ต้องบอกเลยว่าในตอนนี้แฟนๆหลายคนตกหลุมรัก สำหรับ “น้องคากิ” ลูกชายสุดที่รักของนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี “แจ็ค แฟนฉัน” และคุณแม่ดีกรีนางเอก “ใบหม่อน กิตติยา”

โดยล่าสุดทางทีมงานได้รับรายงานว่าคุณแม่ได้ออกมาเผยโมเมนต์ความน่ารักของลูกชาย “น้องคากิ” ขณะที่กำลังอาบน้ำอย่างมีความสุข พร้อมกับแคปชั่นว่า “อาบน้ำไม่ร้องเลย ชอบลงอ่างเหมือนพ่อเหรอลูกกก ดูทำหน้าทำตาสิ”

หลังจากโพสต์นี้ถูกแชร์ออกไป บรรดาแฟนคลับก็ไม่พลาดที่จะตีเลขเด็ดกัน เช่น 50 ใช่ไหมลู๊กก, คิดเหมือนกันเลยย, 50-05 บนล่างกลับด้วย.

ยิ่งโตยิ่งหล่อ แถมยิ่งทำให้คนที่เป็นแม่ภูมิใจสุด ๆ สำหรับ น้องฑีฆายุ ลูกชายสุดที่รักของ แอนนี่ บรู๊ค เพราะหลังจากลงประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ และได้ 100 คะแนนเต็ม ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จนคุณป้าที่อยู่สหรัฐอเมริกา เห็นแววความสามารถและความเก่งของ น้องฑีฆายุ

จึงอยากช่วยสนับสนุนส่งหลานเรียนต่อที่อเมริกา แต่ น้องฑีฆายุ กลับปฏิเสธ พร้อมบอกว่า “ผมอยากอยู่กับแม่ แม่ครับ 10 คนรวยเลี้ยง ไม่เท่า 1 แม่ที่เข้าใจผม แล้วแม่ตัวคนเดียวจะอยู่ยังไง? แม่เป็นอะไรมา ผมมาหาแม่ไม่ทันใครจะดูแล” ทำเอาคนเป็นแม่ที่ได้ยินคำตอบถึงกลับปลื้มใจ น้ำตาไหลกันเลยทีเดียว

ล่าสุด แอนนี่ บรู๊ค จึงได้ร่ายยาวความในใจถึง น้องฑีฆายุ ที่เจ้าตัวขอให้ลูกชายเป็นคนลำดับความสำคัญของชีวิตเอง โดยขอเป็นคนอยู่ข้างๆ คอยเตรียมความพร้อม และช่วยก่อร่างสร้างตัวให้ลูกสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะทำได้

– เพื่อให้ได้พอร์ทในการยื่นขอทุนการศึกษาปีหน้า ม.ปลาย หรือให้ได้เข้า ม.ปลาย โดยที่แม่ไม่ต้องจ่ายมาก (ซึ่งก็คือปีหน้าไม่ไกลนี้แล้ว)

– สิ่งที่ ฑีฆา ทำคือไล่สอบ วิชาการทุก ๆ ที่, กลับบ้านถ่านหมด ทำให้พลาดการพูดคุยงานกับผู้ใหญ่หลายครั้ง ถึงจะเสียดายโอกาสที่เข้ามา แต่แม่เข้าใจเรื่องของจังหวะชีวิตคนเป็นอย่างดี

– แม่รู้ว่าหนูกำลังเรียงลำดับความสำคัญของชีวิตอยู่

– แม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในวันที่ทุกอย่างพร้อม ขอให้ผู้ใหญ่ยังคงเมตตาลูกเช่นวันนี้ จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่ถูกที่ถูกเวลามาถึง

– และในระหว่างนี้ แม่จะช่วยเตรียมความพร้อม ก่อร่างสร้างตัวตนของหนูให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่แม่จะทำได้

– ในเวอร์ชั่นของ ฑีฆายุ ให้พร้อมที่สุด จนไม่สามารถมีอะไรมาขวางทางความสำเร็จใด ๆ ได้เลย

ทั้งนี้ยังได้คอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ไม่คิดว่าสมัยนี้การแข่งขันจะสูงขนาดนี้และการทดสอบจะมีแยกหลายประเภทมากมายเหลือเกิน สมัยก่อนคือเพียงแค่เรียนดีแต่ยากจน ตอนนี้ไม่ใช่ ตอนนี้รวยก็อยากเรียนฟรีก็มี (แต่ก็มีพ่อแม่บางท่านที่ร่ำรวย แต่อยากได้ทุนการศึกษา เพราะว่ามันต่อยอดในเรื่องของโปรไฟล์)

แยกเป็นหลายประเภทมากมันคละเคล้ากันไปหมดและแยกเป็นการทดสอบแต่ละอย่างในการเข้า ม.ปลาย และ มหาวิทยาลัย ยากเหลือเกิน เหนื่อยเหลือเกิน สงสารเด็ก ๆ มาก ๆ จริง ๆ ในยุคสมัยนี้” ท่ามกลางแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมในความเก่งของ น้องฑีฆายุ กันจำนวนมาก

จากกรณีที่นักแสดงรุ่นใหญ่ ตั๊ก มยุรา เคยถูกพิธีกรดังยืมเงินแสน แต่ได้คืนครบแล้ว พร้อมบอกคำใบ้เพิ่มว่า ลูกหนี้รายนี้ เที่ยวยืมเงินคนบันเทิงไปทั่วเกือบทั้งวงการ รวมเงินเกือบ 20 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดวันนี้(14 ส.ค. 2567) “หน่อย บุษกร” ให้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับไนน์เอ็นเตอร์เทน ยอมรับว่าตนก็เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ที่ถูกพิธีกรดังยืมเงิน เผยเครียดจนป่วยเข้าโรงพยาบาลหลังถูกเลื่อนชำระเป็นปี ตนให้ยืมไปหลายแสนบาทพอมารู้ว่าเพื่อน ๆ รอบตัวก็ถูกยืมแล้วไม่คืนก็ยิ่งเครียดคิดว่าถูกหลอกแน่ ๆ บอกตนไม่ได้สนิทส่วนตัวแต่ตอนนั้นเขาโทรมาขอความช่วยเหลือตนก็ช่วยด้วยความสงสาร แต่พอตอนทวงเงินคืนทำไมต้องกลายเป็นเจ้าหนี้เครียดแทน ตรรกะง่ายมากตอนเอาเงินไปได้ไปง่าย ๆ ตอนคืนก็ควรง่ายด้วย เพราะในวันที่ตนเดือดร้อนก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน ยิ่งช่วงหลังที่ไม่ได้มีงานก็ควรเข้าใจด้วย ตอนนี้ตามทวงจนได้คืนครบทั้งหมดแล้ว ประกาศไม่สะดวกช่วยใครและไม่มีทางให้ใครยืมเงินแล้วบอกประสบการณ์ครั้งนี้ทำเข็ดมาก

“หน่อย บุษกร” ยอมรับผูกพันและใจหาย แต่ทำใจรับความเปลี่ยนแปลงวงการละครโทรทัศน์ ทำถูกเบรกผลิตละครใหม่ สำหรับตนเข้าใจทั้งมุมของทั้งผู้จัดและผู้บริหารช่องเพราะไม่มีเงินทุนเข้ามา ก็ไม่มีใครอยากลงทุน ยุคสมัยเปลี่ยนทุกอย่างดูผ่านมือถือหมดแล้ว ต้องรอดูปีหน้าว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแค่ไหนถึงจะรู้ว่าจะมีละครทำต่อหรือไม่ ตนมีกังวลเพราะอยู่กับละครมาทั้งชีวิต มีคิดตกผลึกกับตัวเองในช่วงว่างงานว่าจะไปทางไหนต่อ คิดในใจว่าอยากลองแพลตฟอร์มออนไลน์แต่ก็ยังไม่กล้าลงมือทำเพราะไม่รู้ว่าตนจะทำได้ดีเหมือนที่เขาทำกันอยู่แล้วหรือเปล่า รับเป็นช่วงวิกฤตวงการละครไทยแต่ยังไม่ถอดใจต้องรอดูกันไปก่อน บอกหากไม่มีงานละครแล้วจริง ๆ ก็แค่ไปใช้ชีวิต กิน เที่ยว อยู่กับครอบครัวเป็นแม่บ้านเต็มตัว มีน้อยก็ใช้น้อย เพราะคุณสามี “เคน ธีรเดช” ก็มีความเห็นตรงกัน

ส่วนงานแสดงก็ยังพอมีผู้จัดชวนให้เล่นอยู่บ้าง แต่ข้อจำกัดของตนตอนนี้คือติดไปพักผ่อนกับครอบครัว บางทีอาจไปเที่ยวเป็นเดือนก็อยู่ที่ผู้จัดจะรับได้ไหม แอบเสียดายบทดีแต่เวลาให้กับลูก ๆ ก็สำคัญ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ดูเหมือนว่าชีวิตตอนนี้ของคู่รัก โทนี่ รากแก่น กับ แก้ว จริญญา จะลงตัวแฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่มากๆ ทั้งคู่เลือกใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่บ้านเป็นหลักไม่ค่อยรับงานบันเทิงออกงาน ออกอีเว้นต์ ส่วนใหญ่จะหากิจกรรมทำ โดยเฉพาะการทำอาหาร การทำด้านเกษตรกร

แน่นอนว่าแฟนคลับที่ติดตามทั้งคู่ก็มีทั้งคนที่ชื่นชมชื่นชอบ ขนาดเดียวกันก็เป็นห่วงด้านการเงินเห็นทั้งคู่ไม่ค่อยออกสื่อ

ซึ่งทั้งนี้สาวแก้วได้เข้าไปคอมเมนต์ชี้แจงแล้วว่า ‘เราก็มีเงินเก็บค่า ไม่ต้องห่วงนะคะ รับงานน้อยไม่ใช่ว่าไม่มีเงินนะคะ ‘

ขณะที่หนุ่มโทนี่บอกเช่นเดียกวันว่า ‘ก็ยังไม่อิ่มตัวนะคับ แต่อิ่มอกอิ่มใจ ‘

หลังจากที่มีข่าวลือออกมาหนาหูมาว่า ดีเจ พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร เตรียมที่จะฟ้องอดีตภรรยา โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ

โดยสืบเนื่องมาจากที่ แฟนสาวคนปัจจุบันของพีเค อย่าง มิเรียน สุเดชา ออกมาเปิดศึกรัวสตอรี่แฉพฤติกรรมของ โยเกิร์ต โดยกล่าวหาว่าโยเกิร์ตได้ยักยอกเงินของพีเคไปเป็นจำนวนมากถึง 10 ล้านบาท ในขณะที่พีเคเหลือเงินติดตัวเพียง 5,000 บาท

ล่าสุดวันที่ 14 ส.ค.67 โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว รู้ว่าทุกคนอยากจะรู้ และอยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน และเรื่องส่วนตัวจริงๆ เรื่องที่ตอบได้แน่นอนก็คือ ที่บอกได้ตอนนี้ ก็คือตลอดเวลา 10 กว่าปีที่คบกันมาโยเพิ่งจะเข้ามาจัดการเรื่องบัญชีพี่พีเค2ปี แต่ก่อนหน้านั้นไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรเลย เพิ่งจะมาจัดการธุระ บริหารให้แค่2ปีให้หลัง

และรู้สึกว่า เราคบกันมา 10 กว่าปี น่าจะรู้จักนิสัยกันดี รู้จักตัวตนกันดีพอประมาณนึง และส่วนตัวโย โยก็รู้จักตัวเองดีแน่นอน รู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน ทำอะไรและไม่ทำแน่นอน อันนี้คือสิ่งที่โยบอกได้

เรื่องที่เข้าไปดูแลบัญชี ถามว่าอาสาเข้าไปดูเองหรือเปล่านั้น คือเรื่องชีวิตคู่ เป็นการที่ตัดสินใจเข้าไปร่วมกันทุกสเต็ป ไม่ได้มีการตัดสินใจยึดพื้นฐานคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว เป็นการตัดสินใจร่วมกัน

โยเชื่อว่าถ้าพี่พีเคมีข้อสงสัยอะไร ก็สามารถที่จะถามกันได้ โยยินดีและพร้อมมากๆที่จะไขข้อสงสัยของพี่พีเคนั้นๆ

อย่างผู้หญิงอีกคนที่บอกว่า เงิน 10 ล้าน ที่หายไปถูกโอนเข้าบัญชีเรา?

คือ ณ ตอนนี้ โยไม่ขอพูดที่บุคคลที่สามพาดพิงแล้วกัน เพราะว่ามันอาจจะไม่เหมาะสมไม่สะดวกที่จะพูดในตรงนี้ พื้นที่สาธารณะ แต่โยพยายามย้ำว่า ณ ตอนโน้นมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว เป็นเรื่องของคนสองคนที่ใช้ชีวิตร่วมกันคิดกระทำร่วมกัน เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่า ถ้าพี่พีเคสงสัยอะไรยินดีมากๆที่จะไขข้อสงสัย นั้นๆให้พี่พีเค

อย่างที่บอกว่าใช้ชีวิตร่วมกันอยู่บ้านเดียวกันเป็นการคิดและตัดสินร่วมกัน ในฐานะของตอนนั้นเรียกว่าผัวเมีย (เรียกว่าเป็นผัวเมียที่ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน?) เรียกว่าโยบริหารจัดการให้เขาแล้วกัน แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างที่บอกว่า เขารับทราบเป็นเรื่องเป็นการจัดการ การคิดในการทำร่วมกัน

ตกใจไหมที่เราโดนพาดพิง แถมเป็นคำแรงใช้คำว่า ยักยอก?

เอาจริงๆอ่ะตกใจ แต่ว่า ณ ตอนนี้ขอไม่แสดงความคิดเห็นใดใดที่บุคคลที่สามพาดพิงแล้วกัน อยากให้เป็นเรื่องของโยกับพี่พีเคตรงนี้มากกว่า

ตอนนั้นมันมีปัญหาเรื่องเงินที่เขาขาดสภาพคล่องไหม เพราะว่าเขาบอกว่าเขาไม่มีเงินเลย?

อย่างที่บอกว่าคบกันมาก่อนก่อนหน้านี้ 10 กว่าปี ไม่เคยยุ่ง ไม่เคยยุ่งเลย เรื่องเงินเพิ่งจะมามีโอกาสจัดการสองปีล่าสุดค่ะ

เครียดไหม?

เอาจริงๆก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครียด แต่บอกเมื่อกี้ว่าโยรู้จักตัวเองดีว่าเราทำอะไร หรือไม่ทำอะไร (เราจะปกป้องตัวเองอย่างไรบ้าง?) โอเคค่ะ ถ้ามันถึงที่สุดแล้ว แน่นอนว่าเราจะต้องปกป้องตัวเอ งเราก็ต้องปกป้อง

แต่อย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องของคนที่เคยเป็นผัวเมีย เรื่องส่วนตัว โยเคารพสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัว เพราะฉะนั้นถ้าพี่พีเคมีข้อสงสัยอะไรโยยินดีพร้อมมากๆ

เขาบอกว่าเคยติดต่อให้เราเข้าไปคุยแต่เราไม่ไป อันนี้จริงไหม?

โยขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดตรงนี้

แล้วข้อตกลงในการหย่า?

ขอตอบแบบนี้ว่า ข้อตกลงมีอยู่จริง มันเป็นข้อตกลงที่เราสองคนเห็นชอบร่วมกัน แล้ววันนั้นที่ไปหย่าไปเซ็นเอกสารก็ตามคำพูดที่พี่ทีเคให้ไว้ในรายการแบบนั้นเลย เขาก็เต็มใจยินดีแล้วก็อย่างแน่นอนว่าเป็นการตกลงที่เราทั้งสองคนเห็นร่วมกัน ( แล้วเขาได้ให้ตามสัญญาไหม? ) ก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดได้ไหมคะ

ที่สามารถให้ข้อมูลได้ก็คือ เคยออกไปอยู่บ้านเพื่อนพี่พีเคจริงแต่ว่าคนนั้นจะเป็นใครขออนุญาตไม่พูด เพราะว่าโยไม่รู้ว่าเขายินดีที่จะพูดถึงไหม ถ้าเขาพร้อมหรือว่ายินดีให้พูดถึงโยว่าเขาก็น่าจะพูดเองที่สาสามารถพูดได้คือเคยออกไปอยู่บ้านเพื่อนพี่เคจริง แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว

เป็นอีกคู่รักที่ครองรักกันมายาวนานถึง 11 ปีแล้ว สำหรับคู่ของนางเอกสาวคนดัง นุ่น วรนุช และสามี ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งที่ผ่านมาแม้ นุ่น วรนุช และ ต๊อด ได้แต่งงานครองคู่กันมานานหลายปี แต่ นุ่น วรนุช และ ต๊อด ก็ไม่ค่อยจะมีภาพโมเมนต์ความหวานออกมาให้เห็นกันบ่อยนัก

ซึ่งแฟนคลับที่ติดตามทั้งคู่ตลอด จะเห็นว่า ในอินสตาแกรมของทั้งคู่ มักจะลงภาพไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของใครของมันและการทำงานมากกว่า

แต่ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2564) นุ่น วรนุช ก็ได้ออกมาเผยโมเมนต์ความหวานกับเค้าบ้าง

โดยโพสต์ภาพคู่สุดสวีตกับสามี ต๊อด ปิติ อวดโมเมนต์นอนจับมือ มองตากันหวานฉ่ำ พร้อมแคปชั่น “WP 4,015 วัน” ซึ่งก็คือชื่อย่อและการฉลองครบรอบแต่งงานครบ 11 ปี ของทั้งคู่นั่นเอง เป็นภาพที่น่ารักหวานละมุนมาก

งานนี้ก็มีเพื่อนดาราคนดังและแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ร่วมแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก

หลังจากที่อดีตนางเอกดัง เมี่ยง อติมา แต่งงานมีครอบครัว และกลายเป็นลูกสองของ น้องมิตา – น้องมิติ เธอก็ตัดสินใจเฟดตัวออกจากงานวงการบันเทิง ไปทำอาชีพแอร์โฮสเตสของสายการบินไทยชื่อดัง เดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก

ขณะที่ล่าสุดสาวเมี่ยงได้อัปเดตภาพผ่านอินสตาแกรม miangatima_official นาน ๆ จะได้เห็นเธอแต่งจัดเต็มเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า อดีตสวยอย่างไร ปัจจุบันก็ยังสวยเป๊ะอย่างนั้น สมกับที่ดูแลตัวเองมาอย่างดีจริงๆ

หลายคนคงรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตากันดีสำหรับอดีตนักแสดง ตุ๊ก จันทร์จิรา จูแจ้ง โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่าน ซึ่ง ตุ๊ก จันทร์จิรา นั้นมีบทบาทโด่งดังมาจาก พริกขี้หนูกับหมูแฮม ในปี 2532 ห่างหายจากวงการบันเทิงไปเพราะเธอนั้นต้องไปรักษาอาการป่วย เนื้องอกในมดลูกและเนื้องอกที่หน้าอก ไม่ใช่แค่นั้นยังมีอาการป่วยเป็นหมอนรองกระดูกที่คอเสื่อมไปทับเส้นประสาทอีกด้วย ทำให้แขนซ้ายชา จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติ แต่ล่าสุดเธออาการดีขึ้นมากและสามารถกลับมาทำงานได้แล้ว ซึ่งปัจจุบัน ตุ๊ก จันทร์จิรา อาจจะไม่ค่อยมีผลงานให้เห็นในฐานะของนักแสดงเท่าไหร่ เพราะได้ผันตัวไปอยู่เบื้องหลังเป็นผู้จัด ผู้ผลิดซะมากกว่า โดย ตุ๊ก จันทร์จิรา ได้เปิดบริษัท ดวงมาลี มณีจันทร์ ผลิตรายการดังอย่าง สตรอเบอร์รี่ ชีสเค้ก

ต่อมาทำละครเรื่องแรก นางสาวผ้าขี้ริ้ว ตามมาด้วยเรื่อง ก๊วนกามเทพเรือนริษยา และผลงานเรื่องล่าสุด เฮฮาเมียนาวี แฟนๆอดใจรอกันได้เลย และล่าสุดทางด้าน ตุ๊ก จันทร์จิรา ได้ออกมาโพสต์รูปภาพกลางไอจี โดยได้เปลี่ยนลุคเป็นสาวเปรี้ยว ในวัย 57 ปี หั่นผมสั้นย้อมผมสีบลอนด์ ที่เห็นแล้วเป็นต้องสะดุดตาอย่างแน่นอน และหลายๆคนอาจจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นกันสักเท่าไหร่ ตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

รายการโหนกระแส วันที่ 13 ส.ค.67 เรื่องราว “กลับมาอีกแล้ว “ฟ้าในตำนาน” หลังอ้างเป็นเลขาฯกรรชัย ครั้งนี้อ้างสามารถพาเล่นละครกับ พี่เบิร์ด ธงไชย มีผู้เสียหายนับสิบ”

โดยหนุ่ม กรรชัย พิธีกรถึงกับต่อสายโฟนอิน นักร้องซุปตาร์ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ศิลปินแห่งชาติ เพื่อสอบถามเล่นละคร คลับฟรายเดย์ จริงไหม มีลูกจริงหรือเปล่า

พี่เบิร์ด ถึงกับหัวเราะลั่น ตอบว่า “พี่ไม่ได้เล่นอะไรเลย พี่เล่นคอนเสิร์ตอย่างเดียว พร้อมโปรโมตคอนเสิร์ต 23-24 พ.ย.นี้”

กรรชัย ถามว่าตอนนี้มีคนเอาชื่อพี่เบิร์ดไปแอบอ้างว่าพี่เบิร์ดจะไปเล่นละคร ให้น้องๆไปเสียเงิน น้องๆ เป็นแฟนคลับพี่เบิร์ด ยอมที่จะเสียเงิน เพื่อจะไปเล่นละครกับพี่เบิร์ด พี่เบิร์ด รู้สึกยังไงบ้าง

พี่เบิร์ด บอกเลยว่า “รู้สึกเศร้าใจมาก น้องเอ๋ย มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอก อย่าไปว่าเขาเลย เขาหลอกได้ให้เขาหลอกไป เดี๋ยววันหนึ่ง เขาก็โดนหลอกเอง มันเป็นกงกำกงเกวียน เรามีหน้าที่อะไรตอนนี้ทำให้ดีที่สุด ถามพี่หนุ่มว่าได้มาวันนี้ ได้มาฟรีๆไหม พี่เบิร์ดได้มาฟรีๆไหม ไม่เลย มันต้องแลกด้วยประสบการณ์ แลกด้วยเวลา”

ถามว่า พี่เบิร์ดดูรายการโหนกระแสบ่อยๆ เครียดไหมเจอเรื่องราวแปลกๆ แบบนี้บ่อยๆ พี่เบิร์ด หัวเราะตอบว่า พี่เบิร์ด สงสารหนุ่มมาก ถ้าไม่ใช่พี่หนุ่ม พี่เบิร์ด ไม่โทรมาหรอก เป็นพี่หนุ่ม พี่เบิร์ด ช่วยพี่หนุ่มได้ อะไรช่วยได้ก็ช่วย สงสาร หนุ่ม ต้องฟังอะไรเยอะไปหมดเลย

อยากฝากอะไรสังคมมิจฉาชีพมากมายเอาชื่อคนโน้นคนนี้ไปแอบอ้างต่างๆ นานา พี่เบิร์ด กล่าวว่า ตอนนี้คนไทยด้วยกัน โดนพี่มิจเยอะแยะ ขอว่ามีอะไรพูดกันตรงๆ ขอกันดีกว่า อย่าหลอกกัน

เกือบ 10 ปีแล้วที่พระเอกลูกครึ่ง มาริโอ้ เมาเร่อ จับมือปลูกต้นรักกับแฟนสาว จันจิ จันจิรา หวานออกสื่อให้เห็นบ้างแต่ก็ยังไร้วี่แววข่าวดี

ซึ่งเรื่องนี้สาวจันจิ ได้เผยในรายการ หอมกะหอย show ยอมรับว่าเคยคุยเรื่องแต่งงานกับมาริโอ้แล้ว แต่ยังไม่มีแพลนอะไรในเร็ว ๆ นี้ ทั้งคู่ต่างแฮปปี้กับชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้รีบร้อนอะไร

จันจิ ยังบอกอีกว่า เริ่มมีความคิดไม่อยากเอาเงินจำนวนมากมาลงในงานแต่งงาน ถ้าจัดก็คงจะเป็นงานเล็กๆ มากกว่า