ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน
Featured posts

ด่วน!! รวบแล้ว นายฐานันตร์ ใช้สายไฟเตารีดรัดคอเมียดับ สารภาพหมดเปลือก ลั่น! ขอแค่อย่างเดียวก็ให้ไม่ได้

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมนายฐานันตร์ อายุ 62 ปี ชาว ต.แควอ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จับกุมได้ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หลังก่อเหตุสังหารนางดารุณี อายุ 53 ปี หมกห้องพัก ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ด้านนายฐานันตร์ ให้การรับสารภาพว่า ตนคบกับผู้เสียชีวิตมาได้ 7 เดือน ขายของหรือทำอะไรตนก็ลงทุนให้หมด ซึ่งก็คิดว่าน่าจะได้กำไร แต่ก็ไม่มีกำไร จากนั้นผู้เสียชีวิตบอกกับตนว่า ป้าข้างบ้านโทรศัพท์มาว่าแม่ป่วย ซึ่งการไปดูแลพ่อแม่นั้นก็ควรจะเอาแต่เสื้อผ้าไป แต่นี่เขาเอาข้าวของไปทั้งหมด ตนบอกว่าก็ได้ ซึ่งของที่จะเอาไปนั้นอันไหนที่ตนให้ก็เอาไป อันไหนที่ไม่ให้ก็ไม่ต้องเอาไป ซึ่งผู้เสียชีวิตก็ขโมยของไป จากนั้นตนก็ติดต่อไม่ได้เลย และมารู้ชื่อจริงว่าชื่อนางดารุณี โดยพยายามตามหาจนเจอ ซึ่งผู้เสียชีวิตหนีมาและรู้ความจริงว่าไม่ได้เฝ้าแม่

จากนั้นผู้เสียชีวิตโทรศัพท์มาขอยืมเงิน 5 พันบาท ตนก็ยังไม่รู้เลยว่าผู้เสียชีวิตไปอยู่ไหนกันแน่ และคิดว่าจะเจอผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร จึงไปแจ้งความที่ สภ.อัมพวา ว่าผู้เสียชีวิตลักทรัพย์ไป และไม่คิดอะไรเพียงอยากเจอตัวเท่านั้น จนวันที่ 15 ก.ย.67 ก็นัดเจอกันที่สภ.อัมพวา เพื่อจะถอนแจ้งความ แต่ร้อยเวรที่รับคดีไปเรียนต่อแล้ว และยังไม่ทราบว่าโอนคดีไปให้ใคร ผู้เสียชีวิตนั่งรถมา โดยบอกว่าว่าจ้างรถมา 1 พันบาท ให้รถที่ว่าจ้างมาไปจอดที่วัดแห่งหนึ่ง ตรงข้ามโรงพัก ซึ่งเขายังไม่รู้ว่าตนจะมาด้วย พอไม่เจอร้อยเวรก็พากันกลับมา ตนก็ขึ้นรถกลับมาด้วย แต่ผู้เสียชีวิตบอกว่าขอเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งก็เป็นห้องน้ำวัด ผู้เสียชีวิตเอาโทรศัพท์ไปด้วย สักพักคนขับรถก็รับโทรศัพท์ ซึ่งตนมองเห็นว่าเป็นรูปของคนเสียชีวิต และได้ยินว่าให้ลงจากรถไปคุยข้างนอก ตนคิดว่าเขาเป็นชู้กันหรือเปล่า แต่ก็ยังไม่คิดอะไร

นายฐานันตร์ กล่าวว่า ตนบอกกับผู้เสียชีวิตว่า ซื้อทองให้ 1 บาทและเอาให้ดู ผู้เสียชีวิตก็จะคว้าไป ซึ่งทองนั้นเป็นทองปลอม เพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเอาอย่างเดียว เมื่อถึงห้องพักวันที่ 15 ก.ย.2567 ผู้เสียชีวิตไม่ยอมให้ตนไป ให้เพียงแต่ออกมาสูบบุหรี่ที่หน้าตึกเท่านั้น จากนั้นตนถูกหวยก็ให้เงินไป 1 หมื่นบาท และก็พากันไปกิซื้อของหมดไปเกือบ 1 หมื่นบาท ซึ่งตนก็ยังระแวงว่าผู้เสียชีวิตคบคนอื่น และวันที่ 18 ก.ย.2567 ตนต้องไปตรวจสุขภาพ และก็ไม่ได้ทะเลาะกันเลย เมื่อนอนอยู่ด้วย ตนก็บอกกับผู้เสียชีวิตว่าพี่ขออย่างเดียวรับปากได้หรือไม่ เกี่ยวกับหนุ่มอื่นๆ จะไม่มีอีก เดือนร้อนอะไรก็โทรศัพท์มา ซึ่งผู้เสียชีวิตก็ไม่รับปาก ตนก็ขึ้นเลย ขณะที่นอนคว่ำหน้าอยู่มองไปเห็นเตารีดก็ตัดสายไปเตารีดมามัดคอจนสิ้นใจ ก่อนหนีไปที่ราชบุรี จากนั้นขับไปนครสวรรค์ เพื่อที่จะไปเชียงใหม่ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

เปิดคำพูดครูเบญ หลังทราบผลคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ 60% ทั้งภาค ก. และภาค ข.

หลังจากมีการประกาศผลสอบของ ‘ครูเบญ’ ว่าคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ 60% ทั้งภาค ก. และภาค ข. แต่ยังไม่ได้แถลงเนื่องจากต้องให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง และต้องการให้ครูเบญมาร่วมแถลงด้วย แต่ครูเบญติดภารกิจรับปริญญา โดยวันนี้ ญาติๆ ของครูเบญ ได้มาร่วมฉลองกันอย่างพร้อมหน้า ทางครูเบญเองก็สภาพจิตใจดี ว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน หรือรองเจมส์ รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยหลังจากได้พูดคุยกับครูเบญว่า

“ครูเบญไม่ได้ต้องการเป็นที่ 1 แค่ต้องการควาถูกต้องยุติธรรมเท่านั้น น้องไม่ได้ต้องการการเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น น้องต้องการเป็นครูของนักเรียนอย่างมีความสุข ทำหน้าที่แม่พิมพ์ให้สมบูรณ์แม้จะเป็นเพียงครูอัตราจ้าง ถึงสู้มาแล้วได้ไปบรรจุ น้องก็คงไม่มีความสุขในการไปอยู่ที่นั่นแล้ว”

เช็กด่วน! เปิดรายชื่อจังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

วันที่ 20 ก.ย. 2567 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับว่า พายุโซนร้อน “ซูลิก” อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้มีประกาศฉบับที่ 16/2567 ได้วิเคราะห์สถานการณ์และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 19 – 25 ก.ย.2567 ดังนี้

– ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ทุกอำเภอ) เชียงใหม่ (อ.แม่อาย ฝาง เชียงดาว จอมทอง ฮอด) เชียงราย (อ.เมืองฯ แม่สาย เชียงของ เชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง เทิง พญาเม็งราย เวียงแก่น ขุนตาล เวียงชัย แม่ลาว) ลำพูน (อ.เมืองฯ ลี้) ลำปาง (อ.วังเหนือ งาว) พะเยา (อ.เมืองฯ แม่ใจ ภูซาง ปง เชียงคำ จุน ภูกามยาว เชียงม่วน) แพร่ (อ.เมืองฯ วังชิ้น สูงเม่น เด่นชัย สอง ลอง)

น่าน (อ.เมืองฯ ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ ปัว บ่อเกลือ ท่าวังผา เชียงกลาง สองแคว แม่จริม ภูเพียง เวียงสา) อุตรดิตถ์ (อ.เมืองฯ ลับแล พิชัย ทองแสนขัน ท่าปลา น้ำปาด) ตาก (อ.เมืองฯ ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ อุ้มผาง) สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสัชนาลัย ศรีสำโรง กงไกรลาศ) กำแพงเพชร (อ.ปางศิลาทอง คลองลาน โกสัมพีนคร พรานกระต่าย) พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ นครไทย วัดโบสถ์ วังทอง เนินมะปราง) พิจิตร (อ.โพธิ์ประทับช้าง) เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ หนองไผ่ หล่มเก่า หล่มสัก) นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์ แม่เปิน) และอุทัยธานี (อ.บ้านไร่)

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อ.นาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย ปากชม) หนองคาย (อ.เมืองฯ สังคม ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ โพนพิสัย โพธิ์ตาก) บึงกาฬ (อ.เมืองฯ ปากคาด บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา บึงโขงหลง) หนองบัวลำภู (อ.สุวรรณคูหา) อุดรธานี (อ.เพ็ญ บ้านดุง หนองหาน นายูง น้ำโสม) สกลนคร (อ.อากาศอำนวย คำตากล้า พรรณนานิคม เมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน) นครพนม (อ.เมืองฯ บ้านแพง ท่าอุเทน นาหว้า โพนสวรรค์ ปลาปาก ธาตุพนม ศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ บ้านเขว้า จัตุรัส คอนสวรรค์ คอนสาร หนองบัวแดง)

ขอนแก่น (อ.เมืองฯ ภูผาม่าน ชุมแพ บ้านไผ่) มหาสารคาม (อ.เมืองฯ โกสุมพิสัย) กาฬสินธุ์ (อ.เมืองฯ กมลาไสย ยางตลาด ร่องคำ) มุกดาหาร (อ.เมืองฯ นิคมคำสร้อย หว้านใหญ่ ดอนตาล) ร้อยเอ็ด (อ.เมืองฯ เสลภูมิ ทุ่งเขาหลวง เกษตรวิสัย) ยโสธร (อ.เมืองฯ ป่าติ้ว คำเขื่อนแก้ว) อำนาจเจริญ (อ.เมืองฯ หัวตะพาน ชานุมาน) นครราชสีมา (อ.เมืองฯ เมืองยาง ลำทะเมนชัย พิมาย ปากช่อง วังน้ำเขียว) บุรีรัมย์ (อ.เมืองฯ) สุรินทร์ (อ.เมืองฯ ชุมพลบุรี ท่าตูม รัตนบุรี จอมพระ สนม โนนนารายณ์ ศีขรภูมิ ปราสาท) ศรีสะเกษ (อ.เมืองฯ ราษีไศล ยางชุมน้อย) และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ ตาลสุม วารินชำราบ น้ำยืน พิบูลมังสาหาร น้ำขุ่น)

– ภาคกลาง จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี ทองผาภูมิ) ราชบุรี (อ.ปากท่อ สวนผึ้ง) สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ ด่านช้าง) ชัยนาท (อ.หันคา) สิงห์บุรี (อ.อินทร์บุรี พรหมบุรี) อ่างทอง (อ.ป่าโมก วิเศษชัยชาญ) พระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล บางปะหัน เสนา ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร) ลพบุรี (อ.ชัยบาดาล สระโบสถ์ ลำสนธิ) สระบุรี (อ.แก่งคอย) นครนายก (อ.เมืองฯ ปากพลี บ้านนา) ปราจีนบุรี (อ.เมืองฯ ประจันตคาม กบินทร์บุรี นาดี) สระแก้ว (อ.เมืองฯ อรัญประเทศ) ฉะเชิงเทรา (อ.สนามชัยเขต ท่าตะเกียบ)

ชลบุรี (อ.เมืองฯ ศรีราชา บางละมุง) ระยอง (อ.เมืองฯ ปลวกแดง นิคมพัฒนา แกลง บ้านค่าย) จันทบุรี (อ.เมืองฯ ท่าใหม่ เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน มะขาม ขลุง) ตราด (ทุกอำเภอ) ประจวบคีรีขันธ์ (อ.บางสะพาน บางสะพานน้อย ปราณบุรี) ปทุมธานี (อ.ธัญบุรี คลองหลวง) นนทบุรี (อ.เมืองฯ ปากเกร็ด) นครปฐม (อ.เมืองฯ บางเลน) และสมุทรปราการ (อ.เมืองฯ บางพลี บางเสาธง) รวมถึงกรุงเทพมหานคร

– ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อ.ท่าแซะ พะโต๊ะ สวี) สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองฯ คีรีรัฐนิคม พุนพิน พระแสง เวียงสระ พนม บ้านตาขุน) นครศรีธรรมราช (อ.เมืองฯ เชียรใหญ่ ถ้ำพรรณรา ทุ่งใหญ่ พิปูน ช้างกลาง ลานสกา) พัทลุง (อ.เมืองฯ ปากพะยูน กงหรา ศรีนครินทร์ ควนขนุน) สงขลา (อ.รัตภูมิ หาดใหญ่ สะบ้าย้อย นาหม่อม) ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อ.เมืองฯ คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ เขาพนม เหนือคลอง อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา เกาะลันตา) ตรัง (อ.เมืองฯ ปะเหลียน นาโยง กันตัง สิเกา ย่านตาขาว ห้วยยอด รัษฎา วังวิเศษ) และสตูล (อ.เมืองฯ ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า มะนัง)

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย ตาก อุทัยธานี เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี ระนอง ภูเก็ต ตรัง และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ

นอกจากนั้นพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำสาย (จ.เชียงราย อ.แม่สาย) แม่น้ำกก (จ.เชียงใหม่ อ.แม่อาย จ.เชียงราย อ.เมืองฯ เชียงแสน) แม่น้ำอิง (จ.พะเยา อ.เมืองฯ) แม่น้ำยม (จ.พิษณุโลก อ.บางระกำ) แม่น้ำป่าสัก (จ.เพชรบูรณ์ อ.หล่มสัก หนองไผ่) แม่น้ำเลย (จ.เลย อ.เชียงคาน) ห้วยหลวง (จ.อุดรธานี) แม่น้ำสงคราม (จ.อุดรธานี สกลนคร บึงกาฬ นครพนม) แม่น้ำจันทบุรี (จ.จันทบุรี อ.เมืองฯ มะขาม) และแม่น้ำตราด (จ.ตราด อ.เมืองฯ เขาสมิง บ่อไร่)

ขณะที่พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี (อ.เมืองฯ ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง สัตหีบ) ระยอง (อ.เมืองฯ บ้านฉาง แกลง) จันทบุรี (อ.นายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ ขลุง) และตราด (อ.เมืองฯ แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด) และภาคใต้ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (อ.เมืองฯ สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อ.เกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก) ตรัง (อ.กันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ) และสตูล (อ.เมืองฯ ละงู ท่าแพ ทุ่งหว้า)

ทั้งนี้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 70 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วใมง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน พื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน

พ่อ แม่ ใจมาร ทิ้งทารกหญิงแรกเกิดในห้องน้ำวัด เดชะบุญมาเจอทันก่อนตัวเงินตัวทองมาคาบไป

เมื่อเวลา 10.16 น.วันที่ 20 กันยายน 2567 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งจากพระภิกษุสงฆ์ว่า พบทารกแรกเกิดถูกนำมาทิ้งไว้ในห้องน้ำ ที่วัดเขาโป่งสะเก็ตพุฒาจารย์ ม.5 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นวัดตั้งอยู่บนเนินเขา ค่อนข้างเงียบสงบ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ มีชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ ยืนสังเกตการณ์ หลังพบทารกแรกเกิดเพศหญิง ผิวพรรณขาว ถูกพ่อแม่ใจบาป นำมาทิ้งไว้ โดยใช้ผ้าขนหนูห่อตัว คลุมทับด้วยผ้าแพรสีชมพู มีมดแดงเกาะตามผ้าจำนวนไม่น้อย วางทิ้งไว้อยู่ในห้องน้ำ ห้องริมของทางวัด แล้วปิดประตูจากด้านนอก โชคดีทารกน้อยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯต้องเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลยางละมุง เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพร่างกายและอยู่ในการดูแลของแพทย์ก่อน

สอบถามพระมีคำ นิภพโย อายุ 48 ปี พระลูกวัดเขาโป่งสะเก็ต ทราบว่า ช่วงเช้าขณะที่กำลังฉันกาแฟ ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องพยายามเดินตามหาแต่ไม่พบ จนกระทั่งได้ยินเสียงเด็กร้องขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความสังหรณ์ใจจึงออกเดินตามเสียงไปอีกครั้ง จนไปสุดเสียงที่บริเวณห้องน้ำ แต่สังเกตเห็นประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่ คิดว่าคงมีคนเข้า ทันใดนั้นทารกน้อยก็ส่งเสียงร้อง ราวกับเรียกให้ช่วยชีวิต จึงผลักประตูเข้าไป พบว่ามีคนนำทารกห่อผ้ามาทิ้งไว้จริงๆ จึงตามชาวบ้านมาช่วยพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ขณะที่มีนางสมพร มีอาลัย อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่มาทำบุญ มีความประสงค์อยากรับเด็กทารกไปเลี้ยง เพราะตนเองไม่มีลูกมีหลาน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ถึงทารกน้อยแรกเกิดเพศหญิงที่พบ น่าเวทนา โชคดีที่ตัวเงิน ตัวทอง ไม่มาเจอแล้วคาบไป จนเกิดอันตราย เนื่องจากในวัดมีป่าล้อมรอบ จึงมีสัตว์พวกนี้เยอะ พร้อมกับประนามการกระทำของพ่อแม่รายนี้ว่าไม่เกรงกลัวค่อบาป เอามาทิ้งในวัดราวหมู หมา

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้นำกำลังมาตรวจสอบ บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน รายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุงให้ทราบ เพื่อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสของพ่อแม่ใจร้าย รายนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการททงกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดชลบุรี รายงาน

กระจ่าง เปิดคะแนน ครูเบญ เต็ม 150 ได้เท่าไหร่

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ครูเบญ อายุ 24 ปี ผู้เสียหายกรณีการสอบบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) สระแก้ว ได้อันดับ 1 แต่ผ่านไป 3 วัน ชื่อกลับหายไป ทำให้มีการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งวันนี้ครบรอบกำหนดการแถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้นั้น

ล่าสุด วันที่ 20 กันยายน 2567 ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ผลสืบข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกมาแถลงได้ เนื่องจากต้องการให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง และต้องการให้ ครูเบญ มาร่วมแถลงด้วย แต่ ครูเบญ ติดซ้อมรับปริญญาในช่วงนี้ จึงไม่สะดวก วันนี้จะส่งเอกสารทั้งหมดให้กับผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ(พฐ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส

ว่าที่ ร.ต.ธนุ กล่าวต่อว่า ส่วนผลสืบเบื้องต้นของสพฐ. พบว่าผลสอบของครูเบญ คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ไม่ถึง 60 % ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ทั้งภาค ก. และ ภาค ข.จริง และไม่ติด 1 ใน 10 ซึ่งให้ครูเบญยืนยันแล้ว

ส่วนคนที่ได้ที่ 1 พบว่าคะแนนสูงสุดจริง ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีผลการเรียนที่ได้เกียรตินิยม และสภาพแวดล้อมหลายอย่าง ยืนยันน่าจะสอบได้จริง แต่ต้องรอผลการสอบของผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง

ว่าที่ ร.ต.ธนุ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ผลการตรวจสอบ ผอ.สพม.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ในสังกัด พบว่ามีมูลความผิดจริง เข้าข่ายประมาท และบกพร่องในหน้าที่ ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนที่จะลงโทษตามกฎหมาย

รายงานข่าวแจ้งว่า ครูเบญ ได้ 81 คะแนนจากคะแนนเต็ม 150 คะแนน โดยแยกเป็น ภาค ก. คะแนนเต็ม 50 คะแนน ภาค ข. คะแนนเต็ม 50 คะแนน และภาค ค. (สัมภาษณ์) คะแนนเต็ม 50 คะแนน

เผยผลสอบ ปิยะโสภิชา ได้ที่1 แทน ครูเบญ การันตีความเก่งติด 1 ใน400

เรียกได้ว่าไม่จบลงง่ายเลยที่เดียวค่ะ สำหรับ ครูเบญ ที่สอบติดครู ได้อันดับที่ 1 แต่ผ่านไป 3 วันชื่อหาย และมีของสาวอีกราย ปิยะโสภิชา นามสกุลใหญ่ ปรากฏชื่อขึ้นมาสะอย่างนั้น จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในไปทั่วโลกโซเซียลกันเลยทีเดียวค่ะ

ล่าสุดวันที่ 20 ก.ย.2567 ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความและผลสอบจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยผลสอบของ ปิยะโสภิชาโดยระบุในทำนองว่า จากข่าว น้องคนหนึ่งสอบครูติด อันดับ 1 ผ่านไป 3 วัน ชื่อหาย ขออย่าเพิ่งด่า น้องคนที่มาเสียบแทน เพราะเอาชื่อน้องไปเสิร์ชในกูเกิล น้องคนนี้ก็เก่งระดับหัวกะทิ เพราะน้องสอบผ่าน ภาค ก. ภาค ข. สนามอาชีวะ ซึ่งเป็นข้อสอบที่ยากกว่า สพม.ที่เป็นข่าวนี้ น้องติด 1 ใน 400 คน จาก 10,000 คน น้องก็ไม่ธรรมดา รอตรวจสอบให้แน่ชัด ถ้าน้องใช้เส้นสายจริงค่อยด่า นั้นเองค่ะ

ด่วน เตือนพายุซูลิก ประกาศรายชื่อจังหวัดพื้นที่สีแดงโดนเต็มๆ ฝนถล่มหนักมาก

วันที่ 20 กันยายน 2567 พยากรณ์อากาศวันนี้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม ไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากพายุโซนร้อน “ซูลิก” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้วและปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ภาคตะวันออก และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิษถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่

สำหรับพื้นที่สีแดงมีดังนี้ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย สกลนคร บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล

พายุซูลิคก่อตัว ทำฝนถล่มพะเยา ต้นไม้หักโค่นทับเสาไฟฟ้าดับทั้งอำเภอ

วันที่ 19 กันยายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศจังหวัดพะเยาในช่วงเย็นเกิดฝนและลมกระโชคแรงจากพายุซูลิคโดยเย็นวันนี้พื้นที่อำเภอปงได้เกิดพายุทั้งฝนและลมอย่างแรงนานกว่าชั่วโมง ทำต้นไม้หักโค่นล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูงทางสะพานข้ามบ้านสบเกี๋ยงไปบ้านวังบง จำนวน 2 ต้นทำให้ไฟฟ้าดับไปทั่วอำเภอ หลังจากที่พายุสงบ เจ้าหน้าที่ บรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลงิมได้ทำการออกตัดกิ่งไม้ที่ล้มขวางถนนเป็นที่เรียบร้อย และทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าได้ทำการซ่อมแซมไฟฟ้าจน ตอนนี้สามารถใช้ไฟ ฟ้าได้แล้ว

ซึ่งในวันนี้สำนักงาน ปภ.จังหวัดพะเยาได้ออกมาแจ้งเตือนภัยเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมขังและน้ำล้นตลิ่ง19-23กันยายน2567ในพื้นที่อำเภอเมืองพะเยา อำเภอปงอำเภอเชียงคำ อำเภอจุน อำเภอภูกามยาวและอำเภอเชียงม่วน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

ชาวบ้านริมลำน้ำ พื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมยกของมีค่าขึ้นที่สูงและให้ติดตามสถานการณ์ข้อมูลสภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิดเกษตรกรเตรียมการป้องกันผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงที่อาจได้รับความเสียหายด้วย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.พะเยา รายงาน

ชาวเน็ตถก ทำไมพระช่วยน้ำท่วม แล้วมีคนบางกลุ่มบอกไม่เหมาะสม?

เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน จึงระดมกำลังและทรัพยากรในการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดขึ้น

ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์หลายรูปในจังหวัดน่าน ที่ออกมาลุยน้ำท่วม แจกจ่ายอาหารให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

แม้จะเป็นการทำดีเพื่อช่วยเหลือคนอื่น แต่กลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วย จนเกิดการตั้งคำถามในกลุ่ม “พุทธที่แท้จริง” ว่า “การที่พระออกมาช่วยเหลือชาวบ้านน้ำท่วม ทำไมคนบางกลุ่ม ถึงมองว่าไม่เหมาะสม?”

ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่ตอบตรงกันว่า “ไม่ใช่กิจของสงฆ์” ความคิดเห็นหนึ่งกล่าวเสริมว่า “บางเรื่องมันเกินเลยสิ่งที่ภิกษุทำได้ครับ พระพุทธเจ้ามอบธุระไว้ให้ภิกษุ 2 อย่างคือคันถะธุระกับวิปัสสนาธุระ เป็นต้น

ช่วยเหลือคนมันก็อาจจะมีความผิดทางวินัยบ้างบางประการ ผู้ที่ศึกษาในศาสนาพุทธก็จะมองว่าไม่สมควรครับ”

ฝั่งที่เห็นด้วยกับการที่พระออกมาช่วยเหลือชาวบ้านก็มาแย้งว่า พระก็เป็นมนุษย์ หากเพื่อนมนุษย์เดือดร้อนก็ควรช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะสถานการณ์รุนแรงระดับนี้ บ้างก็บอกว่า เรื่องแบบนี้ควรดูกันที่เจตนา พระท่านเจตนาช่วยเหลือ ก็ไม่ควรโดนตำหนิ

ไม่ต้องเจ็บปวดอีกแล้วลูก แม่เมย์ แจ้งข่าวเศร้า น้องเอวา จากไปอย่างสงบแล้ว

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อกที่ชื่อว่า แม่เมย์แม่น้องเอวา ซึ่งคุณแม่มักโพสต์คลิปลูกสาววัย 11 ขวบที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และมีคนติดตามคอยให้กำลังใจจำนวนมาก ได้ออกมาโพสต์คลิปบีบหัวใจใครหลายคน เป็นคลิปวิดีโอที่แม่เมย์คุยกับลูกสาวว่า มองเห็นหน้าแม่ไหม น้องเอวาทำเพียงส่ายหน้าไปมา แม้จะสะเทือนใจที่ลูกสูญเสียการมองเห็น จากเชื้อมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ แม่เมย์ ก็พยายามหยอกทำให้น้องเอวารู้สึกดี

จากนั้น ไม่นาน แม่เมย์ก็โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เราเดินทางสู้กันมาไกลเหลือเกินแล้วลูก แม่รู้ว่าใจเอวาสู้แต่ร่างกายหนูตอนนี้เขาไม่ไหวเท่าใจหนูแล้ว แม่ขอยุติการรักษาทุกอย่างเอง เพราะแม่คนนี้ไม่อยากให้หนูเจ็บปวดทรมานอีกแล้ว รักสุดหัวใจ

ล่าสุด วันนี้ (19 ก.ย. 2657) แม่เมย์ ได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้า ผ่านเฟซบุ๊ก Natsuda Klinkham ระบุข้อความว่า เดินทางไปรอแม่ที่ดาวก่อนนะลูก เดินไปตามทางสวนดอกไม้สวยๆ ไม่เจ็บปวด ไม่ทรมานอีกแล้ว ลืมมันไปให้หมดเลยนะลูก ทิ้งความเจ็บปวดไว้ในชาตินี้ให้หมด พอแล้ว…. เกิดมาใหม่ขอให้หนูร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บนะ รักสุดหัวใจน้องเอวา

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ก็สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับคนที่คอยตามเป็นกำลังใจให้กับสองแม่ลูกคู่นี้เป็นอย่างมาก เข้ามาแสดงความอาลัยต่อการจากไปของน้องเอวา พร้อมทั้งเป็นกำลังให้กับแม่เมย์ต่อการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ทางแอดมินสยามนิวส์ ก็ของแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ

Popular Posts

My Favorites

เชอร์รี่ ปลื้มน้ำตาไหล แฟนคลับทำบุญให้เป็นของขวัญวันเกิด เผยเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด

0
นักแสดงสาว เชอร์รี่ เข็มอัปสร ปลื้มน้ำตาไหล แฟนคลับทำบุญให้เป็นของขวัญวันเกิด เป็นของขวัญที่ถูกใจมากๆ และเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด พึ่งผ่านวันเกิดมาไม่นานสำหรับนักแสดงสาว เชอร์รี่ เข็มอัปสร ซึ่งวัดเกิดปีนี้เธอก็ได้แชร์โมเมนต์ซึ้งๆที่แฟนคลับนำอาหารไปแจกให้กับคนไร้บ้านเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับเชอร์รี่ งานนี้ทำเอาเธอปลื้มถึงขั้นน้ำตาไหลเลยทีเดียว ล่าสุดวันที่ 5 ก.ย. เชอร์รี่ เข็มอัปสร ได้มาร่วมงานเปิดตัว #legend แฟชั่นและไลฟ์สไตล์แมกกาซีนจากเกาะฮ่องกง ที่อาคารชัยพัฒนสิน พร้อมเล่าความรู้สึกในวันนั้นว่า เซอร์ไพรส์มากๆ เป็นของขวัญวันเกิดที่มีค่ามากๆ ปลื้มปิติมากวันเกิด? “อายค่ะ ตอนแรกเขียนเล่า...