กัน จอมพลัง รุดช่วยนักศึกษากับพ่อ ถูกกลุ่มรุ่นพี่รุมสกรัมในมหาวิทยาลัยขณะไปลาออกเจอรับน้องโหดแล้ว พาเข้าพบผู้การฯนนท์รับปากดูแลความปลอดภัย

วันที่ 16 ส.ค.2567 จากกรณีนายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 54 ปี และ น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 39 ปี พ่อและแม่ผู้ปกครองของนายต้น (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ กรณีรับน้องโหด และรุมทำร้ายทั้งครอบครัวขณะไปขอลาออกที่มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเรื่องนี้ เมื่อเวลา 19.30 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี กัน จอมพลัง พร้อมทีมงาน นำครอบครัวนักศึกษาปี 1 ที่ถูกกลุ่มรุ่นพี่รุมทำร้ายในมหาวิทยาลัย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษฺ์บัญฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และขอความคุ้มครองให้กับนักศึกษาที่ถูกทำร้ายและครอบครัวด้วย หลังถูกกลุ่มรุ่นพี่ส่งข้อความมาข่มขู่จะบุกทำร้ายถึงบ้าน ทำให้ครอบครัวเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ได้พาครอบครัวผู้เสียหายมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตัวน้องผู้เสียหายต้องหนีออกจากโรงพยาบาลมาก่อน เนื่องจากมีกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทักไปหาคนที่รู้จักของน้อง พร้อมกับถามหาว่าตัวน้องอยู่ที่ไหน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอะไร โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุจะตามไปที่โรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงได้รีบพาลูกชายมาหาตน เพื่อขอความช่วยเหลือ

” ทำให้ผมต้องประสานผู้การฯนนทบุรี และรีบเดินทางเข้ามาหารือเลยกัน เคสนี้ตนจะเร่งดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยได้รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของเด็กกลุ่มนี้ให้ตำรวจแล้ว ซึ่งมันเหมือนขบวนการอาชญากร มีศูนย์ฝึก เงินกองกลางสำหรับช่วยเหลือเวลามีเหตุต่างๆ ซึ่งได้มอบข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้การฯ กับ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ให้ช่วยเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เต็มที่

สำหรับทางด้านมหาวิทยาลัย ซึ่งดูจากกล้องวงจรที่เห็นได้ชัดเจน ว่าผู้ปกครองและนักเรียนในสถาบันและคนที่กระทืบเด็กกับพ่อใส่ชุดนักศึกษาของสถาบัน และถ้าปฏิเสธว่าไม่ใช่นักศึกษาของสถาบัน แต่ไปทำร้ายผู้ปกครองและเด็กของสถาบัน ผมอยากรู้ว่าความปลอดภัยในสถาบันอยู่ตรงไหน และปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ในสถาบันได้อย่างไร ต่อไปใครจะเชื่อมั่นในองค์กรนี้

อย่าให้เกิดเนื่องก่อนแล้วมาคอยระวังกัน มันต้องระวังก่อนที่จะเกิดเหตุ แล้วถ้าวันข้างหน้าเกิดเหตุไปทำร้ายครู หรือ ผอ.มหาวิทยาลัย จะทำอย่างไร ถ้าในมหาวิทยาลัยไม่มีความปลอดภัย เพราะฉะนั้นต้องมีมาตรการของทางมหาวิทยาลัยป้องกันไม่ให้มันเกิดเรื่องขึ้น และเกิดเรื่องแล้วก็ไม่ควรที่จะทำงึมงำกับเรื่องแบบนึ้ ”

ด้าน พล.ต.ต.ปรารถนา ระบุ หลังจากได้มีการหารือพูดคุยกันแล้ว ตำรวจมีแนวทางในการดำเนินการต่อ ซึ่งจะมีการสืบสวนขยายผลทางกลุ่มผู้ก่อเหตุต่อ โดยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย โดยตำรวจจะตามติดเพื่อตามหาตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ได้ทุกคน นอกจากนี้สถาบันก็ต้องมีการประสานงานกัน และก็ต้องมีมาตรการในการดำเนินการด้วย เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย

” คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะมีผลการดำเนินการที่คลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากได้ข้อมูลจาก กัน จอมพลัง และข้อมูลจากผู้เสียหายแล้ว กลุ่มคนผู้ก่อเหตุเหล่านี้ต้องไม่มีอีก ตำรวจจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ส่วนด้านความปลอดภัยของผู้เสียหายได้ให้ตำรวจเป็นคนดูแลแล้ว โดยขณะนี้รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นตำรวจได้เร่งสอบสวนเด็กและผู้ปกครอง เพื่อระบุตัวตนกลุ่มผู้ก่อเหตุและเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ”

หนุ่มใหญ่เข้าป่าเก็บหน่อไม้ ไม่รู้เขตช้างป่าหากินเจอเหยียบดับ ตำรวจ หมอ กู้ภัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เดินเท้าเข้าที่เกิดเหตุโดนช้างอีกตัวดักทำร้ายบาดเจ็บไปอีกราย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 ส.ค.2567 นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ประจำหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ละมุ่น เกิดเหตุชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตขณะเข้าไปหาหน่อไม้ในป่าท้องที่ หมู่ 4 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

จากนั้นจึงประสาน ร.ต.อ.ธรรม เข็มทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ด่านแม่แฉลบ แพทย์รพ.สุขศิริศรีสวัสดิ์ และกู้ภัยมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ไปตรวจที่เกิดเหตุเพื่อนำร่างออกมา ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีช้างป่าอีกตัวเข้าทำร้าย นายชิงชัย แสนคำ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ละมุ่น บาดเจ็บไปอีก 1 นายต้องรีบพาตัวส่งรพ.สุขศิริศรีสวัสดิ์

ส่วนอีกชุดเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุด้วยความระมัดระวัง จนกระทั่งพบศพ นายพัฒยา อายุ 57 ปี สภาพถูกช้างกระทืบร่างกายและใบหน้า จากนั้นรีบหามศพออกมาจากป่า ด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวถูกช้างป่าทำร้าย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายพัฒยา ออกจากบ้านไปตกปลาชายป่าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เมื่อตกปลาแล้วเสร็จเดินเข้าป่าไปเก็บหาหน่อไม้เอาไปทำอาหาร โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีช้างป่าอยู่บริเวณนั้น ทำให้ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต

สำหรับพื้นที่บริเวณนั้นมีช้างป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก อีกทั้งเป็นด่านช้างที่ช้างใช้เป็นเส้นทางเดินออกจากป่าลงไปกินน้ำที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

เผยนาทีเกิดเหตุ ยิงดับ 2 ศพในวัด ครูหนุ่มอุ้มลูกมาง้อครูอดีตเมีย ก่อนฆ่าพร้อมพ่อตา ติดต่อมอบตัวแล้ว

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 16 ส.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โรงช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนกัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายในลานวัดเจ้าปลุก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู อ่านข่าว ด่วน! ยิงดับ 2 ศพคารถเก๋ง สุดสลดกลางวัดกรุงเก่า

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กฉ-8116 อ่างทอง จอดอยู่ ที่กระจกหน้ารถมีรอยกระสุนปืน 8 นัด ที่กระจกด้านคนขับถูกกระสุนปืนยิงจนกระจกแตก ส่วนกระจกประตูหลังรถมีรอยกระสุนปืน 1 นัด ที่พื้นพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่จำนวนหลายปลอก

จากการตรวจสอบภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับพบศพ นางดารณี (ขอสงวนนามสกุล) หรือนิว อายุ 29 ปี เป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่วนที่เบาะข้างคนขับพบศพ นายนิพนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เป็นพ่อของ นางดารณี นอนเสียชีวิตอยู่

จากการสอบสวน นายนันธวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า นางดารณี ได้มาเต้นแอโรบิคอยู่ที่บริเวณวัด หลังจากเลิกแล้วกำลังจะกลับบ้าน ก็เห็น นายดารณี กำลังมีปัญหากับผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นอดีตสามี ที่เอารถเก๋งมาจอดขวางหน้ารถ โดยได้นำลูกชายวัย 2 ขวบ กับ 4 ขวบ ลงมาพุดคุยด้วย

จากนั้น นางดารณี ได้ขึ้นไปนั่งบนรถ จังหวะนั้น อดีตสามีของผู้เสียชีวิตได้ใช้อาวุธปืนยิงพ่อของ นางดารณี ก่อน แล้วเดินอ้อมไปที่ด้านข้างคนขับ หลังจากนั้นก็ นางดารณี จนเสียชีวิต ก่อนอุ้มลูก 2 คน ขับรถหลบหนีไป

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตเป็นครูอัตราจ้าง ทุกวันจะมาสอนเต้นแอโรบิคที่เกิดเหตุ หลังสอนเต้นแอโรบิคเสร็จ นายโชคชัย (ขอสงวนนามสกุล) ครูชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นอดีตสามี ได้หย่าร้างเลิกรากันไปได้ระยะหนึ่ง ได้ขับมาจอดและอุ้มลูกชาย ซึ่งไปรับมาจากบ้านของอดีตภรรยาเพื่อมาง้อ จนเกิดมีปากเสียงกันแล้วใช้อาวุธปืนยิงอดีตภรรยาและอดีตพ่อตาเสียชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีไป ล่าสุดมีรายงานว่า นายโชคชัย ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้ว

ภายหลังการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ส.ค. 2567 เลขที่ออกรางวัลที่ 1 หมายเลข 095867 ทำให้บรรดาคอหวยบ้านหนองทอง หมู่ 11 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย เฮลั่นเนื่องจากถูกหวยกันยกหมู่บ้าน

สำหรับเลขที่ชาวบ้านนำมาเสี่ยงโชคคือเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ทางพระครูปลัดธนะโรจน์ ปัญญาวชิโร (พระอาจารย์หมู) เจ้าอาวาสวัดหนองทอง นั่งออกมารับบิณฑบาตในหมู่บ้านทุกเช้า

ชาวบ้านหนองทองรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โชคดีได้รับโชค เผยว่า เมื่ออาทิตย์ก่อนพระอาจารย์หมู ได้นั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากวัดเพื่อมารับบิณฑบาตญาติโยมเหมือนทุกวัน แต่เมื่อรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากวัดมาได้ไม่กี่เมตรยางก็แตก ชาวบ้านรอใส่บาตรจนต้องไปดูที่วัด และพบว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างยางแตก ชาวบ้านจึงนำทะเบียนรถ คกน 786 นครสวรรค์ ไปเสี่ยงโชค ปรากฏว่าถูกหวยกันทั้งหมู่บ้าน

ล้มเหลวอีกครั้ง! เปิดประมูลขายบ้านแห่งประวัติศาสตร์ “ออง ซาน ซู จี” ครั้งที่ 2 ตั้งราคา 3 แสนล้านจ๊าต เงียบกริ๊บ ไร้เงาคนซื้อเช่นเดิม

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 นับเป็นความพยายามที่ล้มเหลวอีกครั้งของรัฐบาลทหารของเมียนมา ในการพยายามเปิดประมูลขายบ้านของ ออง ซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐ ผู้นำรัฐบาลพลเรือน ที่เคยพักอาศัยในช่วงถูกกักบริเวณเป็นเวลานาน 15 ปี ในนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ก็เคยเปิดประมูลไว้ที่ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,200 ล้านบาท แต่ก็ไร้ผู้ประมูล

อ่านข่าวเพิ่มเติม : ศาลเมียนมาสั่งประมูล “คฤหาสน์ออง ซาน ซู จี” ฮือฮาราคาเริ่มต้น 3,200 ล้านบาท

ภาพประกอบ

ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา (15 ส.ค. 67) คฤหาสน์แห่งประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 54 บนถนนมหาวิทยาลัย ริมทะเลสาบอินยา ในนครย่างกุ้ง ถูกนำมาประมูลเป็นครั้งที่สอง เริ่มต้นเปิดประมูลขายในราคาเริ่มต้นที่ 300,000 ล้านจ๊าด ประมาณ 92 ล้านเหรียญสหรัฐ (เป็นเงินไทยราว 3,200 ล้านบาท) แต่ไม่มีผู้เสนอราคาประมูลแม้แต่รายเดียว

การประมูลดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ นางซู จี กับ นายออง ซาน อู พี่ชาย มีปัญหาขัดแย้งกัน นำไปสู่การฟ้องร้อง โดย นายออง ซาน อู พี่ชาย ฟ้องร้องนางซู จี ครั้งแรกเมื่อปี 2543 ให้แบ่งมรดกซึ่งจดทะเบียนในชื่อของ นางขิ่น จี ผู้เป็นมารดา จนสองพี่น้องต้องต่อสู้ทางกฎหมายมานานหลายสิบปีแล้วต่อมาศาลตัดสินให้ทั้งคู่แบ่งทรัพย์สินกันจากการขายคฤหาสน์

ภาพประกอบ

หลังจากการประมูลครั้งแรกล้มเหลว ก็มีการยื่นคำร้องขอให้ศาลลดราคาขั้นต่ำลง

ภายใต้การปกครองของ พลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ประชาชนหลายพันคนมารวมตัวกันที่ประตูบ้านบ่อยครั้งเพื่อฟัง อองซาน ซูจี พูดถึงประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการพูด หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากการกักบริเวณในบ้าน เธอได้ต้อนรับผู้นำและบุคคลสำคัญระดับโลกสู่บ้านที่เธอเคยถูกคุมขัง รวมถึงอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ในปี 2011 และ 2012 ตามลำดับ

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ได้ประกาศให้บ้านหลังนี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติในเดือนกันยายน 2022 และได้มีประกาศเตือนว่า ใครก็ตามที่ต้องการซื้อ ขาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง หรือใช้ทรัพย์สินนี้ด้วยวิธีอื่นใด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพประกอบ

ที่มา : irrawaddy

เลขท้ายกลายเป็นรางวัลที่ 1 หญิงปากช่องดวงเฮง ถูกหวย รวยไม่รู้ตัว 6 ล้าน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 16 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอนิสรา หรือนิด พรรณาวงศ์ อายุ 55 ปี อาชีพรับจ้าง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สหรัถ สุพรรณเภสัช รอง สว.(สอบสวน) สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา เพื่อลงบันทึกประจำวัน

หลังถูกรางวัลที่ 1 โดยได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 095867 งวดประจำวันที่ 16 ส.ค.67 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท มาเป็นหลักฐานด้วย

นางอนิสรา เปิดเผยว่า ตนหาซื้อเลขท้าย 67 มา 3 ใบ และมี 1 ใบถูกรางวัลที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างเข้ามาแสดงความดีใจเป็นจำนวนมาก

จากกรณีที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังจากที่ได้มีผู้ใช้บัญชี tiktok ลุงกำนันใจดี ได้มีการโพสต์คลิปมีการเผยแพร่เอกสารสำคัญ ที่มีการระบุวันที่ประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมามีเลขที่ตรงกับที่ออก ทำให้ชาวโซเชียลต่างฮือฮา ซึ่งผู้โพสต์เผยว่าเป็นเพียงการให้แนวทางในการซื้อรางวัลเท่านั้น

ต่อมาทางผู้โพสต์ก็ได้มีการเผยเลยงวดประจำวันที่ 16 ส.ค.67 ออกมาแล้ว โดยมีเลข 917 82 พร้อมระบุว่า รอบนี้โอมากาเซะต้องได้กินทุกคน เลขดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น

ล่าสุดภายหลังจากการประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ปรากฎว่าเลขท้ายสองตัวหมายเลข 28 ซึ่งตรงกับเลขในเอกสาร บอกเลยว่างวดนี้ใครตามเฮลั่นกันแน่นอน อย่างไรก็ตามโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

เรียบเรียงโดย mumkhao

อดีตข้าราชการ ถูก มิจฉาชีพ ตุ๋นเกลี้ยงบัญชี ความแตกตอนขอเงินลูก จะเอา 9.4 ล้านคืน รู้ตัวตอนสายไปแล้ว หวังเงินสะสมใช้ตอนแก่ สุดท้ายไม่เหลือสักบาท

วันที่ 16 ส.ค.67 นายศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ พร้อมด้วยลูกชาย เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี หลังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้นทอง จนสูญเงินเก็บในบัญชีไป 2.4 ล้านบาท โดย นายศักดิ์ ตกเป็นเหยื่อเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา และถูกหลอกซ้ำอีกครั้งในวันนี้

นายศักดิ์ เปิดเผยว่า เดิมทีตนมีความคิดที่จะนำเงินเก็บในบัญชีไปซื้อทองที่ร้านทองย่านเยาวราช เพื่อนำมาเก็บสะสมเก็งกำไรไว้ แต่ตอนเล่นเฟซบุ๊กก็มีโฆษณาเกี่ยวกับการเทรดทองของร้านทองเด้งขึ้นมาว่า ร้านทองชื่อดังย่านเยาวราชเปิดให้ลงทุนซื้อหุ้นเทรดทองคำในราคา 1,000 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้กำไร 300 บาท รวมเงินทุนที่ได้รับคือเป็น 1,300 บาท ถ้าลงทุน 10,000 บาท ก็จะได้เงินทุนและกำไรกลับมาเป็น 13,000 บาท ภายในวันเดียวกัน ด้วยความสนใจตนจึงได้กดโฆษณาดังกล่าวเข้าไป จากนั้นก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนทางข้อความกลับมา

นายศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า ตนถูกชักชวนให้ลงทุนเทรดทองครั้งแรกก่อน เป็นเงินค่าสมัคร 100 บาท หลังสมัครเสร็จแล้วตนก็ได้เงินกลับคืนมา 330 บาท แต่ถูกหักไป 30% จึงได้มา 200 กว่าบาท จากนั้นตนก็ถูกชักชวนให้ลงทุนไปถึงขั้นที่ 3 เป็นเงิน 9,000 บาท เพื่อทำยอดลงทุนในขั้นต่อไป ตนจึงหลงเชื่อเพราะเห็นว่า 2 ครั้งแรกเงินที่ลงทุนไปได้กลับคืนมาพร้อมกับกำไรตามที่บอกคือ ลงทุนไป 10,000 บาท ก็ได้รับเงินคืนมา 13,000 กว่าบาท ถูกหักค่าดำเนินการไป 1,000 บาท ก็ยังเหลือกำไรอีก 2,000 บาท

จากนั้นในวันรุ่งขึ้น ตนเห็นว่าเพจลงทุนเพจนี้เป็นของจริงจ่ายจริง ตนก็อยากจะลงทุนเพิ่มเป็น 1 ล้านบาท แต่มาคิดดูอีกที 1 ล้านบาทยังน้อยเกินไป ตนจึงตัดสินใจลงทุนไป 1.6 ล้านบาท เพราะคิดว่าจะได้เงินพร้อมกำไรกลับคืนมา 2 ล้านกว่าบาท แต่ปรากฏว่าหลังลงทุนไปแล้ว 1.6 ล้านบาท กลับถูกทางเพจอ้างว่ายอดที่ตนจะได้เป็นยอดสะสม ต้องลงทุนเพิ่มเติมจึงจะได้รับยอดที่ลงทุน

โดยมิจฉาชีพอ้างว่า ตลาดหลักทรัพย์เขามีกติกาถ้าไม่ถึง 100,000 บาทเขาจะจ่ายเลย แล้วหักค่าธรรมเนียมทีหลัง ถ้าเกิน 100,000 บาท ต้องให้คนเทรดจ่ายค่าธรรมเนียมมาก่อนถึงจะได้รับเงินทั้งหมด ทำให้ตนหลงเชื่อไปถอนเงินจากบัญชีมาอีก 7 แสนบาท และนำเงินสดที่บ้านอีก 1 แสนบาท รวมเป็น 8 แสนบาท ไปโอนให้มิจฉาชีพในวันนี้ รวมยอดโอนทั้งหมดเป็นเงิน 2.4 ล้านบาท

หลังโอนเงินยอดล่าสุดให้ไปแล้ว มิจฉาชีพก็อ้างว่า ต้องให้ตนโอนเงินไปเพิ่มอีก 1.7 ล้านบาท เพื่อเอายอดเงินที่สะสมไว้เป็นเงิน 9.4 ล้านบาท ด้วยความที่ตนยังหลงเชื่ออยู่แต่ไม่มีเงินแล้ว จึงตัดสินใจไปขอยืมเงินลูกชาย 1.7 ล้านบาท จนกระทั่งลูกชายบอกกับตนว่า ตนถูกมิจฉาชีพหลอกแล้ว

หลังจากนั้นมาตนก็ไม่สามารถติดต่อกับทางเพจในกล่องข้อความได้อีก จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก โดยเงินที่ตนนำไปลงทุนทั้งหมดเป็นเงินบำนาญที่เก็บสะสมมาจากสหกรณ์สมัยที่ตนทำงานเพื่อเก็บไว้ใช้ในตอนเกษียณ ไม่คิดว่าจะมาถูกหลอกจนหมดตัวในตอนแก่ เพราะตนเห็นว่าเป็นเพจร้านทองชื่อดังในเยาวราช และมีดารานักแสดงมาโฆษณาอยู่ ด้วยความที่อยากจะลงทุนตนจึงตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในที่สุดจากโฆษณาที่เด้งขึ้นมาเอง

โลดแล่นในวงการบันเทิงมานานสำหรับ ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง เราจะเห็นผลงานเพลงของเขามากมาย และล่าสุดก็ทำหลายคนใจหายอย่างมาก เมื่อเจ้าตัวโพสต์แจ้ง ยุติบทบาทการเป็นศิลปินในสังกัด GMM Grammy โดยล่าสุดได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า เป็นโพสต์ที่ไม่ได้ง่ายสำหรับผม 20กว่าปี ในGmm มันมหัศจรรย์เกินกว่าผมจะหาได้จากที่ใดในโลกใบนี้

การที่บริษัทเพลงระดับนี้จะมาลงทุนในนักร้องที่ต้นทุนติดลบเช่นผม มันมีความหมายในชีวิตผมมาก ผมถวายชีวิตทำทุกอย่างให้การลงทุนครั้งนั้นไม่สูญเปล่า และผมเชื่อว่า ผมไม่ได้ติดค้างสิ่งนั้นกับใครเลย ผมสับตีนแตกให้กับทุกเป้าหมายของค่ายและพี่ๆร่วมทางทั้งหลาย ถ้าเป็นมาราธอนผมคิดว่าผมคงลงลุยมาแล้วทุกระยะ

แต่ตอนนี้ผมติดค้างกับตัวผมเอง ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่ผมจะหยุดชนเป้าหมายของมัน เพราะวันหนึ่งที่รู้สึกตัวระหว่างที่สับตีนแตกอยู่นั้น เสียงนกเสียงไม้นะหว่างทาง มันเริ่มเบาบางลงไป จนพอผมเบาฝีเท้าลง มันกลับเงียบงันและไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้วเลย ผมเข้าไปคุยกับ Gmm ว่าผมจะขอหยุดวิ่งมาราธอนกับเค้าละนะ ผมจะไปวิ่งเหยาะๆ หาเสียงนกเสียงไม้ของผมละล่ะ

บางทีมันอาจจะเป็น trophy เดียว ที่ผมไม่เคยหยิบมันมาได้ตลอดชีวิตเลยก็เป็นได้ ขอบคุณสำหรับ20ปี ของ calories blahblah และ 12ปี ของ ป๊อบ ปองกูลนะครับ รักนะ แกรมมี่ #เช้าๆพิมพ์ยาวอาจจะไม่รู้เรื่องเดี๋ยวค่อยมาแก้555 #ไม่มีการย้ายค่ายไปที่ไหนนะครับ

เรียบเรียง news in thailand

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2567 หลายคนอาจจะมีเลขในใจกันอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่มี วันนี้ทีมงานสยามนิวส์ ก็ได้นำสถิติ เลขท้าย 3 ตัวบน ที่ออกบ่อย ในวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน ลองไปดูกันว่า สถิติหวย 3 ตัวบน จะมีเลขอะไรกันบ้าง

เลขดังกล่าว

โดยเลขดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางในการซื้อลอตเตอรี่เท่านั้นนะคะ โปรดใช้วิจารณญาณในการซื้อค่ะ

เรียบเรียง สยามนิวส์