หลังจากสถานะเหลือเพียงแค่เพื่อน และยังคงทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีของลูก สำหรับนักแสดงสาว นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์ และ ดีเจเพชรจ้า ล่าสุด สาวนิวเคลียร์ มาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW เล่าถึงสาเหตุลึกๆ ของการเลิกรา ชีวิตเหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง
เป็นยังไงบ้างชีวิตตอนนี้?
นิวเคลียร์ : ก็แฮปปี้นะคะ รู้สึกตัวเองเพิ่งโตเป็นสาว รู้สึกตอนนั้นเรามองย้อนกลับไป เราเด็กมากเลย
อะไรที่รู้สึกว่าเราเป็นเด็กในตอนนั้น?
นิวเคลียร์ : ความคิดเป็นหลักเลย เด็กมาก ทำอะไรเองแทบจะไม่เป็น ต้องขึ้นอยู่กับคุณสามีเก่า
พอวันหนึ่งที่มันเดินไปด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ก็แค่ต้องตีจาก แต่แค่ต้องมีสติพอที่จะรู้ว่าต้องไปแล้วจริงๆ นะ แล้วคุณก็พิสูจน์ให้เห็นว่าแต่ละคนก็ดีขึ้น?
นิวเคลียร์ : ใช่ค่ะ ดีขึ้นทุกคนเลย เป็นการตัดสินใจที่คิดว่าเราตัดสินใจถูก
น้องไทก้าเป็นยังไงบ้าง?
นิวเคลียร์ : มีความสุขค่ะ คือเราสองคนยึดไทก้าเป็นหลักเลย ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรต่างๆ ก็คือเอาไทก้าเป็นหลัก ทุกวันนี้ที่ยังอยู่ด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันเป็นเพื่อนกัน ไปไหนด้วยกันก็เพราะว่าไทก้า
ความสัมพันธ์ตอนที่เป็นเพื่อน แล้วมันมีกลิ่นอายของอดีตสามี ในช่วงแรกเป็นยังไง ปรับตัวยากไหม?
นิวเคลียร์ : มันไม่มีเลยสำหรับนิวนะ มันจบเลย เพราะว่ากว่าที่นิวจะมาถึงจุดที่นิวบอกเลิก คือนิวเป็นคนบอกเลิกเขา มันสะสมมาเยอะแล้ว เยอะมาก จนเรารู้สึกว่ารางวัลของการที่เราสะสมมาคือการจากไปโดยเราไม่เสียใจ คือเวลานิวให้คำปรึกษาเพื่อน นิวจะบอกเสมอว่า อย่าเพิ่งเลิก เอาให้สุดก่อน กลับไปดีกันเถอะ จะกี่รอบพันรอบก็ดีไปก่อน จนวันหนึ่งที่มันหมดแล้ว มันไม่รู้สึกอะไรแล้ว มันจะเดินออกไปง่ายมาก โดยที่เราไม่นึกเสียใจเลยที่เราเดินออกมา
เพราะบางคนเวลาเลิกมันก็ยังหวั่นๆ แต่ของนิววันนั้นก็คือรู้เลยว่ามันจบแล้ว?
นิวเคลียร์ : ใช่ มันจบแล้ว มันหมดแล้ว วันสุดท้ายที่รู้สึก คือเราชั่งน้ำหนักตลอดว่าเรามีความสุขมากกว่า หรือมีความทุกข์มากกว่า คือถ้าทุกข์พอๆ กันกับสุข มันโอเค แต่นี่ทุกข์มันเริ่มมากกว่า แล้วเราอยู่ในบ้าน เรารู้สึกอึดอัด เรารู้สึกกดดัน เราไม่มีความสุขแล้ว เราคิดว่าต้องไปแล้วล่ะ
การออกมาจากความสัมพันธ์ แล้วมาตั้งต้นในการใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ได้ตัดสินใจเอง ทำเองทุกอย่าง เหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ไหนเล่าซิว่ามีอะไรบ้าง?
นิวเคลียร์ : คือตอนแรกที่เราจะเดินออกมาไม่มีใครเห็นด้วยเลย แล้วตอนนั้นก็ไม่ค่อยมีคู่ดาราที่เขาประกาศเลิกกันเท่าไร คือพ่อแม่บอกเลยว่าถ้าเธอเลิก เธอจะเป็นคู่แรกๆ เลยนะ ไม่อายเหรอ เพื่อนบางคนก็แบบไม่อายเหรอ ทำไมไม่ทนเพื่อลูก ออกมาแล้วจะยังไง ทำอะไร ดูแลลูกยังไง จะต้องโดนตราหน้าว่าชีวิตคู่ไม่สมบูรณ์แบบ แล้วเราเป็นพวกที่ตอนที่คบกันก็โอ้โห ชีวิตฉันมีความสุข สามีฉันดี ฉันมีความสุข ฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด ไม่อายเหรอ ช่างมัน ไม่สนใจแล้ว! ตอนนั้นรู้สึกว่าเราต้องดูแลใจตัวเอง คือหลายคนชอบบอกว่า มันต้องรักตัวเอง แต่มันมีอีกสิ่งหนึ่งที่คนอาจจะลืมไปว่า เราต้องมีความเห็นใจต่อตัวเอง ความเมตตา เวลาเพื่อนมาปรึกษาเราก็ไม่เป็นไรนะ ทำดีที่สุดแล้ว มันเหนื่อยแล้ว เราไม่ต้องสู้กับใครแล้ว แต่เวลาเราบอกตัวเอง สู้สิ อดทนสิ อะไรอย่างงี้ ลองเอาคำที่เราพูดกับเพื่อน มาพูดกับเราเอง มันจะรู้สึกเบาขึ้น มันจะรู้สึกเรารักตัวเองจริงๆ ถ้าเราเป็นแบบนี้ นิวก็เลยไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองยังไง เอาตัวเองก่อน แล้วนิวก็เดินออกมาเลย ก็เลิกเลย หย่าเลย เซ็นเลย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด รู้สึกว่าถ้านิวรักตัวเอง ใจดีต่อตัวเอง โลกมันจะใจดีกับเรา แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันไม่มีข้อเสียอะไรเลย ทุกอย่างมันดีหมด นิวได้ทำในสิ่งที่นิวอยากทำ ที่ไม่เคยได้ทำ อะไรที่นิวโดนบังคับห้ามทำ นิวก็ได้ทำ นิวก็ได้ไป
ห้ามทำเช่นอะไร?
นิวเคลียร์ : ไปดำน้ำ เพราะเขาไม่อยากให้นิวไปเรียนดำน้ำ เขาไม่อยากให้นิวไปอยู่บนเรือ เขากลัวคนมาจีบอะไรงี้ คือเขาหวงนิวมาก คือเขาไม่ผิด คือทุกอย่างนิวเดินตามเส้นที่เขาขีดไว้หมด เขาไม่ให้เราเล่นเลิฟซีน เรื่องไหนมีไม่ให้เล่น เสื้อผ้าห้ามเกาะอก ห้ามสายเดี่ยวเส้นเล็กๆ ห้ามเว้าหลัง ห้ามกระโปรงสั้น เราก็บ้าทำตามเขาหมดไงตอนแรก เพราะเรารักเขาไง นี่ก็ได้ทำหมดเลย ไปต่างประเทศ ประเทศที่อยากไป อยากไปงาน Festival เราชอบ EDM แต่เขาไม่ชอบ เขาก็ไม่เคยพาเราไปเลย พอเลิกไปเอง จะไป Tomorrowland ก็ไป อะไรก็ไป ประเทศไหน ไปคนเดียวก็ไป พี่วู้ดดี้รู้ไหมตอนนิวไป Tomorrowland นิวยืนร้องไห้อะ คือแบบ Hardwell ขึ้นทุกอย่าง เวทีที่เขาทำแบบเหมือน Disneyland อะไรอย่างงี้ พลุ ซาวนด์ คน อากาศทุกอย่างแบบ ร้องไห้ รู้สึกแบบขอบคุณตัวเองที่ก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาได้ ที่เลือกในเส้นทางตัวเอง ได้มาเห็น ได้มาทำอะไรแบบนี้ นี่คือชีวิตจริงๆ
คุยอะไรกับตัวเองในตอนที่มันเป็นวิกฤติที่สุด?
นิวเคลียร์ : ก็พูดเหมือนที่บอกว่านิวจะพูดกับเพื่อนนั่นแหละ เราทำดีที่สุดแล้วจริงๆ เราไม่ต้องสู้เพื่อใครแล้ว เราเต็มที่แล้ว พอเราเต็มที่ พอมองย้อนกลับไปเราจะไม่เสียใจอดีตอยู่แล้ว นิวก็เชื่อว่านิวทำเต็มที่แล้ว นิวเป็นภรรยาที่ดี นิวเป็นแฟนที่ดี นิวเป็นแม่ที่ดี แต่ในเมื่อเขาไม่สามารถถนอมจิตใจเราได้แล้ว เราก็ถนอมจิตใจตัวเอง แล้วเดินก้าวต่อไปดีกว่า
เคยร้องไห้อยู่คนเดียวไหมก่อนหน้านี้?
นิวเคลียร์ : ประจำค่ะ ช่วงที่ยังไม่ได้เลิก มันเหนื่อย มันเครียดนะ คือนิวก็มานั่งย้อนสรุปที่เราเลิกกันมัน เพราะอะไรกันแน่ ก็คิดมาตลอด จนมาตกผลึกว่าเหมือนนิวให้คุณค่ากับสิ่งๆ หนึ่ง แต่พี่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญ ไม่ได้เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น มันก็เลยไปด้วยกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น นิวให้คุณค่ากับคำพูดมาก คำพูดที่มากระทบจิตใจ คำพูดให้กำลังใจ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคำพูด แต่พี่เพชรไม่ได้ให้ค่ามัน บางทีพี่เพชรอารมณ์ไม่ดี พูดไปเรื่อย พูดไม่คิด พูดทำให้เราเสียใจ พูดให้เราเสียความรู้สึก หลายๆ ครั้งมันสะสมไง จนวันหนึ่งมันก็ไม่ไหวแล้ว คนพูดไม่คิด แต่คนฟังมันก็เก็บ
ไทก้าเคยถามไหมว่าพ่อกับแม่ทำไมไม่อยู่ด้วยกัน เคยคิดไหมก่อนจะเลิกว่าเราต้องตอบลูกว่ายังไง?
นิวเคลียร์ : เคย นิวก็มีคำพูดมากมายที่แบบคิดไว้ในหัวเยอะมาก แต่พอเขาถามขึ้นมาจริงๆ มันก็จุกเหมือนกันนะ มันก็แบบไปไม่ถูกเหมือนกัน ก็บอกได้แค่ว่าปะป๊ากับหม่าม้าตอนนี้ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว เขาเข้าใจคำว่าแฟน ว่าแฟนคือการอยู่ด้วยกัน รักกัน มีลูกด้วยกัน แต่ว่าปะป๊ากับหม่ามี้รักไทก้าที่สุดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถ้าแม้แบบความเป็นแฟนกัน มันจะเปลี่ยนไปนะลูก แต่ว่าความเป็นพ่อเป็นแม่ไม่มีเปลี่ยน
ไทก้าเขาพูดว่าอะไร?
นิวเคลียร์ : ทำไมเวลานอนปะป๊าหม่ามี้ถึงไม่นอนด้วย เดี๋ยวบ้านเราเสร็จหม่ามี้ก็จะไม่มาอยู่บ้านปะป๊าแล้วใช่ไหม คือเขาแค่สงสัย แต่เขาไม่ได้อะไรหรอก แต่เรามันจี๊ดไง เพราะเราเคยเป็นเด็กสาวที่คิดว่าพอแต่งงาน มีครอบครัวมีลูกแล้วมันคือจบ นั่นคือสิ่งที่เราคิด สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว นั่นคือสิ่งที่เราคิดไง แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย มันไม่จบ มันมีอีกหลายช่วงชีวิตมากๆ
ในสังคมวันนี้ก็คงแบ่งเป็นหลายเสียง จะทนอยู่หรือไม่ทนดี คุณว่าเราใช้อะไรในการตัดสินใจ?
นิวเคลียร์ : ลองชั่งน้ำหนักความสุขกับความทุกข์นั่นแหละ ถ้าสุขมันมากกว่า โอเค ยังไงก็ทนอยู่แล้ว ถ้าทุกข์กับสุขพอๆ กัน มันยังไปด้วยกันได้ ทุกข์ขึ้นมานิดหนึ่งก็ยังพอถูไถได้ แต่ถ้ามันทุกข์เยอะ แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่มีความสุขเลย เราจะทนทำไม จะทนไปทำไม สู้เราออกไปแล้วมีชีวิตที่มีความสุขด้วยตัวเราเอง มันมีความสุขมากกว่าอยู่แล้ว
ชีวิตของคุณเป็นยังไงบ้างตอนนี้ มีผู้ชายไหม?
นิวเคลียร์ : ก็มีมาเรื่อยๆ อยู่นะ (หัวเราะ) ตอนแรกเราก็กลัวนะ ว่าออกมาจะมีใครเข้ามาเหรอ เพราะว่าอายุด้วย มีลูกแล้วด้วย แต่งงานแล้วด้วย มันมีนะพี่วู้ดดี้ แล้วแบบมีเข้ามาก็คือเด็กๆ เยอะมาก มีตั้งแต่อายุ 21 จาก IG อะไรอย่างงี้ ส่งข้อความนั่นนี่ หรือบางทีเราไปงาน เจอเด็กแบบซีรีส์วายอะไรอย่างงี้ ก็เป็นแนวนั้นเยอะมาก น้องทำไมไม่ชอบรุ่นเดียวกันเหรอ แบบอยากได้แม่เพิ่มเหรออะไรอย่างงี้ เขาก็บอกคุยกับพี่แล้วเป็นผู้ใหญ่ดี ไม่งี่เง่า แล้วแบบโอเค มีลูกแล้วยังดูแลตัวเองขนาดนี้ เขาก็ชอบ แต่ถ้าอายุน้อยมากๆ คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง โอเค ไปเที่ยวอะไรสนุกๆ ได้ แต่แบบให้มาคุยถึงชีวิตจริงๆ มันยากมาก เพราะเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเจอมาเลย เราผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่เขายังไม่เคยผ่านอะไรเลยที่แบบหนักๆ มาเลย ก็ยาก
แต่ตอนนี้คุณก็ไม่ได้ต้องการแฟน?
นิวเคลียร์ : ไม่ ไม่ต้องการเลยค่ะ