ข่าววันนี้

Home ข่าววันนี้ Page 2

เฮรอบ2!! เงินหมื่นดิจิทัล “แจกเป็นเงินสดทั้งหมด” ใช้ที่ไหนก็ได้

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่ารัฐบาลยืนยันเดินหน้าแน่นอน โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.นัดแรกวันที่ 17 กันยายนนี้ โดยจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ซึ่งได้ปรับมาให้เงินสดทั้งหมด ให้กับคนที่ได้ลงทะเบียนแล้วกว่า 30 ล้านคน โดยรอบแรก แบ่งเป็น กลุ่มเปราะบาง ประมาณ 14 ล้านคนก่อน โดยแจกเป็นเงินสด 10,000 บาท ด้วยใช้งบประมาณปี 2567

โดยโอนเข้าบัญชีที่มีอยู่แล้ว และจะสามารถนำไปใช้ที่ไหนก็ได้ โดยไม่มีการจำกัดร้านค้า และชนิดสินค้า ตามเป้าหมายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว คาดสามารถแจกเงินได้ทันทีภายในเดือนกันยายนนี้ ไม่เกินตุลาคม ส่วนที่เหลือกลุ่มคนที่ลงทะเบียนในระบบไปแล้ว และไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง รัฐบาลจะแจกเป็นล็อตที่ 2 โดยใช้งบประมาณปี 2568 จะแจกเป็น เงินสด 5,000 บาทก่อน ภายในปลายปี 2567 นี้ และส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท หากรัฐบาลวางระบบดิจิทัลได้ทันอาจจะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากไม่ทันอาจจะแจกเป็นเงินสดเช่นกัน คาดว่าจะดำเนินการส่วนที่เหลือได้ในปีหน้า 2568

นายภูมิธรรมกล่าวในด้านร้านค้า ได้ย้ำให้กรมการค้าภายในอย่าละเลยการรวบรวมร้านค้า มารองรับ เพราะเป้าหมายโครงการไม่ได้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการเตรียมพร้อมประชาชน ได้เรียนรู้การเข้าสู่ระบบดิจิทัลด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำแม้จะมีข้อโต้แย้ง แต่รัฐบาลอดทน เพราะมีเป้าหมายชัดเจน และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด เป้าหมายโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบแรกคาดว่าจะกระตุ้นให้มีเงินสะพัดในระบบได้ประมาณ 140,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกลุ่มที่ 2 คาดว่าจะมีเงินหมุนในระบบ สองรอบประมาณ 280,000-300,000 ล้านบาท “โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการสำคัญ เป็นเรือธงของรัฐบาล ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแน่นอน แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนสบายใจ

ซึ่งได้ปรับมาให้เงินสด 10,000 บาททั้งหมดแก่กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ซึ่งจะใช้ที่ไหนก็ได้ ซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ไม่ต้องมีสินค้าต้องห้าม ตามเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แม้จะเป็นเงินสดแต่ยังช่วยหมุนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดก้อนแรก 140,000 กว่าล้านบาท ลงไปในตลาดก็จะเกิดกำลังซื้อประชาชนแล้ว และจะมีเงินก้อนสองลงต่อเนื่องไปอีกเป็น 1-2 แสนล้านบาท” นายภูมิธรรมกล่าว

2

ประกาศแล้ว วิธีแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 ให้คนลงทะเบียน หากระบบดิจิทัลไม่เสร็จ ให้เงินสดก่อน 5,000 บาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ตว่า ในวันที่ 17 ก.ย. นี้ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเข้าสู่การพิจารณาของการประชุม ครม. ในนัดแรก เพื่อขออนุมัติทันที โดยนำเงินงบประมาณปี 2567 วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท มาแจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบางกว่า 14 ล้านคน คนละ 10,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการโดยตรง

ส่วนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนทั่วไปที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ จะได้รับเงินแบ่งจ่าย 2 รอบ

รอบแรก หากระบบดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อาจจะจ่ายเป็นเงินสด คนละ 5,000 บาท

รอบสอง หากเสร็จทันจะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท จะจ่ายในปีหน้า

นอกจากนี้ ยังได้ฝากให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รวบรวมร้านค้ามารองรับ เพราะเป้าหมายของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้ต้องการแค่กระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการผลักดันให้ประเทศเข้าสู่ระบบดิจิทัล และเตรียมความพร้อมให้ประชาชนได้เรียนรู้เข้าสู่โครงสร้างการเงินใหม่

2

เงินเข้าแล้ว 3 กลุ่มเปราะบาง งวดเดือนกันยายน 2567

โอนเงิน 3 กลุ่มเปราะบาง งวดเดือนกันยายน 2567 เงินเข้าบัญชีพร้อมกันทุกวันที่ 10 ของเดือน ซึ่งในงวดนี้จะได้รับตรงวันคือวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 ได้แก่ เงินอุดหนุนบุตร, เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเงินเบี้ยผู้พิการ โดยโอนช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ดังนี้

เงินอุดหนุนบุตร เดือนกันยายน 2567 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 6 ขวบ รัฐบาลช่วยเหลือ ครอบครัวรายได้น้อย เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

โดยผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะสิทธิได้ตามขั้นตอนนี้

1. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนผู้ลงทะเบียน

2. กรอกเลขประจำตัวประชาชนเด็กแรกเกิด

3. ระบุรหัสยืนยันรูปภาพ

สำหรับผู้ที่ต้องการลงละเบียนเพื่อรับเงินจากโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือเงินอุดหนุนบุตร หากผู้ปกครองเด็กมีความประสงค์รับสิทธิ ยังสามารถลงทะเบียนเพื่อลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตรได้ตลอด

เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนกันยายน 2567 รัฐบาลช่วยเหลือผู้สูงอายุ จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้

อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุด กำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไป

เช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70, 80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.67 ในเดือน พ.ย.67 ก็จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุ ก็จะได้รับในเดือนนั้นทันที

เบี้ยผู้พิการ เดือนกันยายน 2567

เบี้ยผู้พิการได้รับคนละ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้

ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เงินเด็ก’ หรือ แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ หรือ ทางบัญชีที่ได้แจ้งไว้ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินอุดหนุนบุตร ได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดกรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199 และศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0 2354 3388 ต่อ 311 หรือ 313

2

องค์กรช่วยเหลือสัตว์พบ แมวจรจัดหนัก 17 กก. ตัวใหญ่กว่าแมวบ้าน

กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังแห่เอ็นดูแมวส้มตัวหนึ่งที่มีความอ้วนท้วมสมบูรณ์จนคนชะงักว่า แมวตัวนี้เป็นแมวจรจัดจริงเหรอ

ตามรายงาน เจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ได้ช่วยเหลือแมวจรจัดตัวหนึ่งจากห้องใต้ดินของโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งในเมืองเพิร์ม ประเทศรัสเซีย ซึ่งน้องแมวสีส้มตัวดังกล่าวชื่อโครชิก ซึ่งรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ครัมบ์” ถูกเจ้าของทอดทิ้ง ไม่มีบ้านให้กลับ

แม้เรื่องราวชีวิตจะดูน่าสงสาร แต่เจ้าเหมียวโครชิกกลับมีรูปร่างอ้วนยิ่งกว่าแมวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์มาโตรสกินสันนิษฐานว่า โครชิกได้รับความช่วยเหลือจากชาวเมืองเพิร์มให้อาหารด้วยเศษขนมปัง ซุป เนื้อ และอาหารแมวจนทำให้ขนาดของแมวใหญ่เกินไปมาก

หลังโครชิกได้รับการช่วยเหลือจากห้องใต้ดินก็พบว่า แมวมีน้ำหนักประมาณ 38 ปอนด์ (ประมาณ 17 กิโลกรัม) ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแมวทั่วไปหลายเท่า ทำให้แมวอ้วนเกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้และเดินลำบาก

งานนี้ สัตวแพทย์จึงต้องอุ้มมันเพื่อจะสามารถตรวจสุขภาพของมันได้ ซึ่งสัตวแพทย์ไม่สามารถอัลตราซาวนด์แมวได้ เนื่องจากเซ็นเซอร์ไม่ทำงานเหตุมีชั้นไขมันขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่ศูนย์สงเคราะห์วางแผนลดน้ำหนักให้กับโครชิกเพื่อให้แมวสามารถกลับสู่น้ำหนักปกติโดยเฉลี่ยประมาณ 10 ปอนด์ (ประมาณ 4.5 กิโลกรัม) โดยเร็วที่สุด ปัจจุบัน โครชิกต้องเข้ารับการบำบัดทางกายภาพ จากนั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้เดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าได้

2

อ่วมซ้ำ! น้ำทะลักท่วมตลาด จมบาดาล สูงเกือบถึงคอ

วันที่ 9 ก.ย. 2567 สถานการณ์น้ำท่วมที่ตลาดสายลมจอย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรา ถูกน้ำท่วมซ้ำอีกระลอก หลังจากมีฝนตกต่อเนื่องและทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นก่อนหลากเข้าท่วมซ้ำในพื้นที่อีกครั้ง แจ้งเตือนให้ผู้ค้าในระแวกนี้เฝ้าระวังการเก็บของขึ้นที่สูง ซึ่งตลอดทั้งวันฝนยังตก ทั้งตกหนัก ทั้งสลับตกโปรยปราย

ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้าบริเวณดังกล่าว ได้เผชิญปัญหาฝนตกหนัก และน้ำท่วมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ทำให้แทบจะขายของกันไม่ได้ ขณะที่ต้องจ่ายเงินค่าเช่า ทำให้รายรับไม่พอกับรายจ่าย เดือดร้อนไปตาม ๆ กันทั้งตลาด

ขอบคุณ สิริมงคล ปิงปิง

เรียบเรียง มุมข่าว

2

9 เดือน 9 สายมูนับหมื่นล้นทะลัก แห่ไหว้ขอพรพระพิฆเนศ อุทยานฯคลองเขื่อน ในวันตเณศจตุรถี

9 เดือน 9 สายมูเตลูนับหมื่น แห่ล้นทะลัก ไหว้ขอพรพระพิฆเนศ องค์ยืน เนื้อสำริด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่อุทยานฯคลองเขื่อน เนื่องในวันตเณศจตุรถี

วันที่ 9 ก.ย.2567 ที่อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศ การกราบไหว้ พระพิฆเนศองค์ยืน เนื้อสำริด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงรวมแท่นฐาน 39 เมตร ซึ่งตั้งประดิษฐาน ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นไปอย่างคึกคัก

ประชาชนนับหมื่นคน ล้นทะลักไหว้ขอพรเนื่องในวันตเณศจตุรถี โดยในวันนี้ทางอุทยานพระพิฆเนศ คลองเขื่อน ได้มีการเชิญชวนทุกท่านร่วมงานมหามงคลพิธี คเณศจตุรถี 2567 ซึ่งจัดขึ้นใน วันที่ 9 เดือน 9 (กันยายน) ตั้งแต่เวลา 11:00 – 19:00 น. ณ อุทยานพระพิฆเนศ องค์ยืน ปางสำริด สำเร็จ สมปรารถนา

สำหรับประชาชนที่เดินทางมาผู้คนวันนี้ มาจากหลายพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา และจากหลายจังหวัดในประเทศไทย รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่เลื่อมใสศรัทธา

ด้าน น.ส.ตาล (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้วันที่ 9 เดือน 9 เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาไหว้ขอพรเนื่องในวันตเณศจตุรถี ที่อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อนแห่งนี้ รู้สึกดีใจมากที่มีโอกาสมากราบไหว้ เพื่อขอพรอันเป็นมงคล ให้ตนได้งานทำ

ขณะที่ สาวสองสายมู เปิดเผยว่า เดินทางมาจากจังหวัดระยอง มาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่มาบ่อย เพราะรู้สึกดีที่ได้มาขอพร แล้วสำฤทธิ์ผลดั่งใจหมาย

สำหรับอุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน ที่เป็นพระพิฆเนศองค์ยืน เนื้อสำริด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในฉะเชิงเทรา ที่มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้บูชา ตามความเชื่อ ที่มีการรวบรวมบทสวด ด้านการเงินขององค์พ่อพระพิฆเนศ และมหาทวยเทพฮินดู-จีน ผู้คนที่มีจิตศรัทธาต่างเชื่อว่า หากได้มาสักการะบูชา จะขจัดอุปสรรคทางด้านการเงิน ให้เรื่องเงินในชีวิตราบรื่น มีเงินมีทอง สุขสมปรารถนา

2

โบกมือลา! บิ๊กซี เตรียมปิดอีก 2 สาขา ไปต่อไม่ไหวแล้ว

วันที่ 9 ก.ย. 2567 มีรายงานว่าข่าว บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาสุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) ก็เตรียมจะปิดตัวลงอีกแห่ง โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 15 ก.ย. 2567 โดยให้ใช้บริการต่อที่ สาขาสุวินทวงศ์ และสาขาสุขาภิบาล 3-1 โดยได้เริ่มติดป้ายอำลาลูกค้า และส่งข้อความหาลูกค้าแล้ว

ขณะที่ สาขารังสิตคลอง 2 ที่อยู่ใกล้กับตลาดสี่มุมเมือง แม็คโคร และโกโฮลเซล ก็เตรียมจะปิดลงในวันที่ 30 ก.ย. นี้เช่นกัน

สำหรับ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาสุขาภิบาล 3 เป็นคาร์ฟูร์ สาขาแรกในไทย เปิดเมื่อ 7 มี.ค. 2539 ก่อนที่จะเปลี่ยนมือเจ้าของ จนกลายเป็นบิ๊กซีในปัจจุบัน ในปี 2560

 

2

เสียชีวิตแล้ว นายพลวัฒน์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไล่สกัดจับรถบรรทุกประสบอุบัติเหตุ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้า ที่โลกออนไลน์เข้ามาแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก หลัง 9 ก.ย. 2567 เพจ “อุทยานแห่งชาติทับลาน” โพสต์แสดงความเสียใจและอาลัยยิ่งต่อการจากไปของ “นายพลวัฒน์ ชนะบุญ” นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 78

สำหรับการอุบัติเหตุครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 06.00-07.00 น. ข้าราชการพนักงานเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สน.4 (เมือง) ได้ร่วมกันติดตามรถบรรทุกไม้ ซึ่งเป็นขบวนการค้าไม้ ณ บ้านหลุบเลา ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร โดยรถบรรทุกไม้ได้ทำการหลบหนี จึงได้ติดตามรถบรรทุกคันดังกล่าวจนถึงท้องที่ บ้านทุ่งนางาม ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์

รถยนต์พนักงานเจ้าหน้าที่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ข้าราชการเสียชีวิต 1 นาย คือนายพลวัฒน์ ชนะบุญ หัวหน้าหน่วยฯสน.4(เมือง) และมีพนักงานเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาคู จ.กาฬสินธุ์

2

ด่วน!! ยินดีด้วยชัดเจนแล้ว คลังโอนเงิน 10,000 ให้กลุ่มต่อไปนี้ 20 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.67 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย ความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า รัฐบาลจะดำเนินการแจกให้กลุ่มเปราะบาง คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) และกลุ่มผู้พิการ ซึ่งรวมแล้ว 14.5 ล้านคนก่อน คาดว่าจะโอนเงินได้ในช่วงวันที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไป ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะต้องรอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 กันยายนนี้ “รัฐบาลจะโอนเงิน 10,000 ให้กลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก น่าจะช่วงวันที่ 20 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าว มีผู้ถือบัตรสวัสดิการ 13.5 ล้านคน ส่วนผู้พิการนั้นมี 2.2 ล้านคน แต่บางคนก็อยู่ในกลุ่มบัตรสวัสดิการอยู่ด้วย ซึ่งต้องตัดออกให้ข้อมูลซ้ำซ้อนกัน ก็น่าจะเหลือ 14.5 ล้านคน”นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ทะลุ 1 แสนล้านบาทนั้น น่าจะเกิดจากปัจจัยความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างรวดเร็ว และมีความชัดเจนของนโยบาย ที่จะแถลงในเร็วๆนี้ รวมทั้ง การที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับกติกาในการลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาเรื่อง ช็อตเซลล์ (Short sale) ซึ่งทำได้ในระดับหนึ่ง นายพิชัย กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ยังทีความชัดเจนในเรื่องการลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ ที่จะเปิดให้รายย่อยเข้ามาซื้อได้กลางเดือนก.ย.นี้ แล้วจะเข้าเทรดในตลาดหุ้นวันที่ 1 ต.ค.2567 ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของโลกที่มีแนวโน้มเข้าสู่ขาลง จะส่งผลดีต่อตลาดทุน ทำให้วอลุ่มปรับเพิ่มขึ้นเยอะ ก็ไม่ได้เป็นข้อผิดสังเกตุแต่อย่างใด นายพิชัย กล่าวว่า ประเทศไทยจะต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าจะปรับปรุงแก้ไขเศรษฐกิจไทย ถึงจะใช้เวลาถูกทิศทาง และมีความเป็นไปได้ รวมทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จะต้องดำเนินธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง รองรับการแข่งขันในตลาดโลก

2

ระทึก! สะพานพังถล่มในเวียดนาม รถตกลงไปในแม่น้ำหลายคัน น้ำไหลเชี่ยวยังไม่รู้ชะตากรรม (คลิป)

วันที่ 9 ก.ย. 2567 โลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อสะพานฟองเจือ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแดง ในจังหวะฟู้เถาะพังถล่มลงมา ขณะที่กำลังมีรถหลายคันแล่นอยู่บนสะพาน เป็นเหตุให้รถตกลงไปในแม่น้ำหลายคัน โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีคนอยู่บนรถกี่คน

โดยเหตุสะพานข้ามแม่น้ำพังถล่มดังกล่าว ทำให้เส้นทางที่เชื่อมต่อกันระหว่างเขตแหล่มเทา กับเขตแถ่มนอง ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำถูกตัดขาด ขณะที่ตัวสะพานเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว

ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า เหตุสะพานพังถล่มเกิดขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายในพื้นที่ ทำให้แม่น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ได้แน่ชัด โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า มีทั้งรถบรรทุก รถยนต์ และมอเตอร์ไซต์ที่ตกลงไปในแม่น้ำ และเร่งมือในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยต่อไป

ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้ประสบเหตุอย่างน้อย 3 คนถูกนำส่งศูนย์การแพทย์ แถ่มนอง โดยคาดว่าจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก โดยเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินยังคงนำรถพยาบาลเข้าออกจดเกิดเหตุเพื่อเร่งช่วยเหลือ ขณะที่ตำรวจได้ปิดเส้นทางมุ่งหน้าไปยังสะพานจากทั้งสองฝั่งแล้ว และกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้สะพานพังถล่ม โดยสะพานดังกล่าวใช้งานมานานแล้ว และมีสภาพทรุดโทรมตามการใช้งาน

ชมคลิป

ขอบคุณที่มา VNexpress , @

2

Popular Posts

My Favorites

ชีวิตผู้สาวไทบ้าน ‘ยุ้ย ชิตพร’ นักตบมือเร็ว เลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่บ้าน

0
ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆ คงได้เห็นกิจวัตรประจำวันของเหล่านักตบสาวหลายคนไม่ว่าจะเป็น นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, ทัดดาว นึกแจ้ง, มลิกา กันทอง และอีกหลายคนในช่วงกักตัวอยู่ในบ้าน แต่ที่ถือว่าสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็น “ยุ้ย” ชิตพร กำลังมาก นักตบลูกยางสาวทีมชาติไทย สังกัด ไทย-เดนมาร์ค ขอนแก่นสตาร์ ที่ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดชัยภูมิ โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำสวน, ทำไร่, ขุดหน่อไม้, เลี้ยงวัว...