ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน
Featured posts

พ่อร้องสายไหมต้องรอด โมเดลลิ่งเก๊ อ้างพาลูกถ่ายโฆษณา คู่ ลิซ่า สูญเงิน 8.7 ล้าน

พ่อจาก จ.แพร่ ร้องสายไหมต้องรอด โมเดลลิ่งเก๊ อ้างพาลูกถ่ายโฆษณา คู่ ลิซ่า หลงเชื่อโอนเงินไป 42 ครั้ง เป็นเงินกว่า 8.7 ล้านบาท

วันที่ 30 ก.ค.2567 นายที (นามสมมุติ) เดินทางมาจากจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด หลังถูกโมเดลลิ่งเก๊หลอกโอนเงินหลักล้านบาท

ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ภรรยาของตนรู้จักกับน.ส.น้ำผึ้ง ผ่านทาง facebook เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากนั้นนางสาวน้ำผึ้งทักมาหาภรรยาของตน พร้อมเชิญชวนว่าตนทำธุรกิจเฟ้นหานักแสดงไปถ่ายโฆษณาหรือละครต่างๆ และด้วยความที่โปรไฟล์ของน้ำผึ้งดูน่าเชื่อถือ ทำให้ครอบครัวของตนมั่นใจว่าน.ส.น้ำผึ้งสามารถพาลูกสาวคนโต อายุ 11 ขวบ เข้าสู่วงการบันเทิงได้จริง

กระทั่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนติดต่อไปหา น.ส.น้ำผึ้ง โดย น.ส.น้ำผึ้ง บอกว่า จะต้องจ่ายค่าเรียนการแสดงเป็นเงิน 17,000 บาท และให้คำมั่นว่าจะมีงานถ่ายโฆษณาเข้ามาอย่างแน่นอน โดยหลังจากที่ตนโอนให้เงินไป ยังไม่ทันที่ลูกสาวของตนจะได้ไปเรียนการแสดง น.ส.น้ำผึ้ง ติดต่อกลับมาว่า ให้ลูกสาวตนไปถ่ายโฆษณานมเปรี้ยวยี่ห้อดังที่สตูดิโอแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ในวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยตนพาลูกสาวไปถ่ายทำโฆษณา เห็นว่ามีการถ่ายทำกันจริง และมีบุคคลอื่นที่มาร่วมถ่ายโฆษณาด้วย ถัดมาอีกประมาณหนึ่งเดือน ตนได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 19,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าสามารถทำเงินได้จริง จึงการจ่ายเงินค่าเรียนการแสดงของลูกสาวคนเล็กอายุ 10 ขวบ เพิ่มเติม

จากนั้น น.ส.น้ำผึ้ง ชักชวนให้ลูกสาวของตนไปถ่ายโฆษณาประเภทอื่นๆ อยู่หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งได้บอกให้ผู้เสียหายวางเงินประกันก่อนทุกครั้ง ด้วยจำนวนเงินที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่หลักพันบาท ไปจนถึงหลักแสนบาท

ด้วยความที่ผู้เสียหายมั่นใจว่าจะได้ค่าตอบแทนกลับมาจริง จึงโอนเงินค่าประกันให้ไปตลอด โดยมีครั้งหนึ่ง น.ส.น้ำผึ้ง อ้างว่าจะมาชวนลูกสาวไปถ่ายโฆษณาร่วมกับ ลิซ่า Black pink จะได้ค่าจ้าง 150,000 บาท แต่ต้องวางเงินประกัน 75,000 บาท แล้วอ้างว่าตัวเองสนิทสนมกับลิซ่า สามารถพาไปถ่ายงานร่วมกันได้ทั้งครอบครัว

ทำให้ครอบครัวต้องเดินทางมาจากจังหวัดแพร่ มาเปิดโรงแรมนอนพักที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ซึ่ง น.ส.น้ำผึ้ง ได้เลื่อนประวิงเวลามาตลอด ทำให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนโอนเงินให้นางสาวน้ำผึ้งถึง 42 ครั้ง เป็นจำนวนเงินถึง 8,734,000 บาท โดยไปยืมญาติถึง 2,000,000 กว่าบาท

สำหรับ น.ส.น้ำผึ้ง ตนได้มีการติดต่อสอบถามไป นางสาวน้ำผึ้งก็อ้างว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้พบว่าไม่สามารถติดต่อได้แล้ว

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดู เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ที่ บก.สอท.1 และส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้
ขณะที่เฟซบุ๊กของนางสาวน้ำผึ้ง ยังโพสต์หานักแสดงไปถ่ายโฆษณาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ถัดมาในเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.น้ำผึ้ง โทรกลับมาหาผู้เสียหาย โดยบอกว่าจะเริ่มทยอยคืนเงินบางส่วนในวันที่ 1 ส.ค. แต่ไม่รับปากว่าจะสามารถคืนเงินทั้งหมดให้ได้ ส่วนเรื่องตั๋วที่จะบินไปเกาหลีเพื่อถ่ายโฆษณาร่วมกับลิซ่า black pink นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งจะโทรติดต่อกลับมาแจ้งเป็นระยะๆ

ค่ายรถดัง กลับลำ ประกาศเลิกขายรถไฟฟ้าทุกรุ่น 100%

วอลโว่ คาร์ส แบรนด์รถยนต์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศสวีเดน แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นเจ้าของแท้จริงคือ จีลี่ (Geely) ค่ายรถยนต์สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกนโยบายและแผนการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ทุกรุ่นภายในปี 2023 ตามที่เคยประกาศเจตนารมย์ไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ จะปรับเปลี่ยนนโยบายด้วยการผลิตรถยนต์วอลโว่ด้วยเครื่องยนต์ระบบปลั๊กอิน-ไฮบริด (Plugin-hybrid) ทดแทน

สาเหตุจากตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีชะลอตัวอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความล่าช้าอย่างมากในการขยายสถานี หรือจุดชาร์จไฟฟ้าของรถอีวีโดยเฉพาะในตลาดยุโรป และอเมริกาเหนือ กลุ่มสหภาพยุโรปประกาศมาตรการขึ้นภาษีเพิ่มเติมกับรถอีวีนำเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะมีเป้าหมายในการปิดกั้นรถอีวีผลิตจากจีน นอกจากนี้ รุ่นของรถอีวีที่สามารถตอบโจทย์ให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงในด้านราคาได้ดีกว่านี้กลับมีน้อยลง

วอลโว่ คาร์ส ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงการผลิตและทำตลาดรถยนต์ภายในปี 2023 ว่า วอลโว่ คาร์ กำหนดการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี หรือรถยนต์เครื่องยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด เป็นสัดส่วน 90% – 100% ภายในปี 2030 นอกจากนี้ ได้กำหนดการขายรถยนต์วอลโว่ด้วยเครื่องยนต์ประเภท Mild Hybrid หรือเครื่องยนต์ประเภทมีมอเตอร์ไฟฟ้าไว้สนับสนุนการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปเท่านั้น ซึ่งขยับเป้าเพิ่มเป็น 10% ภายในปี 2030

วอลโว่ คาร์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เครื่องยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด เป็นกลยุทธ์สำคัญแท้จริงสำหรับการเติบโตในอนาคตด้วยผลกำไร ดังนั้น วอลโว่ คาร์ จะปรับเปลี่ยนรถยนต์รุ่น XC90 ซึ่งเป็นรถประเภทเอสยูสี ให้เป็นเครื่องยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด ภายในสิ้นปีนี้

ภายในปี 2025 หรือปีหน้า วอลโว่ คาร์ คาดหวังว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ได้แก่ รถอีวี และรถปลั๊กอิน-ไฮบริด จะมีสัดส่วนที่ 50% และ 60% ของยอดขายโดยรวมตามลำดับ ในขณะที่ ก่อนหน้าปี 2025 สัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่อย่างน้อย 50% เป็นรถอีวี และที่เหลือเป็นรถปลั๊กอิน-ไฮบริด

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธุ์ 2024 ผ่านมา ซีอีโอวอลโว่ประกาศด้วยความมั่นใจว่าตลาดรถไฟฟ้า หรือรถอีวีจะเติบโตอย่างมากในอีก 6 ปี หรือภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม วอลโว่ คาร์ ได้ขายทิ้งหุ้นเกือบ 50% ในรถอีวีแบรนด์หรูโพลสตาร์คืนกลับค่ายรถแบรนด์จีนจีลี่ สาเหตุตากมีผลขาดทุนสูง

นายจิม โรวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ วอลโว่ คาร์ส กล่าวเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ปีนี้ว่า วอลโว่มีความมั่นใจในการเติบโตอย่างมากมายของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี ซึ่งยังคงรักษาเป้าหมายยอดขายรถอีวีเป็นครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมดของวอลโว่ที่ขายทั่วโลกภายในกลางทศวรรษนี้ และภายในปี 2030 จะเป็นปีที่วอลโว่ขายรถอีวีเท่านั้น ไม่มีรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปต่อไป

ยอดขายเดือนมกราคมผ่านไป พบว่า วอลโว่ คาร์ส มียอดขายเป็น 53,402 คัน เพิ่มขึ้น +10% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา สาเหตุจากยอดขายรถอีวีของวอลโว่เพิ่มขึ้น +40% ในตลาดยุโรปเป็นหลักในเดือนดังกล่าว นอกจากนี้ ยอดขายเฉพาะรถอีวีเพิ่มขึ้น +17% ส่งผลคิดเป็น 17% ของยอดขายทั้งหมดในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถอีวีของวอลโว่ในตลาดรถยนต์จีนแผ่นดินใหญ่ และสหรัฐอเมริกากลับลดลง

สาเหตุจากวอลโว่จับตลาดรถอีวีในกลุ่มตลาดพรีเมี่ยมมากกว่าที่จะผลิตรถอีวีมาทำตลาดล่างทั่วไปที่การแข่งขันเป็นไปอย่างรุนแรง ดังนั้น วอลโว่มั่นใจในพลังกลยุทธ์ราคาที่เป็นกลยุทธ์สำคัญ และคาดการณ์ว่าลูกค้าจะมีรายได้มากขึ้น จึงทำให้ลูกค้าสนใจและซื้อรถอีวีของวอลโว่ ถ้าหากต้องการจะขับรถอีวี โดยเฉพาะตลาดรถอีวีในยุโรป

อย่างไรก็ตาม วอลโว่ คาร์ส ตัดสินใจขายหุ้นที่ถือไว้ทั้งหมดมีจำนวนมากถึง 48% ในบริษัทผลิตรถอีวียี่ห้อโพลสตาร์ (Polestar) คืนให้กับจีลี่ ซึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในแบรนด์รถอีวีโพลสตาร์ สาเหตุจากการลงทุนของวอลโว่ คาร์ส ในรถอีวีแบรนด์โพลสตาร์ไม่คุ้มค่าการสร้างแบรนด์รถอีวีระดับหรูหราครั้งแรกด้วยการแตกแบรนด์ออกมาดังกล่าว นอกจากนี้ เผชิญปัญหาการผลิตและส่งมอบมาตลอดในปี 2023 ที่สำคัญ โพลสตาร์ยังไม่สามารถสร้างผลประกอบการในแง่มีกำไรได้เลย คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนสูงอีก 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรืออีกกว่า 46,800 ล้านบาท เพื่อจะทำให้ธุรกิจของรถอีวีแบรนด์โพลสตาร์ถึงแค่จุดคุ้มทุน ราคาหุ้นของบริษัทผลิตรถอีวีแบรนด์โพลสตาร์ดำดิ่งถึง -87% นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022 เป็นต้นมา

โรงงานดัง ประกาศปลดพนักงาน ทั้งแรงงานไทย ทั้งแรงงานพม่า

เรียกได้ว่าช่วงนี้เราจะเห็นได้ว่าข่าวคนตกงาน โดนปลด เลิกจ้างเยอะมาก ล่าสุด เพจ บ่อวิน ปลวกแดง เล่น-กิน-เที่ยว ได้โพสต์ข้อความระบุว่า โรงงานหลอนๆ แถวอมตะซิตี้ ระะยอง ปลดแรงงานพม่า 100 กว่าคน คราวที่แล้ว ปลดคนไทย

และก็มีชาวโซเชียลเข้ามาคอมเม้นต์กันเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น

ปลดอีกแล้ว

กำลังไล่ปลดคนไทยออกเลยครับตอนนี้ งานหมดกำลังจะยุบกะดึกด้วย

ก่อนเพื่อนเลยจ้า โดนปลด

ระวัง อดได้10,000 วันปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัล เช็กเลยเดี๋ยวไม่ทัน

เงินดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุด กระทรวงการคลัง อัปเดตไทม์ไลน์การลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของแต่ละกลุ่มไว้ดังนี้ ประชาชนที่มีสมาร์ทโฟน

ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ วันที่ 1 ส.ค.- 15 ก.ย. 67

ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน วันที่ 16 ก.ย.– 15 ต.ค. 67 ยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (จะมีการแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง)

ร้านค้า

ลงทะเบียนร้านค้า วันที่ 1 ต.ค. 67 (จะแถลงข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติร้านค้า ช่องทาง วิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเงื่อนไขอื่นๆ อีกครั้ง)

สั่งอพยพประชาชนด่วน น้ำทะลักท่วมหนัก แม่ริม จ.เชียงใหม่

สำนักงาน ปภ.จ.เชียงใหม่ ขอรายงานสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก (เพิ่มเติม) คืนวันที่ 31 ส.ค.67 ต่อเนื่อง วันที่ 1 ก.ย.67ได้เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากจากพื้นที่สูง ทำให้น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน/รีสอร์ทท่องเที่ยว ได้ร้บความเสียหายในหลายพื้นที่ดังนี้

-ต.แม่แรม ม.1, 4 , 5

-ต.ห้วยทราย ม.4

-ต.ริมเหนือ ม.2

-ต.ริมใต้ ม.6 , 7

ผู้ว่าฯ สั่งการนายอำเภอแม่ริม ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ทต.แม่แรม อบต.ห้วยทราย อาสาสมัคร เข้าให้การช่วยเหลือ อพยพประชาชน นักท่องเที่ยว ออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว และวางแผนเข้าสำรวจความเสียหาย

อาลัย สิ้นศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว ปราชญ์เมืองเพชร

วันที่ 29 กรกฎาคม มีรายงานว่า ศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา วรรณคดี ประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาไทยหลายแขนง หรือ ปราชญ์เมืองเพชร สิ้นใจอย่างสงบในวันนี้ 4 ธันวาคม 2479-29 กรกฎาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันภาษาไทยแห่งชาติ โดยครอบครัวจะจัดพิธีรดน้ำศพที่วัดยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรี วันพรุ่งนี้ 30 ก.ค

ศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว เป็นอนุกรรมการวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง, เป็นผู้เชี่ยวชาญจัดทำพจนานุกรม บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), ได้รับการแต่งตั้งเป็น เกตุทัต ศาสตราภิชาน จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พ.ศ.2548 และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย เมื่อ พ.ศ.2550

รอฟังข่าวใหญ่! ปลดยับแรงงาน สัญญาจ้างยกโรง พนักงานใหม่-เก่า ไม่แคร์ ปลดหมดไม่สน เตรียมย้ายฐานไปเวียดนาม

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.67 เพจ นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์ ได้เผยข้อความว่า รอฟังข่าวใหญ่เกี่ยวกับแรงงาน ปลดยับแรงงานสัญญาจ้างยกโรง พนักงานใหม่เก่าไม่แคร์ปลดหมดไม่สน เตรียมย้ายฐานไปเวียดนาม หากกิจการที่ไทย ถึงทางตัน

อย่างไรก็ตามหากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงานจะรีบนำมาอัพเดททันที

ด่วน! ปิดน้ำตกแม่สา จ.เชียงใหม่ ชั่วคราว หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก จึงขอปิดแหล่งท่องเที่ยว เป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

เบื้องต้น ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และทรัพย์สินของทางราชการยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด

เสียชีวิตแล้ว นาย นิรัตน์ ขอแสดงความเสียใจ

เวลา 22.30 น. ตำรวจ สน.โคกคราม ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตรนวมินทร์) มุ่งหน้าเลียบด่วนรามอินทรา แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าวกรุงเทพมหานคร จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และ กู้ภัยเพชรเกษมกรุงเทพ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนพบเสาไฟฟ้าบน ฟุตบาททางเท้ามีรอยถูกรถชนอย่างรุนแรง จนเสาไฟฟ้ามีรอยร้าวได้รับความเสียหาย ใกล้กันยังพบรอยขูดยาว ห่างไปประมาณ 2 เมตร ช่วงซอยถนนประเสริฐมนูกิจ 15

บริเวณพงหญ้าข้างทางพบรถจักรยานยนต์ฮาร์เล่ย์ ไม่ทราบรุ่น สีดำ หมายทะเบียน 5 ขฏ 23 กรุงเทพมหานครล้มอยู่สภาพรถชนกับเสาไฟฟ้าอย่างรุนแรง ทำให้เบาะรถหลุด และชิ้นส่วนของรถตกกระจายอยู่บนพื้นผิวจราจร ล้อหน้ายางแตก ล้อแม็กซ์แตก และห่างไปอีก ประมาณ 3 เมตร

บริเวณกลางถนนพบศพนาย นิรัตน์ อายุ 42 ปี  เมื่อเพื่อนๆมาถึงที่เกิดเหตุต่างพากันร้องไห้และกอดศพด้วยความเสียใจ

ด้านทางเพื่อนๆของผู้เสียชีวิต ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้เสียชีวิตจะขี่รถไปชนเสาไฟฟ้าเอง แล้วรถกระเด็นไปไกลขนาดนั้น จนทำให้เพื่อนเสียชีวิต อาจจะมีรถขับตัดหน้าหรือเบียดทำให้รถเสียหลักเพราะบริเวณนั้นมีจุดกลับรถอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตรนวมินทร์) มุ่งหน้าไปเลียบด่วนรามอินทราช่วงหน้าปั๊ม ป.ต.ท. ตรงจุดเกิดเหตุ มักจะมี อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย เพราะตรงนั้นเป็นจุดกลับรถทำให้รถที่วิ่งมาทางตรงเสียหลักบ่อยๆ อุบัติเหตุแต่ละครั้งมีทั้งคนเจ็บและคนตาย

ส่วนผู้เสียชีวิตทางกู้ภัย นำส่งพิสูจน์สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจก่อนมอบศพให้ญาติ อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้ถ่ายรูป เก็บวัตถุพยานบริเวณจุดเกิดเหตุไว้และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่ามีรถมาเฉี่ยวชนหรือเสียหลักล้มเอง

สาวเครียดจบชีวิต หลังถูกเพื่อนหลอกยืมเงิน 250 ไม่คืน แถมปิดโทรศัพท์หนี

วันนี้ 28 กรกฎาคม 2567 ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุผูกคอ ขณะนี้ได้นำร่างมาช่วยกัน CPR แล้ว ที่บริเวณห้องพักไม่มีชื่อ หลังประตู 3 ม.เกษตรศาสตร์ศรีราชา หมู่ 8 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานรถพยาบาลกู้ชีพโรงพยาบาลแหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง เข้าร่วมตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียว พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง ชื่อนางสาวสายฝน อายุ 42 ปี นอนหมดสติปลุกไม่ตื่น ไม่พบชีพจร ก่อเหตุใช้เชือกไนล่อนผูกค อตนเองกับคานเหล็กภายในห้องน้ำ โดยเพื่อนข้างห้องช่วยกันแก้เชือกและนำร่างลงมาวางไว้บนที่นอน โดยใบหน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บเริ่มเขียวแล้ว แพทย์ก็ยืนยันว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนส่งมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว

โดยเพื่อนบ้าน เล่าว่า ขณะที่นั่งคุยกันอยู่บริเวณบ้านภายในห้องแถวก็ได้ยินเสียง เด็กชายเอ (นามสมมุติ) ลูกชายนางสาวสายฝน วิ่งหน้าตื่นมาตะโกนว่า แม่ฝนผูกค อตายในห้องน้ำ ให้รีบไปช่วยกันหน่อย หลังจากนั้นเพื่อนบ้านก็รีบเข้าไปช่วยกันปลดเชือกและช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนจะแจ้งรถโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วย

ด้าน เด็กชายเอ (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 9 ขวบของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า แม่ใช้ให้ไปขอเงินป้าเพื่อซื้อน้ำซื้อขนมกิน หลังจากนั้นตนเองก็วิ่งเล่นกับเพื่อน จนกลับเข้าไปที่ห้อง หาแม่ที่หลังบ้านก็ไม่เจอ จึงเปิดห้องน้ำดูเห็นแม่ผูกค อตายแล้ว จึงรีบวิ่งไปบอกคนอื่น ๆ ให้มาช่วยแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ เห็นแม่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนเก่าว่า เพื่อนแม่ไปหาหมอแล้วขาดเงินค่ารักษาอยู่นิดหน่อย จึงโทรมาขอยืมเงินแม่ พอแม่โอนให้ไป 250 บาท แล้วเขาก็บล็อกเบอร์แม่แล้วปิดโทรศัพท์หนีแม่ไปเลย แล้วแม่ก็ร้องไห้ แล้วโทรไปคุยกับเพื่อนคนอื่นแล้วด่าตัวเองว่า หนูเ-ี้ยขนาดนั้นเลยหรือ

Popular Posts

My Favorites

เปิดผลชันสูตร น้องตอง หมอพรทิพย์ เผยปริมาณไซยาไนด์ ชี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ถูกวางยาแน่นอน

0
เปิดผลชันสูตร น้องตอง หมอพรทิพย์ เผยปริมาณไซยาไนด์ ชี้ไม่ใช้อุบัติเหตุ ถูกวางยาแน่นอน เผย พบไซยาไนด์ มากกว่าผู้เสียชีวิตจากไซยาไนด์หลายคนในคดีดัง วันที่ 8 ส.ค. 2567 ที่ชั้น2 สภ.เมืองลพบุรี พญ. คุณหญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้า พล.ต.ต.อภิรักษ์...