาโพสต์ขอความช่วยเหลือระบุว่า รถบรรทุกสิ่งของไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เชียงใหม่ เชียงราย โดยจับน้ำหนักเกิน ตอนนี้ผู้ประสบภัยปลายทางก็ยังรอความช่วยเหลือ แต่รถก็ไม่สามารถเอาออกจากโรงพัก สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มนุษยธรรมไม่ต้องมี ด่านน้ำหนักพยุหะคีรีทำงานดีมาก ๆ ค่ะ

หลังจากที่ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก อาทิ เขาไปช่วยน้ำท่วม จับเขาเพื่อ, เจ้าหน้าที่ด่านต้องการอะไรค่ะ..ความลำบากมีไม่พอใช่ไหมคะ, มาจับไรตอนนี้ นครสวรรค์ดังแล้ว, จนท.ปล่อยผ่านสักเที่ยวได้ไหมครับ ?? ทำบุญร่วมกันนะครับ, ตำรวจคงภูมิใจในสิ่งนี้ และอื่นๆอีกมากมาย

ล่าสุดวันที่ 18 กันยายน 2567 ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ชี้แจงกรณีปรากฏคลิปในติ๊กต็อก เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีรถบรรทุกสิ่งของเพื่อช่วยน้ำท่วมที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย จากมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ถูกจับกุมเนื่องจากบรรทุกน้ำหนักเกิน ที่ สภ.พยุหะคีรี นั้น ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ขอรายงานชี้แจง ดังนี้

1.กรณีการจับกุมเป็นการจับโดยเจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี (ขาออก) ไม่ได้เป็นการจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถคันที่ถูกจับเป็นรถบรรทุกหกล้อ ได้เข้าชั่งที่ด่านตรวจมีน้ำหนัก รวมน้ำหนักบรรทุก 18,420 กก. ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสำหรับรถประเภทนี้ 3,420 กก.

2.หลังจากที่ได้มีการจับกุมแล้ว เจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี (ขาออก) ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

3.เมื่อพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี ได้รับตัวขับขี่ พร้อมรถบรรทุกของกลางไว้แล้ว เมื่อทราบว่าเป็นรถที่บรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย จึงได้อำนวยความสะดวก และได้ปล่อยตัวผู้ขับขี่ชั่วคราว ในระหว่างการสอบสวนในทันที โดยให้นำสิ่งของบางส่วนลง เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และได้จัดรถนำเส้นทางรถที่บรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภคไปส่งยังจุดหมายต่อไป

“อ.เฉลิมชัย” เปิดวัดร่องขุ่น ให้ผู้ประสบภัยนำรถมาจอดได้

ภาคเหนือ 12 ก.ย. – หน่วยปฏิบัติการพิเศษยักขราช 49 ของตำรวจภูธรภาค 5 เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ขณะที่ “อ.เฉลิมชัย” เปิดวัดร่องขุ่น ให้ผู้ประสบภัยนำรถไปจอดได้

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำกำลังพลช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในอาคารที่พักอาศัยต่อเนื่อง ด้านหน่วยซีลปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชม. พร้อมออกปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจติดค้างอยู่ภายในบ้านเรือน และไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ร่วมปฏิบัติงานกับกำลังพลในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน

โดยเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หน่วยซีลปฏิบัติการกลางดึก ลุยช่วยคนแก่ ผู้หญิง เด็ก 3 เดือน อดข้าวรอความช่วยหลังเกิดเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ต้องลุยโคลนเข้าไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร จนช่วยสำเร็จ

ที่ อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่มณฑลทหารบกที่ 37 และมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือนำครอบครัวชาวเขาที่อุ้มลูกน้อย จนสามารถฝ่ามวลน้ำขึ้นรถกู้ภัยได้ แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแล้วแต่น้ำยังคงมีความเชี่ยวอยู่ จึงทำให้การช่วยเหลือค่อนข้างเป็นไปอย่างทุลักทุเล มีทั้งชาวบ้าน ชาวเขา และเด็ก ด้วยความปลอดภัย

ด้านหน่วยปฏิบัติการพิเศษยักขราช 49 ของตำรวจภูธรภาค 5 ที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ต่างเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน นอกจากฝ่ากระแสน้ำแล้ว ยังฝ่ากระแสสายฝนที่โปรยปรายลงมาอีกด้วย

กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมอุปกรณ์ รถยกสูง เรือ และโรงครัวเคลื่อนที่ เร่งช่วยเหลือและช่วยอพยพประชาชนให้ออกมาให้อยู่ในที่ปลอดภัย

อ.เฉลิมชัย เปิดวัดร่องขุ่นให้จอดรถหนีน้ำท่วม
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ออกมาเผยแพร่คลิปประกาศว่าได้เปิดวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยนำรถไปจอดได้ โดยจะมีการจัดให้ลูกศิษย์และคนดูแลความปลอดภัยเฝ้ารักษารถของผู้ประสบภัยให้มีความปลอดภัยอย่างดี

สถานที่จอดรถภายในวัดร่องขุ่นแล้ว 2 จุด โดยมีความกว้างขวาง ได้แก่ ภายในลานจอดของวัดร่องขุ่น สามารถรองรับรถได้หลาย 100 คัน และข้างวัดอีก 1 แห่ง น้ำท่วม จ.เชียงราย ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาหรือเป็นระดับจังหวัด แต่ต้องในนามของรัฐบาลแล้ว ซึ่งควรจัดสรรงบประมาณไปช่วยเหลือและเยียวยา เพราะบ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก ตนเป็นห่วงว่าเมื่อน้ำลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหลายบ้านคงไม่มีเงินซ่อมแซม จึงต้องมีงบประมาณเยียวยา โดยขอรัฐบาลใหม่ช่วยเหลือชาวเชียงรายด้วย เพราะช่วยกันเองภายในจังหวัดไม่เพียงพอ ทางเราขอส่งกำลังใจไปให้พี่น้องชาวเชียงรายและภาคเหนือของเรา และส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุกหน่วยงาน.-สำนักข่าวไทย

จะรับผิดชอบยังไง! สาวสระแก้วสอบติดครูที่ 1 ผ่านไป 3 วันชื่อหาย ลาออกจากที่ทำงาน คืนหอพัก เตรียมตัวกลับบ้าน สุดท้ายใจสลาย

13 ก.ย. จากกรณี สาวโพสต์ขอความเป็นธรรม สอบติดพนักงานราชการ อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว แถลงการณ์ เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่ง ครูผู้สอนแล้ว แถลงการณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ตามที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน โดยได้มีการดำเนินงานตามกระบวนการสรรหาฯ ภายหลังจากได้มีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาฯ ได้มีข้อทักท้วงเรื่องข้อสอบและคำตอบที่ถูกต้องในแต่ละข้อ ว่าหากไม่มีข้อที่ถูกต้องจะยกให้เป็นคะแนนสำหรับทุกคนหรือไม่

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว จึงได้ดำเนินการทบทวนข้อสอบและคำตอบ และดำเนินการตรวจคะแนนประมวลผลใหม่ทั้งหมดทุกคน เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าสอบทุกคน ว่ามีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผลคะแนนการประเมินภาค ก และ ภาค ของผู้เข้ารับการสรรหาฯ คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อมูลเดิม โดยสาเหตุเกิดจากการเฉลยคำตอบไม่มีคำตอบที่ตอบที่ถูกต้องและเฉลยสลับข้อ ส่งผลให้คะแนนรวมภาค ก ภาค ข และภาค ค ของผู้เข้ารับการสรรหาฯ เกิดความคลาดเคลื่อน และทำให้ลำดับที่ของผู้ผ่านการสรรหาฯ มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีทั้งผู้ที่ได้ลำดับที่คงเดิม สูงขึ้น และลดลง และการดำเนินการจัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาฯ ผิดพลาดไป จึงได้ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว จากเหตุดังกล่าว ถือเป็นความผิดพลาดบกพร่องของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว

ซึ่งเกิดผลกระทบต่อหลายฝ่าย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ยอมรับในความผิดพลาดดังกล่าวนี้ และยินดีร่วมมือในการแก้ไขข้อบกพร่อง อีกทั้ง บุคคลากรที่ดำเนินการสอบยังขาดประสบการณ์ด้านการดำเนินการสอบ เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เป็นเขตพื้นที่การศึกษาตั้งใหม่ ขาดแคลนบุคลากรในการปฏิบัติงานและบุคคลกรส่วนใหญ่เป็นผู้บรรจุใหม่ จึงขาดประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว อีกประการหนึ่งด้วยในการนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ขออภัยเป็นอย่างสูงต่อผู้เข้ารับการสรรหาที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความรอบคอบรัดกุมและเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบ เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ต่อมาเพจ ดาวแปดแฉก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มันไม่น่าใช่ความผิดปกติ!! สอบติดครูที่ 1 ผ่านไป 3 วัน ชื่อหาย คนมาแทนนามสกุลเดียวกับผอ.ที่จะไปบรรจุที่สระแก้ว #เด็กใครวิ่งเส้นทางไหนเงินถึงรึป่าวมันเป็นปกติ

สะพรึง! เปิดภาพเส้นทางมรสุมเข้าไทย พื้นที่เสี่ยงเจอฝนตกหนัก เตรียมรับมือ

วันที่ 13 ก.ย. 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 12 -21 ก.ย.67 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) (วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ) เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย เป็นช่วงที่ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามันต้องเพิ่มการติดตาม การเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ส่วนภาคเหนือ แนวโน้มฝนเริ่มน้อยลงบ้าง

ช่วง 13-17 ก.ย.67 ร่องมรสุมแรงขึ้นและจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคอีสาน ภาคกลาง ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะมีกำลังแรงขึ้นและพัดเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้

ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคอีสาน ภาคกลาง(รวม กทม.และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ต้องกลับมาเฝ้าระวังฝนตกหนักอีกช่วง สถานการณ์ฝนภาคเหนือเริ่มเบาลง แต่ต้องเฝ้าระวังฝนสะสมไหลตามลุ่มน้ำต่างๆ โดยเฉพาะชาว กทม.และปริมณฑล นอกจากจะมีฝนหนักแล้วยังมีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย ยังต้องระวังน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย

ช่วง 18-22 ก.ย.67 ร่องมรสุมเลื่อนต่ำลงมาปกคลุมภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มรสุมยังมีกำลังแรง ฝนยังตกต่อเนื่องใกล้ร่องมรสุม ด้านรับมรสุม โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งอันดามันต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

ในระยะนี้ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ฝนที่ตกมาจากร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบ้าง (ข้อมูลนี้ใช้เป็นแนวทางในการติดตามสภาพอากาศ ยังต้องติดตามด้วยข้อมูลจากผลการตรวจอากาศอื่นๆ ร่วมด้วย (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามข้อมูลที่มีการประมวลผลใหม่)

ด่วน!! พนังกั้นน้ำแตก น้ำทะลักขึ้นสูงเร็วมาก มีเด็ก-คนแก่ติดในบ้านเพียบ

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ยังคงพบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำกกยังเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่สองริมฝั่งแม่น้ำ ตั้งแต่เขตพื้นที่บ้านแคววัวดำ บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ของตำบลแม่ยาว ยาวมาถึงพื้นที่ชุมชนต่างในเขตเทศบาลนครเชียงราย และตำบลริมกก ยาวมาถึงบ้าป่ายางมนและบ้านป่าบง ตำบลรอบเวียง ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินมีค่าและสัตว์เลี้ยง รวมถึงรถยนต์มาไว้บนถนนเพื่อความปลอดภัย

ล่าสุดวันที่ 13 ก.ย. 2567 น้ำสายมารอบ 2 น้ำขึ้นเร็วมาก โดยเฉพาะสถานการณ์ในพื้นที่ไม้ลุงขน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบมีน้ำไหลหลากเข้ามาอีกรอบในช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านชุมชนบ้านถ้ำ ขอความช่วยเหลือ

โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Waan Potaton โพสต์ภาพและคลิปน้ำท่วมระบุว่า สถานการณ์อัพเดทล่าสุดพนังกั้นน้ำแตกเพิ่ม ทำให้น้ำไหลเชี่ยวแรงทางเรือใหญ่เข้าไปช่วยบ้านที่อยู่ในซอยเล็กๆไม่ได้ แล้วมีผู้สูงอายุและเด็กติดเป็นจำนวนมาก ไม่มีอาหาร ต้องการโดรนบินส่งอาหารและเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือ เพราะล่าสุดมีทีมเรือและกู้ภัยเข้าแต่ยังไม่สามารถช่วยออกมาได้ คาดว่าจะมีคนติดค้างในบ้านเพิ่มขึ้น เพราะว่าตอนแรกระดับน้ำลดลงแล้วชาวบ้านกลับเข้าไป แต่ตอนนี้พนังกั้นน้ำแตกเพิ่มน้ำสูงกว่าเดิมเยอะมาก

ชมคลิป

เรียบเรียง มุมข่าว

จะรับผิดชอบยังไง! สาวสระแก้วสอบติดครูที่ 1 ผ่านไป 3 วันชื่อหาย ลาออกจากที่ทำงาน คืนหอพัก เตรียมตัวกลับบ้าน สุดท้ายใจสลาย

13 ก.ย. จากกรณี สาวโพสต์ขอความเป็นธรรม สอบติดพนักงานราชการ อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว แถลงการณ์ เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่ง ครูผู้สอนแล้ว แถลงการณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ตามที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน โดยได้มีการดำเนินงานตามกระบวนการสรรหาฯ ภายหลังจากได้มีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาฯ ได้มีข้อทักท้วงเรื่องข้อสอบและคำตอบที่ถูกต้องในแต่ละข้อ ว่าหากไม่มีข้อที่ถูกต้องจะยกให้เป็นคะแนนสำหรับทุกคนหรือไม่

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว จึงได้ดำเนินการทบทวนข้อสอบและคำตอบ และดำเนินการตรวจคะแนนประมวลผลใหม่ทั้งหมดทุกคน เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าสอบทุกคน ว่ามีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผลคะแนนการประเมินภาค ก และ ภาค ของผู้เข้ารับการสรรหาฯ คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อมูลเดิม โดยสาเหตุเกิดจากการเฉลยคำตอบไม่มีคำตอบที่ตอบที่ถูกต้องและเฉลยสลับข้อ ส่งผลให้คะแนนรวมภาค ก ภาค ข และภาค ค ของผู้เข้ารับการสรรหาฯ เกิดความคลาดเคลื่อน และทำให้ลำดับที่ของผู้ผ่านการสรรหาฯ มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีทั้งผู้ที่ได้ลำดับที่คงเดิม สูงขึ้น และลดลง และการดำเนินการจัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาฯ ผิดพลาดไป จึงได้ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว จากเหตุดังกล่าว ถือเป็นความผิดพลาดบกพร่องของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว

ซึ่งเกิดผลกระทบต่อหลายฝ่าย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ยอมรับในความผิดพลาดดังกล่าวนี้ และยินดีร่วมมือในการแก้ไขข้อบกพร่อง อีกทั้ง บุคคลากรที่ดำเนินการสอบยังขาดประสบการณ์ด้านการดำเนินการสอบ เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เป็นเขตพื้นที่การศึกษาตั้งใหม่ ขาดแคลนบุคลากรในการปฏิบัติงานและบุคคลกรส่วนใหญ่เป็นผู้บรรจุใหม่ จึงขาดประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว อีกประการหนึ่งด้วยในการนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ขออภัยเป็นอย่างสูงต่อผู้เข้ารับการสรรหาที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความรอบคอบรัดกุมและเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบ เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ต่อมาเพจ ดาวแปดแฉก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มันไม่น่าใช่ความผิดปกติ!! สอบติดครูที่ 1 ผ่านไป 3 วัน ชื่อหาย คนมาแทนนามสกุลเดียวกับผอ.ที่จะไปบรรจุที่สระแก้ว #เด็กใครวิ่งเส้นทางไหนเงินถึงรึป่าวมันเป็นปกติ

ลูกสาว 2 ขวบ นอนกลางวัน ครูส่งคลิปมาให้ดู แม่เห็นขยับมือแปลกๆ พอรู้ทำอะไร น้ำตาไหล (ตปท.)

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่คุณแม่ท่านนึงคุณแม่ท่านหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ได้ตัดสินใจส่ง เป่าเปา ลูกสาวอายุ 2 ขวบ ให้เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล และยังคงเป็นห่วงไม่ได้เช่นเดียวกับพ่อแม่คนอื่นๆ จึงคอยตรวจเช็กภาพที่ครูส่งมาในกลุ่มเสมอ

บ่ายวันหนึ่ง ครูส่งวีดีโอบันทึกภาพการนอนกลางวันของเด็กๆ ให้กับผู้ปกครอง ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะจดจำตำแหน่งของลูกสาว จึงสังเกตเห็นได้ทันทีว่าลูกสาวมีพฤติกรรมแปลกๆ เป่าเปานอนหงาย คลุมร่างกายด้วยผ้าห่มผืนเล็ก แขนวางข้างลำตัว อย่างไรก็ตาม มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากใต้ผ้าห่ม แล้วขยับตบร่างกายตัวเองเบาๆ ไม่หยุด ราวกับว่ายังไม่สามารถนอนหลับได้

ในตอนแรกผู้เป็นแม่เห็นแล้วไม่สบายใจ แต่เมื่อพิจารณาอย่างใกล้ชิดจึงรู้ว่า นี่เป็นสิ่งที่ลูกสาว ติดนิสัย เวลานอนเนื่องจากปกติเธอมักจะคอยอยู่ข้างๆ และตบก้นกล่อมลูกสาวเสมอ แต่เมื่อไปโรงเรียนอนุบาล ครูไม่สามารถดูแลเด็กเพียงคนเดียวได้ เป่าเปาจึงทำท่านี้เพื่อกล่อมตัวเองให้หลับ

เมื่อเห็นภาพลูกกำลัง กล่อมตัวเองนอน คนเป็นแม่ก็น้ำตาไหลออกมา เธอทั้งรู้สึกเศร้าและมีความสุขเพราะเป่าเปาเติบโตจนดูแลตัวเองได้แล้ว เมื่อลองสอบถามครูถึงสถานการณ์ของลูก ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อพบว่า เป่าเปาเป็นเด็กดี ประพฤติตนดีกับทุกคนเสมอ

หลังจากที่เรื่องราวของคุณแม่เป่าเปาถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ผู้ปกครองหลายคนก็ได้เข้ามาเล่าเรื่องลูกๆ ที่น่าสนใจในลักษณะคล้ายกัน เช่น ลูกฉันก็ทำแบบเดียวกัน ถ้าไม่มีใครปลอบเขา เขาก็จะปลอบตัวเอง ตอนนั้นลูกดูน่ารักมากเลย

ทั้งนี้ โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่จัดตารางการงีบหลับให้กับนักเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง เพียงพอ สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ในช่วงบ่าย ขณะเดียวกันการงีบหลับยังช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจอีกด้วย

ดังนั้นเพื่อให้เด็กๆ ปรับตัวเข้ากับเวลางีบหลับของโรงเรียนได้ไม่ยากเกินไป ผู้ปกครองควรฝึกให้บุตรหลานมีนิสัยการงีบหลับตรงกับเวลางีบในโรงเรียนอนุบาล เมื่อไปโรงเรียนลูกจะหลับง่ายโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากครู เพราะการฝึกความเป็นอิสระ การควบคุมตนเอง และนิสัยการใช้ชีวิตที่ดีให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าพ่อแม่เน้นสอนเรื่องพวกนี้จะเป็นประโยชน์กับลูกมากในอนาคต

Popular Posts

My Favorites

ขุดภาพจากไอจี ‘โยเกิร์ต’ หลังโต้ข่าว ‘พีเค’ บอกไม่เคยกินหมูกระทะ สุดพีคเป็นทริปที่ไปเที่ยวด้วยกัน?

0
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโซเชียลขณะนี้ หลังจากที่พิธีกรคนดัง พีเค ปิยะวัฒน์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่งว่า ตนเพิ่งเคยได้กินหมูกระทะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยสัมผัส และไม่มีโอกาสได้ไป สมมุติไปกินข้าวข้างนอก ก็จะกินมิชลินร้านใหม่ๆ เชฟญี่ปุ่นคนนี้ แต่พอได้คบหากับแฟนสาว มีเรียน ก็มีโอกาสได้ไปกินหมูกระทะ จิ้มจุ่ม ซึ่งมันอร่อยมาก งานนี้ทำเอาหลายคนมองว่าตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ที่พีเคได้ใช้ชีวิตร่วมกับอดีตภรรยา โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ แบบหรูหราติดแกลมมาโดยตลอดหรือไม่ แต่กระนั้น เมื่อวานนี้...