เป็นคุณแม่สวยหุ่นแซ่บแถมมากความสามารถ สำหรับนางแบบสาว ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา อรุณวัฒนชัย ภรรยาของนักร้องหนุ่ม กวินท์ ดูวาล นอกจากความสวยเซ็กซี่แล้ว เธอคนนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความฮา ทำเอาแฟนๆ ที่ติดตามต่างอมยิ้มกับความขี้เล่นของเจ้าตัว

ล่าสุด ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา เรียกเสียงฮาจากแฟนๆ อีกครั้ง กับคลิปสุดฮาเมื่อเจ้าตัวโชว์สกิลขี่มอเตอร์ไซค์ซาเล้งพาสามีและ น้องไซอัลบลู ลูกชาย ไปชมวิวในวันหยุดสบายๆ แถมยังเติมน้ำมันเองอีกด้วย งานนี้ทำเอาคุณสามีกับลูกถึงกับอึ้งในความสามารถของคุณแม่ปุ้ยไปเลย ซึ่งปุ้มปุ้ยเขียนแคปชั่นคลิปนี้ว่า “พาผู้ไป Skrrt จบ” และใส่เพลง “ธาตุทองซาวด์” ศิลปิน YOUNGOHM ประกอบคลิปด้วย

ท่ามกลางคอมเมนต์นับพันจากคนในวงการบันเทิงรวมถึงแฟนๆ ที่ต่างเข้ามาแซว อาทิ ทับจัยยยยยยยย, ชอบมากค่ะ, เริ่ดดดด, ลูกงงแล้ววววว5555666666, ชีปุ้ยเก่งนะขี่ได้ มันขี่ยากนะ555 ฯลฯ ด้านเพื่อนก็เข้ามาแซวว่า “ลูกกับผัวคือทำหน้าเหมือนกันเลย” ก่อนที่ปุ้มปุ้ยจะตอบกลับว่า “ทำหน้าภูมิใจ?” แต่งานนี้เพื่อนตอบกลับสุดฮาว่า “เหวอแXกมาก ภูมิใจในตัวแม่”

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ทางเพจ Horosociety โดย หมอบอย เคลียร์ชัด นักดูดวงและราศี ได้ทำนาย 3 ราศี ระวังให้ดีในครึ่งปีหลัง 2567

โดยมีราศี มังกร สิงห์ พฤษก พักผ่อนน้อย ระวังปัญหาจากความเครียด ผู้ใหญ่มีเกณห์เจ็บป่วย

เรียบเรียง news.in.th

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์ในกลุ่ม ชมรมคนรักมวลเมฆ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ข้ามโขงมาแล้ว ณ ลานพญานาค อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ

และต่อมา เพจ Drama-addict ก็ได้แชร์ภาพดังกล่าวบอกว่า น่ากลัวมาก พ่อแม่พี่น้องภาคเหนือภาคอีสานขอให้ปลอดภัยนะครับ

ความคิดเห็นชาวโซเชียล

สกลนคร ก็แบบนี้เลยคะ น่ากลัวมาก

สกลนครฝนตกหนักไหมคะตอนนี้

ตามข่าวจริงพึ่งผ่านเกาะไหหลำมาถึงไกล้ฝั่งเวียตนาม แต่บ่ายนี้ที่สกลนครก็มืดแบบนี้ น่าจะไม่เกี่ยวกับยางิครับ จะมาถึงจริงๆวันที่8 โน่น วันนี้พึ่งวันที่6

ขอให้ปลอดภัยทั้งเหนือ อิสาณ และอยุธยาคับ…

วันที่ 6 ก.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต บนถนนพหลโยธิน หลัก กม.ที่ 175-176 ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง หลังรับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสาน สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ เข้าช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบศพชาย อายุ 55 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน ห่างออกไปมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน ขฉก 919 ลพบุรี ล้มคว่ำสภาพพังยับเยิน โคมไฟของเสาไฟฟ้าริมถนนถูกแรงกระแทกร่วงตกลงมา ส่วนคู่กรณีเป็นรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บท 197 อุทัยธานี ด้านหน้าพังเสียหายจอดอยู่ริมทาง โดยมีนายประยงค์ อายุ 47 ปีคนขับ นั่งร้องไห้มองร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการเสียใจ

นายประยงค์ เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากเมืองลพบุรี มุ่งหน้า อ.โคกสำโรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจอรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขี่ย้อนศรสวนทางมาด้วยความเร็วพุ่งตรงมาประสานงาหน้ารถของตนอย่างจัง ส่งผลให้ทั้งรถทั้งคนกระเด็นอัดเสาไฟฟ้าข้างทาง ตนตกใจมากไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะระมัดระวังเต็มที่เรื่องอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งรพ. พร้อมสอบสวนคนขับรถกระบะเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

เรียกได้ว่าแค่เริ่มทริปก็หวานฉ่ำแล้ว สำหรับคู่ของนักร้องหนุ่มหล่อ โตโน่ ภาคิน และนางเอกสาวสวย ณิชา ณัฏฐณิชา ที่ในที่สุดทั้งคู่ก็คิวว่างตรงกันแล้ว งานนี้เลยจัดทริปด่วนขนทั้งสองครอบครัวขึ้นเครื่องบิน

เหินลัดฟ้าพาไปเที่ยวพักผ่อนกันแบบพร้อมหน้าที่มัลดีฟส์ แถมหลายๆ คนยังรอลุ้นว่าทั้งคู่จะมีข่าวดีมากให้เฮลั่นหรือเปล่า

ล่าสุด ณิชา ได้ออกมาโพสต์ภาพอวดโมเมนต์หวานคู่โตโน่ พร้อมกับเขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า

“กว่าจะได้รูปสวยๆกับเขานะ ต้องเอาตัวมาจากสระว่ายน้ำบ้าง จากฟิตเนสบ้าง

จากการวิ่งรอบเกาะบ้าง จากสนามบอลบ้าง ดีใจนะที่ได้มาด้วยกันนนนน @mootono29″

งานนี้ทำเอาบรรดาแฟนคลับอดใจไม่ไหว เข้ามาคอมเมนต์แซวกันสนั่นไอจีเลยจ้า!

น่ารักจังเลย..คุณโตโน่ ดูแลทั้งคุณแม่ และนัองณิชา…รักๆๆๆๆๆ❤️❤️ , งื้ออออออน่ารักมากกกก เหมาะสมที่สุด , เหมือภาพนั้นมากก เหลือแค่คุกเข่า , รูปคู่ที่รอคอยน่ารักสุดๆ❤️❤️ , งุ้ยยยย น่ารักมากๆค่าา , ❤️ น่ารักกกกก , น่ารักมากกก , น่ารัก ❤️❤️❤️❤️

กรี๊ด! รูปคู่ที่รอคอย

หวานฉ่ำ! นึกว่าขอแต่งงาน

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่หลายๆคนยังคงให้ความสนใจ สำหรับเรื่องราวของแน็กชาลีและจีกามินสาวติ๊กตอกเกอร์ชาวเกาหลี ที่หลายคนสงสัยคือสาเหตุที่ทำให้แน็กชาลีต้องเชิญกามินกลับเกาหลีด่วน และล่าสุด ทางช่องติ๊กตอกของ jomontanee ก็ได้ออกมา ชี้แจง บอกว่า ความจริงจากปากชาลี ข้อสรุปจากการประชุมกับ แน็กชาลี ที่คู้บอน มีคุณต้อมอินดี้ พี่โจ คุณลูกพีช คุณอ๊อฟ และเฮียเอ็กซ์ เข้าร่วมประชุม เพื่อฟังข้อเท็จจริง โดยช่องติ๊กตอกพี่โจก็ได้สรุปมาเป็นข้อๆดังนี้

ขอบคุณ jomontanee

ทบ. แจงดราม่าซื้อ “ถาดหลุม” ใบละ 515 บาท ทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม เกรดอาหาร คุณภาพดีกว่าท้องตลาด

สืบเนื่องจากการอภิปรายของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เมื่อ 3 ก.ย. ที่ผานมา เป็นการงบประมาณในส่วนของกองทัพ แล้วบอกว่า ได้กลิ่นแปลกๆ ในงบประมาณรายจ่ายในส่วนของกรมพลาธิการทหารบก เพราะทราบว่า กรรมาธิการ ได้พยายามขอเอกสารให้แสดงรายการที่ของบประมาณแต่หน่วยงานไม่จัดส่งรายละเอียดให้

พอไปค้นรายละเอียดในการจัดซื้อจัดจ้าง ปีงบประมาณ 2567 มาเทียบเคียง พบรายการจัดจ้างทำ ถาดหลุม 10,000 ใบ วงเงิน 5.16 ล้านบาท มีผู้ชนะประมูลไปด้วยราคา 5.15 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้เพียง 10,000 บาท

เมื่อพิจารณาราคาต่อใบ พบว่ามีราคาตกใบละ 515 บาท ก็ได้ตรวจสอบราคาขายตามร้านค้าออนไลน์ ที่เป็นสินค้ามียี่ห้อเป็นที่รู้จักขายกันในท้องตลาด ใบละ 360 -380 บาท เพียงแต่มีความต่างอยู่ที่ขนาด ของท้องตลาดมีความยาวที่ 39.4 ซม. แต่กองทัพบกกำหนดรายละเอียดไว้ที่ 42.5 ซม.

วันนี้ ทางเพจ ทีมโฆษกกองทัพบก โพสต์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น บอกว่า กรมพลาธิการทหารบก ยืนยันการจัดซื้อถาดหลุมสำหรับทหารกองประจำการเป็นไปตามระเบียบ มีคุณภาพ ปลอดภัย เหมาะสมกับการใช้งาน

กองทัพบก ขอชี้แจงว่า การจัดหาถาดหลุมของกรมพลาธิการทหารบกนั้น เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 สำหรับการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของถาดหลุมดังกล่าว ได้มีการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้แทนหน่วยใช้ หรือผู้มีประสบการณ์ในการใช้งานสิ่งอุปกรณ์รายการถาดหลุมเป็นกรรมการร่วมเพื่อที่จะได้ทราบความต้องการและข้อเสนอแนะที่มาจากการใช้งานจริง

ทั้งนี้ วัสดุที่ใช้ในการผลิตต้องเป็นวัสดุเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel) ชนิด SUS 304 เป็นวัสดุที่เป็นเกรดสำหรับใส่บรรจุอาหารเพื่อใช้บริโภค (Food Grade) มีความปลอดภัยในการใช้งาน และมีความหนา 0.8 มิลลิเมตร ทำให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานเป็นประจำทุกวัน ๆ ละ 3 มื้อ ซึ่งนอกจากการใช้งานในที่ตั้งปกติแล้ว ยังต้องสามารถนำไปใช้ในฐานปฏิบัติการต่าง ๆ ในพื้นที่ห่างไกลได้อีกด้วย

ซึ่งแตกต่างจากถาดหลุมที่ทำจากสแตนเลส เกรด 201 มีความคงทนต่อความเป็นกรดและด่างน้อย รวมถึงมีความบาง เพียง 0.5 มิลลิเมตร

กองทัพบก ขอยืนยันว่า การจัดหาถาดหลุมของกรมพลาธิการเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ เพื่อให้การใช้งานสำหรับทหารกองประจำการเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย และเหมาะสมกับการใช้งาน

จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นางเบ็ญจา อายุ 60 ปี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยอง สาขาบ้านค่าย เรียกรับเงินจากผู้เสียหายในการจัดสรรที่ดิน เพื่อแลกกับการรับโฉนดที่ดินที่มีการแบ่งแยกโฉนด เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ซึ่งคิดเป็นแปลงละ 2,000 บาท โดยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าพนักงานคนดังกล่าวถึงกับเป็นลม เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงต้องช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น โบกพัดให้ตลอดเวลา

สำหรับพฤติการณ์ของเจ้าพนักงานที่ดินรายดังกล่าวนั้น สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ส.ค.67 กรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.เกี่ยวกับการกระทำของนางเบ็ญจา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยอง สาขาบ้านค่าย ซึ่งเรียกรับเงินเพื่อให้ได้โฉนดที่ดินที่ได้ยื่นขอทำการจัดสรรที่ดิน โดยได้ชำระค่าคำขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และขอรังวัดแบ่งที่ดินตามใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน รวม 54 ไร่ จนเสร็จตามขั้นตอนแล้ว

แต่ถูกเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยองสาขาบ้านค่ายเรียกรับเงินค่าออกใบโฉนดที่ดินดังกล่าวเพิ่มเติม จากค่าธรรมเนียมที่จะต้องชำระอีกจำนวนแปลงละ 2,000 บาท รวมเงินกว่า 100,000 บาท เพื่อแลกกับการได้รับโฉนดที่ดินที่ชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งระหว่างที่กรรมการผู้จัดการบริษัทรายนี้เข้าพบกับผู้ต้องหานั้น ได้ติดอุปกรณ์บันทึกภาพและเสียง ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.

ต่อมา พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้สั่งการให้ กก.2 บก.ปปป.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ติดตามหาตัวผู้ต้องหาและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ในพื้นที่ จ.ระยอง

จนวันที่ 6 ก.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ นางเบ็ญจา อายุ 60 ปี เจ้าพนักงานที่ดินระยอง สาขาบ้านค่าย จะมีอายุเกษียณราชการอีก 26 วันนี้ หรือสิ้นเดือนกันยายน 2567 แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน ก่อนเกษียณอายุราชการ ส่วนผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ความผิดดังกล่าวเกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด