ส่องอาชีพแปลก ‘คนป่า’ รายได้ดี 25,000 บาทต่อเดือน แค่แสดงสมจริง แถมสนุกมาก

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า อินฟลูฯสาวชาวจีนชื่อ “ทัวทัว” รีวิวอาชีพสุดแปลก แกล้งนักท่องเที่ยว แค่แสดงเป็นชนเผ่าในป่า จุดชมวิวเปิ่นซีกวนซาน แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เผยรายได้ดี มีข้าวให้ทานฟรี แถมสนุกมาก

ตามรายงานเผยว่า ทัวทัว อินฟลูเอ็นเซอร์สาวชาวจีน โพสต์คลิปวิดีโอที่เธอรับงานแสดงเป็นชนเผ่าป่าเถื่อน หรือคนป่าให้ จุดชมวิวเปิ่นซีกวนซาน แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ในอำเภอปกครองตนเองเปิ่นซี กลุ่มชาติพันธุ์แมนจู มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน

โดยทัวทัวได้แปลงโฉมจากสาวน้อยหน้าใส กลายเป็นคนป่า โดยเธอมีหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ร่วมกับพนักงานคนอื่นๆ ที่จะปรากฏตัวตามเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อแกล้งหลอกนักท่องเที่ยว

ซึ่งระหว่างการรับหน้าที่เป็นคนป่านั้น เธอต้องสวมชุดหนังสัตว์ปลอม ทำให้ผิวพรรณคล้ำ และผมยุ่งเหยิง พร้อมทั้งต้องเลียนแบบมนุษย์ยุคแรกโดยการคลาน คำราม และตบตัวเองเบาๆ อีกทั้งคนป่าคนอื่นๆ มีธนูและลูกศรถือไว้ และต้องปรากฏตัวตามเส้นทางท่องเที่ยว โดยแกล้งหลอกนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ทัวทัว โพสต์คลิปการทำงาน พร้อมข้อความใต้โพสต์ ระบุว่า “ไฮไลต์ของการทำงานเป็นคนป่า แสดงเป็นคนบ้าๆ บอๆ ค่าจ้าง 1 วัน 200 หยวนหรือราว 1,000 บาท มันมีความสุขมาก (หัวเราะทิ้งท้าย)”

ขณะที่ นักศึกษาคนหนึ่งที่ได้ทำงานเช่นเดียวกับทัวทัว ได้ออกมาเผยว่า “การได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาภายใต้หน้ากากของการแสดงเป็นคนป่า ได้วิ่ง ตะโกน โดยไม่ต้องสนใจใคร นี่อาจเป็นงานพาร์ตไทม์ที่สนุกที่สุดเลยก็ว่าได้”

ด้านเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักแสดงประมาณ 20 คน รวมถึงนักแสดงพาร์ตไทม์ ที่เป็นนักศึกษาซึ่งอยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนด้วย

โดยพวกเขาทำงานทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-15.00 น. จะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 5,000 หยวน หรือราว 25,000 บาท พร้อมอาหารกลางวันให้รับประทานฟรี

เจ้าหน้าที่อีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำอาชีพนี้ได้ โดยนักแสดงทุกคนจะต้องมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อน เพื่อที่จะได้เพิ่มประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

ภายหลังคลิปวิดีโอถูกแชร์ออกไปบนโลกโซเชียล ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย อย่าง “การได้ทำตัวป่าเถื่อนท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม กลายเป็นคนบ้าเมื่อได้พบกับนักท่องเที่ยว ดูน่าสนุกมากๆ”

แต่ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนกังวลว่า ถ้าเป็นคนขี้กลัวมากๆ เจอแบบนี้อาจจิตตกได้ โดยเฉพาะเด็กๆ “นักแสดงควรอยู่ที่โซนใดโซนหนึ่งเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการพบกับพวกเขาจะได้เลือกที่จะไม่ต้องไปที่นั่น”

ทั้งนี้ จุดชมวิวหลายแห่งในประเทศจีนมักมีการจ้างนักแสดงให้มารับบทเป็นตัวละครต่างๆ ที่เกี่ยวกับประเพณี หรือตำนานท้องถิ่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเมื่อต้นปีได้ผุดอาชีพแปลกอย่าง ‘ซุนหงอคง’ ที่แต่งเป็นลิง กินกล้วยได้ไม่จำกัด แถมรายได้มากถึงหลักหมื่นต่อดือนเช่นเดียวกัน

‘ณิชา’ ตอบแล้ว หลัง ‘โตโน่’ ให้สัมภาษณ์ ยังไม่แต่งงาน-มีลูก ถ้าประเทศยังมีฝุ่น pm 2.5 เผยเข้าใจ ไม่พร้อมแต่ง คิดเห็นทางเดียวกัน อยู่กับความสุขปัจจุบัน

เมื่อดารานักแสดงชื่อดัง โตโน่ ภาคิน ถูกถามถึงเรื่องแพลนแต่งงานกับนางเอกสาว ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ซึ่งเจ้าตัวตอบประมาณว่า ”จะยังไม่แต่งงาน มีลูก ถ้าประเทศยังมีฝุ่น pm 2.5“
งานนี้ดราม่าสนั่น แฟนๆพากันห่วงทางฝ่ายหญิง บ้างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าคงไม่ได้แต่งงาน แน่ๆ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอตัว ณิชา ที่มาโปรโมตละครเรื่อง น่าน ฟ้า ชลาลัย ที่ ช่อง 3 มาลีนนท์ จึงถามถึงประเด็นดราม่าดังกล่าว

เรื่องแพลนแต่งงานมีลูก “โตโน่” บอกว่าต้องรอให้หมดฝุ่น pm 2.5 หมดไปก่อน เราเห็นไหม?
“เห็นค่ะ เอาจริงๆ สำหรับเรามันไม่ได้มีอะไรเลย คือไม่ได้คิดมากอะไรเลย แล้วอย่างที่เคยบอกทุกๆ คน ว่าตัวเราเองก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นจริงจัง

เพราะเราไม่พร้อมกับเรื่องนี้ เรายังอยากทำงาน เอ็นจอยชีวิตส่วนตัว ชีวิตคู่ที่มันจะต้องไปอีกสเตป อาจจะยังไม่ได้มีภาพตรงนั้นที่คิดเอาไว้ หรือว่าคุยกันอย่างจริงจังเลย สิ่งที่คุยกันคือปัจจุบันครอบครัวเราแฮปปี้มาก เราพอดีกับแค่นี้ก็โอเคแล้ว

สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วง ก็เข้าใจทุกคอมเมนต์เลยค่ะ เข้าใจได้ว่าแต่ละคนพอฟังไปแล้ว เขาจะมีความเห็นหรือความคิดที่มันแตกต่างกันออกไป รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้วเลย ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับชีวิตเท่าไหร่ ก็เคารพทุกความเห็น

คือหนูเข้าใจว่าแต่ละคนเจอเรื่องต่างๆ ในชีวิตมาไม่เหมือนกัน ความคิดมุมมองต่างๆ ในการใช้ชีวิตก็อาจจะไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจที่เขาอาจจะมองคนละมุมกับเรา แต่ก็ไม่ได้ไปตัดสินใคร เพราะเราไม่รู้จักคนที่มาคอมเมนต์ เลยไม่ได้เอามาใส่ใจ เอามาเครียดหรือกังวล”

ฝุ่นไม่หมดไม่แต่ง รู้สึกยังไงกับคำนี้?

“คือเอาจริงๆ ตอนพี่โน่สัมภาษณ์เขาก็ดูพูดเล่นนะ แล้วหนูว่าที่พี่เขาพูด ไม่ได้หมายถึงว่าฝุ่นไม่หมดไม่แต่งด้วย เขาบอกว่าเรื่องแต่งเรายังไม่ได้คิด อยากเอ็นจอยชีวิตตอนนี้ พาครอบครัวไปเที่ยวกัน แล้วณิชาก็ยังไม่พร้อม

แต่ถ้าเรื่องมีลูก มันอาจจะทำให้ดูกำกวม เรื่องมีลูกหนูเคยคุยกันจริงๆ คนอื่นอาจจะพร้อมที่จะมีลูกในสภาพแวดล้อมแบบนี้ อันนั้นเป็นสิทธิ์ของเขา ความแฮปปี้ของเขา แต่ส่วนตัวหนูเองก็รู้สึกว่ามันยาก คือมันไม่ใช่แค่มีลูกแล้วจบไป อาจจะเพราะปัจจุบันนี้หนูยังไม่พร้อมเองด้วย ปัจจัยนี้ก็เป็นอีกเหตุผลที่เคยคุยกัน ว่าถ้าโลกมันร้อนแบบนี้ แล้วมีลูกมาอยู่ในโลกร้อนๆ ก็สงสารลูกเนอะ แต่มันไม่เป็นเรื่องที่คุยกันซีเรียส ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ว่าหนูแฮปปี้ดี”

เราเห็นด้วยกับเหตุผลของเขาไหม?

“หนูไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาเลยค่ะ หนูไม่ได้มองว่าเรื่องนี้มันต้องเกิดขึ้นตอนนี้ เป็นแบบนี้ๆ หนูมองว่าเราใช้ชีวิตในแบบที่เราพอใจ คนอื่นๆ เขาอาจจะมีแบบที่เขาพอใจ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราแฮปปี้แบบนี้ เรายังไม่พร้อม”

บางคนคิดว่าแล้วเมื่อไหร่จะได้แต่ง ถ้าเอาเหตุผลนี้?

“ก็เข้าใจได้ แต่หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะหนูก็ยังไม่ได้พร้อมค่ะ ไม่ได้คิดจริงๆ คือตอนแรกหนูไม่รู้เรื่องเลย จนเพื่อนมาบอกว่ามีข่าวนี้ ก็เข้าไปดูแล้วก็อ๋อ ก็เข้าใจได้ค่ะ เป็นเรื่องปกติมากๆ เลย ที่เวลามีข่าวไป เราพูดในมุมของเรา คนเขาก็พูดในมุมของเขา ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา”

ได้คุยกับ “โตโน่” ไหม โดนถล่มเยอะเหมือนกัน?

“เอาจริงๆ ไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ เพิ่งคุยเมื่อคืนนี้เลยค่ะ ว่าพี่โน่ เดี๋ยวต้องสัมภาษณ์เรื่องนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสทั้งคู่เลยค่ะ เราใช้ชีวิตและทำงานกันอย่างหนักมากๆ อาจจะไม่ได้เข้าไปดูโซเชียลเท่าไหร่ ตอนนี้พี่โน่เขาก็ฝึกร่างกายอยู่ต่างจังหวัดด้วย ต่างคนต่างโฟกัสงาน ไม่ได้มาดูโทรศัพท์บ่อยๆ”

เราเคยได้ยินประโยคนี้มาแล้วใช่ไหม?

“เราพูดเล่นกัน หนูเป็นคนพูดว่าหนูไม่พร้อม เพราะร่างกายเรา ถ้าลูกจะออกมา ก็มาจากเรา (หัวเราะ) เราก็เลยพูดเองว่าเราไม่ได้พร้อม มันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องนี้ด้วย หนูยังไม่พร้อมในหลายๆ เรื่องด้วยค่ะ เหตุนี้มันแค่หนึ่งเหตุผลเล็กๆ ในอีกหลายๆ อย่าง ไม่ได้อ้าง แต่ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม หนูเข้าใจถ้าคนอื่นจะคิดว่าจะได้แต่งไหม ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้ซีเรียส”

ตอนนั้นคุยอะไรกัน ถึงคุยเรื่องนี้?

“เหมือนตอนนั้นดูหนังหรืออะไรสักอย่าง ที่อาจจะพูดเรื่องธรรมชาติ เลยมีประโยคนี้ขึ้นมา คือหนูจินตนาการว่าถ้าหนูไปถ่ายละครทุกวันนี้ ร้อนมากๆ เลย ถ้ามีลูกแล้วต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ หนูไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าเราจะดูแลเขาได้ไหม หนูนับถือมากเลย พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาได้ มันแค่ตัวหนูเองที่ไม่ได้รู้สึกพร้อม แล้วก็ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น เอาจริงๆ มันคือความคิด ณ ปัจจุบันนี้เลย แต่คนเรามันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ วันนี้หนูรู้สึกแบบนี้ วันหน้าอาจจะพร้อมขึ้นมาใครจะไปรู้”

แต่คนเข้าใจก็มี

“ก็นั่นแหละคะ หนูก็เข้าใจ ทุกคนมีสิ่งต่างๆ มาไม่เหมือนกัน มุมมองเลยแตกต่างกัน มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความเห็นตรงกันทั้งหมด”

แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม

“แผนที่วางไว้คือเดี๋ยวจะพาครอบครัวไปเที่ยวค่ะ (ยิ้ม) แค่นี้เลย คู่อื่นอาจจะมีแบบแผนในการใช้ชีวิต แต่สำหรับหนูถนัดอิมโพรไวส์ วันนี้แฮปปี้แบบนี้ ไม่ได้กดดันตัวเองหรือใคร ชีวิตของแต่ละคนพร้อมไม่เท่ากัน ถามว่าคิดไหมว่าอายุเท่าไหร่ ก็ไม่ได้คิดเลยค่ะ”

ผู้หญิงจะมีความฝันเรื่องแต่งงาน เรามีไหม

“เข้าใจที่มีคนคิดแบบนั้นค่ะ แต่หนูไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่นอน ที่จะมีความฝันอย่างชัดเจน ว่าเราจะไปยังไง คือเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่เขามีความคิดอย่างนั้น มันก็เป็นความสุขความสบายใจของเขา แต่เราถนัดแบบนี้”

แล้ว “โตโน่” มีไหมแพลนไหม?

“กลับเหมือนเดิมว่าเราอยู่กับปัจจุบันกันมากๆ เลย พี่โน่ก็อยู่กับปัจจุบันมากๆ มันเลยพอดีที่เราคิดเหมือนกัน เราคิดตรงกันว่าอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวก่อน หนูเพิ่งทำงานเก็บเงินได้ ก็อยากจะดูแลครอบครัว พี่โน่เขาก็อยากดูแลครอบครัวเขา แล้วเราก็ยังเอ็นจอยที่จะไปเที่ยวกัน”

เช็กมาดีแล้ว เบลล่า ราณี ตอบชัด หลังลือแรง วิล ชวิณ ซุกลูกซุกเมีย ยันไม่น่าใช่ น่าจะเป็นคนอื่น แจงเห็นแล้วไม่เอ๊ะ เผยทริปล่องเรือสนุกดี

อยู่ๆก็มีเรื่องให้ “เบลล่า ราณี” ต้องออกมาชี้แจงอีกแล้ว หลังหนุ่ม “วิล ชวิณ เจียรวนนท์” มีข่าวลือเม้าธ์แรงว่าฝ่ายชายนั้นมีครอบครัวแล้ว

ล่าสุด วันที่ 19 ก.ค.67 ที่งาน “BeNice Live in Perfume” ณ สุราลัย ฮอลล์ ชั้น7 ไอคอนสยาม เบลล่าได้ตอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งคุยถึงเรื่องทริปล่องเรือล่าสุด

มีคนออกมาแฉว่าวิลมีครอบครัวแล้ว?

“โห..ไม่น่าใช่นะ น่าจะเป็นคนอื่นหรือเปล่า“

ตอนเห็นตกใจไหม?

”ความจริงเบลเพิ่งเห็นเมื่อไม่นานเลยค่ะ แต่เท่าที่ทราบก็ไม่ใช่คุณวิลค่ะ“

ก่อนจะตัดสินใจคบเราเช็กมาหมดแล้ว?

”ไม่ใช่แบบนั้น คือก็เหมือนได้คุยกัน ได้สอบถามกันอยู่แล้ว“

เราตั้งรับกับเฟกนิวส์ต่างๆ ยังไงบ้าง?

”เบลก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าคนยินดีถือเป็นโบนัสแล้ว ถ้าคนไม่ชอบก็แล้วแต่ความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งเบลก็ไม่ได้อะไร ก็แล้วแต่ทุกคน“

พอเห็นแล้วมีรู้สึกเอ๊ะๆ บ้างไหม?

”ไม่ค่ะ (เรียกว่ามั่นใจ?) (ยิ้ม) เรียกได้ว่าทำการสอบถามมาแล้ว“

เป็นห่วงเขาไหมที่พอมาคบกับเราแล้วมีข่าวแบบนี่?

”อย่างที่บอกว่าเราก็เหมือนต้องอธิบายให้เขาเข้าใจแหละค่ะว่าวงการเป็นแบบนี้ๆ ก็อธิบายให้เขาฟัง“

ความที่เขาเป็นนักธุรกิจเขากลัวข่าวอะไรแบบนี้ไหม?

”เป็นคำว่าเหมือนเขาเซอร์ไพรส์มากกว่า เพราะว่าเขาไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย มันก็มีเรื่องใหม่ๆ ให้เขาตลอดแหละ ก็เรียกว่ากำลังเรียนรู้ค่ะ“

ในฐานะรุ่นพี่ในวงการคิดว่าเขาผ่านบททดสอบไหม?

”เขาเจอแต่สิ่งดีๆ ไง ก็ขอให้เขาเจอสิ่งดีๆ ต่อไปละกัน หมายถึงเรื่องข่าว (แล้วเราเป็นสิ่งดีๆ ของเขาหรือเปล่า?) ต้องถามเขาจ้า“

ไปล่องเรือมาเป็นยังไงบ้าง?

“ก็สนุกดีค่ะ (หลายคนสงสัยทำไมไม่ลงพร้อมกัน?) ทำไมอ่ะ ก็ลงตามวาระโอกาสของใครของมัน (เว้นระยะห่างกันหลายวัน?) เบลก็ไม่ได้สังเกตเหมือนเบลน่าจะยุ่งหรืออะไรสักอย่างแล้วเบลยังไม่ได้รวบรวมรูป ที่มีถ่ายตรงโน้นตรงนี้หลายที่ พอว่างก็เลยได้รวบรวมแล้วก็มาลงค่ะ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องอะไรยังไง“

เขาไม่ให้เครดิตเราคนถ่ายล่ะ?

“บางรูปเป็นเพื่อนเราถ่าย บางรูปของเราเพื่อนเราก็ถ่ายเหมือนกัน (แล้วรูปไหนที่เราถ่าย?) จำไม่ได้ (ยิ้ม)“

ทริปล่องเรือนี่ไปทำอะไรบ้าง ทานข้าว?

”ก็ประมาณนั้นค่ะ ก็มีทานข้าว ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา“

เห็นว่ามีครอบครัวไปด้วย?

”อันนั้น มีเรือ 2 ลำ ความจริงไม่ได้ไปในวันเดียวกันค่ะ“

มีคนซูมรูปว่าเบลถ่ายหรือเปล่า?

“ไม่ใช่ค่ะ เป็นคนอื่นถ่ายค่ะ งานเบิร์ธเดย์ไม่ใช่ค่ะ รู้สึกว่าตอนนี้เงาฮิตมากๆ (คนบอกเงายังสวย?) แต่ไม่ใช่เงาเราน่ะสิ วันนั้นไม่ใช่ค่ะ“

เบลมีโอกาสได้เจอครอบครัวเขาบ่อยไหม?

”ก็ได้เจอเรื่อยๆ ค่ะ แล้วแต่ ครอบครัวเขาน่ารักค่ะ เคยบอกไปแล้ว ถ้ามีโอกาสได้เจอกันก็ได้เจอตามนั้นแหละ“

พักหลังรูปเบล-วิลเยอะมาก คนตามถ่ายทุกที่เลย อึดอัด?

“เข้าใจตามธรรมชาติแหละ ถ้าเราออกไปข้างนอก คนเจอเรา เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องปิดบังอะไร ก็ตามปกติ ส่วนเขาคงยังไม่ชินในเร็วๆนี้หรอกคะ แต่ก็พยายามอยู่“

เราให้ความสบายใจเขายังไงบ้าง?

”ก็ต้องอธิบายว่าถ้าจะมีออกไปข้างนอกก็อาจจะมีนะประมาณนี้ เจอคนถ่ายก็ให้คิดเสียว่าคนเอ็นดูเรา“

เขากลับมานานแค่ไหน?

”หลักๆจริงๆแล้วเขาอยู่เมืองไทย เมื่อก่อนอาจจะเดินทางเยอะ แต่ปีนี้ไม่ค่อยเดินทางเท่าไหร่ (เพราะอะไร?) อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เหมือนงานเขาปรับไม่ต้องให้เดินทางเยอะมาก“

ไม่ใช่ว่าหัวใจอยู่ที่นี่?

”อาจจะมีส่วน ล้อเล่นค่ะ ก็แฮปปี้ค่ะ“

ตัวเขาแฮปปี้ไหมพอมาคบกับเราทุกอย่างมันจะไม่ส่วนตัวแล้ว?

“เป็นเรื่องใหม่ ของเขาทั้งหมดเยอะมาก ดูๆกันไปแหละ ตอนนี้ก็สบายใจ เบลก็ต้องคอยบอกให้เขาไม่ช็อก บางเรื่องเขาก็มีตกใจ เช่น การลงรูปเบิร์ธเดย์น้องหมาทำไมคนถึงสนใจขนาดนี้ ซูมเงา ไม่ใช่เธอซะหน่อย”

ตอนเขาเปิดไอจี คนแห่ไปตาม?

“สุดๆค่ะ เบลบอกเขาแล้วเดี๋ยวมันจะขึ้นเท่านั้นเท่านี้แหละ เขาบอกไม่จริง ไม่มีทาง พอผ่านไป 3 วัน อ้าว…ถึงแล้ว ก็บอกเขาว่าเพราะเป็นข่าวแหละ ทุกคนสนใจ”

เขากดดันกับการลงรูป?

“ก็ไม่กดดัน ปกติตัวเขาก็ไม่ค่อยลงอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว กว่าจะลงแต่ละทีก็คิดแล้วคิดอีก”

คนส่องรูปเงาคู่กัน?

”เบลรู้สึกว่าประมาณนั้นกำลังดี เวลาลงรูปก็จะแชร์กันว่าจะลงรูปประมาณนี้นะเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย อย่างล่าสุดที่เบลลงก็ส่งไปบอกเขาก่อนว่าเบลจะลงรูปนี้นะ ก็ไม่มีอะไรหรอกคะ เราก็ลงตามชีวิตประจำวันที่เราไป“

เคยพาไปมานั่งดูเราทำงานในแต่ละวันบ้าง?

”ได้เห็นบ้างตามที่สื่อแชร์กัน“

เมื่อไหร่จะได้เห็นภาพคู่ชัดๆ?

“รอวาระโอกาสที่เหมาะสม ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเขิน เพราะก็มีคนจับตามอง”

เราเข้าไปส่อง ไปกดไลก์รูปเขาบ้าง?

“กดเท่าที่ทุกคนเห็น”

ไม่ได้ตามแล้วกดไลก์รูปเขาได้ไง?

“ก็เท่าที่ทุกคนเห็น (เบลไม่ได้ติดตามเขา?) มีคนแท็กมาให้อีกทีหนึ่ง มันยังไม่มีโอกาส ถ้าเราไปฟอลโล่ก็จะเป็นข่าวเป็นอะไรอีกไง“

แฟนคลับเตรียมกั้นประตูเงินประตูทองกันแล้ว?

“ขอบคุณสำหรับทุกแรงเชียร์ แฟนๆของเบลก็แซวกันยับ มันเหมือนเป็นอีกเรื่องใหม่ๆในชีวิตของเบล ทุกคนรู้สึกยินดี พร้อมซัพพอร์ต”

ได้พาเขาไปแนะนำตัวกับแฟนคลับ?

“น่าจะทำตัวไม่ถูกเลยคะ เขาน่าจะไม่สะดวก และด้วยงานของเขาน่าจะไม่ถนัดเรื่องแบบนี้“

รวยมากแต่ไม่ถือตัว แห่อวยยศ คู่รักดาราดังคู่เดียว สอนลูกไม่ถือตัวกับคนอื่นขนาดนี้

ยกให้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากๆสำหรับครอบครัวของ ฮารุ สุประกอบ และ กาย- รัชชานนท์ สุประกอบ พร้อมทายาท 3 คน น้องคีริน, น้องไนร่า และน้องเอเดน เราจะเห็นคุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆไปใช้ชีวิตเรียบง่าย สมถะ ไม่ถือตัวมาตลอด ล่าสุดสาวฮารุโพสต์ภาพน่ารักๆ พาลูกๆใช้ชีวิตเรียบง่าย เล่นกีฬา ทำกิจกรรมต่างๆและทานอาหารกับเด็กๆชาวบ้านแบบไม่ถือตัวกันเลย โดยโพสต์บรรยากาศอบอุ่นและน่ารักนี้ ลงอินสตราแกรมส่วนตัว @harusuprakob ท่ามกลางหลายคนต่างชื่นชมการเลี้ยงลูกจำนวนมากเลยทีเดียว

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ร.ต.อ.ประวิทย์ อิ่มใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งความจาก นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด แจ้งว่า โดนหญิงสาวที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่ ก่อนพูดคุยกันทางไลน์ ชวนมานอนที่รีสอร์ทใน จ.อุดรธานี พอตื่นขึ้นมาปรากฏว่าสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทหายไปพร้อมกับสาวที่นัดนายเอ เล่าว่า ตนมาทำงานก่อสร้างกับน้าที่ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ประมาณ 3-4 เดือน ตนรู้สึกเหงาจึงได้เข้าไปในแอปหาคู่ ทำให้ได้รู้จักกับ น.ส.เซียส ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อ้างว่าเป็นพยาบาล อยู่ จ.ขอนแก่น ซึ่งรูปโปรไฟล์ก็สวมชุดพยาบาล หน้าตาสวย จึงได้พูดคุยจีบกันทางไลน์ ประมาณ 1 เดือน ต่อมาวันที่ 11 ก.ค. 67 ได้นัดพบ น.ส.เซียส ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณสี่แยกเขื่อนห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี”หลังเลิกงานตนก็ไปพบตามนัด ซึ่งตนก็ได้พบกับ น.ส.เซียส ซึ่งสวยตรงปก บอกว่ามากับแม่และน้องชาย และได้เปิดห้องพักไว้ 3 ห้อง หลังพูดคุยกันเสร็จก็ได้เข้าไปคุยกันต่อในห้อง

ต่อมา น.ส.เซียส ได้ขอตัวออกไปทำธุระกับแม่และน้องชาย ส่วนตนก็เล่นอยู่ในห้องรอ ต่อมาตนเดินออกมาเล่นนอกห้อง พร้อมกับได้ล็อกประตู้ห้องพักไว้ พอจะเข้าไปในห้องก็พบว่าตนเอากุญแจผิดห้อง กลายเป็นกุญแจห้องน้องชาย น.ส.เซียส ตนจึงโทรฯ ไปบอก น.ส.เซียส ว่าลืมกุญแจในห้อง และกระเป๋าสะพายตนอยู่ในห้อง ซึ่งมีสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น และเอกสารทางราชการอยู่ในกระเป๋า น.ส.เซียส บอกว่าได้โทรฯ ติดต่อเจ้าของรีสอร์ทให้มาเปิดห้องให้ตนวันพรุ่งนี้ จึงให้ตนนอนรอที่ห้องพักน้องชายแล้วเผลอหลับไป” หนุ่มขี้เหงา กล่าว

หนุ่มขี้เหงา เล่าต่อไปว่า ตนมารู้สึกตัวตื่นเวลา 04.00 น. ตนจึงโทรฯ หา น.ส.เซียส ก็บอกว่าได้กลับเข้ามารีสอร์ทแล้ว และได้ไปเปิดห้องพักและเก็บสร้อยคอทองคำไว้ให้แล้ว แต่ตอนนี้ได้ออกไปทำธุระกับแม่และน้องชายไม่ต้องห่วง ตนจึงไปสอบถามพนักงานรีสอร์ท ทราบว่า น.ส.เซียส มาเปิดห้องพัก 2 ห้อง ไม่ใช่ 3 ห้องดังที่กล่าวอ้าง ตนจึงกลับไปทำงาน แต่ก็พยายามโทรฯ ติดต่อ น.ส.เซียส ให้นำสร้อยคอทองคำของตนมาคืน

แต่ น.ส.เซียส ก็บ่ายเบี่ยงอยู่ตลอดเวลา บอกว่าไปทำธุระบ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง หรือขึ้นเวรบ้าง สุดท้ายก็บอกว่าสร้อยคอทองคำอยู่กับแม่ ตนจึงขอเบอร์โทรฯ แม่ น.ส.เซียส หนุ่มขี้เหงา เล่าต่ออีกว่า ตนได้โทรฯ ติดต่อกับแม่ น.ส.เซียส ชื่อว่า แม่นาง เพื่อขอสร้อยคืน แม่นางก็บอกว่าสร้อยอยู่กับแม่ แต่ยังกลับอุดรธานีไม่ได้ เพราะว่า น.ส.เซียส เกิดอุบัติเหตุที่ขอนแก่น เข้ารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ มีอาการเลือดคั่งในสมอง ส่งรูปคนป่วยนอนอยู่บนเตียงมาให้ดูด้วย ตนก็ให้กำลังใจ กระทั่งบอกว่าอาการปลอดภัย แต่ก็ยังไม่คืนสร้อยคอตน และบ่ายเบี่ยงที่จะเอาสร้อยมาคืนตลอด โทรฯ ไปก็ไม่รับสาย กระทั่งวันนี้ ตนจึงตัดสินใจมาแจ้งความกับตำรวจติดตาม น.ส.เซียส ให้นำสร้อยทองมาคืนตนด้วย ฝากถึง น.ส.เซียส ให้นำสร้อยทองมาคืน เพราะเป็นสร้อยทองที่ผมทำงานแล้วเก็บหอมรอมริบมาซื้อเก็บไว้ ตั้งแต่ทองคำบาทละ 3 หมื่นบาท เป็นน้ำพักน้ำแรงของผม ไม่ใช่ทรัพย์สินของคุณเบื้องต้นตำรวจจึงลงบันทึกประจำวัน และจะติดต่อ น.ส.เซียส ให้นำสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท มาคืนกับผู้เสียหายต่อไป.

นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ สำหรับ ดร.หาญส์ หิมะทองคำ เมื่อเช้าวันนี้ 23 กรกฏาคม 2567 เวลา 06.09 น. คุณพ่อ ดร.ชูศักดิ์ หิมะทองคำ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคชราในวัย 91 ปี ณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

ดร.ดร.ชูศักดิ์ หิมะทองคำ เป็นผู้ริเริ่มสินเชื่อเกษตรกรคนแรกของแผ่นดิน ได้นำเอาความรู้ความสามารถที่ศึกษามาจากประเทศอังกฤษกลับมาพัฒนาแผ่นดินเกิดของตัวเองด้วยความตั้งใจจริงใจ แม้วันนี้จะเป็นวันและวัยของการพักผ่อน แต่ก็ยังเป็นผู้มากด้วยความคิดอีกมากมาย

และได้รับการยกย่องจากบรรณาธิการสื่อสารมวลชนด้านเศรษฐกิจให้เป็น นายธนาคารแห่งปี เป็นคนแรก ประจำปี 2525

และได้รับทุนให้ไปบรรยายในรัฐต่างๆที่อเมริกา เป็นระยะเวลาถึง6เดือนพร้อมภรรยา ซึ่งเป็นโอกาสได้เข้าพบประธานาธิบดี Ronald Reagan ที่ทำเนียบขาว และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือก

ทีมข่าวบันเทิง Sanook.com ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว หิมะทองคำ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

แต่งงานใช้ชีวิตคู่กันมาก็หลายปีแล้ว แต่ หญิง รฐา และ ตุลย์ ตุลยเทพ ก็ไม่ได้กดดันเรื่องทายาทแต่อย่างใด ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติดีกว่า ส่วนความหวานความหวานใดๆ ที่ทั้งคู่มีให้กันก็ยังมั่นคงสม่ำเสมอ มีโมเมนต์มุ้งมิ้งออกสื่อตลอด

แม้ว่าช่วงนี้จะมีกระแสข่าวโลกสองใบบ้าง มือที่ 3 บ้าง เรื่องนี้ หญิง รฐา บอกว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงตัดสินใจจบเลยเหมือนกัน เพราะมีความเชื่อว่าคนเราจะรักคนอื่นพร้อมๆ กันหลายคนไม่ได้ ถ้าวันใดที่มีอีกคนเดินเข้ามา มันก็ไม่ใช่คำว่าครอบครัวเหมือนเดิม

สำคัญคือการเปิดใจคุยกันในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ และทั้งสองคนก็พยายามเข้าใจในอีกฝ่าย ให้ความเคารพในกันและกัน พี่ตุลย์เคยพูดเสมอว่า เขาไม่สามารถทำอะไรกับคนที่เขาไม่รักได้ ซึ่งก็ทำให้รู้สึกโชคดีที่พี่ตุลย์ได้ให้ความมั่นใจตรงนี้

เเต่งงานเเละมีครอบครัวที่เเสนอบอุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้วอบ่างที่หลายๆคนทราบกันดี สำหรับ พระเอกมาดเข้ม

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ซึ่งในตอนนี้เจ้าตัวก็ไม่ค่อยรับงานเหมือนเมื่อก่อนเเล้ว เพราะทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัวช่วยภรรยาเลี้ยงดูลูกสาวที่กำลังอยู่ในช่วงวัยที่น่ารัก

เเต่ล่าสุดในเพจดัง มีคอมเมนต์หนึ่งของชาวเน็ตได้เข้ามาเเสดงความคิดเห็นว่า

พระเอกคนนี้หมดยุคไปนานแล้ว ขายไม่ได้แล้ว ไม่มีคนดูแล้วสภาพโทรมมาก ไม่เหลือออร่าหรือความหล่อเลยอยากรู้ว่าเค้าหล่อตรงไหนอ่ะ หน้าตาแบบคมเข้มสไตล์ต่างจังหวัดแนวช่องมากสีช่วงหลังๆ เล่นละครก็แป้กๆรัวๆทุกเรื่อง โฆษณาก็ไม่ค่อยเข้า เอเจนซี่ + คนดูเทไปหมดขนาด กรงน้ำผึ้ง

ยังไม่มีคนดูเลยงานพรีเซนเตอร์ก็ไม่ค่อยเข้าอีกไม่นานคงลาวงการ กลับบ้านนอกต่างจังหวัด ขอนแก่นปัจจุบันแค่เอ่ยชื่อพระเอกคนนี้คนทั่วไปส่วนใหญ่เค้าเมินหน้าหนี เอือมแล้วคงเหลือแต่แฟนช่องมากสีในกะลาเท่านั้นแหละที่ยังเพ้อเจ้ออวย

โตวันโตคืนและสวยวันสวยคืนจริงๆ สำหรับ น้องณดา ลูกสาวคนโตของ กบ สุวนันท์ กับ บรู๊ค ดนุพร ที่ตอนนี้อายุได้ 13 แล้ว เรียกว่าโตเร็วจนพ่อแม่ใจหายจริงๆ อย่างล่าสุดที่ กบ สุวนันท์ ได้โพสต์ภาพลูกสาวคนสวยลงโซเชียล น้องณดา ที่แต่งตัวสวยใส่ชุดเดรส พร้อมไปทานข้าวนอกบ้านกับคุณแม่ และถึงกับต้องบอกว่าวอย่าเพิ่งรีบโตได้ไหม?กับแคปชั่นว่า “ไปกินข้าวข้างนอกกัน.. #แต่งตัวเกินหน้าแม่มากกก #13เองนะยูววว #กลับมาก๊อน #อย่าเพิ่งรีบโตได้ม๊ายยย ”

ต้องบอกเลยว่า นิวเคลียร์หรรษา เป็นคุณแม่ที่มีเสน่ห์ครบสูตร ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ชวนให้หลงใหล! ตอนนี้เธอกำลังมีความรักใหม่อีกด้วย

โดยเมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวได้มีการออกมาเคลื่อนไหวโดยการโพสต์ภาพขณะที่จูงมือลูกชาย แต่ต้องบอกเลยว่าทำเอาหลายคนถึงกับโฟกัสผิดจุดบอกเลยว่าคุณแม่หุ่นแซ่บเวอร์เห็นแล้วอดมองไม่ได้จริงๆ