แน็ก ชาลี ไลฟ์มีรอยยิ้มอีกครั้ง ลั่นจะพยายามกลับมา หลายอย่างก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เผยเจอเพื่อนดาราบางคนจำกันแทบไม่ได้ มานั่งไลฟ์กัน ทางออกหางานยาก ส่งกำลังใจเชียงราย

วันที่ 12 ก.ย.67 แน็ก ชาลี กลับมาไลฟ์เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาพูดคุยกับแฟนๆ กลับมาไลฟ์ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ตอนหนึ่งก็พูดถึงเรื่องน้ำท่วมว่า เป็นกำลังใจให้ทุกๆที่ ช่วงนี้ฝนตกหนัก ส่งใจไปเชียงรายด้วย เป็นกำลังใจหลายๆที่ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี

แน็ก ยังบอกว่า “จะพยายามมาเจอเพื่อนๆทุกวัน หลายๆ อย่างมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะหยุดงานมา 2 เดือนแล้ว พอไม่ใช่ตัวคนเดียว ปัญหามาหลายๆ ทาง ก็จะพยายามกลับมาทำงาน ให้เร็วที่สุด ตอนนี้ทำโน่นทำนี่รอบๆบ้านไปก่อน”

“ไปไถดูห้องโน้นห้องนี้ เห็นมีทั้งตีกันทะเลาะกัน เวลาผ่านไปมาย้อนดูแม่xเอ้ยเสียเวลาชิบเป๋ง กูทำอะไรอยู่ตอนนั้น นู่นนี่ ”

แน็ก ยังพูดถึงเพื่อนๆ นักแสดงว่า “ช่วงนี้ที่ละครไม่กล้าลงทุน ไม่ว่าช่องไหนๆ หลายช่อง ผลที่ตามมา นักแสดงหางานทำยากมาก โอกาสอาทิตย์ที่ผ่านมาและอีกอาทิตย์หนึ่ง เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่นักแสดงอยากมาลองพูดคุย”

“เห็นหลายคนเข้ามา แปลกดี สนุกๆ ได้เจอเพื่อนเก่า บางคนจำกันแทบไม่ได้ ที่ไม่ได้เจอกัน นั่งไลฟ์กัน เป็นทางออกได้ทำงาน ไม่เกินอาทิตย์นี้ได้เจอคนใหม่ๆ อีกแบบถล่มทลาย ”

แน็ก ชาลี ไลฟ์

อีกหนึ่งความสำเร็จของ “ปู ไปรยา” นักแสดงชาวไทยมากฝีมือกับเส้นทางวงการภาพยนตร์ระดับโลก เปิดตัวนักแสดงนำภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Eyes in the Trees” ประกบนักแสดงระดับตำนานรางวัลออสการ์

โดยล่าสุดวันนี้ 27 ส.ค. 2567 “ปู ไปรยา” โพสต์ไอจีภาพข่าวที่สำนักข่าวต่างประเทศ variety เผยข่าวเปิดตัวนักแสดงนำภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Eyes in the Trees” หนังระทึกขวัญแนวไซไฟ ที่กำลังจะเปิดตัวก่อนเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต

ประกบนักแสดงระดับตำนานรางวัลออสการ์ 2 สมัยอย่าง “แอนโทนี่ ฮอปกิ้นส์” (Anthony Hopkins) และต่อพ่อตัวแม่อย่าง “โจนาธาน รีห์ส เมเยอร์ส” (Jonathan Rhys Meyers), “แอชลีย์ กรีน” (Ashley Greene) และ “โธมัส เครตช์แมนน์” (Thomas Kretschmann)

ซึ่ง “ปู ไปรยา” เผยความรู้สึกว่า “I’m so grateful and excited!!” งานนี้แฟนคลับและคนบันเทิงแห่คอมเมนต์แสดงความยินดีล้นหลาม

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Eyes in the Trees” การดัดแปลงนวนิยายของ H.G. Wells เรื่อง “The Island of Doctor Moreau” เป็นเรื่องราวของ ทีมข่าวที่เริ่มต้นการเดินทางเข้าไปในป่าอันโดดเดี่ยว เพียงเพื่อพบว่าการเดินทางของพวกเขากลายเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดด้วย

โดยในหนังเรื่องนี้จะมีการจำลองโลเคชั่นจากชายฝั่งของประเทศไทย ที่ใจกลางของ Monkey Ko หรือ ชาวบ้านรู้จักในชื่อ ‘เกาะแห่งความตาย’

เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยข่าวลือเรื่องการรักษาพยาบาลของรัฐบาลที่ถูกลืม การทดลองและการดัดแปลงพันธุกรรมทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่พวกเขาพบบนเกาะนั้นเกินความคาดหมายอันแปลกประหลาด ซึ่งเป็นผลมาจากฝันร้ายของพวกเขา การค้นหาคำตอบได้เปลี่ยนไปเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และพวกเขาพยายามขัดขวางแผนการถดถอยมนุษยชาติ ที่กำลังจะฆ่าประชากรมนุษย์ส่วนใหญ่ของโลก

หนังไซไฟระทึกขวัญเรื่องนี้ กำกับโดย “ทิโมธี วูดวาร์ด จูเนียร์” เจ้าของรางวัล Emmy Award เขียนบทโดย บี. แฮร์ริสัน สมิธ, ไมค์ แมนนิ่ง และ โดมินิก เบิร์น

ชมพู่ อารยา เผยพรีเซ็นเตอร์อยากร่วมงาน น้องเกล หลายตัว เลือกให้เหมาะกับลูก เข้าใจธรรมชาติเด็ก มีข้อจำกัด ไม่บังคับ น้องเกลแจกยิ้ม มีจังหวะงอแงบ้าง

เรียกว่านาทีนี้ น้องเกล ลูกสาวคนเล็กของ ชมพู่ อารยา กลายเป็นซุปตาร์วัยจิ๋ว ตกหัวใจแม่ๆ แฟนคลับเข้าด้อมกันหมด เพราะความน่ารักสดใสไปไหนก็แจกรอยยิ้มธุรกิจให้กับทุกคนที่เจอ ซึ่งความฮอตของ น้องเกล ทำให้มีผลิตภัณฑ์สินค้าหลายแบรนด์ ต่างอยากคว้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ งานนี้หลายคนเลยแซวค่าตัวลูกสาวจะเท่ากับแม่ชมมั้ย

โดยวันนี้ (30 ส.ค.67) มีโอกาสเจอ ชมพู่ ที่มาร่วมงาน L’Oreal Paris Elseve Extraordinary Oil ที่ เกษรอัมรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการรับงานให้เหมาะสมกับ น้องเกล เพราะเข้าใจธรรมชาติของเด็ก พร้อมเผยที่มารอยยิ้มธุรกิจของ น้องเกล ไปไหนใครก็หลงรัก

ได้ยินว่าลูกสาว “น้องเกล” กำลังจะมีพรีเซ็นเตอร์ตัวใหม่? “มีคุยกันมาเรื่อยๆ ก็ตกลงกันได้บ้างไม่ได้บ้าง จริงๆ ก็อยากให้รับหมดค่ะ”

เลือกสินค้าอย่างไรให้เหมาะกับน้อง? “เด็ก 2 ขวบกว่าเนอะ ก็มีข้อจำกัดประมาณหนึ่งว่าอะไรได้ อะไรทำไม่ได้ ที่ไม่ได้แน่ๆ คือทำงานดึก เพราะเขาจะง่วงแล้วจะไม่ค่อยน่ารักแล้วอาจจะไม่ประทับใจ”

น้องเกล โปรยยิ้มให้กับทุกคน?​บางทีก็จะมีติวไว้บ้าง แต่ว่าจริงๆ จังหวะนรกของเด็กก็จะมีบ้าง บางคนก็อาจจะได้เจอบ้าง เพราะว่าเด็กก็คือเด็ก ถ้าเจอจังหวะง่วง จังหวะหิวก็จะมีบ้าง แต่เราก็พยายามบอกเขาว่าให้ยิ้มแย้มกับทุกคน แล้วแฟนคลับเขาก็จะน่ารัก ส่วนมากพอเขารู้ว่าถ้าน้องไม่พร้อมเขาก็จะไม่ถ่ายรูป นอกจากคนที่ไม่เข้าใจจริงๆ ก็ยังถ่ายทั้งที่เป็นอย่างนั้น”

เวลาที่น้องงอแง รับมือยากไหม? “เด็กมีไม่กี่เรื่องหรอกค่ะ ไม่ง่วง ก็หิว (เวลาที่มีคนมารุมเขาล่ะ?) ส่วนมากเขาก็โอเคนะ แต่เราก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นเป็นชั่วโมงๆ มันก็มีเวลาของเขา ชมใช้ชีวิตปกติ ถ้าเราต้องออกไปไหนกันก็ต้องออกพาไปด้วยกัน ไม่ได้อยากให้รู้สึกว่ามันลำบาก คือถ้าเจอก็เจอ แต่ว่าถ้าเขาไม่พร้อม ก็ไม่ได้บังคับเขา เหมือนเราเห็นเขาอารมณ์ไม่ดี ชมก็ไม่ได้ไปบังคับให้เขาต้องยิ้ม เราก็เข้าใจเด็ก เราเองเป็นผู้ใหญ่มันก็มีวันที่เราไม่พร้อมเหมือนกัน วันไหนที่เขาอารมณ์ดีก็จะสอนให้เขาไหว้ ยิ้มแย้ม น่ารัก”

พี่พายุกับพี่สายฟ้า ล่าสุดก็ไปถอยกีต้าร์ไฟฟ้ากันมาคนละตัว? “พอดีเขาขึ้นเยียร์ทู วิชาดนตรีเขามีให้เลือก แล้วคุณพายุเขาก็มาขอเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า คุณครูก็แนะนำมาว่าให้ไปซื้อรุ่นนี้ ก็ซื้อให้เขา”

เราเห็นแววหรือว่าเขาเลือกเอง? “เขาเลือกเอง ที่โรงเรียนเขาก็มีให้เลือกว่าอยากเลือกเล่นดนตรีอะไร เขาก็ขอเรียนอันนี้ (ว่าที่ซูเปอร์สตาร์คนต่อไป?) ต้องดูกันต่อไป เขาจะชอบนานไหม จะไปต่อไหม ด้วยวัยนี้เขาสนใจหลายอย่าง กีฬาเขาก็สนใจ ดนตรีเขาก็อยากจะเล่น เป็นวัยที่เขากำลังค้นหา ก็ปล่อยเขาไป”

หลายคนแซวค่าตัวน้องจะใกล้ๆ คุณแม่ไหม? “จริงๆ คุยกันได้ค่ะ ถ้าเป็นงานเขาคนเดียวก็รับ เด็กเขาก็จะทำอะไรได้ประมาณนึง”.

PiXXiE อยากไป Coachella “โดม จารุวัฒน์” ยินดีทำทุกอย่างพาน้องๆสู่ระดับ Global เตรียมเปิดตัวเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ 1 ในสมาชิกคือ “น้องยี่หว่า ลูกพ่อ โจ๊ก โซคูล – กลับมาปล่อยงานเพลงในรอบ8ปี

ขึ้นแท่นเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงการ T-POP ที่มาแรงสุดๆ สำหรับ 3 สาว PiXXiE ‘พิมมา-อิงโกะ-มาเบล’ จากค่าย LIT Entertainment บริหารโดย โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม (โดม เดอะสตาร์) และ มุก นิตา ชวลิต

และหลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น กับคอนเสิร์ตครั้งแรก PIXXIE Tales Concert: Welcome to PIXXIE Land ด้านแฟนๆต่างเรียกร้องให้จัดสเกลที่ใหญ่

โดย มาเบล 1 ในสมาชิก PIXXIE มาร่วมงานกาล่าภาพยนตร์ “Achilles Curse…อคิลลิสเคิร์ส เธอได้เปิดใจว่า “หลังจบคอนเสิร์ตแฮปปี้ มีความสุขมากๆ ขอบคุณทุกคนที่มาหากัน ยอมรับว่าอยากมีคอนเสิร์ตอีกครั้ง และ PiXXiE ยากไป Coachella ค่ะ”

ด้าน โดม จารุวัฒน์ ที่มาร่วมอีเวนต์นี้ด้วยเช่นกัน ก็ได้เผยกับสื่อมวลชนว่า “เรื่องที่น้องน้องอยากไป Coachella ก็เห็นพูดตลอด น้องๆพูดตลอด จริงๆเวลาที่เราไปสู่จุดหมายอะไรบางอย่างแล้วมันก็ต้องตั้งเป้าต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งหลายหลายคนอาจจะขำหลาย หลายคนอาจจะคิดว่ามันดูไกลมากนะ มันดูเกินตัว

แต่ว่าจริงๆผมว่ามันเป็นวิธีการของคนในยุคนี้แหละ ที่เราฝันเอาไว้ให้มันไกลมากๆ แล้วระหว่างทางเราพยายามทำให้มันใกล้ถึง ต่อให้มันไม่ถึงจุดหมายนั้น แต่มันก็ยังได้ไปได้ไกลกว่าเดิมมากๆ

จริงๆเป้าของเราอาจจะไม่ได้มีอะไรที่มันเป็น goal ชัดเจนแต่ในทุกๆงานที่เราทำเราทำด้วยความตั้งใจมากๆ เอาให้แฟนๆทุกคนแฮปปี้ น้องๆแฮปปี้ แล้วหลังจากนั้นผลที่ตามมามันจะเกิดจากการทุ่มเทและเต็มที่ของพวกเรามากกว่า ที่มันจะพาเราไปไหน ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเลย“

PIXXIE ไปเวทีตลาดต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสถึง Coachella เป็นไปได้ไม่ยาก?
“ก็เป็นการสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ คือไม่ใช่ว่าแนะนำให้คนแค่ในประเทศที่ได้รู้จักกับวง PIXXIE หลังจากที่ไปจีนมา มีถ่ายรายการที่จีน แล้วก็มี festival เดี๋ยวเดือนนี้ก็จะมีไปอีก เราก็ดีใจมากๆ ทุกโอกาสที่พอเข้ามาเราก็เปิดรับมาก แล้วก็พาน้องๆไป”

ระดับโกลบอลเราก็ต้องไปให้ถึง?
“จะต้อง จริงๆเพลงต่อๆไปมันก็จะถูกคิดด้วยวิธีที่มันแตกต่างจากเพลงก่อนๆมากขึ้น หรืองานภาพงานอื่นที่มันเป็นองค์ประกอบสำคัญของหนึ่งซิงเกิลของน้องๆ จากเดิมที่เราเคยคิดไว้ในจุดเริ่มต้นเป็นยังไง ตอนนี้มันก็เป็นสเต็ปที่ท้าทายทีมงานทุกคนมากขึ้นไปด้วย

แล้วเพลง PIXXIE หลังๆเองก็จะมีภาษาที่ผสมเข้ามา เป็นภาษาที่ทุกคนน่าจะเข้าใจได้มากที่สุด แต่เราก็ยังไม่ลืมความเป็นไทยอยู่ดี ยังเป็นไทยด้วยแทรกเข้าไปให้เป็นส่วนผสมที่มันยังคงลงตัว และก็ยังให้คนต่างชาติหรือคนที่ไม่ได้รู้จักเข้ามารู้จักได้มากขึ้น ยังคงอยากให้มันเป็นทT-pop ที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญมากๆของวงการบันเทิงในยุคนี้”

นอกจากนี้ โดม ยังเผยว่ากำลังปั้นเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ ชื่อวง Sugar ‘N Spice มีสมาชิก 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘ยี่หวา’ ลูกสาวคนโตของ ‘โจ๊ก โซคูล’ ที่ได้มาร่วมเดบิวต์ โดมเล่าว่า ”จริงๆ เคยเห็นความสามารถ และความเก่งของน้องในโซเชียลมาตลอดอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นก็คิดว่าน้องน่าจะเซ็นสัญญากับที่อื่นไปแล้ว ก็เลยไม่กล้าติดต่อไป”

แต่หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสเจอโจ๊กและยี่หวา ตอนที่ไปถ่ายรายการด้วยกัน ก็เลยมีโอกาสได้เข้าไปคุยเล่นกันก็ยิ่งรู้สึกชอบยี่หวามากๆ หลังจากนั้นก็เลยทักไปถามโจ๊กว่าอยากจะชวนยี่หวามาออดิชันได้ไหม ซึ่งน้องก็สนใจ ก็เลยนัดมาออดิชันกัน

พอได้เห็นตอนออดิชันก็ชื่นชอบการร้องเพลงของน้อง คิดว่าถ้าให้วางตำแหน่งในวงก็คงให้ยี่หวาอยู่ในตำแหน่ง Vocal และตอนนี้ก็ถือเป็นคนที่เด็กที่สุดของวง เพราะมีอายุแค่ 14 ปี และเตรียมเปิดตัวในเร็วๆ นี้
โดมเล่าต่อว่า พ่อโจ๊กดูตื่นเต้นกับลูกเขามากๆ เพราะเขาก็อยากให้ลูกได้ลอง ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ถามว่ามีคนมาฝากลูกๆ หลานๆ ให้เป็นศิลปินเยอะไหม ก็ยอมรับว่ามีส่งเข้ามาเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ทุกคนก็ต้องผ่านขั้นตอนการออดิชั่นเหมือนกันหมด และต้องดูที่ความสามารถเป็นหลัก และดูคนที่มีเคมีที่ตรงกับทางค่ายมากกว่า

นอกจากนี้ โดมยังได้เผยถึงผลงานเพลงใหม่ของตัวเอง กับเพลงที่ชื่อว่า รักนานๆ ซึ่งเป็นการกลับมาทำเพลงในรอบ 7-8 ปี “ที่กลับมาทำเพลงเพราะความคิดถึง และอยากให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองยังเป็นนักร้องอยู่นะ หลังจากที่ได้ไปถามเด็กๆ หลายๆ คน เขาก็บอกว่าไม่รู้ว่าโดมเป็นนักร้อง บวกกับเวลาไปอยู่หลังเวทีในพาร์ตของคนเบื้องหลัง ก็ทำให้คิดถึงบรรยากาศหน้าเวทีคอนเสิร์ตด้วย ก็เลยกลับมา”

เชื่อว่าหลายท่านรู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับ น้องไบร์ท ผู้ประกาศข่าวทางช่อง3 ที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ออกมาโพสต์ภาพในวัยเด็กซึ่งเป็นสมัยเรียนมัธยมบอกเลยว่าน่ารักมากๆโดยเจ้าตัวได้เขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า พิ่งขึ้นม.4 หมาดๆ เลยค่ะ 😆 happy children’s day นะคะ 🥳💕

แน่นอนว่าหลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปแฟนๆหลายท่านก็เข้ามาคอมเม้นเอ็นดูกันยกใหญ่ไม่ว่าจะเป็น  น่ารักมากกกกกกกก😍❤️ / น่ารักมากนะคะ รูปหน้า รอยยิ้มไม่เปลี่ยนนะคะ เป็นผู้หญิงยิ้มแบบโลกทั้งใบสดใสมากนะคะ😍 / เด็ก ส.ส.ป สวยทุกคนนน (อยู่สีแดงเหมือนพี่ไบร์ทเลย) ❤️❤️❤️ เป็นต้น

อบอุ่นสุดๆ ไปเลย สำหรับครอบครัวตัววอของพระเอกหนุ่ม เวียร์ ศุกลวัฒน์ ที่ตอนนี้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บ้านไร่ที่ต่างจังหวัดพร้อมกับ วิกกี้ พีมนต์ญา ภรรยาสุดที่รักและลูกสาวตัวน้อยน้องวิริน

และภาพน่ารักๆ ล่าสุดที่ เวียร์ ศุวัฒน์ โพสต์ลงอินสตาแกรม พร้อมกับแคปชั่นว่า “ผู้บ่าวอินดี้กับยาหยีจอมแสบของผมครับ” ภาพของพ่อลูกที่น่ารักมากๆ

โดยเฉพาะ น้องวิริน ล๔กสาวตัวน้อยจอบแสบของพ่อเวียร์ ทำหน้าตาน่ารักน่าหมั่นเขี้ยวมาก มีความเอียงคอถ่ายรูป

ลิลลี่ เหงียน เตรียมเข้าแจ้งความ หลังถูกนำรูปไปใช้แอบอ้างโฆษณาเว็บการพนัน เผยได้รับหมายเรียก คดีหมิ่นประมาทแล้ว ไม่คิดฟ้องกลับ

ลิลลี่ เหงียน ได้มีโอกาสเจอกับสื่อมวลชน จำได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตหลังถูก ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท

ลิลลี่ “วันนี้หนูมาให้กำลังใจพี่ลูกหมี ส่วนของหนูเองยอมรับชะตากรรมของตัวเองอยู่แล้ว หนูอยากเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าค่ะ”

ที่ทนายกิ่งแจ้งความไว้ มีอะไรคืบหน้าไหม?
ลิลลี่ “มีหมายเรียกมาแล้ว 1 ครั้ง”
ทนายกุ้ง “ของลิลลี่ยังไม่ได้ไป แต่ทางเราแจ้งกับตำรวจไว้แล้วว่าเราไม่ได้หลบหนีไปไหน เราทำงานอยู่ขอเคลียร์เวลา ตำรวจเข้าใจ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”

คิดจะฟ้องกลับอะไร บ้างไหม?
ลิลลี่ “พอมาคิดพิจารณาอีกที ถ้าฟ้องจะเสียเงินค่าทนายด้วย ฟ้องก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนเมื่อไหร่ หนูเอาเวลาตรงนี้ทำให้แฟนคลับมีความสุขดีกว่า หาเงินดีกว่า”

ยังยืนยันยกหนี้ให้?

ลิลลี่ “ราพูดไปแล้ว แต่ถ้าเกิดเขาไม่เอา เขาไม่รับ เขาอยากให้เงินเรากลับคืนมาจริงๆ เราก็พร้อมที่จะรับเงิน เพราะเงินนั้นมันก็เป็นเงินของเรา มันเยอะนะ 6.7 แสน สำหรับเราตอนนี้”

ลิลลี่ “หนูขอแจ้งอีกเรื่องหนึ่ง วันที่ 4 ก.ย. นี้ เวลา 11 โมง หนูจะไปแจ้งความที่ตำรวจไซเบอร์ ที่อาหาร ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เพราะมีเพจปลอม ติ๊กต็อกปลอมเยอะมาก เป็นร้อยๆ เพจ เอารูป เอาเบอร์โทรศัพท์ เอาทุกอย่างทำปลอมเหมือนเพจจริงเลย เอาไปโปรโมตเว็บการพนัน หวยออนไลน์ อะไรต่างๆ ที่ผิดกฎหมายใดๆ

คือจะไปแจ้งความวันที่ 4 นี้ค่ะ หนูไม่เคยรับงานเว็บพนัน หรืองานผิดกฎหมายนะคะ และขออ้อนวอน เมตตาพี่ๆ มิจฉาชีพ ขออย่าเอารูปเอาหน้าของหนูไปทำผิดเลยนะคะ ถ้าคนโดนจับคือหนูนะ หนูกลัวโดนจัง ติดคุกนะพี่ สงสารหนูด้วยนะ หนูมีลูกต้องดูแล และหนูไม่ใช่คนไทยด้วยนะคะ อย่ารังแกกันนะคะ หนูขอขอบคุณค่ะ”

เกินไปมาก! โยชิ รินรดา โชว์รูปถ่ายพาสปอร์ต สวยจึ้ง เหมือนใช้เอไอสร้างภาพ จนหลายคนสงสัยขอฮาวทูถ่ายรูปยังไงให้สวยเป๊ะขนาดนี้

สวยกินคนจริงๆ หลายคนยกให้เป็นไอดอล สำหรับ นักเเสดงสาว โยชิ รินรดา ล่าสุด เธอได้ออกมาโพสต์ภาพของตัวเองเป็นภาพถ่ายบนพาสปอร์ต เขียนเเคปชั่นว่า “เพราะชีวิตคือการเดินทาง”

เห็นแล้วนึกว่าภาพจาก AI สร้างขึ้นหรือเปล่า เพราะสวยเป๊ะ เครื่องหน้าครบสุดๆ

ท่ามกลางคอมเมนต์มากมายที่เเฟนๆ เข้ามาบอกว่า ขอ how to ถ่ายรูปบัตรยังไงให้เป๊ะเบอร์นี้, เหมือนใช้ปัญญาประดิษฐ์เอไอสร้างภาพพ 😫, แม้แต่ passport ยังสวยเลยงะ, เกินนนนนไปปปปปปปะะะะะะะะ, ถ้า Passport รอดคือที่สุดแล้วอ่า 🔥🔥🔥🔥

ที่มา yoshirinrada

“ซ้อการ์ด ใครคือ” : เจ้าแม่ Tiktok อินฟลูเอนเซอร์หน้าหมวยที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10.4 M จากวัยรุ่นธรรมดาๆ สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด ที่กำลังมาแรงสุดๆในโลกออนไลน์ขณะนี้ เคยทุบสถิติไลฟ์ขายของ 40 นาที สร้างยอดขาย 25 ล้านบาท แม้เพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่ด้วยการสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ หัวใจหลักคือความจริงใจ ปั้นแบรนด์ผ่านการสร้าง Storytelling ทำให้สาวน้อยคนหนึ่งกลายเป็นเจ้าของธุรกิจระดับ 100 ล้าน

สำหรับ ซ้อการ์ด ชื่อจริง ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร เดิมทีไม่ได้เป็นคนดังที่มีชื่อเสียง วัยรุ่นธรรมดาๆที่เริ่มจากการขายเคสโทรศัพท์มือถือเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองและจุนเจือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางธุรกิจ เริ่มโด่งดังในเส้นทางอินฟลูเอนเซอร์ด้วยการทำคลิปแต่งตัวเป็นตัวของตัวเอง ออกแนวเซ็กซี่แล้วโดนเพื่อนด่า , คอนเทนต์การบริหารเงินของตัวเอง จนเริ่มมีคนคุ้นหน้าคุ้นตาและเริ่มเป็นที่รู้จัก จนได้ชื่อว่าเป็น “ดาว Tiktok” หน้าใหม่

เริ่มแรกซ้อการ์ด เริ่มตัดสินใจขายสบู่ Grape Soap ออกมาภายใต้แบรนด์ Love Potion หลังจากนั้นธุรกิจก็ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ ในปี 2566 แบรนด์ของซ้อการ์ด สร้างรายได้รวมอยู่ที่ 154 ล้านบาท ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน

จุดเริ่มต้นการทำแบรนด์ของซ้อการ์ด หัวใจหลักคือ Storytelling และ Personal Branding โดยการชูตัวเองเป็นจุดขายของแบรนด์ สร้างตัวตนบ่งบอกความเป็นตัวเองให้กับตัวผู้บริโภคให้รับรู้ ซึ่งเป็นจุดที่แข็งที่สุดของแบรนด์  “Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด”  สร้างการรับรู้ผ่านการทำคอนเทนต์ต่างๆที่มีความสร้างสรรค์จนทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ซื้อกับทางแบรนด์ เหมือนคุยกันกับเพื่อน รู้สึกใกล้ชิดและไว้ใจจนทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดขายของ แต่เลือกซื้อด้วยความเชื่อมั่นในตัวเจ้าของแบรนด์

อีกหนึ่งความน่าเชื่อถือคือ “ความจริงใจ” เงื่อนไขการสร้างแบรนด์ของซ้อการ์ดที่ยึดถือคือ “ต้องจริงใจต่อลูกค้า ขายสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาจับต้องได้” การสร้างสินค้าออกมาจะมองในมุมของผู้บริโภคว่าต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้แล้วเห็นผลจริง ก่อนผลิตจึงทั้งศึกษาและทดลองทุกอย่างก่อนวางขายเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพที่สุดในราคาจับต้องได้ เพราะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ของแบรนด์คือวัยมัธยมที่เริ่มหันมาดูแลตัวเองและยังมีกำลังทรัพย์จำกัด

Love Potion แบรนด์ที่ไม่ต้องมีพรีเซนเตอร์ เพราะเจ้าของแบรนด์เป็นให้เธอทุกอย่างแล้ว ด้วยความที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงมักพ่วงมากับความน่าเชื่อถือ ยิ่งเมื่อซ้อการ์ด ออกมาทดลองใช้สินค้าด้วยตัวเองแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้ซื้อ “เชื่อใจ” และเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า แม้ตอนแรกจะทำการตลาดไม่เป็น แต่ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ หรือที่เรียกว่า “ใช้เป็น” ทำคอนเทนต์ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ยอดวิวคลิปพุ่งกระฉูดทุกคลิป ทำให้รู้เลยว่าคอนเทนต์ทุกคลิปผ่านการคิดและทำการบ้านมาอย่างดี รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร คอนเทนต์แบบไหนที่สร้างยอดได้ ทำให้ความนิยมและชื่อเสียงของแบรนด์ยิ่งโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโปรโมชันและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ปังขึ้นไปอีก

ตัวตนและเรื่องราวของซ้อการ์ด ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ กล้าที่จะลงมือทำแม้เริ่มต้นจาก 0 แต่ก็สามารถเติบโตไปถึงระดับ 100 ล้านได้

นอกจากนี้ยังมีการทำคอนเทนต์เพื่อสังคม เช่นช่วยเหลือคนจนหรือคนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือยิ่งทำให้ “ได้ใจ” จากหลายๆคน สร้างการรับรู้ในด้านดี สร้างความรู้สึกในแง่บวกให้กับทางแบรนด์อีกด้วย