หนุ่ม กะลา เปิดใจกับสื่อมวลชนสั้น ๆ หลังเซ็นใบหย่า จูน เพ็ญชุลี ที่ว่าการอำเภอสมุทรปราการ ว่า “เรียบร้อยดี ข้อตกลงก็เป็นไปตามนั้นเลยครับ ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนนะครับ วันนี้ต้องขอตัว” จากนั้น หนุ่ม กะลา ก็ขึ้นรถกลับทันที .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

จากรณีที่ก่อนหน้านั้น ทาง หนุ่ม กะลา และภรรยา จูน เพ็ญชุลี พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีที่ หนุ่ม ฟ้อง จูน และพวกรวม 2 คน ข้อหายักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัด รวม 66 ล้านบาท

หลังการไกล่เกลี่ยยาวนานถึง 6 ชั่วโมง หนุ่ม กะลา และ จูน เพ็ญชุลี ได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดคดีความ โดย หนุ่ม กะลา เปิดเผยว่า เมื่อคำนึงถึงครอบครัวแล้ว คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือถอนฟ้อง และได้ตกลงกันเรื่องดูแลลูกสาวต่อไป เป็นการหาจุดที่ดีที่สุดให้กับลูก เราทั้งคู่ยอมวางทิฐิลงเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือเพื่อให้ลูกได้ประโยชน์ที่สุด

และในวันที่ 25 ก.ค. 67 ได้มีการนัดมาหย่ากันในเวลา 14:00 น.

ล่าสุด ทางทนายพัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ว่า สวัสดีครับ มาพร้อมหย่าตามที่ตกลงครับ พร้อมเช็คอินที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการด้วยนั่นเอง

และทางด้าน หนุ่ม กะลา เอง วันนี้ได้เดินทางมาคนเดียวที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ เดินขึ้นไปชั้น2 เพื่อเตรียมหย่าแล้ว

โดยหนุ่มกะลา บอกว่าเรียบร้อยดีแล้ว แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์ต่อนั่นเอง และทางจูนเองก็ได้บอกว่า เรียบร้อยดีแล้วเหมือน ความรู้สึกตอนนี้ก็หวิดๆ อยู่ด้วยกันมานาน ตอนนี้ก็เป็นพ่อแม่ก็พอแล้ว เป็นเพื่อนกันค่ะ

รักษ์โลก? “โอลิมปิก 2024” ไม่เปิดแอร์ในรถบัส รับ-ส่ง นักกีฬา ทำคนแข่งกลายเป็นผู้ประสบภัย แถมบ้านพักนักกีฬาก็ไม่มีแอร์ ด้านชาวเน็ตวิจารณ์ ทำเพื่อโลกจริงหรือ

เป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกสำหรับ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 Olympics Paris 2024 ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม 2567 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดยมุ่งเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อนเป็นหลัก โดยตั้งเป้าจะปล่อย ก๊าซเรือนกระจก น้อยกว่าการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน 50% เน้นรีโนเวตอาคารที่มีอยู่แล้ว แทนที่จะสร้างใหม่ เพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิตได้จากปริมาณปูนซีเมนต์ที่ในการก่อสร้างอาคาร

นักกีฬาบางส่วนก็ได้ทยอยเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬาเรียบร้อยแล้ว แต่กลับเกิดปัญหาขึ้น เมื่อพบว่าภายในห้องพักนักกีฬาไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอากาศที่เริ่มจะร้อนขึ้นในกรุงปารีสจะทำให้นักกีฬาไม่สะดวกสบาย

ล่าสุด “ทิพย์ อรวรรณ พาระนัง” นักเทเบิลเทนนิสไทย ประเภทหญิงเดี่ยวและทีมหญิง โพสต์ไอจีสตอรี่ส่วนตัวว่า

“สภาพ นั่ง 5 คนร้อนขนาดนี้ ถ้านั่งเต็มทั้งคันรถคงแย่งอากาศกันหายใจคงมีคนเป็นลมก่อนถึงที่หมามีหน่วยงานไหนเข้าช่วยเหลือบ้าง รถแอร์ร้อนมาก นั่งรถไปซ้อม 45 นาที ยมนะ ยมบาลถามหาเลย”

ทำให้หลาย ๆ คน เกิดการวิพากษ์วิจารณ์การจัดการในครั้งนี้ เนื่องจากมองว่านักกีฬาควรจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่าความทรมาน และการรักษ์โลกก็สามารถทำได้หลายวิธีเช่นกัน ซึ่งตามสถิติแล้วการเปิดแอร์อาจไม่ได้ส่งผลกระทบขนาดนั้น

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 Olympics Paris 2024 ก็ใกล้จะจัดขึ้นแล้ว หากใครต้องการติดตามการถ่ายทอดสดอย่างใกล้ชิด ก็สามารถรับชมได้หลากหลายช่องทาง

จากรณีที่ก่อนหน้านั้น ทาง หนุ่ม กะลา และภรรยา จูน เพ็ญชุลี พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีที่ หนุ่ม ฟ้อง จูน และพวกรวม 2 คน ข้อหายักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัด รวม 66 ล้านบาท

หลังการไกล่เกลี่ยยาวนานถึง 6 ชั่วโมง หนุ่ม กะลา และ จูน เพ็ญชุลี ได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดคดีความ โดย หนุ่ม กะลา เปิดเผยว่า เมื่อคำนึงถึงครอบครัวแล้ว คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือถอนฟ้อง และได้ตกลงกันเรื่องดูแลลูกสาวต่อไป เป็นการหาจุดที่ดีที่สุดให้กับลูก เราทั้งคู่ยอมวางทิฐิลงเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือเพื่อให้ลูกได้ประโยชน์ที่สุด

และในวันที่ 25 ก.ค. 67 ได้มีการนัดมาหย่ากันในเวลา 14:00 น.

ล่าสุด ทางทนายพัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ว่า สวัสดีครับ มาพร้อมหย่าตามที่ตกลงครับ พร้อมเช็คอินที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการด้วยนั่นเอง

และทางด้าน หนุ่ม กะลา เอง วันนี้ได้เดินทางมาคนเดียวที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ เดินขึ้นไปชั้น2 เพื่อเตรียมหย่าแล้ว

โดยหนุ่มกะลา บอกว่าเรียบร้อยดีแล้ว แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์ต่อนั่นเอง และทางจูนเองก็ได้บอกว่า เรียบร้อยดีแล้วเหมือน ความรู้สึกตอนนี้ก็หวิดๆ อยู่ด้วยกันมานาน ตอนนี้ก็เป็นพ่อแม่ก็พอแล้ว เป็นเพื่อนกันค่ะ

มีโมเมนต์น่ารักให้เห็นกลางสงสัมภาษณ์อีกแล้ว สำหรับคู่สามี-ภรรยา เป๊ก สัณณ์ชัย และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ ซึ่งครั้งนี้นอกจากจะฝากภาพยนตร์ “ผาดำ คำไอ่” ที่หนุ่ม เป๊ก รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างแล้ว ยังออกปากแซวภรรยาที่ไม่ยอมปลดบล็อกไอจีซักที หลังบล็อกเมื่อหลายเดือนก่อนเพราะหนุ่มเป๊กมาคอมเมนต์ตามหาลูกสาวกลางไอจีของภรรยา ทำให้สาว ธัญญ่า รู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นเลยตัดสินใจบล็อกไปในตอนนั้น

ยิ่งช่วงนี้สาว ธัญญ่า ลงภาพออกกำลังกายกับรูปร่างที่เซี๊ยะขึ้น หนุ่ม เป๊ก บอกว่าได้เห็นแล้ว พร้อมออกอาการหวงพร้อมพูดว่า อย่าให้มันมากไปกว่านี้แล้วกัน ก่อนจะออกปากว่าพูดเล่น มันเห็นอยู่แล้วไม่ได้ตื่นเต้นอะไร สำหรับฉายาใหม่ที่สื่อมอบให้อย่าง “ธัญญ่าท่ายาก” หนุ่ม เป๊ก เผยว่าเดี๋ยวไปลองกันไหม ท่ายาก ๆ เนี่ย ด้าน ธัญญ่า พูดเสริมว่าจริง ๆ ไม่ค่อยแซวเล่นกันแบบนี้ วัน ๆ ไม่ค่อยได้คุยกัน เดี๋ยวตีกัน อันนี้แค่โชว์ ถามถึงการหวงภรรยา เป๊ก บอกต้องหวงอยู่แล้ว หวงมาแต่ไหนแต่ไร ขณะที่ ธัญญ่า พูดเสริมว่า ชอบหวงอะไรไร้สาระ เราสวยเราเข้าใจ (หัวเราะ)

ส่วนที่ทั้งคู่ทำธุรกิจเยอะและลงทุนเดินสำรวจตลาดด้วยตัวเองจนคนสงสัยกันว่าร้อนเงินหรือเปล่า สาว ธัญญ่า ออกปากว่าร้อนเงินมาก งานนี้หนุ่ม เป๊ก รีบแก้ต่างว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นธุรกิจที่ทั้งคู่ถนัด เป๊กขายอาหาร ธัญญ่าเป็นอาหารเสริม การลงพื้นที่เองทำให้เรารู้ว่าแต่ละที่เป็นอย่างไร .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

หลายคนต่างพากันตกใจเมื่ออยู่ดีๆ นักแสดงหนุ่มหล่อ ทู-สิราษฎร์ อินทรโชติ ได้เผยแพร่โพสต์ว่าเขาได้เลิกกับแฟนสาวนักแสดงสุดฮอตอย่าง หญิง-อาณดา ประกอบกิจ แล้ว

โดยทางด้าน หนุ่มทู ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางไอจีส่วนตัว @pratoonarukz ระบุว่า “If you don’t know the story don’t talk about it… Or I just sue you”

และยังบอกอีกว่า “เลิกกันด้วยเหตุผล ส่วนตัว ที่หมายความว่าไม่ได้มีคนอื่นมาเกี่ยวข้องอะนะ ฉนั้นใครที่ไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องพูดนะครับ สำหรับใครพูดไปแล้ว แอบบอกว่าแคปไว้แล้วนะครับ”

กลายเป็น “เหนิงเพื่อนเกล” ไปแล้ว สำหรับนักแสดงสาวสวยกินคน ต้าเหนิง กัญญาวีร์ ที่พักนี้สนิทสนมกับ น้องแอบิเกล ลูกสาวคนเล็กของคุณแม่ซุปตาร์ ชมพู่ อารยา ที่เจอกันเมื่อไหร่ จะมีโมเมนต์น่ารัก ๆ รวมถึงมีมฮา ๆ มาให้แฟนคลับเอ็นดูตลอด

งานนี้ ต้าเหนิง เล่าให้ว่า ปกติถ้าวันไหนไม่ทำงานก็จะไปบ้านแม่ชม ขอไปอยู่ที่นั่นเลย เพราะเป็นคนชอบเด็กอยู่แล้ว ปกติก็ไปเล่นกับแฝดพี่อย่าง น้องสายฟ้า และ น้องพายุ อยู่แล้ว ครั้งนี้มี น้องแอบิเกล เพิ่มมาอีกคน พอเป็นเด็กผู้หญิงพูดเก่ง บวกกับรูปร่างที่อวบด้วยก็ดูเลยน่ารักไปอีก น้องไม่เอาแต่ใจ แม่ชมเลยไม่ได้ห้ามสปอยน้องเป็นพิเศษ คิดว่าต่างคนต่างติดกันและกัน เพราะถ้าเจ๊เกล คิดถึงต้าเหนิง ก็จะให้พี่เลี้ยงอย่างป้าเจี๊ยบโทรมาหา ตอนนี้คิดว่าเป็นนัมเบอร์วัน แซงพี่ชายสุดที่รักของเจ๊เกลอย่าง กัปตัน ชลธร ไปแล้ว เพราะมีเวลาเจอน้องมากกว่าต้าเหนิง เผยต่อว่า โมเมนต์ความน่ารักที่ลงผ่านโซเชียลให้ทุกคนได้เห็นคือลงน้อยแล้ว เพราะมีความน่ารักที่อยู่ในโทรศัพท์อีกเยอะ ด้วยความที่น้องเกลเป็นมีมด้วยตัวเอง ฉะนั้นก็จะมีมีมออกมาตลอด เพราะน้องเรียนรู้เร็ว จะจำคำพูดจากเรา มีร้องเพลง มีโชว์มาให้อยู่ตลอด แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องลิขสิทธิ์เพราะเขาหลบได้ เวลาเจอกัน น้องช่วยฮีลเราเวลาที่เหนื่อย ๆ จากการทำงาน แม้น้องเกลจะน่ารักแต่ต้าเหนิงก็ออกตัวว่ายังไม่คิดมีของตัวเอง ขอเล่นกับน้อง ๆ ไปก่อนส่วนวันเกิดครบรอบ 28 ปีของต้าเหนิงเมื่อวันที่ 21 ก.ค.67 ที่ผ่านมา เจ้าของวันเกิดแฮปปี้สุด ๆ เพราะแม่ชมยกเค้กมาเซอร์ไพรส์ พร้อมกับพี่สายฟ้า – พี่พายุ และน้องแอบิเกล เด็ก ๆ จะรอเป่าเค้ก น้องเกล อวยพร “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ด้วย ส่วนการฉลองวันเกิดกับแฟนหนุ่มปีนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ได้มีของขวัญให้ตัวเอง นอนเฉย ๆ อยู่บ้าน แต่ก็คิดว่าไวมาก แป๊บ ๆ จะ 30 แล้ว ต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ นอนให้เยอะขึ้น กินให้ดีขึ้น เพราะรู้สึกว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงไป.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ถอดสายน้ำเกลือมาร่วมงานของจริง ตลกไหปลาร้าฝังเพชร “หม่ำ จ๊กมก” หลังก่อนหน้านี้แอดมิตเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ก่อนที่อาการจะดีขึ้นจนตัดสินใจเดินทางมาร่วมงานรอบสื่อภาพยนตร์เรื่อง ผาดำ คำไอ่ ที่เจ้าตัวรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ได้ในที่สุด

โดยภาพยนตร์ ผาดำ คำไอ่ เป็นเรื่องราวโรแมนติกคอมเมดี้ จนได้ฉายา ซินเดอเรลล่า เวอร์ชันอีสาน ถ่ายทอดวัฒนธรรมอีสานเมื่อหลายร้อยปีก่อนใส่รายละเอียดด้วยภาษาที่เป็นการประยุกต์ขึ้นจากรากฐานภาษาอีสานดั้งเดิมให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น นำแสดงโดย ตูมตาม ยุทธนา เตรียมเข้าฉาย 25 กรกฎาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

ภายในงานทันทีที่ให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องภาพยนตร์แล้ว หม่ำ จ๊กมก มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด จึงขออนุญาตไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ในเรื่องอื่น ๆ แต่ไม่วายปล่อยมุกตลกด้วยการโชว์รอยเจาะสายน้ำเกลือพร้อมทำท่าไอเลิฟยู พร้อมเผยว่าตอนนี้ มด ภรรยา ได้ติดไข้หวัดใหญ่จากเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว และกำลังแอดมิตอยู่โรงพยาบาลในตอนนี้ พร้อมแซวอยากให้ภรรยาอยู่โรงพยาบาลนาน ๆ เป็นเดือนยิ่งดีเจ้าตัวจะได้สบายหู.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

“บุ๋ม ปนัดดา” ทุ่มเงินเก็บซื้อที่ดินสร้างมูลนิธิช่วยเหลือประชาชน แล้วทิ้งให้เป็นสมบัติของชาติ เผยจุดเปลี่ยนชีวิตทำงานเพื่อสังคมเพราะลูก

นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถที่มีความสุขในการต่อสู้เพื่อสังคม “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” มาเปิดใจในรายการ WOODY FM เล่าจุดเปลี่ยนชีวิตที่ผันตัวทำงานเพื่อสังคมจนก่อได้ตั้งมูลนิธิองค์กรทำดี

ปัจจุบันขอใช้ชีวิตคู่อย่างเรียบง่าย เผยล่าสุดทุ่มเงินเก็บซื้อที่ดินช่วยคนอื่น สร้างมูลนิธิให้เป็นสมบัติของประเทศ

จุดเปลี่ยนจากเดิมที่ทำงานเพื่อตัวเอง เปลี่ยนเป็นทำงานเพื่อผู้อื่น คือตอนไหน ?

บุ๋ม ปนัดดา : จุดเปลี่ยนคือปี 2557 คือก่อนหน้านั้นก็ทำงานในมุมของนางงามคนหนึ่งที่ช่วยงานการกุศลหรือะไรอยู่แล้ว คือในปี 2557 มีข่าวข่มขื่นบนรถไฟแล้วหันไปมองลูกสาวตัวเองแล้วก็คิดว่าทำไมมีเรื่องร้ายแรงแบบนี้ได้ แล้วอนาคตของลูกสาวจะมีใครปกป้องเขาได้

ถ้าวันหนึ่งเราไม่อยู่ คนที่เป็นแม่อย่างเราจะสามารถทำอะไรเพื่อปกป้องอนาคตเขาได้ ก็เลยหันมาดูกฎหมาย ศึกษาจริงจังทุกอย่างเลย ชีวิตเปลี่ยนเลย ก็เลยมาดูว่ากฎหมายเกี่ยวกับผู้หญิงไม่มีเปลี่ยนมา 30 ปี

ซึ่งก่อนหน้าบุ๋มไม่ใช่ว่าไม่มีใครขอเปลี่ยนนะ เขาไปประท้วงหน้าสภา คือเขาพยายามทำแล้ว เพียงแต่ว่าในมุมของบุ๋มวันนั้นเรามีพลังของสื่อ ความเป็นดาราด้วยก็เลยทำให้พลังมันแรงมาก กลายเป็นว่าน่าจะเป็นดาราคนแรกเลยมั้งที่ทำเรื่องเปลี่ยนกฎหมาย ก็เลยมีเรื่องอื่นๆ ตามมา ความช่วยเหลือจากผู้หญิงด้วยกัน เรื่องของคดีความอะไรอย่างนี้เข้ามา

กลายเป็นว่าเราเริ่มอินกับมัน แล้วรู้สึกดีที่ได้ช่วย รู้สึกดีที่เป็นพลังให้พวกเขา รู้สึกดีที่บางทีเขาแจ้งความมาเป็นปีแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย กลับกลายเป็นว่าแสงสว่างที่เรามี หรือเสียงดังที่เรามีมันกลายเป็นพลังให้กับเขา หาความยุติธรรมเพิ่มเติมให้กับเขา รู้สึกดีจัง เราเลยต้องทำในวันที่ฉันยังดังอยู่ เลยกลายเป็นมูลนิธิที่ใหญ่ระดับประเทศ ชื่อว่า มูลนิธิองค์กรทำดี

ใช้เวลากี่เปอร์เซ็นต์ของชีวิตเรา ?

บุ๋ม ปนัดดา : ตอนนี้ 70% เลยค่ะ เพราะว่าตื่นมาหรือขณะที่นอน มันกลายเป็นว่าเคสวันนี้วิ่งรถกี่คัน ไปต่างจังหวัดรงพยาบาลขอความร่วมมือมา หรือมีเคสขมขื่นจัดการยังไง มันหลายอย่างมากเลย

เวลาเอาเรื่องของชาวบ้านมาใส่สมองของเรา มีวิธีระบายยังไงได้บ้าง เพราะคุณก็อินกับทุกเรื่อง ?

บุ๋ม ปนัดดา : อินจริงแต่ตัดได้เร็วค่ะ เพราะว่าถ้าตัดไม่เร็วนะ ซึมเคร้าแน่นอนค่ะ เหมือนน้องหลายๆ คนที่เคยเข้ามาช่วย พอรับฟังเรื่องราวเยอะๆตัดไม่ได้ แม่หนูขอหยุดนะ มีเยอะเลย แต่สำหรับตัวเรากลับกลายเป็นว่าตัดได้ง่ายมาก เพราะว่าเรารู้สึกว่าทุกเคสสำคัญหมด

เราแสดงความเสียใจนะแต่ชีวิตยังต้อง Go On ยังต้องมีเคสอื่นที่เราต้องมีสติในการดูแลรักษาเขา และดูแลครอบครัวของเราเองด้วย มองว่าเรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา

ทำไมคุณถึงกลายเป็นคนที่เรียบง่าย ทั้งที่สมัยก่อนต้องเป็นข่าว ?

บุ๋ม ปนัดดา : สมัยก่อนหรือสมัยนี้บางทีโพสต์อะไรก็เป็นข่าวแล้ว เพียงแต่ว่าพอเป็นเรื่องของคุณก๊อต (สามี) เขาบอกว่าเขาเป็นคนนอกวงการบันเทิง ไม่อยากอยู่ในแสงสีเท่าไหร่ ขอใช้ชีวิตเงียบๆ ขอเลี้ยงลูกด้วยความสงบ เราก็เข้าใจ มันขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ว่าเขาอยากอยู่ในแสงสีมากแค่ไหน ไม่ใช่ว่าไม่มีรายการเชิญเขาไปนะ มีเยอะมากเลย

น้องอเล็กซ์ เป็นยังไงบ้าง ?

บุ๋ม ปนัดดา : ซนค่ะ พลังงานเยอะมาก ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมีลูกคนหนึ่งที่สามารถวิ่งได้ทั้งวัน (หัวเราะ) กลายเป็นว่าตอนนี้ต้องมีพี่เลี้ยงถึง 2 คน ลูกอยู่กับคุณพ่อมากกว่าแม่ เพราะคุณพ่อเขาขอค่ะ ขอเป็นคนเลี้ยงเอง เพราะเขาฝันมานานมากแล้วว่าอยากมีลูกชาย อยากเลี้ยงแบบสไตล์ที่เขาเล่น

ส่วน น้องอันดา เป็นสายเรียนเลยตอนนี้ ?

บุ๋ม ปนัดดา : ค่ะ ตอนนี้เรียนแพทย์ปี 1

ที่ผ่านมาบุ๋มทำเพื่อคนอื่นเยอะมาก เคยให้อะไรกับตัวเองไหม ?

บุ๋ม ปนัดดา : พอเอาจริงๆ ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองอยากได้อะไรกับชีวิต เคยนั่งมองนาฬิกาหรูๆ นั่งมองแบรนด์เนม สวยนะยากซื้อ แต่เรากลับรู้สึกว่าเอาตังค์ไปช่วยเด็กดีกว่า ลูกบุญธรรมยังต้องเรียน มูลนิธิยังต้องสร้าง เอาไปตรงนั้นก่อนคิดอย่างนี้ เดี๋ยวของฉันไว้ทีหลัง

คือเหตุผลหนึ่งที่คุณสามีที่เขามาขอเราแต่งงาน เพราะเขาบอกว่าชีวิตบุ๋มเหมือนทำเพื่อคนอื่นเยอะมากเลย เพื่อครอบครัวของบุ๋มเอง เพื่อคนรอบข้าง เพื่อลูกน้อง เพื่อมูลนิธิ และเพื่อประชาชนอีก แต่ไม่มีอะไรเลยที่บุ๋มเคยพูดว่าจะทำอะไรเพื่อตัวเอง แต่มาวันนี้บุ๋มมีแล้วนะ

ทีมงานบอกว่าวันนี้บุ๋มจะประกาศให้พี่น้องชาวไทยรับทราบเกี่ยวกับเรื่องอนาคตที่วางเอาไว้และตัดสินใจว่าจะทำ ?

บุ๋ม ปนัดดา : บุ๋มเพิ่งเอาเงินเก็บก้อนที่เก็บเอาไว้ไปซื้อที่ดินตรงรังสิตคลอง 8 จะทำมูลนิธิองค์กรทำดี แบบที่มี Shelter สำหรับผู้หญิง มีโรงทาน มีสวนปฏิบัติธรรม แล้วก็เป็นมูลนิธิที่ใช้วิ่งรถช่วยเหลือประชาชน จะทำตรงนั้นแล้วก็ทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของประเทศชาติค่ะ

ชมย้อนหลัง

บอกเลยว่าทั้งสวยและดูแพงมากๆเลยจ้า สำหรับ ศรีริต้า และ ไฮโซกรณ์ ล่าสุดทั้งสองคนได้ควงแขนกันออกงาน

ล่าสุดริต้าได้โพสต์ภาพขณะออกงานร่วมกับสามี พร้อมเขียนแคปชั่นว่า” 👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻 Madame Butterfly 🦋 สวยงามจับใจ!” มาชมภาพเซตนี้กันเถอะค่ะ 🌈✨

น้องสาวผอ.เหมียวขอความเป็นธรรม พี่สาวไม่ใช่คนเลวร้าย มีผัวหลายคนเพราะอาภัพรักถูกนอกใจตลอด พอเจอรักแท้ก็กลับมาถูกฆ่าตาย

จากกรณีเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 22 กรกฏาคม 2567 เกิดเหตุ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดบุกยิงอดีตภรรยา สามีใหม่ที่เป็นทนายความ และครอบครัวเสียชีวิต จำนวน 4 ราย ที่บ้านหลังหนึ่งในบ้านพัฒนา หมู่ 8 ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นได้หลบหนีไปก่อนพบยิงตัวตายเสียชีวิตที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ บรรยากาศการอภิธรรมศพคืนแรกของนางสาวดวงเดือน อายุ 41 ปี หรือ ผอ.เหมียว นางหยกมณีอายุ 66 ปี แม่ของผอ.เหมียว และนายบุญเลื่อน อายุ 61 ปี น้าชายของผอ.เหมียว ที่วัดบ้านหอย ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ทบรรยากาศความเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ด้าน น้องสาว ผอ.เหมียว เปิดเผยว่า จากที่มีกระแสโจมตีผอ.เหมียวในหลายประเด็น ตนขอชี้แจงว่าในการที่มีแฟน 4 คนนั้น คนแรกที่ผอ.เหมียวคบด้วยก็ถูกฝ่ายชายนอกใจจึงได้เลิกรากันไป คนที่สองก็โดนนอกใจเช่นกันและเลิกรากันไปในที่สุด ส่วนคนที่สามผอ.เขี้ยวคนที่ก่อเหตุ เป็นเรื่องของความรุนแรง หึงหวง ความหวาดระแวงของผู้ก่อเหตุ มันเลยเป็นสาเหตุเกิดความขัดแย้ง โดยในช่วงที่ผอ.เหมียวคบกับผู้ก่อเหตุนั้น จะถูกส่งข้อความด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายทุกวัน และบางครั้งถึงขนาดตบตีทำร้ายร่างกาย หนักสุดถึงขั้นเคยใช้อาวุธปืนขู่ว่าถ้าจะเลิกกันก็คือต้องตาย ผอ.เหมียวพยายามเลิกกับผู้ก่อเหตุหลายครั้ง แต่ก็ถูกตามรังควานถึงที่ทำงาน  แจกใบปลิวโจมตีทั่วเมือง ซึ่งทางครอบครัวของพวกตนก็ต้องปกป้องตัวเอง จึงได้มีการฟ้องร้องกันในที่สุด

จนกระทั่งผอ.เหมียว ได้มารู้จักกับทนายหรือแฟนคนที่ 4 แล้วแต่งงานกัน แต่ในตอนนั้นได้เลิกรากับผู้ก่อเหตุไปนานแล้ว

ในส่วนของเรื่องบ้านที่ดินตรงที่สร้างบ้านนั้นเป็นของพ่อแม่พวกตน แต่ในตอนนั้นผู้ก่อเหตุและผอ.เหมียว ได้ตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ผู้ชายจึงมาสร้างบ้านตรงนี้ ซึ่งเงินในการสร้างบ้านก็เป็นเงินของทั้งสองคนร่วมกัน ไม่ใช่เงินของผู้ก่อเหตุคนเดียวแต่อย่างใด จนกระทั่งมีปัญหาเกิดการฟ้องร้องกัน ซึ่งทางเราฟ้องร้องผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาท ส่วนผู้ก่อเหตุได้ฟ้องร้องทาง ผอ.เหมียวในเรื่องของการยักยอกทรัพย์สิน ซึ่งทางเราเคยเสนอเงินให้แล้ว แต่ทางผู้ก่อเหตุไม่รับ พร้อมบอกว่าไม่เอาเงิน แต่จะเอาชีวิตแทน ซึ่งตนอยากจะบอกว่าพี่สาวของตนไม่ใช่คนเลวร้าย การพี่สาวของตนมีสามีหลายคน มันใม่ใช่พี่สาวของตนไปมีชู้ แต่เขาล้มเหลวในความรักหลายๆครั้งที่ไม่เคยสมหวังแ ต่พอเขาจะมีรักแท้เขาก็ต้องมาจบชีวิตแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาทำความดีมาตลอดให้กับสังคม ซึ่งอยากให้ความเป็นธรรมกับพี่สาวของตนด้วย.