รายการคุยแซ่บShow วันนี้มาพร้อมกับ อิงฟ้า วราหะ นางงามมหาชน ที่จะมาตอบกระแสดราม่าบอสณวัฒน์สั่งปลดนางงาม ลงโทษหนักถึงขั้นห้ามเหยียบบริษัทมิสแกรนด์ !
ขออนุญาตถามเรื่องการปลดนางงามมิสแกรนด์ เกิดอะไรขึ้น ?
อิงฟ้า : มันเริ่มจากการที่เหมือนกับว่าน้องเขาไลฟ์สด ต้องบอกว่าตัวน้องเองเขาเป็นคนที่มีกลุ่มที่เป็นแฟนคลับที่เป็นนางงามค่อนข้างเยอะมาก มันก็จะมีนางงามหลากหลายเวทีที่เป็นแฟนคลับน้อง ก็จะมีคำถามที่ถามเข้ามาในไลฟ์ แล้วตัวน้องเองก็คงจะเป็นฟีลว่าไม่ได้คิดเยอะกับการตอบ ก็ตอบแบบจริงใจของฉันไป กินไป ตอบไป เป็นฟีลแบบเม้ามอย ทีนี้คำตอบที่ออกมาตัวหนูเองได้ดูไลฟ์สดน้องย้อนหลัง แต่ว่าลึกๆในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้บอสเห็นนะเพราะถ้าเห็นรู้ว่าน้อยใจแน่ๆ ก็ได้เห็นจริงๆ
แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็น เพราะว่าคลิปนั้นกลายเป็นไวรัล ?
อิงฟ้า : พอเห็นแล้วมันก็เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ บอสก็ค่อนข้างน้อยใจ ก็มีการโทรมา
อิงฟ้าให้กำลังใจบอสยังไงบ้าง ?
อิงฟ้า : ตอนที่เขาโทรมาเป็นฟีลว่าไม่เข้าใจว่าน้องเขาต้องการอะไร ทำไมถึงพูดแบบนั้น พี่น้อยใจนะจะเปรียบเทียบทำไม
ประโยคไหนที่ทำให้พี่ณวัฒน์รู้สึกน้อยใจมากที่สุด ?
อิงฟ้า : น่าจะเป็นการเปรียบเทียบในมุมมองของเขาว่าเวทีนี้จะเด่นเรื่องนี้นะ ส่วนเวทีเราเป็นแบบนี้นะ คนฟังก็จะรู้สึกว่ามันดูเป็นการเปรียบเทียบด้านเด่นหรือด้านที่ดีไม่เหมือนกัน
ฟีลพี่ณวัฒน์เขารู้สึกว่าเหมือนเป็นการด้อยค่าเวทีมิสแกรนด์มั้ย ?
อิงฟ้า : ใช่ ก็จะมีประโยคนึงที่น่าจะเป็นแผลในใจเขาเลยก็คือ เวทีเราก็จอยๆ สนุกๆ กับอีกเวทีนึงต้องมีแอตติจูด สิ่งที่น้องเขาพูดนะคะ เป็นฟีลต้องมีความคิด ความฉลาด แต่เวทีเราจะเป็นฟีลจอยๆ เขาก็เลยรู้สึกว่าไม่ใช่มันจะจอยอย่างเดียว มันก็ต้องมีความฉลาดด้วย คนที่จะขายของได้หรือคนที่จะมาอยู่ตรงนี้ได้แล้วสร้างรายได้ได้มันก็ต้องมีความรู้ ความสามารถเช่นเดียวกัน
แล้วน้ำเสียงของบอสโกรธหรือน้อยใจมากกว่ากัน ?
อิงฟ้า : น้อยใจค่ะ ฟีลถอนหายใจ เห้อ
เหมือนไปจุกกับสิ่งที่เขารู้สึกที่คนชอบไปพูดเรื่องนั้น ?
อิงฟ้า : มันเป็นแผลในใจเขา อย่างที่บอกว่าเวทีมิสแกรนด์คือเขาต่อสู้ด้วยตัวของเขาเองมาโดยตลอดกับคำสบประมาทกับหลายๆคำที่คนข้างนอกพูดหรือว่าแฟนนางงามต่างบริบทที่มองมา คนอื่นพูดเขาคงไม่รู้สึกนอยด์เท่ากับลูกของเขาในองค์กรเป็นคนพูดเอง
ตอนที่บอกว่าไปย้อนดูไลฟ์แล้วรู้สึกในใจว่าอย่าให้บอสเห็นนะ ได้มีโอกาสยกหูหาน้องมั้ย ?
อิงฟ้า : ยังไม่ได้มีการคุยกันส่วนตัวค่ะ แต่คิดว่าถ้าเจอน้องเขาที่หน้างานก็คงจะเข้าไปคุยว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง คือตัวน้องเองลึกๆก็คงไม่ได้ตั้งใจหรอก เราก็เป็นกำลังใจ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นคิดว่าไม่มีใครในองค์กรตอกย้ำน้องหรอกเพียงแต่ว่าน้องก็ต้องเรียนรู้บทเรียนที่มันเกิดขึ้น เพราะทุกคนเคยผ่านสตอรี่ส้มมาก่อน ตัวหนูเองหนูก็เคยผ่านหรือผ่านการโดนว่า การโดนเตือนมาก่อน เพราะฉะนั้นก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้น้องผ่านไปให้ได้ เรียนรู้สิ่งที่มันเกิดขึ้น
แล้วให้กำลังใจบอสยังไงบ้าง ?
อิงฟ้า : จริงๆหนูแทบไม่ได้ปลอบอะไรเลย เข้าใจกับความรู้สึกของเขา น้องก็คงไม่ได้ตั้งใจ
แล้วตอนนี้มีแววใจอ่อนบ้างมั้ย ?
อิงฟ้า : ต้องใช้เวลาค่ะ ทุกคนเลยค่ะ ไม่ใช่แค่กับตัวน้อง อย่างหนูเวลามีหลังบ้านทะเลาะกัน นอยด์กัน น้อยใจกัน ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน สุดท้ายหนูก็ไม่เคยเห็นเขาตัดใครได้จริงๆนะ
สุดท้ายก็เหมือนคนเป็นแม่ที่ลูกๆในองค์กรไม่เข้าใจองค์กรที่ควรจะเป็น ?
อิงฟ้า : ถ้าถามว่าสิ่งที่น้องพูดผิดมั้ย ไม่ได้ผิดเลย แต่แค่อาจจะในมุมมองของคนที่อยู่ในองค์กรเขารู้สึกว่าจุดที่น้องยืนอยู่ไม่เหมาะสมที่จะพูดแบบนั้น
ในมุมของน้องเองอาจจะไม่ได้ตั้งใจ ในมุมของพี่ณัวฒน์ทำเกินไปหรือเปล่า สร้างกระแสมั้ย ?
อิงฟ้า : ถ้าในมุมว่าเป็นการสร้างกระแสมั้ย น่าจะคงไม่ค่ะ แต่ที่ทราบก็คือก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องราวมากมายในองค์กรเช่นเดียวกัน เวลาที่จะตัดสินอะไรซักอย่างเคยเห็นว่ามีโต๊ะผู้บริหารเขานั่งกันตั้งแต่มิสแกรนด์เราเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็เหมือนจะมีคณะกรรมการมากมายเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งหนูคิดว่าในการที่เขาจะออกกฎอะไรออกมาหลังจากนี้น่าจะฟังจากผลรวมด้วย
แสดงว่าเรื่องการตัดสินใจปลดไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบอสแค่คนเดียว ยังมีคณะกรรมการบริหารอีกหลายคน ?
อิงฟ้า : ใช่ค่ะ