เป็นผู้ให้แบบไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆค่ะ สำหรับ พ่อค้าออนไลน์คนดังอย่าง “ดิว ธีรภัทร” เพราะก่อนหน้านี้ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ “น้องแมงปอ” และ “น้องพู่กัน” ที่ไปออกรายการโหนกระแสมาก่อนหน้านี้

หลังพ่อของฝ่ายชายไม่มีเงินมาให้ตามที่ตกลงจนเกิดเป็นดราม่า เพราะนอกจากจะให้เงินค่าจัดงานกับแม่ของน้องแมงปอหรือน้องผู้หญิง

และผูกแขนให้เงินรับขวัญกับน้องทั้ง 2 แล้ว ล่าสุด ยังได้ออกมาประกาศเตรียมให้งาน “พ่อบอย” พ่อของน้องพู่กันด้วย

โดยบอกเลยว่า “❗️ ทุกคนทั่วประเทศฟังนะครับ พี่ดิวให้งานพ่อบอย ขายของไลฟ์ 1 ชม 200,000 บาท เพื่อล้างหนี้งานแต่งลูกชาย ได้ไม่ได้ยอด ก็จะให้ 2 แสนนี้เพื่อพ่อบอย 😭 ร้องไห้รอแล้ว พ่อลูกเขาจะได้เข้าใจกันสักทีครอบครัวจะได้กลับมารักกันโดยสมบูรณ์”

ท่ามกลางแฟนๆที่เข้ามาคอมเมนต์สนั่นเลยว่า ทุกคนมีความสุขแต่พ่อบอยยังทุกข์อยู่เลยหนี้สินเกิดจากลูกจะแต่งงาน พ่อบอยควรได้ความยุติธรรม รับโอกาสจากสังคมบ้างน่ะค่ะ , ไปดู ตต พ่อบอย สงสารแกเหมือนกันค่ะ ,ดีค่ะ จ้างพ่อมาทำงานอย่างน้อยๆพ่อได้พูดเต็มปากว่าหาเงินมาใช้หนี้ด้วยตัวเอง น้องดิวใจดีที่สุด , พี่ดิวใจดีชอบช่วยเหลือคนอื่นขอให้เจริญๆยิ่งขึ้นจร้า , ทำถูกแล้วค่ะ ครอบครัวเขาจะได้อยู่อย่างมีความสุข ช่วยพ่อก็เหมือนช่วยน้อง ผู้ชายด้วย

งานนี้ก็ทำแฟนๆเข้ามากดไลค์และคอมเมนต์สนั่นเลยละค่ะ ซึ่งหลายคนก็สนับสนุนความคิดนี้

และบอกเลยว่าสงสารคุณพ่อเหมือนกัน และการช่วยคุณพ่อก็เหมือนเป็นการช่วยน้องพู่กันด้วยเช่นกัน

เอาเป็นว่ายังไงก็ขอขอบคุณแทนทุกคนที่ ดิว ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยนะคะ เชื่อว่าน้ำใจยิ่งให้ยิ่งได้แน่นอน

ช่วยเหลือน้องๆและครอบครัวแล้วหลังจากนี้จะต้องเจอสิ่งดีๆและได่รับแต่สิ่งดีๆกลับไปในชีวิตอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูล : ดิว ธีรภัทร เสื้อผ้าพ่อค้าพาฟิน

ต้องบอกเลยว่าหลังจากผู้ใหญ่ใจดียื่นมือช่วยเหลือ ช่วยใช้หนี้และหางานให้ พู่กัน แมงปอ ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆเลยทีเดียว หลังจากที่เจอปัญหาหนี้สิน

ทำให้ต้องยุติชีวิตคู่ทั้งที่ยังรักและห่วงใยกัน และฝ่ายหญิงก็ได้ออกมาร้องสื่อหลังถูกพ่อฝ่ายชายหลอกให้จัดงานแต่งสูญเงินกว่า 3 แสนบาท

และพ่อแม่ แมงปอ ต้องนำเอาทองคำไปจำนำและหยิบยืมเงินญาติและเพื่อนบ้านเพื่อใช้หนี้การจัดงาน

ล่าสุด เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้จ้างให้ พู่กัน แมงปอ มาช่วยไลฟ์ขายของ หลังกำลังมีกระแส

งานนี้ทำเอาฮือฮาหนักมาก เมื่อ เจนนี่ เปิดยอดขายให้ดูปรากฎว่าน้องๆทั้งสองคนทำได้ทะลุหลายล้าน

ซึ่ง พู่กัน แมงปอ ทำไปได้เกือบ 8 ล้านบาทเลยทีเดียวค่ะ

ทางด้าน เจนนี่ เลยจ่ายค่าตัวไปคนละ 1 แสนบาท พร้อมแต่งเพลงให้ และให้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอีกด้วย

เรียกได้ว่าปังมาก พู่กัน แมงปอ โกยเงินเข้ากระเป๋ากันแบบรัวๆ

ตอนนี้ทั้งคู่เดินสายไลฟ์สดขายสินค้าเยอะมาก หลังมีกระแสและผู้ใหญ่หลายๆคนยื่นมือช่วย

ขอบคุณข้อมูล : รัชนก สุวรรณเกตุ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้า เมื่อผู้ใช้แฟนเพจเฟซบุ๊ก นุ๊กกี้ เน็ตไอดอล เจ้าของเพจดัง Nookkie Pretty กะเทยช่างฝัน ได้โพสต์ข้อความที่ทำเอาแฟนคลับใจหาย ซึ่งต้องบอกว่าก่อนหน้านี้หลายคนได้ติดตามการรักษาอาการป่วยมะเร็ง ของ แม่เทพ ผู้สร้างเสียงหัวเราะไว้บนโลกโซเชียล มากมาย

ล่าสุด นุ๊กกี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ ระบุว่า แม่เทพได้จากพวกเราไปแล้วนะคะ ทุกๆคน หลับให้สบายนะแม่เทพ นุ๊กรักแม่ตลอดไป ก่อนจะโพสต์ภาพซึ่งกำลังแต่งหน้าให้กับแม่เทพ อีกครั้ง พร้อมระบุข้อความว่า

ผิวยังขาว อ้วนท้วมขาว สว่าง สดใส ดูไม่เหมือนคนป่วยจริงๆ ขนาดพยาบาล เด็กนักศึกษาแพทย์ ยังชมแม่เทพเลยว่า ผิวพรรณคุณแม่เทพจะสดใสอยู่เลย ดูไม่เหมือนคนป่วย แม่เทพสวยมั้ยค่ะ เพื่อนๆ อีก 2 ชั่วโมง เราจะต้องพาแม่เทพเดินทางแล้วนะคะ แม่เทพมากับหนูนะ

จากกรณีของ พู่กัน-แมงปอ ที่เจอปัญหาหนี้สินทำให้ต้องยุติชีวิตคู่ทั้งยังรักและห่วงใยกัน ฝ่ายหญิงร้องสื่อผ่านหลังถูกพ่อฝ่ายชายหลอกให้จัดงานแต่งสูญเงินกว่า 3 แสนบาท จนพ่อแม่ แมงปอ ต้องนำเอาทองคำไปจำนำและหยิบยืมเงินญาติและเพื่อนบ้านเพื่อใช้หนี้การจัดงาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ พู่กัน แมงปอ จะดีขึ้นหลังจากผู้ใหญ่ใจดียื่นมือช่วยเหลือ

ล่าสุด ดิว ธีรภัทร ประกาศช่วยเหลือพ่อบอย พ่อของน้องพู่กัน โดยได้ระบุข้อความว่า พี่ดิวขอทำหน้าที่เป็นเป็นกามเทพสื่อรัก พ่อ ลูก น้ำตาแตกอีกแน่ๆครับ คนไทยทั่วประเทศ ทุกคนทั่วประเทศฟังนะครับ พี่ดิวงานให้พ่อบอย ขายของไลฟ์ 1 ชม. 200,000 บาท เพื่อล้างหนี้งานแต่งเพื่อลูกชาย ได้ไม่ได้ยอด ก็จะให้ 2 แสน นี้เพื่อพ่อบอย ร้องไห้รอแล้ว พ่อลูกเขาจะได้เข้าใจกันสักที ครอบครัวจะได้กลับมารักกันสมบูรณ์

เรียบเรียง สยามนิวส์

อินทัช โฮลดิ้งส์ ได้ประกาศยุติบทบาทของบริษัทย่อย ไอทีวี อย่างเป็นทางการแล้ว โดยบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและชำระบัญชีของไอทีวีต่อไป

อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ (17 กันยายน 2567) ถึงการสิ้นสุดสถานะของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีวี ในฐานะบริษัทย่อย ภายหลังจากที่ไอทีวีได้ดำเนินการจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อินทัช โฮลดิ้งส์ ซึ่งถือหุ้นในไอทีวีในสัดส่วน 52.92% ได้ออกมายืนยันว่า การเลิกกิจการของไอทีวีจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายและขั้นตอนการชำระบัญชีของไอทีวีต่อไป

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 20-21 กันยายน 2567 ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

พยากรณ์อากาศกรุงเทพฯ และปริมณฑล 06:00 น. วันนี้ – 06:00 น. วันพรุ่งนี้

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

โดย 6 จังหวัดพื้นที่สีแดง ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ มีดังนี้ จันทบุรี ตราด พังงา กระบี่ ตรัง สตูล

ออกประกาศ 18 กันยายน 2567 06:00

เรียบเรียง สยามนิวส์

เรียกได้ว่าทำเอาหลายๆ คนอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้เลย หลังเฟซบุ๊ก Sungstarwin ของอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ซุง ศตาวิน ได้ออกมาแจ้งข่าวกับแฟนคลับว่า “อัพเดตเบื้องต้นจากเมนะคะ ซุงประสบอุบัติเหตุรถตกข้างทาง

ระหว่างทางไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่โพนพิสัย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้ว เดี๋ยวจะมาอัพเดตอาการให้เรื่อยๆนะคะ”

ต่อมาได้มีการแจ้งความคืบหน้าว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้ามาช่วยเหลือ นำตัวซุงส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์

ล่าสุด มีภาพซุงนั่งอยู่บนรถเข็นในโรงพยาบาล อัปเดตอาการเอาไว้ว่า

“ผมปลอดภัยครับ ช้ำเล็กน้อย  ขอบพระคุณพี่ๆกู้ภัยหมอ พยาบาล ทุกท่าน ขอโทษที่ทำให้ต้องมาเสียเวลากับผมด้วยครับ

รถกระบะผมที่เพิ่งซื้อมาเป็นรถ offroad ยกสูง ล้อใหญ่ บวกกับด้วยบรรทุกของหนัก นม น้ำ อาหารสัตว์ ถุงยังชีพ

ทำให้รถมีน้ำหนักเยอะเกินไป ระหว่างเข้า อ.โพนพิสัย พวงมาลัยสะบัด รถเกิดอุบัติเหตุ

เสียหลักลงข้างทางครับ ขอบพระคุณทุกกำลังใจทุกคำเป็นห่วง ผมและทีมจากนี้จะระมัดระวังให้มากขึ้นครับ❤️”

ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจกันอย่างมากมาย

ขอบคุณข้อมูล: Sungstarwin

“ดิว ธีรภัทร” ผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือ พู่กันแมงปอ เป็นรายแรก ล่าสุด โพสต์ความผ่านเฟซบุ๊ก ดิว ธีรภัทร เสื้อผ้าพ่อค้าพาฟิน ระบุข้อความ จะยื่นมือเข้าช่วย พ่อบอย แล้ว

ทุกคนทั่วประเทศฟังนะครับ

พี่ดิวให้งานพ่อบอย ขายของไลฟ์ 1 ชม 200,000 แสนบาท

เพื่อล้างหนี้งานแต่งเพื่อลูกชาย

ได้ไม่ได้ยอด ก็จะให้ 2 แสนนี้เพื่อพ่อบอย

ร้องไห้รอแล้ว พ่อลูกเขาจะได้เข้าใจกันสักที

ครอบครัวจะได้กลับมารักกันโดยสมบูรณ์

“ซ้อการ์ด ใครคือ” : เจ้าแม่ Tiktok อินฟลูเอนเซอร์หน้าหมวยที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10.4 M จากวัยรุ่นธรรมดาๆ สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด ที่กำลังมาแรงสุดๆในโลกออนไลน์ขณะนี้ เคยทุบสถิติไลฟ์ขายของ 40 นาที สร้างยอดขาย 25 ล้านบาท แม้เพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่ด้วยการสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ หัวใจหลักคือความจริงใจ ปั้นแบรนด์ผ่านการสร้าง Storytelling ทำให้สาวน้อยคนหนึ่งกลายเป็นเจ้าของธุรกิจระดับ 100 ล้าน

สำหรับ ซ้อการ์ด ชื่อจริง ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร เดิมทีไม่ได้เป็นคนดังที่มีชื่อเสียง วัยรุ่นธรรมดาๆที่เริ่มจากการขายเคสโทรศัพท์มือถือเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองและจุนเจือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางธุรกิจ เริ่มโด่งดังในเส้นทางอินฟลูเอนเซอร์ด้วยการทำคลิปแต่งตัวเป็นตัวของตัวเอง ออกแนวเซ็กซี่แล้วโดนเพื่อนด่า , คอนเทนต์การบริหารเงินของตัวเอง จนเริ่มมีคนคุ้นหน้าคุ้นตาและเริ่มเป็นที่รู้จัก จนได้ชื่อว่าเป็น “ดาว Tiktok” หน้าใหม่

เริ่มแรกซ้อการ์ด เริ่มตัดสินใจขายสบู่ Grape Soap ออกมาภายใต้แบรนด์ Love Potion หลังจากนั้นธุรกิจก็ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ ในปี 2566 แบรนด์ของซ้อการ์ด สร้างรายได้รวมอยู่ที่ 154 ล้านบาท ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน

จุดเริ่มต้นการทำแบรนด์ของซ้อการ์ด หัวใจหลักคือ Storytelling และ Personal Branding โดยการชูตัวเองเป็นจุดขายของแบรนด์ สร้างตัวตนบ่งบอกความเป็นตัวเองให้กับตัวผู้บริโภคให้รับรู้ ซึ่งเป็นจุดที่แข็งที่สุดของแบรนด์  “Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด”  สร้างการรับรู้ผ่านการทำคอนเทนต์ต่างๆที่มีความสร้างสรรค์จนทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ซื้อกับทางแบรนด์ เหมือนคุยกันกับเพื่อน รู้สึกใกล้ชิดและไว้ใจจนทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดขายของ แต่เลือกซื้อด้วยความเชื่อมั่นในตัวเจ้าของแบรนด์

อีกหนึ่งความน่าเชื่อถือคือ “ความจริงใจ” เงื่อนไขการสร้างแบรนด์ของซ้อการ์ดที่ยึดถือคือ “ต้องจริงใจต่อลูกค้า ขายสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาจับต้องได้” การสร้างสินค้าออกมาจะมองในมุมของผู้บริโภคว่าต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้แล้วเห็นผลจริง ก่อนผลิตจึงทั้งศึกษาและทดลองทุกอย่างก่อนวางขายเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพที่สุดในราคาจับต้องได้ เพราะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ของแบรนด์คือวัยมัธยมที่เริ่มหันมาดูแลตัวเองและยังมีกำลังทรัพย์จำกัด

Love Potion แบรนด์ที่ไม่ต้องมีพรีเซนเตอร์ เพราะเจ้าของแบรนด์เป็นให้เธอทุกอย่างแล้ว ด้วยความที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงมักพ่วงมากับความน่าเชื่อถือ ยิ่งเมื่อซ้อการ์ด ออกมาทดลองใช้สินค้าด้วยตัวเองแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้ซื้อ “เชื่อใจ” และเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า แม้ตอนแรกจะทำการตลาดไม่เป็น แต่ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ หรือที่เรียกว่า “ใช้เป็น” ทำคอนเทนต์ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ยอดวิวคลิปพุ่งกระฉูดทุกคลิป ทำให้รู้เลยว่าคอนเทนต์ทุกคลิปผ่านการคิดและทำการบ้านมาอย่างดี รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร คอนเทนต์แบบไหนที่สร้างยอดได้ ทำให้ความนิยมและชื่อเสียงของแบรนด์ยิ่งโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโปรโมชันและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ปังขึ้นไปอีก

ตัวตนและเรื่องราวของซ้อการ์ด ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ กล้าที่จะลงมือทำแม้เริ่มต้นจาก 0 แต่ก็สามารถเติบโตไปถึงระดับ 100 ล้านได้

นอกจากนี้ยังมีการทำคอนเทนต์เพื่อสังคม เช่นช่วยเหลือคนจนหรือคนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือยิ่งทำให้ “ได้ใจ” จากหลายๆคน สร้างการรับรู้ในด้านดี สร้างความรู้สึกในแง่บวกให้กับทางแบรนด์อีกด้วย

ซินแสเจียงไป๋เล่อ ชี้ว่า เดือนผีมักเกิดเหตุการณ์ ผีหลอก นอกจากจะระบุ 3 นักษัตรที่ดวงตกหนักแล้ว ยังแนะนำให้กลับบ้านก่อนเที่ยงคืน และไม่ควรวิ่งเล่นในบ้าน

ตามรายงาน ซินแสเจียงไป๋เล่อ กล่าวว่า หลังจากประตูบาดาลเปิดในไต้หวัน ตราบใดที่บรรดาผีไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบ ในช่วงเวลานี้ เทพเจ้าจะควบคุมพฤติกรรมพวกเขาได้ แต่ก็ยังมีผีบางตนที่ไม่ยอมเชื่อฟัง และฉวยโอกาส จับแล้วสลับตัว

ซินแสเจียงไป๋เล่อ ระบุ 3 นักษัตรที่ดวงตกหนักที่สุด และแนะนำให้ทุกคนกลับบ้านก่อนเที่ยงคืน ซึ่งปลอดภัยที่สุด เขาชี้ให้เห็นว่า ปีนี้ ปีมะโรงและปีจอ เป็นปีชง แต่ ปีฉลูและปีมะแม รุนแรงกว่า ตามความเชื่อโบราณ มังกรและเสือไม่กลัวสิ่งชั่วร้าย ดังนั้น ราศีที่ต้องระวังเรื่องโชคลาภมากที่สุดคือ “ปีจอ ปีฉลู ปีมะแม ควรระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษ

ไม่เพียงแต่ต้องระวัง 3 นักษัตรที่ดวงตกที่สุดในเดือนผีเท่านั้น ซินแสเจียงไป๋เล่อ ยังกล่าวอีกว่า เลขคู่เป็นเลขของความอัปมงคล และราศีที่เป็นเลขคู่ ได้แก่ “ปีฉลู ปีเถาะ ปีมะเส็ง ปีมะแม ปีระกา และ ปีกุน” ผู้ที่เกิดเดือนคู่ตามปฏิทินจีน ได้แก่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 และผู้ที่มีเวลาเกิด ได้แก่ เวลาวัว เวลากระต่าย เวลางู เวลาแพะ เวลาไก่ เวลาหมู” หากตรงกับ 2 ข้อข้างต้น ดวงชะตาจะไม่ดีนัก

ซินแสแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในช่วงกลางคืนของเดือนนี้ โดยเฉพาะหลังเที่ยงคืน และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ที่เชื่อว่ามีสิ่งเร้นลับ เช่น บ้านร้าง หรือบริเวณที่มีการเผาศพ อีกทั้งหลีกเลี่ยงสถานที่ใกล้น้ำ