การเมือง

Home การเมือง Page 2

เตือนด่วน!! พายุซูลิก คาดจะทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน ไทยเตรียมรับมือผลกระทบ เปิดจังหวัดเจอหนักสุด

วันที่ 19 ก.ย. 2567 เพจเฟสบุ๊ก ฝ่าฝุ่น ได้โพสต์ข้อความว่า ศูนย์กลางอยู่ใต้เกาะไหหลำ ข่าวดีคือยังเป็นดีเปรสชั่นอยู่ แต่ข่าวร้ายคือพยากรณ์ยังคาดว่าจะทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อนแต่ดูจะประวิงเวลาไปเรื่อยๆ ทั้งนี้พายุทั้งสองอย่างนี้กำลังต่างกันไม่มาก มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางต่างกันนิดเดียว

สิ่งที่ไทยเรากลัวนั้นไม่ใช่ความเร็วลม เพราะเมื่อมาถึงไทยนั้นก็ลดกำลังกันเยอะแล้ว สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือน้ำฝน เพราะหลายพื้นที่นั้นมีน้ำอ่วมแล้ว น้ำรอระบายท่วมเป็นครึ่งล้านไร่ คนจำนวนมากมีความทุกข์

ในขณะที่ลุ่มสันปันน้ำถัดไปยังต้องการน้ำอยู่เลย เขื่อนเก็บน้ำได้ไม่มาก และดูว่าถ้าน้ำยังน้อยแบบนี้ก็จะลำบากในช่วงฤดูแล้งปีหน้า

ทิศทางของเธอยังผ่านอีสานเหนือ และ น่าน สองพื้นที่นี้มีน้ำอ่วมแล้วก็ต้องเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง มีแผนในการตั้งรับ หลังจากนั้นแล้วอาจจะเลี้ยวซ้ายต่ำลงภาคเหนือตอนล่าง ไปทาง จ ตาก ซึ่งอาจจะดีสำหรับเขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะนี้เขื่อนภูมิพลเก็บน้ำได้เพียง 52% เขื่อนนี้จากเดิมผลิตไฟฟ้าเป็นหลักได้เริ่มกลายเป็นเขื่อนด้านชลประทานของภาคกลาง

แม้ Soulik จะมีกำลังลมไม่มาก แต่เธอทำงานเหมือนเครื่องดูดฝุ่นคือดูดลมใหม่ๆเข้าสู่ร่องความกดอากาศต่ำที่มีอยู่แล้ว จะเห็นว่าเรามีเมฆปกคลุมทั้งสุวรรณภูมิ กระตุ้นให้แนวฝนจากร่องนี้ตกในพื้นที่วงกว้าง ฝนที่ตกในกทมและภาคกลางนั้นก็อิทธิพลจากเธอแม้จะยังอยู่ห่างมากก็ตาม

ขอบคุณ ฝ่าฝุ่น

2

ด่วนที่สุด! ประกาศเตือน 11 จังหวัดรวม กทม. ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

วันที่ 18 ก.ย. 2567 นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ ซึ่งจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

ทั้งนี้เนื่องจากมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มีปริมาณฝนตกมากขึ้น ซึ่งจากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ใน 1-7 วันข้างหน้า

โดยในวันที่ 24 กันยายน 2567 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,500 – 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำ SideFlow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทางกรมชลประทาน ได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตก ในอัตรา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได จึงจะส่งผลทำให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 60 เซนติเมตร – 1 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และที่บริเวณแม่น้ำน้อย ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเข้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

2

ด่วน!! พนังกั้นน้ำแตก น้ำทะลักขึ้นสูงเร็วมาก มีเด็ก-คนแก่ติดในบ้านเพียบ

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ยังคงพบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำกกยังเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่สองริมฝั่งแม่น้ำ ตั้งแต่เขตพื้นที่บ้านแคววัวดำ บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ของตำบลแม่ยาว ยาวมาถึงพื้นที่ชุมชนต่างในเขตเทศบาลนครเชียงราย และตำบลริมกก ยาวมาถึงบ้าป่ายางมนและบ้านป่าบง ตำบลรอบเวียง ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินมีค่าและสัตว์เลี้ยง รวมถึงรถยนต์มาไว้บนถนนเพื่อความปลอดภัย

ล่าสุดวันที่ 13 ก.ย. 2567 น้ำสายมารอบ 2 น้ำขึ้นเร็วมาก โดยเฉพาะสถานการณ์ในพื้นที่ไม้ลุงขน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบมีน้ำไหลหลากเข้ามาอีกรอบในช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านชุมชนบ้านถ้ำ ขอความช่วยเหลือ

โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Waan Potaton โพสต์ภาพและคลิปน้ำท่วมระบุว่า สถานการณ์อัพเดทล่าสุดพนังกั้นน้ำแตกเพิ่ม ทำให้น้ำไหลเชี่ยวแรงทางเรือใหญ่เข้าไปช่วยบ้านที่อยู่ในซอยเล็กๆไม่ได้ แล้วมีผู้สูงอายุและเด็กติดเป็นจำนวนมาก ไม่มีอาหาร ต้องการโดรนบินส่งอาหารและเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือ เพราะล่าสุดมีทีมเรือและกู้ภัยเข้าแต่ยังไม่สามารถช่วยออกมาได้ คาดว่าจะมีคนติดค้างในบ้านเพิ่มขึ้น เพราะว่าตอนแรกระดับน้ำลดลงแล้วชาวบ้านกลับเข้าไป แต่ตอนนี้พนังกั้นน้ำแตกเพิ่มน้ำสูงกว่าเดิมเยอะมาก

ชมคลิป

เรียบเรียง มุมข่าว

2

ตำรวจ ออกมาชี้แจงแล้ว เรื่องรถขนของช่วยน้ำท่วม ถูกจับน้ำหนักเกิน

วันที่ 18 กันยายน 2567 จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปจากผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความว่า “ใครก็ได้ช่วยทีค่ะ” ซึ่งเป็นคลิปที่บันทึกภาพขณะขนของที่รับบริจาคไปช่วยผู้ประสบน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วถูกจับเนื่องจากน้ำหนักเกิน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้โพสต์รายงานชี้แจง กรณีดังกล่าว ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 แจ้งว่ามีรถบรรทุกสิ่งของเพื่อไปช่วยน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย จากมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ถูกจับกุมเนื่องจากบรรทุกน้ำหนักเกิน อยู่ที่ สภ.พยุหะคีรี นั้น ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ขอรายงานชี้แจง ดังนี้

1. กรณีการจับกุมเป็นการจับโดยเจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี (ขาออก) ไม่ได้เป็นการจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถคันที่ถูกจับเป็นรถบรรทุกหกล้อ ได้เข้าชั่งที่ด่านตรวจมีน้ำหนักรวมน้ำหนักบรรทุก 18,420 กก. ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสำหรับรถประเภทนี้ 3,420 กก.

2. หลังจากที่ได้มีการจับกุมแล้ว เจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี (ขาออก) ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

3. เมื่อพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี ได้รับตัวขับขี่พร้อมรถบรรทุกของกลางไว้แล้ว เมื่อทราบว่าเป็นรถที่บรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย จึงได้อำนวยความสะดวก และได้ปล่อยตัวผู้ขับขี่ชั่วคราว ในระหว่างการสอบสวนในทันที โดยให้นำสิ่งของบางส่วนลง เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และได้จัดรถนำเส้นทางรถที่บรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภคไปส่งยังจุดหมายต่อไป

หากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

2

ขอให้ทุกคนปลอดภัย ฝันดี-ฝันเด่น เรือล่ม กระแสน้ำแรง ขณะเข้าพื้นที่ช่วยน้ำท่วมเชียงราย

เพจ ฝันดี – ฝันเด่น ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ไลฟ์สถานการณ์เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่เชียงราย โดย 2 พี่น้องฝาแฝดจิตอาสา ใหญ่ ฝันดี – เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร ซึ่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จ.เชียงราย

โดยเผยสภาพน้ำท่วมบ้านเรือน รถยนต์จมน้ำในพื้นที่ชุมชนที่เข้าไปช่วยเหลือ และยังได้เล่าเหตุการณ์กระแสน้ำแรงจนเรือล่มด้วยว่า

เมื่อคืนที่ ทีมได้ใช้เรือชาวบ้านเข้าพื้นที่กระแสน้ำแรงทำให้เรือล่มเมื่อคืน ขอให้ทุกคนระวังกันมากๆนะครับ วันนี้ทีมเราต้องเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

ใช้เรือใหญ่และเครื่องที่แรงขึ้นแต่ก็ยังสู้น้ำไม่ได้มาก ขอให้กู้ภัยทุกทีมปลอดภัยครับ โดยมีคอมเมนต์เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก พร้อมอวยพรให้ทุกคนปลอดภัย

2

คลื่นทะเลพิโรธ! ซัดเรือจม 7 ลำ รีสอร์ท-บ้านเรือนพังยับ หนักสุดในรอบ 30 ปี

เมื่อวันที่18 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา ในพื้นที่เกาะลิบง หมู่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เกิดเหตุมีเรือประมงพื้นบ้านล่มจำนวน 7 ลำ หลังเกิดฝนตกและลมพายุในทะเลฝั่งอันดามัน โดยนายอ่าสาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง และชาวบ้านได้ช่วยกันกู้ซากเรือที่จมอยู่ในทะเลขึ้นมาบนฝั่ง

ขณะเดียวกันจากฝนและลมพายุที่พัดกระหน่ำทำให้รีสอร์ทและบ้านชาวบ้านเสียหายหลายหลัง ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อน เนื่องจากเรือไม่สามารถสัญจรทางทะเลได้ เหตุจากมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร

ผู้ใหญ่สาน เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นตอนนี้มีเรือประมงจมเสียหาย 7 ลำ รีสอร์ทและบ้านเรือนหลังคาพังเสียหาย เนื่องจากมีลมแรง ตอนนี้ได้รายงานไปให้ทางจังหวัดทราบแล้ว การให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเป็นเกาะ การเดินทางในทะเลตอนนี้ไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อน

ในช่วงหน้ามรสุมนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านและประมงพื้นบ้านงดนำเรือออกจากฝั่ง ต้องฟังประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและคำแจ้งเตือนจากทางการอย่างเคร่งครัด เหตุการณ์มรสุมครั้งนี้ถือว่าแรงสุดในรอบ 30 ปี ฝนมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา

2

สุดสลด! พนักงานเทศบาลวัย 59 ขับรถบรรทุกดินตกน้ำ เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถ 6 ล้อตกลำน้ำจาง บริเวณถนนเลียบแม่น้ำจางหมู่ที่ 6 ตำบลป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ทางด้าน พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ พงษ์ทิตย์ สว.สอบสวน สภ.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยป่าตันนาครัว, หน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยลำปาง, หน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ลำปาง, หน่วยกู้ภัยมูลนิธิลือชาพะเยา และแพทย์โรงพยาบาลแม่ทะ

โดยที่เกิดเหตุ พบรถ 6 ล้อของเทศบาลป่าตันนาครัวตกไปที่น้ำจางจมเกือบทั้งคัน ภายในรถมีร่างของ นายปรีชา อายุ 59 ปี พนักงานรับจ้างภารกิจของเทศบาลป่าตันนาครัวติดอยู่ภายในรถ ในช่วงของประตูและตัวรถทับร่างเอาไว้ทำให้ไม่สามารถนำร่างออกมาได้ กู้ภัยต้องใช้รถแบ็คโฮดึงตัวรถขึ้นมา แต่ก็ทำด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เวลานานร่วม 5 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างผู้ตายออกมาได้

ทางด้านเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถบรรทุกดินมาถมบริเวณท่อน้ำซึ่งถูกน้ำกัดเซาะ เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านของชาวบ้าน เมื่อขับถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพลิกลงไปในน้ำ ทุกคนพยายามลงไปช่วยแต่ก็ไม่สามารถช่วยผู้ตายขึ้นมาได้ เพราะรถทับร่างจนทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว

ทางด้าน นายกู้เกียรติ วงศ์ฟัก ปลัดเทศบาลป่าตันนาครัว เผยว่า ผู้ตายเป็นลูกจ้างของเทศบาล มาปฏิบัติหน้าที่ขับรถขนดินมาถมบริเวณท่อที่ถูกน้ำกัดเซาะ โดยวันนี้ผู้ตายก็มาทำงานแม้ว่าจะเป็นเวลานอกราชการผู้ตายก็เต็มใจที่จะทำให้ เมื่อขับรถมาที่บริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นทางแคบรถคันแรกผ่านไปได้

แต่เมื่อถึงรถคันของผู้ตาย ปรากฏว่าล้อหลังเกิดตกลงไปริมตลิ่งก่อนที่จะทำให้ตัวรถพลิกตกลงไปลำน้ำจางทั้งคัน เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ก็ลงไปช่วยแต่ไม่สามารถช่วยผู้ตายได้ เพราะรถทับร่างผู้ตายอยู่ จากนี้ทางเทศบาลจะทำการประชุมเพื่อหารือแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ตายต่อไป

2

เตือนด่วน! มวลน้ำจากเชียงราย กำลังไหลไปอีสาน จังหวัดต่อไปนี้เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 12 ก.ย. 67 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ อ.แม่สาย และอำเภอเมือง จ.เชียงราย ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง หลายพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนหลายครัวเรือน รวมถึงสัตว์เลี้ยง ไม่สามารถออกมาจากที่พักอาศัยได้ อีกทั้งยังมีรายงานผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต

โดยมีรายงานว่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนฝนตกหนักที่ฝั่งเมียนมา และตกเต็มพื้นที่ แหล่งข่าว บอกว่า “เราไม่มีสถานีวัดระดับน้ำฝนที่ฝั่งเมียนมาเลย แม้ว่าไทยจะต้องรับน้ำต่อ นี่คือจุดบอดมาตลอด” แต่จุดที่เริ่มวัดได้ในเขตไทย พบว่า ฝนตกวันที่พีคที่สุด วัดระดับน้ำได้ 230 ลบ.ม./วินาที

ส่วนเมื่อคืน (11 ก.ย. 67) ฝนตกอยู่ใน อ.แม่สาย แต่จะไม่หนักเท่า 1-2 วันก่อน น้ำจาก อ.แม่สาย จะไหลไปที่ แม่น้ำรวก ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขง และจะกลับเข้าเขตไทยที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนเข้าไปในเขต หลวงพระบาง สปป.ลาว และมวลน้ำก้อนนี้จะกลับมาที่ อ.เชียงคาน จ.เลย ไหลต่อไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ใช้เวลาราว 1-2 วัน

ปัจจุบันที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ฝนตกหนักไม่แพ้กัน และคาดการณ์ว่า อ.เชียงคาน จ.เลย จะเจอมวลน้ำก้อนนี้ประมาณวันที่ 11-14 ก.ย. ประชาชนในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังและเก็บของขึ้นที่สูง โดยมีรายงานอีกว่า เขื่อนไซยะบุรี ที่ สปป.ลาว ได้มีการเพิ่มการปล่อยน้ำ เป็น 18,000 ลบ.ม./วินาที แล้ว

มีรายงานว่าระดับน้ำที่ อ.เมือง จ.เชียงราย จะขึ้นต่อเนื่องราว 5 เซนติเมตรต่อชั่วโมง และระดับน้ำจะพีคสุดๆ ช่วงตี 2 ตี3 และจะเริ่มคงที่ และลดลง น่าจะใช้เวลา 1-2 วันกลับสู่ปกติ ยกเว้นในที่ลุ่มต่ำที่ต้องสูบน้ำออก และน้ำจาก อ.เมือง จ.เชียงราย จะไหลต่อไป อ.เชียงของ ซึ่งคาดว่าระยะเวลาน้ำไหลไปถึงน่าจะใกล้เคียงกับน้ำที่ไหลไปจาก อ.แม่สาย ก่อนเข้า สปป.ลาว และไหลกลับมาเข้าสู่ อ.เชียงคาน จ.เลย

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้า ช่วงประมาณวันที่ 14 – 28 กันยายน 67 ร่องมรสุมจะพาดผ่านอีสาน และทำให้ฝนตกในอีสาน ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี, จ.อุดรธานี, จ.สกลนคร, จ.นครพนม และ จ.เลย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สถานการณ์ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ที่อ่านค่าฝน ค่าตัวเลข ได้มีการแจ้งเตือนมาแล้ว 2 – 4 วัน แต่ยังคงเป็นที่ตั้งคำถามว่าผู้ที่รับผิดชอบถึงสถานการณ์ดังกล่าว ดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่ ที่จะแจ้งเตือนประชาชนให้ทันท่วงที หรือแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่หน่วยงานของรัฐมีอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างครบมือ

2

ชง กกต.ยื่นศาลยุบพรรคเพื่อไทย ชี้ ทักษิณ เข้าข่ายครอบงำ

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่ง ยุบพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับที่ กกต.ยื่นยุบพรรคก้าวไกล โดยอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จากเรื่องพิจารณาที่ 17/2567 กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ในเอกสารของผู้ร้องอ้างว่า จากหลักฐานคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอันควรเชื่อได้ว่า พรรคเพื่อไทยยินยอมให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกชี้นำกิจกรรมของพรรค ประกอบกับพฤติการณ์ของแกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงออกในหลายเหตุการณ์ถึงการให้การยกย่อง ให้ความสำคัญ ให้ความใกล้ชิด ให้การต้อนรับ และการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการยอมรับการชี้นำจาก นายทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งการนำวิดีโอที่นายทักษิณชี้นำแนวทางไม่ให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองแนวอนุรักษนิยมใหม่ และชี้นำการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาเปิดในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ภายใต้การรู้เห็นของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

จึงแสดงว่าพรรคเพื่อไทยยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทย ในลักษณะที่ทำให้สมาชิก และกรรมการบริหารพรรคขาดความอิสระ และนายทักษิณมีการกระทำที่เป็นการชี้นำพรรคเพื่อไทยและสมาชิก อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 อันทำให้การใช้เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมืองไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง

ผู้ร้องระบุอีกว่า โดยการที่พรรคเพื่อไทยฝ่าฝืนมาตรา 28 จะเป็นเหตุให้ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) และการที่นายทักษิณฝ่าฝืนมาตรา 29 จะมีโทษตามมาตรา 108 แห่ง พ.ร.ป.เดียวกัน และเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยได้ทันทีโดยไม่ต้องสอบสวน เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องพิจารณาที่ 10/2567 กรณี กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล

2

แซ่บพริกยกสวน! แพรจ๋า เดอะวอยซ์ อวดหุ่นสะบึ้มในรถ ชาวเน็ตคอมเมนต์ไฟลุก

แซ่บพริกยกสวน! แพรจ๋า เดอะวอยซ์ อวดหุ่นสะบึ้ม โพสท่ายากในรถ ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ไฟลุก

ทำถึง ทำเกิน และทำเกินไปมาก สำหรับนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ แพรจ๋า เดอะวอยซ์ ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรต้องมีเรื่องให้แฟนๆ ตาค้างเสมอ

ล่าสุดไอจีจะลุกเป็นไฟตามคาด เมื่อ สาวแพรจ๋า เปิดโหมดเซ็กซี่กับบิกินีตัวจิ๋ว พร้อมอวดหุ่นสุดสะบึ้มแบบ 4D เต็มตาเต็มใจให้หนุ่มๆ ได้ปาดเหงื่อกันอีกแล้ว

โดย แพรจ๋า โชว์สกิลโพสท่ายากในรถ แปะแคปชั่นชวนฟังเพลงใหม่ของตัวเอง “วันนี้ฟังเพลง #อยากได้ผัวรวย กันรึยังคะ?” แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะโฟกัสไม่ถูกเอาซะเลย จนได้แต่ส่งอีโมจิไฟลุกแทนคำตอบในใจกันแบบรัวๆ

ขอบคุณที่มา IG : pearja

2

Popular Posts

My Favorites

‘โยเกิร์ต’ เคลื่อนไหวแล้ว หลัง ‘มีเรียน’ แฟน ‘พีเค’ ฟาดสตอรี่รัวๆ

0
เรียกได้ว่าทำเอาชาวเผือกไม่เป็นหลับอันนอนหลังสาวมีเรียน สุเดชา อัคเซลการ์ด แฟนสาวของ พีเค ปิยะวัฒน์ ออกมาบอกว่าจะมีข่าวใหญ่ และได้ออกมาโพสต์ข้อความปริศนาผ่านทางไอจีสตอรี่ของตัวเองรัวๆ ซึ่งมีข้อความว่า “ข่าวที่ว่าใหญ่…..มีใหญ่กว่านี้อีก เตรียมป๊อปคอร์น ปูเสื่อรอไว้เลย”และต่อด้วยข้อความแรก ที่มีเรียนโพสต์ลงไอจีสตอรี่มีข้อความว่า “เธอมีความสัมพันธ์ดีดีบ้างไหม? เคยรักใครโดยที่ไม่หลอกใช้เขาเป็นเครื่องมือในการหาเงินไหม? หรือรักแค่ตัวเอง? Self love or selfish เอาดีดี”และอีกข้อความคือ “ให้มาชี้แจงความผิดปกติของบัญชี บริษัทแต่ไม่มา…อ้างไม่ว่าง แต่มีเวลานัดคนนั้นคนนี้กินขนม...