การเมือง

Home การเมือง Page 3

เตือนด่วน! มวลน้ำจากเชียงราย กำลังไหลไปอีสาน จังหวัดต่อไปนี้เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 12 ก.ย. 67 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ อ.แม่สาย และอำเภอเมือง จ.เชียงราย ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง หลายพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนหลายครัวเรือน รวมถึงสัตว์เลี้ยง ไม่สามารถออกมาจากที่พักอาศัยได้ อีกทั้งยังมีรายงานผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต

โดยมีรายงานว่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนฝนตกหนักที่ฝั่งเมียนมา และตกเต็มพื้นที่ แหล่งข่าว บอกว่า “เราไม่มีสถานีวัดระดับน้ำฝนที่ฝั่งเมียนมาเลย แม้ว่าไทยจะต้องรับน้ำต่อ นี่คือจุดบอดมาตลอด” แต่จุดที่เริ่มวัดได้ในเขตไทย พบว่า ฝนตกวันที่พีคที่สุด วัดระดับน้ำได้ 230 ลบ.ม./วินาที

ส่วนเมื่อคืน (11 ก.ย. 67) ฝนตกอยู่ใน อ.แม่สาย แต่จะไม่หนักเท่า 1-2 วันก่อน น้ำจาก อ.แม่สาย จะไหลไปที่ แม่น้ำรวก ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขง และจะกลับเข้าเขตไทยที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนเข้าไปในเขต หลวงพระบาง สปป.ลาว และมวลน้ำก้อนนี้จะกลับมาที่ อ.เชียงคาน จ.เลย ไหลต่อไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ใช้เวลาราว 1-2 วัน

ปัจจุบันที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ฝนตกหนักไม่แพ้กัน และคาดการณ์ว่า อ.เชียงคาน จ.เลย จะเจอมวลน้ำก้อนนี้ประมาณวันที่ 11-14 ก.ย. ประชาชนในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังและเก็บของขึ้นที่สูง โดยมีรายงานอีกว่า เขื่อนไซยะบุรี ที่ สปป.ลาว ได้มีการเพิ่มการปล่อยน้ำ เป็น 18,000 ลบ.ม./วินาที แล้ว

มีรายงานว่าระดับน้ำที่ อ.เมือง จ.เชียงราย จะขึ้นต่อเนื่องราว 5 เซนติเมตรต่อชั่วโมง และระดับน้ำจะพีคสุดๆ ช่วงตี 2 ตี3 และจะเริ่มคงที่ และลดลง น่าจะใช้เวลา 1-2 วันกลับสู่ปกติ ยกเว้นในที่ลุ่มต่ำที่ต้องสูบน้ำออก และน้ำจาก อ.เมือง จ.เชียงราย จะไหลต่อไป อ.เชียงของ ซึ่งคาดว่าระยะเวลาน้ำไหลไปถึงน่าจะใกล้เคียงกับน้ำที่ไหลไปจาก อ.แม่สาย ก่อนเข้า สปป.ลาว และไหลกลับมาเข้าสู่ อ.เชียงคาน จ.เลย

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้า ช่วงประมาณวันที่ 14 – 28 กันยายน 67 ร่องมรสุมจะพาดผ่านอีสาน และทำให้ฝนตกในอีสาน ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี, จ.อุดรธานี, จ.สกลนคร, จ.นครพนม และ จ.เลย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สถานการณ์ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ที่อ่านค่าฝน ค่าตัวเลข ได้มีการแจ้งเตือนมาแล้ว 2 – 4 วัน แต่ยังคงเป็นที่ตั้งคำถามว่าผู้ที่รับผิดชอบถึงสถานการณ์ดังกล่าว ดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่ ที่จะแจ้งเตือนประชาชนให้ทันท่วงที หรือแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่หน่วยงานของรัฐมีอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างครบมือ

2

หลวงเจ๊สติแตก เสพไอซ์จนหลอน เดินป้วนเปี้ยนในวัด ตรวจฉี่พบสีม่วง จับสึกวุ่น

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 ร.ต.อ.ปานสาร ครองสิทธิ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีพระภิกษุสงฆ์ เกิดอาการหลอน สติแตก เดินป้วนเปี้ยนอยู่ภายในวัดบุณย์กัญจนาราม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบพระภิกษุสงฆ์ทราบชื่อภายหลังคือ พระเธียรธาวิน ฉายาธมฺมทีโป ลักษณะท่าทีคล้ายสาวประเภทสอง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเกย์ อยู่ในอาการหลอน พูดจาวกไปวนมา เดินอยู่ภายในวัด พูดพร่ำแต่ว่าอยากจะไปขึ้นศาล และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพราะตนเองมีหลักฐานการปลอมแปลงการบ้านทั้งหมด พร้อมชูกระดาษเอกสารในสภาพยับยู่ยี่จำนวนหลายแผ่น

ขณะที่ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามสอบถามว่าเป็นอะไร มีอะไรให้ช่วยมั้ย กลับยอมรับว่า ตนใช้สารเสพติดประเภทยาไอซ์ไปเมื่อช่วงเช้า โดยติดต่อกับเด็กวัดที่เคยคบหาคุยกันในแบบเก้ง กวาง (กลุ่ม LGBT) ให้หามาถวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย แต่พระเธียรธาวินก็ยืนยันจะไปให้การในชั้นศาลอย่างเดียว สร้างความมึนงง โกลาหลให้เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ก่อนจะเกลี้ยกล่อมให้ไปโรงพักเพื่อตรวจปัสสาวะได้

เบื้องต้น ร.ต.อ.ปานสาร ครองสิทธิ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา เชิญตัวพระเธียรธาวิน มาตรวจปัสสาวะในร่างกาย แต่เจ้าตัวยืนยันบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ตรวจ จะขอไปให้การชั้นศาลอย่างเดิม ต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อม นานกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าตัวยอมตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง ก่อนเชิญตัวไปลาสิกขาบท กับเจ้าอาวาสวัดบุณย์กัญจนาราม แล้วนำตัวไปดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

2

แย่แล้ว ประกาศรายชื่อ 6 จังหวัดพื้นที่สีแดง ฝนตกหนักถึงหนักมาก เตรียมรับมือ

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 20-21 กันยายน 2567 ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

พยากรณ์อากาศกรุงเทพฯ และปริมณฑล 06:00 น. วันนี้ – 06:00 น. วันพรุ่งนี้

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

โดย 6 จังหวัดพื้นที่สีแดง ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ มีดังนี้ จันทบุรี ตราด พังงา กระบี่ ตรัง สตูล

ออกประกาศ 18 กันยายน 2567 06:00

เรียบเรียง สยามนิวส์

2

ระทึก 143 ชีวิต ติดอยู่บนเกาะราชา ภูเก็ต หลังเจอคลื่นลมแรง ออกจากเกาะไม่ได้

วันที่ 18 ก.ย.67 นาวาเอกพิเชษฐ์ ทองตัน ได้รับการสั่งการจาก ผบ.ทรภ.3 ในฐานะ ผอ.ศรชล.ภาค 3 ให้นำเรือ ต.111 ออกทำการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวจำนวน 143 คน ซึ่งติดอยู่ที่เกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากสภาพทะเลมีคลื่นลมแรง เรือสปีดโบ๊ทไม่สามารถออกเรือได้

โดยการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีคลื่นลมแรง คลื่นสูง เรือเล็กไม่สามารถออกจากฝั่ง โดยในช่วงวันที่ 18-23 ก.ย.67 ได้มีการประกาศเตือน ทะเลอันดามันได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนปูลาซานและพายุดีเปรสชั่น ทำให้มีฝนตกหนัก มีคลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กควรออกจากฝั่งนักท่องเที่ยวลงงดเล่นน้ำทะเล ทำให้เรือเล็กไม่สามารถออกจากฝั่งได้

หลังจากเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งหมด ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขึ้นเรือ ต.111 กลับเข้าฝั่ง บริเวณท่าเรือพิสิษฐ์พันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในเวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน โดยนักท่องเที่ยวทุกคนปลอดภัย

 

2

ลำปางฝนหนักทั้งคืน น้ำทะลักท่วมบ้านประชาชน ตั้งแต่เช้ามืด กระทบหนัก 3 อำเภอ

วันที่ 18 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งคืน ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น. เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ จ.ลำปาง หลายอำเภอ ส่งผลให้น้ำในลำห้วยสาขาต่างๆเพิ่มปริมาณเอ่อล้นตลิ่ง ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายหมู่บ้าน

ที่บ้านห้วยเป้ง หมู่ 5 ต.บ้านค่า อ.เมืองลำปาง น้ำล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำห้วยเป้ง ทำให้น้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นและไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ระดับน้ำมีความสูงประมาณ 50-80 ซม.

เบื้องต้นคาดว่ามีบ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 50 หลังคาเรือน เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถเก็บของขึ้นที่สูงได้ทัน มีทรัพย์สิน ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าวเปลือก ถูกน้ำท่วมไปทั้งหมด

กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. น้ำเริ่มลดระดับลงแต่ยังคงมีท่วมขังอยู่บางจุด ชาวบ้านเร่งทำความสะอาด เก็บข้าวของที่จำเป็น เพื่อเตรียมรับมือเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก

นอกจากนี้ที่บ้านแม่ก๋ง หมู่ 3 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง ลำห้วยแม่ก๋ง ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ตั้งแต่ช่วงเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลา 08.00 น. น้ำเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีลำน้ำสมทบเข้ามาหลายสาขา คาดว่ามีบ้านเรือนได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน

ชาวบ้านต่างนำกระสอบทรายมาปิดกั้นประตูหน้าบ้าน บางหลังสามารถกั้นได้ทัน แต่มีหลายหลังที่ถูกน้ำท่วมเข้าไปภายในบ้าน หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่จาก อบต. เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 กอ.รมน.ลำปาง ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

ขณะที่ จังหวัดลำปาง รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ วันที่ 18 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากท่วม บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชน ได้รับความเสียหาย 3 อำเภอ 6 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประกอบด้วย

  • อ.เมืองปาน 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ทุ่งกว๋าว ม. 9 (14 หลังคาเรือน ) , ม. 8 (5 หลังคาเรือน)
  • อ.เมืองลำปาง 5 ตำบล ได้แก่ ต.ต้นธงชัย, ต.บ้านค่า, ต.บ้านเป้า, ต.บ้านเสด็จ, ต.บ้านเอื้อม (อยู่ระหว่างการสำรวจ)
  • อ.แม่เมาะ 1 ตำบล ได้แก่ ต.บ้านดง (อยู่ระหว่างการสำรวจ)

ล่าสุดทางนายอำเภอในพื้นที่ รวมทั้ง สำนักงาน ปภ.ลำปาง และ ปภ.สาขา ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ อปท. กำนันผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายแล้ว

2

“ทนายรัชพล”โผล่เมนต์ทันที “ทนายตั้ม” พูดถึง”ทนายดังกกกอก”แอบแซ่บ”เอวา”

จากกรณี นายเคน นักธุรกิจหนุ่มสัญชาติจีน ร้องเรียนทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลังถูก นางสาวเอวา อดีตภรรยาที่อยู่กินกันมา 7 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ขอหย่าร้าง เพราะจะไปลงสมัครพรรคการเมืองชื่อดัง จึงไม่อยากเป็นภาระ และขนทรัพย์สินมีค่าที่ร่วมกันสร้าง ออกไปจากบ้าน โดยมีคนรักคนใหม่ชื่อ พี่มาก มาช่วยหอบทรัพย์สินหนี เมื่อ 4 กันยายนที่ผ่านมา

\"ทนายรัชพล\"โผล่เมนต์ทันที \"ทนายตั้ม\" พูดถึง\"ทนายดังกกกอก\"แอบแซ่บ\"เอวา\"

ล่าสุด ทนายตั้ม ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของเอวา ว่าได้ไปแอบแซ่บกับชายอื่นก่อนที่จะเลิกกับนายเคนอีกมากมาย โดยระบุว่า…เพิ่งได้รับข้อมูลมานะครับ ก่อนเอวาหย่ากับสามีชาวจีน เอวาไปแอบแซ่บกับ รองอธิบดีอัยการ ทั้งๆที่ตัวเองมีภรรยาอยู่แล้ว และท่านรองก็รู้ทั้งรู้ว่าเอวามีสามีอยู่ เรื่องชักจะอีรุงตุงนัง ทั้งทนายดังกกกอก ทั้งนักการเมือง  ทั้งนักบิน นี่ยังจะมีรองอธิบดีอัยการอีก สงสารแต่สามีชาวจีน วันนี้รู้เข้า ถึงกับเข่าทรุด ทำไมเอวาถึงทำแบบนี้ สวมเขามาตั้งนานเลยเนี่ย

\"ทนายรัชพล\"โผล่เมนต์ทันที \"ทนายตั้ม\" พูดถึง\"ทนายดังกกกอก\"แอบแซ่บ\"เอวา\"

\"ทนายรัชพล\"โผล่เมนต์ทันที \"ทนายตั้ม\" พูดถึง\"ทนายดังกกกอก\"แอบแซ่บ\"เอวา\"

หลังจากข้อมูลนี้ออกไปได้มีหลายคนสงสัยว่าทนายดังกกกอกนั้นเป็นใคร ซึ่งต่อมาทนายรัชพล ศิริสาคร ได้เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ของทนายตั้มว่า “ทนาย กกกอก”พร้อมอิโมจิยิ้มเหงื่อตกก่อนที่ทนายทตั้มจะเข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า”พี่รอดครับ ยังไม่มีสาวที่ไหนชี้ตัวยืนยัน”

\"ทนายรัชพล\"โผล่เมนต์ทันที \"ทนายตั้ม\" พูดถึง\"ทนายดังกกกอก\"แอบแซ่บ\"เอวา\"

2

“อ.เฉลิมชัย” เปิดวัดร่องขุ่น ให้ผู้ประสบภัยนำรถมาจอดได้

ภาคเหนือ 12 ก.ย. – หน่วยปฏิบัติการพิเศษยักขราช 49 ของตำรวจภูธรภาค 5 เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ขณะที่ “อ.เฉลิมชัย” เปิดวัดร่องขุ่น ให้ผู้ประสบภัยนำรถไปจอดได้

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำกำลังพลช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในอาคารที่พักอาศัยต่อเนื่อง ด้านหน่วยซีลปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชม. พร้อมออกปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจติดค้างอยู่ภายในบ้านเรือน และไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ร่วมปฏิบัติงานกับกำลังพลในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน

โดยเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หน่วยซีลปฏิบัติการกลางดึก ลุยช่วยคนแก่ ผู้หญิง เด็ก 3 เดือน อดข้าวรอความช่วยหลังเกิดเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ต้องลุยโคลนเข้าไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร จนช่วยสำเร็จ

ที่ อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่มณฑลทหารบกที่ 37 และมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือนำครอบครัวชาวเขาที่อุ้มลูกน้อย จนสามารถฝ่ามวลน้ำขึ้นรถกู้ภัยได้ แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแล้วแต่น้ำยังคงมีความเชี่ยวอยู่ จึงทำให้การช่วยเหลือค่อนข้างเป็นไปอย่างทุลักทุเล มีทั้งชาวบ้าน ชาวเขา และเด็ก ด้วยความปลอดภัย

ด้านหน่วยปฏิบัติการพิเศษยักขราช 49 ของตำรวจภูธรภาค 5 ที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ต่างเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน นอกจากฝ่ากระแสน้ำแล้ว ยังฝ่ากระแสสายฝนที่โปรยปรายลงมาอีกด้วย

กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมอุปกรณ์ รถยกสูง เรือ และโรงครัวเคลื่อนที่ เร่งช่วยเหลือและช่วยอพยพประชาชนให้ออกมาให้อยู่ในที่ปลอดภัย

อ.เฉลิมชัย เปิดวัดร่องขุ่นให้จอดรถหนีน้ำท่วม
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ออกมาเผยแพร่คลิปประกาศว่าได้เปิดวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยนำรถไปจอดได้ โดยจะมีการจัดให้ลูกศิษย์และคนดูแลความปลอดภัยเฝ้ารักษารถของผู้ประสบภัยให้มีความปลอดภัยอย่างดี

สถานที่จอดรถภายในวัดร่องขุ่นแล้ว 2 จุด โดยมีความกว้างขวาง ได้แก่ ภายในลานจอดของวัดร่องขุ่น สามารถรองรับรถได้หลาย 100 คัน และข้างวัดอีก 1 แห่ง น้ำท่วม จ.เชียงราย ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาหรือเป็นระดับจังหวัด แต่ต้องในนามของรัฐบาลแล้ว ซึ่งควรจัดสรรงบประมาณไปช่วยเหลือและเยียวยา เพราะบ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก ตนเป็นห่วงว่าเมื่อน้ำลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหลายบ้านคงไม่มีเงินซ่อมแซม จึงต้องมีงบประมาณเยียวยา โดยขอรัฐบาลใหม่ช่วยเหลือชาวเชียงรายด้วย เพราะช่วยกันเองภายในจังหวัดไม่เพียงพอ ทางเราขอส่งกำลังใจไปให้พี่น้องชาวเชียงรายและภาคเหนือของเรา และส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุกหน่วยงาน.-สำนักข่าวไทย

2

เตือนด่วน!! พายุซูลิก คาดจะทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน ไทยเตรียมรับมือผลกระทบ เปิดจังหวัดเจอหนักสุด

วันที่ 19 ก.ย. 2567 เพจเฟสบุ๊ก ฝ่าฝุ่น ได้โพสต์ข้อความว่า ศูนย์กลางอยู่ใต้เกาะไหหลำ ข่าวดีคือยังเป็นดีเปรสชั่นอยู่ แต่ข่าวร้ายคือพยากรณ์ยังคาดว่าจะทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อนแต่ดูจะประวิงเวลาไปเรื่อยๆ ทั้งนี้พายุทั้งสองอย่างนี้กำลังต่างกันไม่มาก มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางต่างกันนิดเดียว

สิ่งที่ไทยเรากลัวนั้นไม่ใช่ความเร็วลม เพราะเมื่อมาถึงไทยนั้นก็ลดกำลังกันเยอะแล้ว สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือน้ำฝน เพราะหลายพื้นที่นั้นมีน้ำอ่วมแล้ว น้ำรอระบายท่วมเป็นครึ่งล้านไร่ คนจำนวนมากมีความทุกข์

ในขณะที่ลุ่มสันปันน้ำถัดไปยังต้องการน้ำอยู่เลย เขื่อนเก็บน้ำได้ไม่มาก และดูว่าถ้าน้ำยังน้อยแบบนี้ก็จะลำบากในช่วงฤดูแล้งปีหน้า

ทิศทางของเธอยังผ่านอีสานเหนือ และ น่าน สองพื้นที่นี้มีน้ำอ่วมแล้วก็ต้องเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง มีแผนในการตั้งรับ หลังจากนั้นแล้วอาจจะเลี้ยวซ้ายต่ำลงภาคเหนือตอนล่าง ไปทาง จ ตาก ซึ่งอาจจะดีสำหรับเขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะนี้เขื่อนภูมิพลเก็บน้ำได้เพียง 52% เขื่อนนี้จากเดิมผลิตไฟฟ้าเป็นหลักได้เริ่มกลายเป็นเขื่อนด้านชลประทานของภาคกลาง

แม้ Soulik จะมีกำลังลมไม่มาก แต่เธอทำงานเหมือนเครื่องดูดฝุ่นคือดูดลมใหม่ๆเข้าสู่ร่องความกดอากาศต่ำที่มีอยู่แล้ว จะเห็นว่าเรามีเมฆปกคลุมทั้งสุวรรณภูมิ กระตุ้นให้แนวฝนจากร่องนี้ตกในพื้นที่วงกว้าง ฝนที่ตกในกทมและภาคกลางนั้นก็อิทธิพลจากเธอแม้จะยังอยู่ห่างมากก็ตาม

ขอบคุณ ฝ่าฝุ่น

2

เรือ“ไทด์ เอกพันธ์”คว่ำ อาสาสมัครเจ็บ 1 นาย ดาราดังปลอดภัย อุปกรณ์สื่อสาร เสียหาย

เมื่อเวลา 16.30 น. ทีมกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดยไทด์ เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ดารา 2 และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย ได้นำกำลังลงเรือ เพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย น้ำท่วม บริเวณชุมชนวังทอง อำเภอแม่สาย ทั้งเรื่องการอพยพ รวมถึงการนำข้าวกล่อง น้ำดื่มเข้าไปแจกจ่าย ให้ผู้ที่ติดค้างอยู่ในบ้าน

เปิดนาที ไทด์ เอกพันธ์ เรือคว่ำ ฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย

แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ขับเรือเข้าไปพื้นที่ ซึ่งกระแสน้ำยังคงไหลเชี่ยว แรง และไหลวน จู่ ๆ เครื่องเรือดับ เพราะมีเศษหญ้า เศษผ้า เศษขยะ และกิ่งไม้ เข้าไปพันที่ตัวเครื่องยนต์ จังหวะนั้นน้ำได้ซัดเข้าตัวเรือ ทำให้เรือค่อย ๆ เอียง และล่ม ทำให้ไทด์ เอกพันธ์ และกู้ภัยทุกคน จมน้ำ และถูกน้ำซัดไหลไปตามกระแส จะหว่างนั้นมีทีมขี่เจ็ตสกีที่อยู่ใกล้ขี่ผ่านมา ทีมกู้ภัยทีมร่วมภารกิจได้ช่วยกันตะโกนให้ช่วยเหลือ เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่สวมเสื้อชูชีพ ทำให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ได้รับอันตราย

เปิดนาที ไทด์ เอกพันธ์ เรือคว่ำ ฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย

แม้ว่าทุกคนจะปลอดภัย แต่ทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงโทรศัพท์มือถือ จมหายไปกับกระแสน้ำ

เปิดนาที ไทด์ เอกพันธ์ เรือคว่ำ ฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย

2

แซ่บพริกยกสวน! แพรจ๋า เดอะวอยซ์ อวดหุ่นสะบึ้มในรถ ชาวเน็ตคอมเมนต์ไฟลุก

แซ่บพริกยกสวน! แพรจ๋า เดอะวอยซ์ อวดหุ่นสะบึ้ม โพสท่ายากในรถ ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ไฟลุก

ทำถึง ทำเกิน และทำเกินไปมาก สำหรับนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ แพรจ๋า เดอะวอยซ์ ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรต้องมีเรื่องให้แฟนๆ ตาค้างเสมอ

ล่าสุดไอจีจะลุกเป็นไฟตามคาด เมื่อ สาวแพรจ๋า เปิดโหมดเซ็กซี่กับบิกินีตัวจิ๋ว พร้อมอวดหุ่นสุดสะบึ้มแบบ 4D เต็มตาเต็มใจให้หนุ่มๆ ได้ปาดเหงื่อกันอีกแล้ว

โดย แพรจ๋า โชว์สกิลโพสท่ายากในรถ แปะแคปชั่นชวนฟังเพลงใหม่ของตัวเอง “วันนี้ฟังเพลง #อยากได้ผัวรวย กันรึยังคะ?” แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะโฟกัสไม่ถูกเอาซะเลย จนได้แต่ส่งอีโมจิไฟลุกแทนคำตอบในใจกันแบบรัวๆ

ขอบคุณที่มา IG : pearja

2

Popular Posts

My Favorites

‘เจนนี่’ ฝากข้อความถึงดาราคนนี้ ลั่นคุณต้องรับผิดชอบ

0
เข้าวงการรถแข่งแล้วสำหรับ ป๊ายปาย โอริโอ้ นักร้องชื่อดังมากความสามารถ ที่ล่าสุดเดินทางไป สะพานหิน ภูเก็ต TOYOTA MOTOR SPORT โพสต์ภาพร่วมเฟรม เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ หรือเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น พร้อมแคปชั่นระบุว่า “เป็นไงบ้างน้าวันนี้ รัชนก สุวรรณเกตุ” งานนี้ทำสาวเจนนี่ ถึงกับประกาศผ่านสื่อ บอกว่า “คุณปายฉันบอกเลยว่านี่จะเป็นครั้งเดียวที่ฉันนั่งรถดริฟท์ฉันจะไม่นั่งอีกแล้วไหนคุณบอกว่ามันไม่มีอะไรทั้งทั้งที่มันรุนแรงขนาดนั้นคุณก็ยังปล่อยฉันไปนั่งได้ยังไงคุณปายรับผิดชอบด้วย” ทำเอาชาวเน็ตชมความน่ารักของทั้งคู่ แม้ว่าสาวเจนนี่ไม่ได้รถคันที่ปายขับ...