หลังจากที่นักแสดงตลกชื่อดัง อาไท กลมกิ๊ก ได้เลิกรากับแฟนสาว น้ำเพชร อิสรีย์ ก็ทำเอา เจ้าตัวถึงกับเสียศูนย์ไม่น้อย ล่าสุด อาไท ได้อัปเดตอาการหลังอกหักในรายการ 3 แซ่บ พร้อมเผยคำพูดที่ทำให้น้ำตาไหล หลังจากที่โทรหาน้ำเพชร

อาไท ใจสู้ โทรหา น้ำเพชร อิสรีย์ แฟนเก่า เจอคำพูดตอบกลับถึงกับน้ำตาร่วง

โดย อาไท ระบุว่า กับน้ำเพชรคบกับมาประมาณ 1 ปี ที่มีข่าวว่าผมคุมเขามาก ผมยังเด็ก หึงหวง อาจจะทำให้เขาอึดอัด ทุกวันนี้ยังร้องไห้อยู่ พูดแบบไม่มีทรง ยังเห็นเขาไม่ได้ เวลาเลื่อนโซเชียล เจอเขาจะปัดหนีเลย ดูไม่ได้ เดี๋ยวทำใจไม่ได้ มันยังคิดถึงมั้ง

อาไท ใจสู้ โทรหา น้ำเพชร อิสรีย์ แฟนเก่า เจอคำพูดตอบกลับถึงกับน้ำตาร่วง

มีบางวันใจสู้โทรไปเหมือนกัน อันนี้ไม่เคยพูดนะ บอกเขาว่า คุณครับ ไม่ว่าจะยังไง ผมรักคุณเหมือนเดิมนะ ก็บอกเขาไปตรงๆ ต่อให้เราเลิกกัน ผมก็ยังรักคุณเหมือนเดิม เขาตอบมาคำหนึ่งผมน้ำตาร่วงเลย เขาตอบว่า “จ้ะ” น้ำตาร่วงเลย

บ้างน้ำตาไหล แห่ชมทำได้สุดยอดสู้มากๆ ครั้งแรกใน5ปี คุณหญิงแมงมุม ยืนเองได้แล้ว สามีสุดดีใจโพสต์คลิป

โมเมนต์สุดดีใจ เสธ.ดอลลาร์ สามี คุณหญิงแมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล โพสต์ คลิป ภรรยาสุดรัก ขณะกำลังพยายามลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง พร้อมแคปชั่นว่า

“YES!!! She did it for the first time in 5 years! ยืนเองได้เเล้ว เย้! #สุดยอด #determination #perseverance #nevergiveup #neverdespair #ดีใจสุดๆ #ครั้งเเรกใน5ปี ”

โดยคนสนิท คนดัง ต่างเข้ามาคอมเมนต์สุดดีใจ บ้างก็ถึงกับน้ำตาไหลเลย บ้างก็ส่งอิโมจิปรบมือรัว อิโมจิหัวใจ อาทิ พี่น้ำตาไหลโว๊ยยยย ดีใจ , น้องพี่ สู้ๆ มุมทำได้ , สุดยอดจ้ะ เป็นต้น

จากกรณีที่มีข่าวลือว่า นักร้องสาว ใบเตย อาร์สยาม หรือ ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน ได้หย่ากับสามี ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุด ใบเตย ได้เปิดตัวเพลงใหม่ ‘แท่ด แท่ด’ ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ด้วยว่า

“ค่ะ ตามนั้น ได้หย่ากันจริง หย่ากันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่ใช่ในช่วงที่ผ่านมา ขอไม่ลงดีเทล มันก็แย่ มันส่งผลอะไรหลายๆ อย่าง ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้ออกมาพูดเพราะมันเซนซิทีฟ สำหรับเราเองและครอบครัว

(หย่าโดยนิตินัย?) ถ้าในทางกฎหมายไม่ได้เป็นสามีแล้ว แต่ในชีวิตพ่อแม่ลูกยังมีอยู่เสมอค่ะ เป็นการตัดสินใจทั้ง 2 ฝ่าย ความรู้สึกความเป็นพ่อแม่ลูก คู่ชีวิตยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เราพยายามรักษาครอบครัวที่สุดแล้ว มันเหมือนคนบ้านพัง (ตัดสินใจเพื่อครอบครัว?) มันโดยภาพรวมหลายๆ อย่าง”

แม่ป๋องไม่สบายใจ?
“ไม่ได้คุย เอาจริงๆ แล้วใบเตยไม่ขอพูดถึงบุคคลอื่นละกันค่ะ (ยังไปเยี่ยม?) ไปตลอดค่ะ คนข้างในท้อคนรอก็ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ ทุกคนเห็นใบเตยไปเยี่ยมอยู่ตลอด ตอนนี้เขาเข้มแข็งค่ะ”

ทำไมยังจับมือผู้ชายคนนี้อยู่?
“มันไม่มีเหตุผลอะไรเลย มันความเป็นมนุษยที่ไม่มีทางทิ้งกันแน่นอน ยังรักค่ะ อาจจะไม่ได้บอกจากปาก แต่มีจดหมายที่ได้เขียนตลอด”

ความหวัง?
“ไม่รู้อนาคตเลย เราเดย์บายเดย์เลย เราจะเริ่มต้นใหม่ได้ก็ในวันที่ทุกอย่างตัดสินแล้ว ความสุข ณ วันนี้คือลูก กับ การได้ร้องเพลง”

จากชีวิตนักแสดงตลกชื่อดังเบอร์ต้นของประเทศ สู่การใช้ชีวิตเรียบง่ายที่วัด สำหรับ ชูษี เชิญยิ้ม ซึ่งเจ้าตัวเคยเผยว่า ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ พระสิ้นคิด ที่วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ จ.อุบลราชธานี วันนี้เราจะพาไปส่องชีวิตปัจจุบันของเขาอีกครั้ง โดยทางด้านพิธีกรดัง บ๊วย เชษฐวุฒิ เผยภาพคู่ผ่านอินสตราแกรม @buay_watcharakhun เช็คอินที่ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ อ.สิรินธร พร้อมแคปชั่นระบุว่า “คืนนี้นอนนี่นะครับ” ในขณะที่ชูษี โพสต์เฟสบุ๊ก เผยภาพคู่หนุ่มบ๊วยที่กำลังนั่งสมาธิ พร้อมแคปชั่นบอกว่า “บ๊วย เชษฐวุฒิ มานอนด้วยคืนนี้ที่กุฎิหน้าผา ไม่มีอะไรบังเอิญบนโลกใบนี้ #พระสิ้นคิด ครอบครัววัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์” ท่ามกลางชาวเน็ตเห็นด้วยจำนวนมาก

เรียกได้ว่า ช่วงนี้มีหลายจังหวัดมากที่เกิดน้ำท่าม ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดเชียงราย , แพร่ , น่าน , สุโขทัย เป็นต้น ซึ่งก็ได้มีเหล่าดาราและคนดังต่างออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน และหนึ่งในนั้นคือพระเอกดัง อย่าง อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ พร้อมทีมงาน ได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนเช่นกัน

โดยอั้ม อธิชาติ ได้ไลฟ์สดให้ชมกันผ่านทาง Tiktok เผยวินาทีน้ำหลาก คนขอความช่วยเหลือ และการส่งมอบความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สู่ชาวบ้านที่ติดอยู่บนเรือนพัก แต่ก็มีช่วงที่ ทำขนลุกทั้งไลฟ์สด เมื่อมีพื้นที่ ที่หนึ่ง อั้มและทีมงานได้เดินทางไปถึงนั้น ได้ยินเสียงร้องแบบโหยหวนออกมา

สำหรับเหตุการณ์ชวยขนลุก ที่เกิดขึ้น อั้ม พร้อมทีมภู้ภัยสว่างนครลำปาง ลงพื้นที่แจกข้าวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.แพร่ ในบริเวณดังกล่าวนั้นมีปริมาณน้ำที่สูงมาก คาดการณ์ว่าน้ำลึกกว่า 2 เมตร และเข้าลำบากมากพอสมควร ขณะที่ทะยอยส่งมอบของไปเรื่อยๆ ในเวลาที่ดึก ไฟฟ้าถูกตัดขาดมีแต่ความมืด และไฟจากไฟเจ้าหน้าที่ที่พกมา บริเวณโดยรอบนั้นมืดสนิท และเมื่อเข้าใกล้จุดหนึ่ง ซึ่งสืบข้อมูลมาว่าเป็นจุดที่มีบ้านร้างหลังหนึ่งอยู่ สักพักก็มีเสียงร้องโหยหวนดังเข้ามา และเป็นเสียงที่ดังชัดเจนสักครู่หนึ่ง

ทำให้เจ้าหน้าที่และทีมงานต้องเร่งเข้าไปตรวจสอบจุดดังกล่าว เกรงว่าจะมีคนต้องการความช่วยเหลือ แต่พอไปถึงบริเวณใกล้เคียงจากจุดกำเนิดเสียงกลับว่างเปล่า นั่นทำให้คนทั้งคนที่ดูไลฟ์ต่างพิมพ์ข้อความเข้ามาอย่างน่าตกใจ ซึ่งผู้ชมทางบ้านก็ได้ยินเช่นกัน ก่อนที่ในเวลาต่อมา พระอาจารย์ ที่ร่วมมากับคณะด้วยจะได้นำสวดมนต์บทแผ่เมตตา โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

อย่างไรก็ตาม ก็ขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนทุกคนที่เกิดน้ำท่วม และขอให้ผ่านพ้นวิกฤตยี้ไปได้ค่ะ

ทำเอาผู้ชมถึงกับใจหายเมื่อ อาร์ม พิพัฒน์ พิธีกร ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวหลังจากที่หมดสัญญาการเป็นผู้ประกาศช่อง 7 โดยเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์ 1 ปี ที่ผ่านมา ว่า… ภาพรวม 1 ปีที่ผ่านมา มีความสุขมาก!!! ได้โอกาสมาอ่านข่าว กับ คนข่าวคุณภาพ ทั้งคุณปุ้ย รสริน คุณบี กมลาสน์ คุณปุ้ม เปรมสุดา น้องกาย สวิตต์ น้องปุ๊ก น้องบัวบูชา ทนายสงกานต์ เพลงรบ ศักดา กับ ทีมงานดีๆ ทีมข่าวทุกคนที่ตอนเขียนข่าวไป ผมก็ไปชวนคุย ขอแทรก เช็คข่าวอัพเดท ทั้งข่าวเช้า-เย็นใน

“เช้านี้ที่หมอชิต” และ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ขอบคุณพี่ๆ และ ผู้บริหาร Tero และ CH7HD ที่ชวนกันมารับบท “ผู้ประกาศ” เป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก + ต้องใช้เวลาชีวิตเยอะมากต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ? ก็ต้องดู/อ่านข่าวของช่อง(และช่องอื่นๆ) อ่านและหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อมาเล่าให้ผู้ชมเข้าใจง่ายขึ้น

ใช้เวลาอ่านข่าวหน้าจอ 1ชม.ครึ่ง แต่การเตรียมตัวน่าจะใช้เวลาวันละ 7-8 ชม. ดูรายการข่าวตั้งแต่เช้า(มืด)-สาย-เที่ยง-บ่าย-เย็นต้องขอดูคลิปภาพของทุกข่าวที่จะอ่านไว้ก่อน บางทียังตัดต่อไม่เสร็จ ก็ต้องดูภาพสดๆ แต่ละเหตุการณ์ติดตากันเลยทีเดียว เป็นงานที่ทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น แถมเพิ่งรู้ว่าแฟนข่าวยุคนี้เยอะมากๆ ขอบคุณมากๆนะครับ ขอบพระคุณจากใจเลย

มีแฟนๆข่าวเย็นถามเข้ามากันเยอะมาก ว่าใน t-ser รายการไม่มีภาพผม ใช่ครับ จากนี้จะมีการปรับรูปแบบรายการครับ ในนามทีมงาน ก็ฝากแฟนๆติดตามกันนะครับส่วนผมจะหมดสัญญากับทาง Tero ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับบท “ผู้ประกาศข่าว” ไว้พบกันใหม่นะครับ ด้วยรักและขอบคุณ

สุดท้ายนี้ถ้าถามถึงผลงาน ก็ขอเล่าด้วยตัวเลขนะครับ เช้านี้ที่หมอชิต ช่วงเดือนกันยายน 2566 – ต้นมกราคม 67 กับ เรตติ้งทำไว้ได้สูงสุด 1.1-1.2 ในช่วงเวลา 7.00-7.30น. ในเดือนกลาง พ.ย. // และเรตติ้ง 1.0 ช่วงต้นมกราคม หลังย้ายมาอยู่รายการเย็นกับ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วงปลาย ม.ค. ที่เรตติ้ง 1.0 และ เรตติ้ง 1.2 ในช่วงเวลา 17.02 – 17.30 น.เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 67 // และ เฉลี่ยเรตติ้งช่วงครึ่งเดือนหลังของ ก.ค. คือ 0.8 – 0.9 แต่เอาจริงๆ เรตติ้งก็มีขึ้นลงนะครับทุกคน

ขอบคุณทั้งสุขและทุกข์ที่ผ่านมาในการทำงานทุกเรื่อง สอนให้เราเติบโต และ ก้าวต่อไป ประโยคท้ายเมียได้กล่าวไว้ให้คิด! #armpipat #ch7hdnews #TERODIGITAL

เรียกว่าถูกจับตากันทันทีสำหรับชื่อของหนุ่ม ตั้น พิเชษญ์ไชย น้องชายของ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ หลังจากตกเป็นข่าวถูกโยงว่าเป็นดาราชายที่เคยแต่งงานกับ ไก่ วรายุฑ

และเรื่องราวความรักกับคนในวงการบันเทิงของหนุ่ม ตั้น ที่ถูกขุดขึ้นไปมาอีกครั้ง ย้อนไปดูข่าวที่นักแสดงสาว เบสท์ ชนิดาภา เคยออกมาบอกว่าเคยถูกหนุ่ม ตั้น พิเชษญ์ไชย หลอกให้รัก แม้ว่า เบสท์ จะอโหสิกรรมให้ แต่ก็เป็นความรักที่จบไม่สวยในตอนนั้น

ตามที่ เบสท์ ชนิดาภา ได้ออกมาทวีตข้อความ และเคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “สำหรับเรื่องพี่ตั้นก็ดีใจมากที่รู้ตัวเร็ว เราไม่ได้เป็นแฟนกัน แค่สนิทในกองถ่าย เราติดรถกลับมาก็เลยกลับด้วยกัน พี่เค้าบอกปลื้มเรามาก เราเลยคบไม่เสียหาย ทุกคนที่รู้จักเค้าการันตีหมดเลยว่าเค้าดี แต่ความมาแตกตอนที่เบสท์ลงรูป IG ก็เลยทำให้ตาสว่าง ภายใน 5 นาที แฟนตัวจริงโผล่ขึ้นมาเลย ก็เคลียร์กันแล้ว

จริงๆ เบสท์ก็ไม่ทราบมาก่อน เพราะตั้นเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีแฟน เบสท์ถามพี่เค้าว่ามีใครคุยไหม ตั้นบอกโสดมา 3 ปีแล้ว ที่ออกมาพูดก็ไม่กลัวมีปัญหา เราเคลียร์จบแล้ว ร่วมงานได้ปกติ คือเบสท์โกรธที่โดนหลอก เขาไม่ขอโทษเบสท์เลยสักคำ ตอนแรกโกรธที่เค้าไม่รู้สึกผิด แต่ตอนนี้อโหสิกรรมให้เค้าดีกว่า ทำงานด้วยกันได้ แต่ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวก็ให้อภัยกัน”

งานเข้าซะงั้น เฮียเค้ก พ่อค้าบะหมี่เกี๊ยว ประกาศซื้อทองเพิ่มอีก 100 บาท สรรพากรเตรียมลงสอบถาม ชำระภาษีเงินได้ถูกต้องหรือไม่ แต่ไม่ต้องนั่งนับชามก๋วยเตี๋ยวแล้ว

นนทบุรี : กรณี นายรังสรรค์ สุวรรณศร หรือ เฮียเค้ก เจ้าของร้านฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง ซึ่งตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ออกมาให้ข่าวว่า กำลังเตรียมเงินเพื่อจะไปซื้อทองคำรูปพรรณน้ำหนักอีก 100 บาท มาใส่เพิ่ม หลังปัจจุบันมี ทองรูปพรรณใส่ติดตัวอยู่แล้วกว่า 40 บาท

จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเซียลว่า ธุรกิจร้านขายบะหมี่เกี๊ยวของเฮียเค้ก ขายดิบขายดีขนาดไหน จนมีกำไรไปซื้อทองคำรูปพรรณมาใส่เพิ่มสวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและราคาทองคำที่พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 26 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สรรพากรในพื้นที่ ได้รับการเปิดเผยว่า หลังทราบข่าวนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสำรวจของกรมสรรพากรในพื้นที่เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบรายได้ของเจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวเจ้านี้แล้วว่ามีการชำระภาษีเงินได้ถูกต้องหรือไม่

เนื่องจากที่ผ่านมาบนถนนแจ้งวัฒนะยาวไปถึงหัวถนนปากเกร็ดเอง มีร้านขายบะหมี่เกี๊ยวมากมายอยู่หลายร้านแต่ก็ยังไม่เคยเห็นว่ามีเจ้าของร้านขายบะหมี่เกี๊ยวรายใดมียอดขายสูงกำไรดีแบบเจ้านี้มาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าเจ้าของร้านขายบะหมี่เกี๊ยวรายนี้มีธุรกิจตัวอื่นหรือรายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มเติมหรือไม่

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสำรวจของกรมสรรพากร เตรียมลงพื้นที่เพื่อประเมินรายได้หลังหักต้นทุนค่าใช้จ่ายของร้านบะหมี่เกี๊ยวเจ้านี้แล้ว ซึ่งจะใช้การสอบถามและประเมินจากการเฉลี่ยลูกค้าในรายวันดูเพื่อตรวจสอบรายได้ของทางร้าน โดยไม่จำเป็นต้องไปนั่งนับชามก๋วยเตี๋ยวเหมือนยุคก่อน อย่างไรก็ตามข้อมูลการเสียภาษีเงินได้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อ ‘เสี่ยเค้ก’ นายรังสรรค์ สุวรรณศร อายุ 57 ปี เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดัง “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” ที่มักจะใส่สร้อยคอทองคำรูปพรรณ และเลสข้อมือ น้ำหนักหลายสิบบาท ขายบะหมี่ไปด้วย จนเคยเป็นข่าวโด่งดังไปตามสื่อต่างๆมาแล้ว

จนลูกค้าบางคนก็ยังห่วงใยความไม่ปลอดภัยของเสี่ยเค้ก รวมทั้งภรรยาและลูกจ้างที่ร้านที่ใส่สร้อยคอทองคำกันทุกคน จนเป็นที่ฮือฮาของลูกค้า ที่มาซื้อก๋วยเตี๋ยวในแต่ละคืน อีกทั้งตัวเสี่ยเค้กเองนั่น ก็เคยผ่านความจนมาแล้ว จึงเข้าใจถึงหัวอกคนจน และติดป้ายที่หน้าร้านไว้ว่า “สตรีมีครรภ์ คนจน คนไร้ที่พึ่งขอกินฟรีได้ตลอด”

เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านขาย “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” ของเสี่ยเค้ก ซึ่งตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พบเสี่ยเค้ก ภรรยา ลูกสาว ลูกชาย รวมถึงลูกจ้าง กำลังชุลมุนปรุงก๋วยเตี๋ยวให้กับลูกค้าอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเสี่ยเค้กเองนั้นในคืนนี้ พบว่าใส่สร้อยคอทองคำ 2 เส้นใหญ่ เลสข้อมือทองคำอีก 2 เส้น จนเหลืองอร่ามไปทั้งตัว ส่วนภรรยาและลูกสาวลูกชาย ลูกจ้าง ต่างก็มีสร้อยคอทองคำใส่กันทุกคน

นายรังสรรค์ หรือเสี่ยเค้ก เปิดเผยว่า ช่วงนี้ถึงแม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่ที่ร้านของตนก็พออยู่ได้ เพราะตนทำกันแบบครอบครัวช่วยกันเองค้าขายกันเอง ส่วนสร้อยคอทองคำที่ใส่อยู่ที่คอ ตอนนี้ก็เพิ่งไปเปลี่ยนและเพิ่มน้ำหนักมา จากเส้นละ 10 บาทเป็นเส้นละ 15 บาท 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำก็เพิ่มเป็นเส้นละ 5 บาท 2 เส้น รวมน้ำหนักทองที่ใส่อยู่คืนนี้ก็ 40 บาท มูลค่าประมาณ 1,600,000 กว่าบาท
“เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ผมก็ไปดูสร้อยคอทองคำหนัก 100 บาทที่ร้านทองแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ทำคอนเทนต์ให้กับที่ร้าน เนื่องจากที่ร้านเห็นผมใส่ทองเหลืองอร่ามทั้งตัว อีกทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 100 บาทเส้นนี้ ผมรู้สึกชอบและพึงพอใจในลวดลายและงานที่สั่งทำ ตอนนี้ก็เริ่มจะรวบรวมเงินสด เก็บเล็กผสมน้อยอีกสักหน่อย คาดว่าจะกลับไปซื้อทองเส้นนี้กลับมาให้ได้ เพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต” เสี่ยเค้ก กล่าว
นายรังสรรค์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ร้านก็ยังมีสโลแกนเหมือนเดิม ถ้าคนไหนยากจนสตรีมีครรภ์ คนไม่มีจะกิน ถ้ามาขอตนพร้อมให้กินฟรีเสมอ ส่วนคนที่มีตังแล้วแกล้งทำไม่มีมาขอกินฟรี ถ้าเขากล้าขอ ตนก็กล้าให้ เพราะตนนักเลงพอ

เมื่อถามว่า ใส่ทองมากมายขนาดนี้ไม่กลัวอันตรายเหรอ เสี่ยเค้ก ตอบว่า ตนเป็นคนแถวนี้ ทุกคนรู้จักตนทั้งนั้น ส่วนตนก็รู้จักแทบทุกคน อีกทั้งที่ผ่านมาก็ทำแต่ความดีช่วยเหลือคนที่ลำบากหาก ใครที่มาคิดร้ายกับตน ก็มีของดีพอปกป้องคุ้มครองตัวอยู่เหมือนกัน “ขอร้องอย่าเสี่ยงดีกว่ามันไม่คุ้ม”

ทำเอาผู้ชมถึงกับใจหายเมื่อ  อาร์ม พิพัฒน์ พิธีกร ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวหลังจากที่หมดสัญญาการเป็นผู้ประกาศช่อง 7 โดยเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์ 1 ปี ที่ผ่านมา ว่า… ภาพรวม 1 ปีที่ผ่านมา มีความสุขมาก!!! ได้โอกาสมาอ่านข่าว กับ คนข่าวคุณภาพ ทั้งคุณปุ้ย รสริน คุณบี กมลาสน์ คุณปุ้ม เปรมสุดา น้องกาย สวิตต์ น้องปุ๊ก น้องบัวบูชา ทนายสงกานต์ เพลงรบ ศักดา กับ ทีมงานดีๆ ทีมข่าวทุกคนที่ตอนเขียนข่าวไป ผมก็ไปชวนคุย ขอแทรก เช็คข่าวอัพเดท ทั้งข่าวเช้า-เย็นใน

“เช้านี้ที่หมอชิต” และ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ขอบคุณพี่ๆ และ ผู้บริหาร Tero และ CH7HD ที่ชวนกันมารับบท “ผู้ประกาศ” เป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก + ต้องใช้เวลาชีวิตเยอะมากต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ? ก็ต้องดู/อ่านข่าวของช่อง(และช่องอื่นๆ) อ่านและหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อมาเล่าให้ผู้ชมเข้าใจง่ายขึ้น

ใช้เวลาอ่านข่าวหน้าจอ 1ชม.ครึ่ง แต่การเตรียมตัวน่าจะใช้เวลาวันละ 7-8 ชม. ดูรายการข่าวตั้งแต่เช้า(มืด)-สาย-เที่ยง-บ่าย-เย็นต้องขอดูคลิปภาพของทุกข่าวที่จะอ่านไว้ก่อน บางทียังตัดต่อไม่เสร็จ ก็ต้องดูภาพสดๆ แต่ละเหตุการณ์ติดตากันเลยทีเดียว เป็นงานที่ทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น แถมเพิ่งรู้ว่าแฟนข่าวยุคนี้เยอะมากๆ ขอบคุณมากๆนะครับ ขอบพระคุณจากใจเลย

มีแฟนๆข่าวเย็นถามเข้ามากันเยอะมาก ว่าใน t-ser รายการไม่มีภาพผม ใช่ครับ จากนี้จะมีการปรับรูปแบบรายการครับ ในนามทีมงาน ก็ฝากแฟนๆติดตามกันนะครับส่วนผมจะหมดสัญญากับทาง Tero ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับบท “ผู้ประกาศข่าว” ไว้พบกันใหม่นะครับ ด้วยรักและขอบคุณ

สุดท้ายนี้ถ้าถามถึงผลงาน ก็ขอเล่าด้วยตัวเลขนะครับ เช้านี้ที่หมอชิต ช่วงเดือนกันยายน 2566 – ต้นมกราคม 67 กับ เรตติ้งทำไว้ได้สูงสุด 1.1-1.2 ในช่วงเวลา 7.00-7.30น. ในเดือนกลาง พ.ย. // และเรตติ้ง 1.0 ช่วงต้นมกราคม หลังย้ายมาอยู่รายการเย็นกับ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วงปลาย ม.ค. ที่เรตติ้ง 1.0 และ เรตติ้ง 1.2 ในช่วงเวลา 17.02 – 17.30 น.เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 67 // และ เฉลี่ยเรตติ้งช่วงครึ่งเดือนหลังของ ก.ค. คือ 0.8 – 0.9 แต่เอาจริงๆ เรตติ้งก็มีขึ้นลงนะครับทุกคน

ขอบคุณทั้งสุขและทุกข์ที่ผ่านมาในการทำงานทุกเรื่อง สอนให้เราเติบโต และ ก้าวต่อไป ประโยคท้ายเมียได้กล่าวไว้ให้คิด! #armpipat #ch7hdnews #TERODIGITAL