บันเทิง

Home บันเทิง Page 63

แป้ง อรจิรา ไร้กังวลร่วมงาน ภูริ อดีตคนรัก ปลื้ม น้องเลอา สวยเหมือนแม่

มีผลงานละครมาให้ชมอย่างต่อเรื่องนักแสดงสาว “แป้ง อรจิรา” กับละคร “เรือนการเวก” ที่กลับมาร่วมงานกับอดีตคนรัก “ภูริ หิรัญพฤกษ์” ในรอบ 14 ปี โดยในเรื่องจะต้องเป็นสามี-ภรรยาที่ต้องทะเลาะกันตลอดเวลา ซึ่ง “แป้ง” เล่าว่าแทบจะไม่ต้องเคาะสนิมกันเลยเพราะเคยร่วมงานกันมาแล้ว แต่สิ่งที่ต้องสู้กลับเป็นบทบาทที่หนักหน่วงและสภาพอาการที่ร้อนระอุ เพราะต้องใช้พลังงานพอสมควร แต่ไม่เกินความสามารถมองว่าเป็นงานละครที่ท้าทาย ถือเป็นละครเต็มเรื่อง เรื่องแรกที่รับเล่นหลังจากมีลูก

ส่วนช่วงนี้จะเจอ “แป้ง” บ่อยในติ๊กต่อก ทำคอนเทนต์ เต้น รวมถึงไลฟ์ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกัน เธอ เล่าว่า “น้องเลอา” วัย 3 ขวบ มาร่วมจอยในคลิปด้วย เห็นถึงความสวยที่ได้คุณแม่มาเต็ม ๆ แม่แป้ง ถึงกับขอบคุณที่หลายคนชมพร้อมบอกว่าลูกพัฒนาการดีมากพูดรู้เรื่องมากขึ้นพูดเก่งและที่สำคัญติดคุณแม่มาก .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

2

‘วิมานหนาม’ เสียงสะท้อน ความเหลื่อมล้ำ แม่ฮ่องสอนไม่มีโรงหนัง

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ฟาดไม่ยั้ง รั้งไม่อยู่ สำหรับภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์สุดดุเดือดอย่าง “วิมานหนาม” จากค่าย “จีดีเอช”
ร่วมกับ “ใจ สตูดิโอ” นำแสดงโดย เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, เต้ย–พงศกร, เก่ง–หฤษฎ์, สีดา พัวพิมล พร้อมได้ผู้กำกับมือดีอย่าง บอส-นฤเบศ กูโน
ล่าสุดก็ทำรายได้ถล่มทลาย หลังเข้าฉายเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา มุ่งหน้าพุ่งทะยานสู่ 50 ล้านบาททั่วประเทศ

ในภาพยนตร์ ‘วิมานหนาม’ มีการหยิบยกประเด็นปัญหาความบอบช้ำทางสังคมมาสื่อสารมากมาย ทั้งความเหลื่อมล้ำ ความจน และความไม่เท่าเทียมทางเพศ ถ่ายทอดผ่านตัวละครและผืนไร่ บนดอยแม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ สถานที่จริงที่ได้ถ่ายทำ คือ ไร่ตาเพ่ง ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากคอหนัง นี่อาจเป็นภาพยนตร์น้ำดีถ่ายทอดเรื่องราวจากแม่ฮ่องสอน ที่คนแม่ฮ่องสอนอาจไม่มีโอกาสได้ดู
เมื่อมีชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาแชร์ว่า “เราคนแม่ฮ่องสอน อยากไปดูมาก ๆ แต่ที่นี่ไม่มีโรงหนังเลยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ”
กลายเป็นเสียงสะท้อนความเหลื่อมล้ำอีกมุมจากประชาชนในพื้นที่

งานนี้ทำเอาชาวเน็ตออกมาวิจารณ์เสียงแตก มีทั้งคอมเมนต์ที่มองว่า นี่คือความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่จริงและเห็นอย่างชัดเจนในสังคมไทย
การเข้าถึงสื่อบันเทิงของคนในบางพื้นที่เป็นเรื่องยาก แม้ตัวภาพยนตร์ถ่ายทำที่ตราด และมีเนื้อเรื่องที่แม่ฮ่องสอน แต่ที่ตราดและแม่ฮ่องสอน กลับไม่มี ‘โรงภาพยนตร์’

ความคิดเห็นจากโลกโซเชียล :
โรงหนังต้องเข้าแม่ฮ่องสอนแล้ว
เราอยู่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ไม่มีห้าง ไม่มีฟาสต์ฟู้ด ถ้าอยากดูก็ลงเชียงใหม่ แต่เราก็อยู่ได้สบาย ๆ ไม่โหยหา
หวังว่าจะลง netflix ไว ๆ เพื่อให้คนตราดและแม่ฮ่องสอนได้ประทับใจหนังเรื่องนี้
อยู่แม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน โรงหนังใก้สุด ก็โลตัสจอมทอง
ถ่ายทำที่ตราด แต่จังหวัดตราก็ไม่มีโรงหนังครับ
หนังเล่าเรื่องราวความเหลื่อมล้ำแต่ชีวิตจริงเหลื่อมล้ำกว่า
ฟังแล้วจุกอกมากครับ
เสียดายหนังดี ๆ อยากดูครับ
ขณะเดียวกัน คอมเมนต์อีกด้าน มองเรื่องความคุ้มทุนของโรงภาพยนตร์ โดยอ้างว่า โรงภาพยนตร์ไม่ใช้บริการสาธารณะ
หากประเมินกำไรแล้วไม่คุ้มค่า ก็คงไม่สามารถเปิดได้ กลายเป็นกระแสวิจารณ์ถกสนั่นในโลกโซเชียล
ทั้งนี้นอกจากเสียงสะท้อนของตัวละครชายขอบจากเรื่อง ‘วิมานหนาม’ จะสื่อไปถึงสังคมแล้ว เสียงสะท้อนจากประชาชนและคนในพื้นที่ก็สะท้อนออกมาสู่สังคมเช่นเดียวกัน

GV UgN5aoAAh0MW

GV1LqKGb0AAYD7m

GV bAAXaoAIVFGV

GV65gE2asAAGktq

mae hong sorn wimannam 04

mae hong sorn wimannam 07

mae hong sorn wimannam 05

mae hong sorn wimannam 06

2

บ่าวโทนี่ แมวร้านเหล้า เด็กเอนฯขวัญใจลูกค้า ดูแลทุกระดับประทับใจ

“บ่าวโทนี่” แมวส้มร้านเหล้า เด็กเอนฯอันดับ 1 ขวัญใจลูกค้า ดูแลทุกระดับประทับใจ จกพุงได้ไม่หวั่น

เป็นไวรัลเหมียวส้มให้โซเชียลเอ็นดู สำหรับ “บ่าวโทนี่ แมวร้านเหล้า” จากแมวจรในวันนั้นสู่การเป็น “เด็กเอนฯ” ประจำร้านเหล้าในจังหวัดมหาสารคาม บอกเลยว่าความน่ารักของโทนี่ ได้ทิปจากลูกค้ามาเพียบ

โดยโทนี่เป็นแมวจรหลงทางมาตั้งแต่เด็ก ทางร้านเหล้าจึงรับเลี้ยงไว้และตั้งชื่อเล่นว่า “โทนี่ (เจ้าของร้านชอบโทนี่ รากแก่น)” ส่วนชื่อจริงว่า “ด.ช.ณัฐวุฒิ” และมีฉายาว่า “พี่เสือ” เวลาว่างชอบปีนต้นไม้โชว์สาว ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นเด็กเอนเตอร์เทนประจำร้าน

สำหรับเวลาเอนเตอร์เทนของโทนี่จะเริ่มในช่วง 19.00 น. ถึง 21.00 น. หลังจากนั้นจนถึงเที่ยงคืนโทนี่จะงดเอนเตอร์เทน และมีนอกรอบอีกครั้งในช่วง 01.00 น. ถึง 02.00 น.

ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมโทนี่ถึงนิ่งได้ขนาดนี้ ทางเจ้าของร้านอธิบายว่าโทนี่ก็เหมือนแมวทั่วไป ดื้อมากและมีกัดหน้าลูกค้าบ้างบางครั้งที่หงุดหงิด แต่ร้านมีวิธีให้สงบคือ “ให้อาหาร” แล้วโทนี่จะวิ่งมาอ้อน

ตอนนี้หนทางการเป็นเด็กเอนเตอร์เทนของโทนี่นั้นไปได้สวยงาม มีลูกค้าเรียกไปเอนเตอร์เทนไปกอดทุกคืน เพราะสามารถเป็นได้ทั้งโค้ชคอยดูแลลูกค้าอกหัก หรือลูกค้าจะจกพุงแบบจัดหนักจัดเต็ม จะเมาแค่ไหน โทนี่ก็เป็นผู้รับฟังที่ดี คอยอยู่ข้างๆ ไม่หวั่น

ดูแลลูกค้าดีขนาดนี้ โทนี่จึงกลายขวัญใจประจำร้าน ลูกค้าแวะเวียนมาเล่นกับโทนี่เพียบ แถมโทนี่ยังได้รับทิปมากมายจนแม่ต้องแปะคิวอาร์โค้ดไว้ให้ สมมงการเป็นเด็กเอนเตอร์เทนอันดับหนึ่งที่สุด

สำหรับใครที่อยากชมความน่ารักของเด็กเอนเตอร์เทนเพิ่มเติม สามารถติดตามทางร้านได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ติ๊กต็อก เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม

2

เปิดที่มาหินหัวช้าง “พญาฉัททันต์” เรื่องราวอาถรรพ์สู่ความศักดิ์สิทธิ์

จากกรณีที่มีการแชร์กันในโชเชียล พูดถึงเรื่องราวความเชื่อ หลัง “พระฉัตราวุธ ปิยธมฺโม หรือหลวงฉัตร” อายุ 40 ปี หัวหน้าสงฆ์ ได้พาทีมข่าวเข้าตรวจสอบ หินลักษณะเป็นเหมือนหัวช้าง ที่ขุดเจอเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2560 ขณะกำลังก่อสร้างถนนรอบวัด โดยหินดังกล่าวลักษณะเป็นรูปหัวช้างขนาดใหญ่ ส่วนหัวมีขนาดประมาณ 2.5 เมตร ซึ่งตอนที่รถแบคโฮกำลังขุดไปโดนหินก้อนนี้ ปรากฏว่าฟันบุ้งกี๋ ตีนตะขาบของรถแบกคโฮหลุด จนเป็นเหตุให้ต้องซ่อมแซมหลายวัน

s__23437321_0

เมื่อซ่อมเสร็จก็จะขุดต่อ รถแบคโฮเครื่องดับ สตาร์ทเครื่องไม่ติด จึงไปนิมนต์พระฉัตราวุธมาดู แม้จะขุดหินตรงนี้เท่าไหร่ก็ขุดไม่ออก จนช่วงหัวค่ำกลับไปที่กุฏิ ขณะจำวัดก็ฝันเห็นหินก้อนนี้ว่าคือ พญาฉัททันต์

s__23437323_0

ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลายคนต่างให้ความสนใจและแชร์กันจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เองก็ต่างให้ความศรัทธาและเชื่อถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุดวันนี้ทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปตรวจสอบและสำรวจ ที่สำนักสงฆ์ธาตุสุขสำราญ พื้นที่บ้านนาไม้ไผ่ หมู่ 2 ต.บ้าหวี อ.สำราญ จ.ตรัง ซึ่งบริเวณวัดจะอยู่ติดเชิงเขาใกล้กับสวนของชาวบ้าน ทั้งนี้จุดที่มีการขุดพบหินลักษณะคล้ายหัวช้างจะอยู่บริเวณด้านหลังวัด

s__23437325_0

ทีมข่าวลงสำรวจพบว่าบริเวณจุดดังกล่าวมีการก่อสร้างเป็นอาคารโล่งกว้าง มุงหลังคาและมีการตกแต่งประดิษฐานพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงมีการกั้นรั้วและล้อมรอบบริเวณหินที่เป็นหัวช้าง ประกอบกับมีป้ายบทสวด และชื่อของหินก้อนนี้ว่า “ พญาฉัททันต์ ” ซึ่งเมื่อมองด้วยสายตา ปรากฏว่ารูปลักษณ์ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับหัวช้างจริง แม้ว่าบางส่วนจะมีการปั้นและบูรณะตกแต่งให้บางส่วนคล้ายหัวช้าง มีการเพิ่มงาและงวง ซึ่งของจริงที่เป็นก้อนหินจะอยู่บริเวณใต้ดินเลยไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ มีการตกแต่งใส่ลูกแก้วที่ดวงตา เพิ่มหู และ ตกแต่งเพิ่มเติม

ทีมข่าวได้มีการเข้าไปกราบสักการะและไหว้ รวมไปถึงลูบบริเวณแก้ม พร้อมกับอธิษฐานจิตขอพร ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าสภาพแวดล้อม และก้อนหินก้อนดังกล่าว กลับทำให้ทีมข่าวรู้สึกขนลุก

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับทาง “หลวงฉัตร” อายุ 40 ปี หัวหน้าสงฆ์ พาผู้สื่อข่าวไปชมหินลักษณะเป็นเหมือนหัวช้างก่อนจะเล่าเรื่องราวและตำนานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงวันที่ 11 มิ.ย.2560 ตอนนั้นทางเจ้าของพื้นที่ได้มีการบริจาคที่ดิน ให้สร้างสำนักสงฆ์เพิ่มเติม ตนเลยตั้งใจจะสร้างถนนเพิ่มเติมในรอบเขาสำนักสงฆ์ เลยมีการจ้างช่างและก่อสร้างถนนรอบ ทำไปได้ไม่นาน จุดที่พบหินลักษณะคล้ายรูปหัวช้าง ปรากฏว่าเกิดเรื่องราวตามความเชื่อ ตอนที่รถแบคโฮกำลังขุดไปโดนหินก้อนนี้ ปรากฏว่าฟันบุ้งกี๋ ตีนตะขาบของรถแบกคโฮหลุด ในช่วงที่ขุดบริเวณดังกล่าว เมื่อมีการสับเปลี่ยนใหม่ก็หลุดอีกครั้ง และไม่สามารถขุดทำถนนได้ หลังจากนั้นทางช่างก่อสร้างได้หยุดทำงาน และกลับมาเริ่มทำถนนใหม่

1724764724037

แต่ปรากฏว่ารถแแบคโฮกลับดับไม่สามารถสตาร์ทเครื่องได้ ต้องทำพิธีขอเปิดทาง จนทางคนขับรถแบคโฮต้องไปตามตนที่กุฎิด้านบน และลงมาดูพบว่ารูปลักษณะคล้ายหัวช้าง ตนเลยให้ช่างหยุดขุดก่อนและค่อยหาทางอีกที ปรากฏว่าช่วงหัวค่ำกลับไปที่กุฏิ ขณะจำวัดก็ฝันเห็นหินก้อนดังกล่าว พร้อมกับมีลักษณะช้าง 1 เชือก มาปรากฏให้เห็นลักษณะเป็นสีน้ำตาล ร่างใหญ่และสูงกว่าช้างปกติ ก่อนที่จะมีการบอกชื่อว่าเป็น “ พญาฉัททันต์ ” และบอกให้คนขับรถแบคโฮ ทำพิธีขอขมาเนื่องจากขุดไปโดนบริเวณส่วนหนึ่งของหัวช้าง

ซึ่งหลังจากที่ตนตื่นขึ้นมายอมรับว่าตอนนั้นยังคงเชื่อ เนื่องจากที่ผ่านมาตนไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของช้างหรือเรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับช้าง กระทั่งตนเองนำชื่อที่ได้ยินในฝันไปค้นข้อมูลจนพบว่า “พญาฉัททันต์” เป็นตำนานช้างในพระพุทธศาสนา และมีความเชื่อมโยงกับพระพุทธเจ้า ซึ่งตอนนั้นตนเองก็เริ่มรู้สึกศรัทธาและมองว่าหินก้อนดังกล่าวต้องทำอะไรซักอย่าง เมื่อพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่จึงมีความเห็นร่วมกันว่าอาจจะทำเป็นสถานที่หรือทำเป็นหนึ่งจุดที่ให้ชาวบ้านได้เข้ามาไหว้และศรัทธา

0230c64c-d3e5-4b01-ba12-f2a8c

ก่อนที่ตนเองจะได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลจึงทำให้มีชาวบ้านบางส่วนรวมไปถึงคนที่ฝันเห็นและมีบางคนที่สัมผัสได้เห็นโพสต์ เลยมาสร้างศาลาครอบหินรูปช้างไว้ ก่อนจะมีการต่อเติมงาและงวงที่ถูกรถแบคโฮขุดไป ด้วยการนำปูนมาปั้นขึ้นรูปงาสองข้างพร้อมงวงชูขึ้น ปลายงวงมีดอกบัว 3 ดอก และการติดตา เพื่อเป็นการเปิดเนตร จากนั้นได้มีการประกอบพิธีขอขมาและบวงสรวงแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 8 ก.พ.67 ที่ผ่านมา

2

ข่าวดี มาเเล้ว ดารารุ่นใหญ่ เตรียมเเต่งรอบ2 อายุ56 ไม่ใช่ปัญหา

หัวใจกระชุ้มกระชวยเป็นสีชมพูอีกครั้ง สำหรับ ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ วัย 56 ปี หากใครที่ได้ติดตามอินสตราแกรมของ ท็อป จะเห็นว่าเธอนั้นจะออกมาโพสต์รูปคู่ผู้ชายคนหนึ่งให้ได้เห็นอยู่เป็นประจำ ซึ่งเขาคนนี้คือเพื่อนสมัยเรียนมีชื่อว่า ไมโล เป็นหนุ่มใหญ่เจ้าของรอยยิ้มสุดอบอุ่น เเละเป็นหวานใจของเธอในตอนนี้

ล่าสุด ท็อป ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรักในครั้งนี้ว่า เพื่อนๆเชียร์ให้เเต่งงาน เเต่รูปเเบบความรักครั้งนี้ไม่ต้องเเต่งก็ได้ เเต่เพื่อนๆอยากร่วมเเสดงความยินดี หลังจากนี้ต้องมารอดูความเป็นไปได้ ซึ่งเพื่อนซี้อย่าง หมิว ลลิตา ได้เตรียมสถานที่จัดงานไว้ให้เเล้วคือที่หัวหิน ทางด้านว่าที่เจ้าบ่าวอย่างไมโลก็พร้อมเเล้ว

ทีมงานที่นี่ดอทคอมขอเเสดงความินดีล่วงหน้าด้วยนะคะ

ข่าวดีมาเเล้ว ดารารุ่นใหญ่ เตรียมเเต่งรอบ2 อายุ56ไม่ใช่ปัญหา

ข่าวดีมาเเล้ว ดารารุ่นใหญ่ เตรียมเเต่งรอบ2 อายุ56ไม่ใช่ปัญหา

ข่าวดีมาเเล้ว ดารารุ่นใหญ่ เตรียมเเต่งรอบ2 อายุ56ไม่ใช่ปัญหา

ข่าวดีมาเเล้ว ดารารุ่นใหญ่ เตรียมเเต่งรอบ2 อายุ56ไม่ใช่ปัญหา

2

แฟนหนุ่ม ปกป้อง พิม พิมประภา เคลียร์ชัด ๆ ไม่ใช่เมียน้อย เผยเหตุผลที่ไม่เปิดหน้า

หลังจากที่มีข่าวลือว่า ดาราสาว ไม่กล้าเปิดตัว แฟนหนุ่ม เพราะหนุ่มคนนั้นเป็นสามีของคนอื่น และคนโยงไปที่นางเอกสาว พิม พิมประภา ตั้งประภาพร ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเคลียร์ชัดว่า ได้เช็กประวัติ แฟนหนุ่ม เรียบร้อยแล้ว ยืนยันเรื่องเป็นเมียน้อยไม่จริงแน่นอน

ล่าสุดคนสนิทของ พิม พิมประภา ได้โพสต์คลิปติ๊กต็อก @iammampka เพื่อช่วยเคลียร์อีกทางว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่ใช่ความจริง ซึ่งในคลิปนี้เป็นบรรยากาศตอนที่คนสนิทเดินไปส่ง พิม และพูดว่า “มาส่งลูกสาวนะคะ ดาราสาวที่มีข่าวว่าเป็นเมียน้อยนะคะ แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่”

และเมื่อเดินไปถึงหน้าตึกก็มีรถเบนซ์หรูคันหนึ่งขับเข้ามาจอดเพื่อรับ สาวพิม ขึ้นรถ ซึ่งคนที่ขับรถเข้ามานั้นเป็น แฟนหนุ่ม ของ พิม ที่กำลังมีข่าวอยู่นั่นเอง และเมื่อ พิม ขึ้นรถไป คนสนิทพูดว่า “ทำไมเห็นหน้าไม่ได้เหรอ คุณซอนโฮ ทำไมต้องไม่ให้เห็นหน้า”

พิม ก็หันไปอธิบายกับ แฟนหนุ่ม ว่า “เขาเรียกที่รักว่า ซอนโฮ (คิมซอนโฮ) พระเอกเกาหลีนะ” จากนั้นคนสนิทของ พิม ก็ถามฝ่ายชายตรง ๆ ว่า “แก้ข่าวค่ะ ลูกสาวดิฉันเป็นเมียน้อยหรือเปล่าคะ” ซึ่ง แฟนหนุ่ม ของ พิม ตอบว่า “ไม่ได้เป็นครับ”

คนสนิทของ พิม ก็ถามอีกว่า ที่ไม่เปิดหน้าเป็นเพราะอะไร พิม รีบบอกว่า “หล่ออยู่แล้วเขาบอก” จากนั้นคนสนิทก็แซวว่า “ที่ไม่เปิดหน้าเพราะหล่อสูสีกับดาราเกาหลีใช่ไหม” ทำเอา พิม และ แฟนหนุ่ม หัวเราะเขิน พิม บอกว่า “ทำตัวไม่ถูก” คนสนิทก็แซวอีกว่า “ต่อไปนี้จะเรียกว่า คุณซอนโฮ” ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายและแยกย้ายกันไป

แม้ในคลิปนี้จะไม่ได้เห็นหน้าฝ่ายชายแบบชัด ๆ แต่แฟน ๆ ก็เข้ามาคอมเมนต์แซวฉ่ำ อาทิ น้องพิม น่ารัก แต่ได้โปรดเปิดหน้า คุณซอนโฮ ด้วยเถอะ, เคยเห็นแวบ ๆ ใน IG คุณพิม คอนเฟิร์มอีกเสียง หล่อมากค่า อยากเห็นรูปคู่แล้วนะ,

ละหุ่นเหมือน ซอนโฮ จริง, คุณซอนโฮ แถวยาวยันดาวพลูโตแล้ว 555555, ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์บอกว่า “เห็นครึ่งตัวยังหล่อเลยค่ะ” ซึ่งคนสนิทของ พิม ก็บอกว่า “ดีมากจริง ๆ แม่ไม่เม้าท์ เห็นตลอด ไม่ต้องผ่านเหมยตู”

2

ย้อนสินสอด ใบเตย ในพิธีหมั้น ดีเจเเมน หอบมาให้เเบบจุกๆ กี่ล้าน

กลายเป็นที่ฮืฮาหนักมาก เมื่อ วันที่ 26 ส.ค. 67 ใบเตย สุธีวัน ยอมรับครั้งแรกว่าได้หย่าสามี ดีเจแมน พัฒนพล จริง ตั้งแต่ก่อนที่จะมีข่าวออกมาแล้ว ขอไม่พูดถึงรายละเอียด มันส่งผลกระทบหลายอย่าง

เมื่อวันที่ ใบเตย ได้ออกงานอีเว้นท์เเละพร้อมตอบข่าวลือ เรื่องหย่า ดีเจเเมนก่อนหน้านี้ว่า หย่าตั้งเเต่ก่อนเป็นข่าวเเล้ว ขอไม่ลงรายละเอียดมันก็เเย่เเละส่งผลหลายอย่าง ที่ผ่านมาไม่ได้ออกมาพูด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของเราเองเเละครอบครัว

สำหรับพิธีหมั้นของดีเจเเมนเเละใบเตยถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ (5 ตุลาคม 2562) ณ โรงเเรมสยามเคมปินสกี้ ท่ามกลางครอบครัวญาติๆเเละเพื่อนสนิทมาร่วมเป็นพยานในความรักครั้งนี้

สิ้นสอดงานแต่งครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึงถึง 45 ล้านบาท ทั้งแหวนเพชรเม็ดงาม 5 กะรัด , ทองคำ, เงินสด ชุดเครื่องเพชร 2 เซดใหญ่ มูลค่า 8 หลัก พร้อมด้วยรถหรู Porsche macan ราคาเกือบ 7 ล้านบาท เรียกได้ว่าทุ่มสดตัว

2

ดราม่าพี่สาว-น้องชาย “เล่นกัน” บนโซฟา ดูจบคนถล่มยับ ทำเกินไปไหม?!

ดราม่า “คลิปครอบครัว” พี่สาว-น้องชายเล่นกันในบ้าน แต่คนดูไม่อิน โฟกัสท่าทางยิ่งเอ๊ะ “เกินเหตุ”

ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยข้อมูลทุกประเภท หัวข้อต่างๆ เช่น ความผูกพันในครอบครัว ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากมาโดยตลอด ล่าสุดมีคลิปวิดีโอของการมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพี่สาว-น้องชายในประเทศจีน กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์

กรณีคลิปวิดีโอพี่สาว-น้องชายชาวจีนคู่หนึ่งกำลังเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในบ้านของตนเอง ปฏิสัมพันธ์และการเคลื่อนไหวนี้ใกล้ชิดนี้ ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตจำนวนมาก และก่อให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับขอบเขตของความสัมพันธ์ในครอบครัว

หลายคนมองว่าการเคลื่อนไหวที่ใกล้ชิด “เกินเหตุ” ของพี่น้องคู่ดังกล่าวนั้น “ไม่น่าดู” และขาดขอบเขตที่เหมาะสม พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า คุณสองคนทำอะไรอยู่? ขอบเขตความสัมพันระหว่างพี่น้องต่างเพศสำคัญแค่ไหน? ควรดูแลจัดการอย่างไรกับขอบเขตความสัมพันธ์ในครอบครัว? และควรปลูกฝังอย่างไร?

ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับขอบเขตของความสัมพันธ์ในครอบครัวมาอย่างต่อเนื่อง และเพราะวิดีโอนี้ทำให้หัวข้อนี้ถูกขยายออกไป โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัวหรือความรักในรูปแบบอื่น ย่อมควรมีขอบเขตบางอย่าง

ความรู้สึกถึงขอบเขตของครอบครัวต้องอาศัยคำแนะนำที่มีเหตุผล

ความรักในครอบครัวเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในเส้นทางการเติบโตของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความรักใคร่ระหว่างพ่อแม่กับลูกหรือความรักระหว่างพี่น้อง ล้วนมีอารมณ์ความรู้สึกอันล้ำค่าอย่างยิ่ง ในวิดีโอข้างต้นนี้เกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพี่น้อง พฤติกรรมใกล้ชิด ระหว่างคนทั้งสองอาจจะเป็นเพียงความบริสุทธิ์ใจ แต่พฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความไม่ประทับใจให้กับโลกภายนอก และทำให้ผู้คนเริ่มคาดเดาเกี่ยวกับขอบเขตของความสัมพันธ์ในครอบครัวว่าจะเข้าใจและมองอย่างไร

บางทีทุกคนอาจมีความเข้าใจและความคิดเห็นของตนเอง เกี่ยวกับความรู้สึกของขอบเขตในความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่ไม่ว่าในกรณีใด ความสัมพันธ์ในครอบครัวจำเป็นต้องมีขอบเขตบางประการ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีขึ้น บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น และไม่สร้างความเข้าใจผิดโดยไม่จำเป็น สามารถหลีกเลี่ยงบาดแผลใจใจได้ ซึ่งวิธีการปลูกฝังความรู้สึกถึงขอบเขตในความสัมพันธ์ในครอบครัวต้องอาศัยคำแนะนำที่สมเหตุสมผลจากผู้ปกครองและสังคม

ในสังคมที่มีความหลากหลายเช่นนี้ มีเสียงต่างๆ มากมายเกี่ยวกับความเข้าใจขอบเขตของครอบครัว การศึกษาของครอบครัวได้รับความสนใจอย่างมาก และความรู้สึกของขอบเขตของครอบครัวก็ควรกลายเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาของครอบครัวด้วย พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ในทุกรายละเอียด เพื่อพวกเขาจะได้เข้าใจถึงความสำคัญของขอบเขตครอบครัวในทางปฏิบัติ

ในขณะเดียวกันต้องอาศัยความพยายามร่วมกันของสังคมด้วย ตัวอย่างเช่น เด็กๆ สามารถเข้าใจขอบเขตครอบครัวอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านกิจกรรมการศึกษาบางอย่าง  และการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยายังสามารถใช้เพื่อช่วยเหลือบางคนด้วย ปัญหาครอบครัวที่ไม่มีขอบเขตทำให้พวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่ดีและเป็นบวกได้ เชื่อว่าด้วยความพยายามร่วมกัน ความพยายามของเราจะทำให้ความรักของครอบครัวเปล่งประกายอย่างแน่นอน แสงอันอบอุ่นในสังคมนี้

ท้ายที่สุดความรักในครอบครัวเป็นส่วนที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเรา และความรู้สึกของขอบเขตของความรักในครอบครัวก็มีความสำคัญมากเช่นกัน มันสามารถทำให้ความรักของครอบครัวสวยงามและบริสุทธิ์มากขึ้น และยังทำให้เราเคารพมากขึ้นในกระบวนการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย

2

ย้อนภาพวันแต่งงาน กบ พิมลรัตน์ กับ สามี มหาเศรษฐี อลังการสุด ๆ

ใช้ชีวิตคู่มานานกว่า 8 ปีแล้ว สำหรับอดีตนักแสดงชื่อดัง กบ พิมลรัตน์ ที่ได้ควงแขนสามีมหาเศรษฐี ประสพ พลากรกิตติ เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเมื่อช่วงปลายปี 2559 ซึ่งพอได้ย้อนกลับไปในวันวาน ต้องบอกเลยว่า กบ พิมลรัตน์ จัดงานแต่งออกมาได้น่ารัก อบอุ่น และอลังการสุด ๆ ตามแบบฉบับความฝันที่ตัวเองต้องการ

อีกทั้งยังมีเพื่องพ้องทั้งในและนอกวงการมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว งานนี้แฟน ๆ หลายคนต่างแอบคิดถึงความน่ารักของคู่ กบ พิมลรัตน์ และ สามี จนอยากจะเห็นรูปคู่โชว์ความหวานให้ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันอีกครั้งจริง ๆ

สำหรับประวัติ “กบ พิมลรัตน์”

เกิดวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2526 ปัจจุบันอายุ 41 ปี เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิง จากการถ่ายโฆษณาด้วยวัยเพียง 13 ปี ต่อมาได้รับเลือกให้แสดงภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ “สุริโยไท” รับบทเป็น “พระสุริโยทัย” (ตอนเด็ก) และ พระสวัสดิราช (ลูกของพระสุริโยไท) ที่กำกับโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ กบ พิมลรัตน์ อย่างมาก

นอกจากนี้ “กบ พิมลรัตน์” ยังเคยได้ร่วมงานกับ Francis Ford Coppola ผู้กำกับ Hollywood ซึ่งเป็นพระสหายของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ในภาพยนตร์สุริโยไท Version 4 ชั่วโมง เรียบเรียงและกำกับใหม่บางส่วน เพิ่มเติมซึ่งเข้าฉายในประเทศสเปนเป็นที่แรก และประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย

ก่อนจะเริ่มหันมารับงานแสดงละครเป็นครั้งแรก ให้กับช่อง 3 ซึ่งก็คือเรื่อง ปลายเทียน ละครแนวแฟนตาซีอิงวรรณคดี จากบทประพันธ์ของ แก้วเก้า โดยเธอรับบทเป็น เจ้าสร้อยสุมาลี ซึ่งผลงานจอแก้วชิ้นนี้ก็สร้างชื่อเสียงให้กับเธอด้วยเช่นกัน

การศึกษาของ “กบ พิมลรัตน์”

– จบการศึกษาในระดับอนุบาล – ประถมศึกษา จากโรงเรียนสมถวิลราชดำริ

– ชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนผดุงศิษย์พิทยา สายศิลป์-คำนวณ

– ระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยรังสิต คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์

ชีวิตส่วนตัว “กบ พิมลรัตน์” เข้าพิธีแต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่มโปรไฟล์หรู”ประสพ พลากรกิตติ” กรรมการผู้จัดการ บริษัทเคมีโก้ อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้นำเข้าและจำหน่ายวัตถุดิบในอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพ

ซึ่งบริษัท เคมีโก้ เกี่ยวกับเคมีเครื่องสำอางนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก มีบริษัทที่อยู่ต่างประเทศทั้งหมด 9 ประเทศ รวมเมืองไทยด้วยเป็น 10 ประเทศ โดยทั้ง 2 คน แต่งงานกันเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559 และปัจจุบัน “กบ พิมลรัตน์” ยังคงอัปเดตไลฟ์สไตล์อยู่อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางอินสตาแกรม @kobpimolrat ในฐานะ Beauty Influencer

2

โชค รถแห่ ลั่นผมคงหมดสิทธิ์ หลัง นัส โพสต์ถึงคนรัก เปิดคำอวยพรวันเกิด

โชค รถแห่ ลั่นผมคงหมดสิทธิ์แล้ว หลัง นัส อดีตภรรยาโพสต์ถึงคนรัก สเปกที่อยากได้ เปิดคำอวยพรวันเกิด ลั่นขนาดอวยพรยังด่า แต่ก็ขอบคุณมาก

นักร้องหนุ่ม โชคมงคล หรือ โชค รถแห่ แชร์โพสต์ของ นัส จุฑารัตน์ อดีตภรรยา ที่พูดถึงคนรักที่อยากได้ “อยากได้คนรักที่ซัพพอร์ต ไม่ต้องหล่อไม่ต้องรวย แต่ต้องไม่โง่ ขอแค่มีสมองติดมาบ้าง ช่วยคิดช่วยตัดสินใจแทนได้

ชีวิตกุไม่ได้ว่างมานั่งไร้สาระแบบนั้นอ่า ติดhxx ติดรถ ติดเหล้า ติดเที่ยว ผ่านเลยเสียเวลาชีวิต อาภัพอยู่เรื่องเดียวจริงๆชีวิตกุ” โดย โชค แชร์โพสต์ พร้อมแคปชั่นว่า “ผมคงหมดสิทธิ์แล้ว ”

พร้อมทั้งแชร์โพสต์ของ นัส อวยพรวันเกิด โชค ในวันนี้ว่า “เอาความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนแก้ไขปรับปรุง ขอให้เป็นคนที่ดีขึ้นในสังคม ถึงจะเคยเป็นสามีที่แย่แต่วันนี้เป็นพ่อที่ดีมากๆ รักษาทุกโอกาสไว้ให้ดีเพราะไม่มีใครโชคดีตลอดไป ไม่ต้องถามหาสถานะ แค่กูไม่แช่งมึงถึงชาติหน้าก็บุญแล้ว แฮปปี้เบิร์ธเดย์เด้อพ่อชนนท์ ”

โดย โชค แชร์โพสต์ดังกล่าวพร้อมข้อความด้วยว่า “ขนาดอวยพรวันเกิดมันยังด่าผมเลย แต่ก็ขอบคุณมากๆนะครับแม่ชนนท์”

2

Popular Posts

My Favorites

เดทแรกสวยตรงปก! หนุ่มก่อสร้างขี้เหงา ปิ๊งรักสาวพยาบาล ตื่นมาทอง 3 บาทหาย

0
หนุ่มก่อสร้างขี้เหงา ปิ๊งสาวพยาบาลในแอพหาคู่นัดเดทแรกที่รีสอร์ต ตื่นมาทองหนัก 3 บาทหาย ติดต่อไม่ยอมคืน อ้างโน้นอ้างนี่ วอนเอามาคืน ทำงานเก็บเงินซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง วันที่ 23 ก.ค. 2567 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี นายนัย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เข้าแจ้งความกับ...