หลังได้รับการปล่อยตัว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” นักแสดงสาวชื่อดัง โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข
ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ให้แจ้งภายใน 7 วัน และให้รายงานตัวทุกเดือน จนกว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลง

และให้แจ้ง ตม.ทราบด้วย แต่ในส่วนของแม่พิ้งกี้ไม่อนุญาตให้ประกันตัว อัยการหนุ่ย ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึกออนไลน์ คาดว่าถึงสาเหตุที่ไม่ให้ประกันตัวแม่พิ้งกี้
ว่าโดยหลักการทั่วไปแล้ว ผู้ต้องหาที่คุมไว้ จะไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้แล้ว ซึ่งบางคนก็สงสัยว่า ทำไมศาลไม่ให้ประกัน
สำหรับ ‘พิ้งกี้ สาวิกา’ ที่มีข่าวลือสะพัดว่า พิ้งกี้เตรียมหวนคืนวงการบันเทิง และเตรียมออกอีเวนต์แรก ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 4 ม.ค.นี้ หลังจากเพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมา
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ในวงเงินประกัน 5 ล้านบาท ตามที่ได้รายงานข่าวไป ปรากฏว่าล่าสุด เพจพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ได้รีบออกมาชี้แจงข่าวลือที่เกิดขึ้น
โดยโพสต์ว่า “แอดมินฝากแจ้ง มายังลูกเพจทุกท่าน พี่พิ้งยังไม่มีออกงานใดๆ นะคะ” พร้อมกับได้คอมเมนต์เพิ่มเติมว่า “โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข่าวมากๆ
ในช่วงนี้นะคะทุกคน ดูแลสุขภาพนะคะ” ขณะที่ข่าวสดออนไลน์ก็ได้รับการเปิดเผยจากคนใกล้ชิดที่ดูแลพิ้งกี้อยู่ในตอนนี้ บอกว่า ตอนนี้พิ้งกี้ไม่ได้ไปถือศีลปฏิบัติธรรม
แต่ไปละหมาดที่มัสยิด และพิ้งกี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนการรับงาน ที่มีข่าวว่าจะไปออกอีเวนต์ ตอนนี้ยังไม่รับงาน ขออยู่นิ่งๆ ก่อน
แต่อย่างที่หลายคนเห็น ว่าตอนนี้เธอพร้อมลุยงานมากมาย ไม่วส่าจะงานวงการหรือนอกวงการ เป็นทั้งแม่ค้าขายของทอดและนักแสดงหนักเอาเบาสู้มากๆค่า

เก็บหอมรอมริบด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดที่มี สำหรับตลกสาวอารมณ์ดี “ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรม” เพื่อทุ่มงบสร้างบ้านหลังใหญ่เป็นของขวัญให้กับตัวเองและสามี “บูบู้ กำธร”

โดยล่าสุด “ตุ๊กกี้” ก็ได้โพสต์คลิปต่อเติมบ้านตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนตกแต่งเสร็จในระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่เห็นแล้วบอกเลยว่าอลังการเหมือนอยู่ในรีสอร์ต ไม่ว่าจะเป็นมุมรับแขก โต๊ะทำงาน เตียงนอน รวมไปถึงสระว่ายน้ำกลางบ้าน

งานนี้ตลกสาวก็เผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “ร่วม ๆ เกือบปี ขาดไป 2 เดือน ในการทำบ้าน ใช่ค่ะ นี่บ้านเดิมต่อเติมให้กว้างขึ้น รองรับความอ้วนของหุ่นผู้อาศัย 90% ละค่ะ เหลือแค่ทำบุญบ้านจะครบ 100% เกือบตายนะคะ ทำบ้านนี่ มีเหตุผลระมัดระวังไม่สบายใจแน่ ๆ กลัวรับเหมาเล่นงาน

แต่พี่บู้ดูงานเองตลอดเวลา ไม่คลาดสายตา แม้แต่วิเดียวถ้าไม่มีคนดูจริงจังตรงนี้ (ท่าจะแย่) ออกแบบ/วัสดุ / ดูงาน/เร่งงาน/ตรวจงาน (พี่บู้เท่านั้น) นี่ล่ะค่ะสมบัติ ทำงานหนักก็เพื่อสนองนี้ดทุกอย่าง ขอบคุณลูกค้าเช่าพระพี่บู้ทุกคน

ขอบคุณงานหนูทุกงาน งานน้อย เงินมาก หนูรับหมดค่ะ กราบนะคะ ที่สนับสนุนทุนในการอิฐซื้อปูน ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคำให้พรของพ่อแม่ ขอบคุณผู้ให้งานจนมีเงินสร้างมขอบคุณพี่บู้ที่เสียสละอดทนเคลียร์ช่าง ขอบคุณความขยันของเราทั้ง 2”

“ตุ๊กกี้” สุดารัตน์ บุตรพรม นักแสดงตลก ของค่าย เวิร์คพ้อยท์ ขอเจียดเวลาจากงานแสดง มาช่วยหวานใจ บูบู้ “นายกำธร โพธิ์น้ำคำ” ขายน้ำปลาร้าที่มีชื่อว่า “ปลาร้าราชา” ซึ่งสาวตุ๊กกี้ออกตัวว่า กิจการ ปลาร้านี้ ไม่ใช่ของตน แต่เป็นไอเดียของ หวานใจ บูบู้

“ตุ๊กกี้” เล่าว่า กิจการ ปลาร้าราชา นี้ เป็นไอเดีย และคิดค้นสูตร โดย “คุณบูบู้” และก่อนที่จะมาทำธุรกิจปลาร้าในครั้งนี้ เธอและ บูบู้ ได้เคยผ่านการทำอื่นมาแล้ว ถึง 3 ครั้ง ทั้งเปิดร้านขายเสื้อผ้า ร้านแทททู และร้านอาหาร ซึ่งแต่ละครั้งทำไม่เกิน 2 ปี ก็จะเปลี่ยน สาเหตุก็มาจากต้องการเรียนรู้ การเติบโต ไม่อยากหยุดนิ่ง และสิ่งที่ทำให้กล้าเปลี่ยนแปลงธุรกิจทุกๆ 2 ปี เพราะทุกครั้งที่ทำ เราจะมุ่งมั่นและสามารถคืนทุนได้ภายในไม่เกิน 4 เดือน เป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองคน กล้าที่จะเปลี่ยนธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง

บอกเล่าเรื่องราวรักผ่านเลนส์รัก 11 ปี เจี๊ยบ ชมพูนุช และ ปูไข่ พงศ์สิรี หลังที่ได้ประกาศแต่งงานกลางโซเชียลเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ทั้งคู่ทยอยปล่อยภาพพรีเวดดิ้งหวานฉ่ำสุดโรแมนติกออกมาให้แฟนๆ ได้ตื่นตาตื่นใจกันแล้ว โดยภาพเซ็ตนี้มาในคอนเซ็ปต์แนวสตรีท ที่ทั้งเท่และโดดเด่น สะท้อนความเป็นตัวของทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละภาพล้วนมีความพิเศษและบอกเล่าเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้อย่างอบอุ่น

โดย สาวเจี๊ยบ โพสต์ภาพลงไอจี พร้อมข้อความระบุว่า ขอทยอยลงรูปน้าาา อย่าเพิ่งเบื่อกันเด้อ เราตั้งใจ ตากล้องทุ่มเท ทีมงานไม่ท้อถอย  ปล. ปูไข่ เจี๊ยบ พี่จุก ใครเทห์กว่ากัน (ในรูปถัดไปค่ะ) ที่เรียกได้ว่าหลายๆ ภาพประทับใจเหล่าแฟนคลับสุดๆ ต่างพากันคอมเมนชื่นชมความสวยต์รัวๆ เช่น น่ารัก ยินดีด้วยนะคะ น่ารักมากครับ ชื่นใจที่สุด เวลาผ่านมานานในการเดินทางแห่งรัก ดีใจด้วยมากๆ ยินดีด้วย ดูอีกได้เรื่อยๆ ชอบ ลงเยอะๆ รอชม สวยมากน่ารักมากค่ะ ลงเยอะๆเลยค่ะรอดูอยู่

เกิดเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์ขึ้นมาทันที สำหรับคู่รักของ โทนี่ รากแก่น และ แก้ว จริญญา เมื่อมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ใต้คลิปวิดีโอบนอินสตาแกรมของ แก้ว จริญญา

ระบุว่า “อนาคตไม่แน่นอน ผญ.อย่างเราควรมีงานมีรายได้เป็นของตัวเองค่ะ ควรรับงานบ้าง เพราะน้องไม่ได้มีดีแค่ทำอาหารเป็นแม่บ้านที่ดีถือว่าผ่านสุดๆ แต่สามีเค้าอิ่มตัวมั้งเลยให้ภรรยาที่อายุห่าง 10 ปี อิ่มตัวไปด้วย ทั้งที่เป็นวัยทำงานใช้ชีวิตสบายๆ ได้”

ซึ่งสาว แก้ว จริญญา ได้เข้ามาตอบกลับทันทีว่า “เราก็มีเงินเก็บค่า ไม่ต้องห่วงนะคะ รับงานน้อยไม่ใช่ว่าไม่มีเงินนะคะ ทางด้านโทนี่ ก็เข้ามาตอบด้วยเช่นกันว่า “ก็ยังไม่อิ่มตัวนะคับ แต่อิ่มอกอิ่มใจ”

และวันนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปส่องธุรกิจของ เเก้ว-โทนี่

– ปี 2557 โทนี่ เปิดตัวธุรกิจนำเข้าคอนแทกเลนส์จากเกาหลี ทุ่มทุนมูลค่านับ 10 ล้านบาท

– ปี 2559 แก้ว จริญญา มีร่วมธุรกิจร้านอาหารเกาหลีชื่อว่า Yeolbong Thailand กับเพื่อน

– ปี 2563 โทนี่ หวนกลับมาเปิดร้านตัดผมอีกครั้ง หลังจากมีอาชีพส่วนตัวเป็นช่างตัดผมอยู่แล้ว

– โทนี่-แก้ว มีช่องแพลตฟอร์มออนไลน์คู่กัน อาทิ YouTube Channel ให้ติดตามคอนเทนต์ต่างๆ

หากนับย้อนกลับไปถึงงานต่างๆ ที่ทั้งคู่ได้รับมา เรียกว่ากวาดรายได้ และสร้างมูลค่าเข้ากระเป๋ามากพอสมควรจากงานในวงการบันเทิง

ถูกจับตามองเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ ตั๊ก มยุรา และ หน่อย บุษกร ให้คนในวงการบันเทิงรายหนึ่งซึ่งเป็นพิธีกรดัง ยืมเงิน แต่อีกฝ่ายเหนียวหนี้ ต้องทวงออกสื่อ ทวงเป็นปีทำเจ้าหนี้เครียดจนป่วยกว่าจะได้เงินคืน จนหลายคนอยากรู้ว่าเป็นใคร ทำไม 2 ตัวแม่ระดับตำนานถึงยอมให้ยืมเงินได้

ล่าสุด เพจ อีป้าข้างบ้าน ได้ออกมาโพสต์ตีข่าวนี้ พร้อมบอกใบ้ว่า พิธีกรคนดังกล่าวคือใคร “คนในวงการยืมเงินหน่อย บุษกร สุดท้ายทวงจนกว่าจะได้ ทำเอาเจ้าหนี้เครียด..เขาคือใครนะ ? #หน่อยบุษกร #ไนน์เอ็นเตอร์เทน #เจ้าหนี้ลูกหนี้ #อีป้าข้างบ้าน #แม่เปียร์มาแล้ว”

โดยบอกว่า “พิธีกรดัง ผู้หญิงคนนี้ หลายคนสงสัยเป็นใคร ที่กล้ามายืมเงิน หน่อย บุษกร และ ตั๊ก มยุรา เป็นระดับไหนทั้งคู่ถึงได้ยอมให้ยืมเงิน จะไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน แต่หลายคนก็น่าจะรู้กันแล้ว ทายกันมาแล้ว พิธีกรคนนี้ภาพลักษณ์ดีมาก เมื่อก่อนโด่งดังมาก มีทั้งงานแสดง ร้องเพลงไหม จำไม่ได้ ถ่ายแบบไหม ยุค 90 ก็มีถ่ายแบบแหละ เขาโด่งดังตั้งแต่ตีนฉันเท่าฝาหอย พ่อแม่ฉันรู้จัก บอกคนนี้เก่งทุกอย่างจริง ๆ

แต่ชีวิตของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดตั้งแต่มีการสูญเสียคนในครอบครัว พอนางได้เป็นผู้จัด คนในมองว่านางมีการจัดการระบบไม่ดี เหมือนคนทำงานไม่เป็น จัดการระบบใด ๆ ไม่ได้ นางก็เลยชักหน้าไม่ถึงหลัง เดี๋ยวยืมเงินคนนั้นมาใช้คนนี้ ยืมเงินคนนี้มาใช้คนนั้น สุดท้ายอีรุงตุงนังนางก็เลยล้ม แค่นั้นแหละ จบ !”

ขณะที่ในคอมเมนต์ก็มีขาเมาท์และชาวเน็ตเข้ามาชี้เป้ากันรัว ๆ แบบที่รู้เลยว่าคือใคร อาทิ ปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด, ป้าแต่ก่อนฉันชอบเขามากแหบเสน่ห์อุ้ยยย, ออมีลูกแฝดใช่ไหม เดา, ถ้าเป็น ป จริง ชีวิตอาจจะผลิกผันตอน ส เสีย อันที่จริงครอบครัวเขาพื้นฐานฐานะดีมากนะ ตัว ป เองก็จบนอก แต่ใด ๆ โดยสรุป เป็นหนี้ก็ใช้ซะค่ะ เราจะได้อยู่แบบสบายใจ คนให้ยืมก็จะได้ไม่เสียใจที่เคยช่วยเหลือเรา, จำได้ว่าสมัยก่อนพื้นฐานครอบครัวเธอมีฐานะนะคะ ส่งเธอเรียนจบนอกยังจำภาพวันงานแต่งของเธอได้, รู้ละ คนในครอบครัวตายไปและ ลูก ไปเมืองนอกด้วย ฯลฯ

เก็บตกบรรยากาศหลังงานแต่ง นางเอกสาวเจ้าสาวป้ายแดง แมท ภีรนีย์ ยังโพสต์รูปเล่าเรื่องราวและรายละเอียดต่างๆ ในงานแต่งลงโซเชียล ให้ได้ติดตามอ่านกันเรื่อยๆ รวมถึงคนที่รักแมทก็ยังทยอยลงรูป

และหนึ่งในความน่ารักในงานแต่งของ แมท ภีรนีย์ กับรูปกับแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีในงาน และได้เห็นโมเมนต์ที่เจ้าสาวเจ้าบ่าวถ่ายรูปคู่กับ ไฮโซพก ที่เคยมีข่าวกับ แมท ในอินสตาแกรม @mattperanee_worldwide

แต่ที่พีกไปกว่านั้นคือ เมื่อเลื่อนภาพถัดไปแล้วได้เห็นภาพน่ารักๆ ที่ ไฮโซพก หันไปจูบแก้ม เฟม ภีมเดช เจ้าบ่าวของแมท เจ้าบ่าวก็คือยิ้มกว้างยิ้มหวานมาก สงสัยว่าะจั๊กจี้หนวดไฮโซพก

โอ๊ย! ช็อตนี้คือพีกมากน่ารักมากจริงๆ เป็นภาพมิตรภาพที่ดูไปก็ต้องยิ้มไปด้วยเลย

หลานชาย เล่าที่มา ภาพไวรัลสุดเปรี้ยว ทำไมคุณยายชูนิ้วเดียว ในรูปรวมญาติวันวิวาห์ จนกลายเป็นภาพที่ถูกแชร์ต่อในโซเชียลเป็นจำนวนมาก

วันที่ 18 ส.ค.2567 เว็บไซต์มติชน รายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Adisorn Wedding Studio ได้โพสต์ภาพงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่ง ซึ่งความน่ารักอยู่ที่รูปรวมครอบครัว ซึ่งเป็นภาพที่ทุกคนยิ้มแย้มมีความสุข พร้อมทำมือมินิฮาร์ตให้ช่างภาพได้แชะวินาทีแห่งความสุขเก็บไว้ แต่ความพิเศษอยู่ที่คุณยายในลุคเสื้อสีชมพูสุดหวาน ที่ทำหน้าอมยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่มือที่ชูขึ้นมานั้นไม่เหมือนใคร ซึ่งทำเอาชาวเน็ตแห่เมนต์เอ็นดูคุณยายกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายถิรวัฒน์ ผลธุสะ หรือคุณที เจ้าบ่าวที่ร่วมเฟรมกับคุณยายด้วย โดย คุณที เปิดเผยกับ “มติชน” ว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค.67 ที่ผ่านมาเป็นงานแต่งของตน ซึ่งคุณยายตัวตึงที่อยู่ในภาพเป็นยายของตน ชื่อ ยายสอิ้ง ทำสวน อายุ 90 ปี วันนั้นก็เป็นการถ่ายรูปรวมญาติ แม่ก็พาคุณยายเข้ามาถ่ายด้วย พี่ตากล้องเขาก็ให้ทำมินิฮาร์ต แต่ยายแกทำไม่เป็น จับมือทำแล้วก็ทำไม่ได้

ตนก็เลยนึกขึ้นได้ แต่ก่อนเวลาอยู่บ้านเคยเล่นกับยาย ชอบแกล้งแก เวลาถ่ายรูปปีใหม่ก็จะแกล้งยายให้ยายชูนิ้วกลาง วันนั้นก็เลยให้แกชูนิ้วกลาง เพราะถ้าเป็นนิ้วกลางแกชูได้ถนัดเลย แล้วหน้าแกจะนิ่งๆ ด้วย เลยแกล้งแก เพราะเวลามีญาติมาบ้าน บางปีใหม่คริสต์มาสก็จับแกใส่หมวก จับใส่แว่นบ้าง แล้วถ่ายรูปให้แก แกก็ชอบที่ลูกหลานมาเล่นด้วย

นายถิรวัฒน์ยังกล่าวอีกว่า หลังจากภาพกลายเป็นไวรัล ผมก็นั่งอ่านคอมเมนต์ให้แกฟังเมื่อวาน ว่ามีคนบอกว่ายายน่ารักนะ แล้วก็มีการอธิบายคำศัพท์วัยรุ่น อย่าง ‘ยายตัวตึง’ ‘ยายตัวแรง’ ว่าแปลว่าอะไร แกก็ขำเพราะชอบ

“ยายเพิ่งมารู้เมื่อวานว่าความหมายของการชูนิ้วกลางคืออะไร เอาไปให้แกดูเมื่อวานว่า เห็นไหมมีแต่คนรู้จักยาย ว่ายายน่ารัก เลยได้บอกยายว่ารู้ไหมว่าที่ชูคืออะไร พอบอกแกไปแกก็ขำใหญ่เลย ครอบครัวดีใจมากที่มีคนได้รู้จักยาย และเวลาอ่านคอมเมนต์มีแต่คอมเมนต์ด้านบวก ชมว่ายายน่ารัก ชอบตรงนี้สุดเลย มีคนชอบยาย ขอบคุณมากที่ชอบยายผม เหมือนผู้สูงอายุคนหนึ่งที่มีคนมาชมว่าแกน่ารัก ที่คนมาชมยาย แกก็ชอบ

ยายฝากขอบคุณว่า ขอบคุณหลานๆ ทุกคนนะที่คอมเมนต์และเอ็นดูยายรักยาย” นายถิรวัฒน์กล่าว

น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538 เป็นคนร้อยเอ็ดโดยกำเนิด โดย น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เป็นลูกสาวของคุณพ่อวินัสชัย อินทนนท

และคุณแม่คำผัน สุวรรณศาลา ปัจจุบัน น้องเมย์ รัชนก สังกัดโรงเรียนกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด เส้นทางสู้กีฬาแบดมินตันของน้องเมย์ รัชนก เริ่มต้นมาตั้งแต่วัยเพียง 5 ขวบ

และเมื่ออายุ 7 ขวบ น้องเมย์ ก็ได้ลงแข่งขันแบดมินตันไปครั้งแรก แม้จะแพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่น้องเมย์ก็ฝึกฝนเรื่อยมา จนมาคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน “อุดรธานีโอเพ่น”

และจากนั้นเธอก็ครองแชมป์ในการแข่งขันมาโดยตลอดต้องยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องเมย์ ได้พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งพัฒนาการเล่นให้เหนียวแน่นขึ้น ประกอบกับเป็นคนใจสู้

อยู่ในระเบียบวินัย ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก จนทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา น้องเมย์สร้างชื่อเสียงให้กับวงการลูกขนไก่ไทยอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นนักกีฬาสำคัญของทีมชาติไทยเคียงข้างนักแบดมินตันรุ่นพี่คนอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้องเมย์จะอายุเพียง 17 ปีในขณะนั้น แต่ความสามารถของเธอไม่ได้น้อยตามอายุเลย เพราะสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ครองแชมเปี้ยนแบดมินตันเยาวชนโลกถึง 3 สมัยซ้อน

ซึ่งถือเป็นคนแรกของโลกที่สร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์เยาวชนโลกได้ 3 สมัยซ้อน หลังจากนั้นมา ชื่อเสียงของเธอก็เป็นที่รู้จักในวงการแบดมินตันโลก จนในปี พ.ศ.2552

ทางสหพันธ์แบดมินตันโลกก็มอบรางวัลนักแบดมินตันดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีให้กับน้องเมย์ และทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เส้นทางบนถนนนักตบลูกขนไก่ของน้องเมย์ยังอีกยาวไกลแน่นอน

ส่วนในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย น้องเมย์ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เมื่อรวมพลังกับทีมแบดมินตันหญิงไทยช่วยกันปราบคู่ต่อสู้จากอินโดนีเซีย

คว้าเหรียญทองแบดมินตันประเภททีมหญิงมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองในประเภทนี้มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี สร้างความดีใจให้แฟน ๆ แบดมินตันชาวไทยเป็นอย่างมาก

และนอกจากฝีมือที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ กีฬาชาวไทยชื่นชมน้องเมย์เป็นอย่างมากก็คือ การมีสัมมาคารวะ เพราะทุกครั้งที่น้องเมย์ลงทำการแข่งขัน เธอจะไหว้ทุกคนรอบสนาม

ทั้งผู้ชม กรรมการ คู่ต่อสู้ แม้กระทั่งพนักงานที่คอยเช็ดพื้นสนามแบดมินตัน กลายเป็นภาพความประทับใจที่ตรึงเข้าไปในจิตใจของผู้ที่พบเห็น และทำให้ทุกคนหลงรัก และเอ็นดูเด็กสาวคนนี้ไปโดยทันที

ในการแข่งขัน อินเดีย ซูเปอร์ ซีรีส์ น้องเมย์ก็สามารถคว้าแชมป์ได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นการคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ครั้งแรกอีกด้วย โดยเอาชนะ Pusarla Venkata Sindhu นักแบดมินตันจากอินเดียไปได้

และในช่วงนั้นเอง น้องเมย์ก็สามารถรั้งตำแหน่งนักแบดมินตัน มือ 3 ของโลก ซึ่งถือเป็นอันดับที่สูงที่สุดในชีวิตอีกด้วย ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน น้องเมย์ รัชนก ก็สามารถคว้าแชมป์แบดมินตันโลก ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ได้เป็นผลสำเร็จ

ด้วยการเอาชนะนักแบดมินตัน มือ 1 ของโลก หลี่ เสวี่ยรุ่ย ได้เป็นผลสำเร็จ 2-1 เซต และการคว้าแชมป์ครั้งนี้ ทำให้น้องเมย์ รัชนก เป็นแชมป์โลกรายการนี้ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

ถือเป็นภาพและโมเมนต์ที่น่ารักมากๆ เมื่อแม่แอฟ ทักษอร ไม่ว่าง แต่น้องปีใหม่มีการแสดงที่โรงเรียน ดังนั้นจึงมอบหมายให้หวานใจอย่างหนุ่ม นนกุล ชานน ไปทำหน้าที่ผู้ปกครองดูการแสดงของ “น้องปีใหม่” ที่โรงเรียนแทน

เรียกว่าเป็นภาพที่ดูอบอุ่นมากๆ คนไม่ใช่แฟนก็คงจะทำแทนกันไม่ได้หรอกเนาะ

หลังอดทนต่อสู้กับอาการป่วยรุนแรงมานานจุ๊บแจง วิมลพันธ์ นักแสดงรุ่นใหญ่สาวสวย ที่มากความสามรถ แลแสดงละครดังมาอย่างมากมาย ที่เมื่าอช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเธอได้เผยเรื่องสุดช็อก น้องชายแท้ๆ ต้องเข้าแอดมิด ICU หลังเกิดอาการน้ำท่วมปอด และหยุดหายใจนานถึง 14 นาที ค่ะ และด้านคุณหมอก็บอกเธอแค่ว่าให้รอปาฎิหารย์ล่าสุดไร้ปาฎิหารย์ดั่งที่หวังค่ะ จุ๊บแจง วิมลพันธ์ ได้แจ้งข่าวเศร้าสูญเสียน้องชายอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว โดยเธอได้เขียนข้อความสุดซึ้งถึงน้องชายเธอว่า “🤍🤍พี่ไม่รู้หรอกนะว่า…ตอนนี้บนท้องฟ้าเป็นอย่างงัย…รู้แต่ว่า…น้องชายที่พี่รักและเลี้ยงมากับมือ…ได้ไปที่ๆๆมันสวยงาม..ไปในที่ๆๆๆไม่ต้องเจ็บต้องทนทรมาน…ทุกครั้งที่น้องไปล้างไต..เกล็ดเลือดต่ำ…ติดเชื้อ..วิกฤตเข้าICUเดือนละ4-5ครั้ง..ใจทุกคนในบ้านตก…เป็นห่วง…รัก

🤍อาทเป็นนักสู้สำหรับพี่…ไม่เคยบ่นไม่เคยท้อ…ทุกครั้งที่มึอะไรเข้ามาในชีวิต…ไม่ว่าเรื่องงานหรือชีวิตส่วนตัว…วันนี้น้องพี่เหนื่อยมาก…พักนะน้องรักหลับให้สบาย…ไปเป็น“เชฟเทวดา”บนสวรรค์นะ…แล้วเราจะได้เป็นพี่น้องที่รักกันอีก…ตลอดไป🤍🤍รักน้องสุดหัวใจ #RIP🤍อาท #อนุชา #ชาลีจังหาญ #🤍18/8/67 #เวลา01:04น“หลังจากที่จุ๊บแจงได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยน้องชายไปแล้วนั้น เหล่าเพื่อนๆ คนในวงการบันเทิง และแฟนคลับ ต่างก็เข้ามาแสดงความเสียใจกันอย่างมากค่ะ และทางมาดามเม้าท์ก็ขอแสดงความเสียใจกับคุณจุ๊บแจงด้วยนะคะ