พ่อร้องสายไหมต้องรอด โมเดลลิ่งเก๊ อ้างพาลูกถ่ายโฆษณา คู่ ลิซ่า สูญเงิน 8.7 ล้าน
พ่อจาก จ.แพร่ ร้องสายไหมต้องรอด โมเดลลิ่งเก๊ อ้างพาลูกถ่ายโฆษณา คู่ ลิซ่า หลงเชื่อโอนเงินไป 42 ครั้ง เป็นเงินกว่า 8.7 ล้านบาท
วันที่ 30 ก.ค.2567 นายที (นามสมมุติ) เดินทางมาจากจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด หลังถูกโมเดลลิ่งเก๊หลอกโอนเงินหลักล้านบาท
ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ภรรยาของตนรู้จักกับน.ส.น้ำผึ้ง ผ่านทาง facebook เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากนั้นนางสาวน้ำผึ้งทักมาหาภรรยาของตน พร้อมเชิญชวนว่าตนทำธุรกิจเฟ้นหานักแสดงไปถ่ายโฆษณาหรือละครต่างๆ และด้วยความที่โปรไฟล์ของน้ำผึ้งดูน่าเชื่อถือ ทำให้ครอบครัวของตนมั่นใจว่าน.ส.น้ำผึ้งสามารถพาลูกสาวคนโต อายุ 11 ขวบ เข้าสู่วงการบันเทิงได้จริง
กระทั่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนติดต่อไปหา น.ส.น้ำผึ้ง โดย น.ส.น้ำผึ้ง บอกว่า จะต้องจ่ายค่าเรียนการแสดงเป็นเงิน 17,000 บาท และให้คำมั่นว่าจะมีงานถ่ายโฆษณาเข้ามาอย่างแน่นอน โดยหลังจากที่ตนโอนให้เงินไป ยังไม่ทันที่ลูกสาวของตนจะได้ไปเรียนการแสดง น.ส.น้ำผึ้ง ติดต่อกลับมาว่า ให้ลูกสาวตนไปถ่ายโฆษณานมเปรี้ยวยี่ห้อดังที่สตูดิโอแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ในวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยตนพาลูกสาวไปถ่ายทำโฆษณา เห็นว่ามีการถ่ายทำกันจริง และมีบุคคลอื่นที่มาร่วมถ่ายโฆษณาด้วย ถัดมาอีกประมาณหนึ่งเดือน ตนได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 19,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าสามารถทำเงินได้จริง จึงการจ่ายเงินค่าเรียนการแสดงของลูกสาวคนเล็กอายุ 10 ขวบ เพิ่มเติม
จากนั้น น.ส.น้ำผึ้ง ชักชวนให้ลูกสาวของตนไปถ่ายโฆษณาประเภทอื่นๆ อยู่หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งได้บอกให้ผู้เสียหายวางเงินประกันก่อนทุกครั้ง ด้วยจำนวนเงินที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่หลักพันบาท ไปจนถึงหลักแสนบาท
ด้วยความที่ผู้เสียหายมั่นใจว่าจะได้ค่าตอบแทนกลับมาจริง จึงโอนเงินค่าประกันให้ไปตลอด โดยมีครั้งหนึ่ง น.ส.น้ำผึ้ง อ้างว่าจะมาชวนลูกสาวไปถ่ายโฆษณาร่วมกับ ลิซ่า Black pink จะได้ค่าจ้าง 150,000 บาท แต่ต้องวางเงินประกัน 75,000 บาท แล้วอ้างว่าตัวเองสนิทสนมกับลิซ่า สามารถพาไปถ่ายงานร่วมกันได้ทั้งครอบครัว
ทำให้ครอบครัวต้องเดินทางมาจากจังหวัดแพร่ มาเปิดโรงแรมนอนพักที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ซึ่ง น.ส.น้ำผึ้ง ได้เลื่อนประวิงเวลามาตลอด ทำให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนโอนเงินให้นางสาวน้ำผึ้งถึง 42 ครั้ง เป็นจำนวนเงินถึง 8,734,000 บาท โดยไปยืมญาติถึง 2,000,000 กว่าบาท
สำหรับ น.ส.น้ำผึ้ง ตนได้มีการติดต่อสอบถามไป นางสาวน้ำผึ้งก็อ้างว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้พบว่าไม่สามารถติดต่อได้แล้ว
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดู เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ที่ บก.สอท.1 และส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้
ขณะที่เฟซบุ๊กของนางสาวน้ำผึ้ง ยังโพสต์หานักแสดงไปถ่ายโฆษณาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ถัดมาในเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.น้ำผึ้ง โทรกลับมาหาผู้เสียหาย โดยบอกว่าจะเริ่มทยอยคืนเงินบางส่วนในวันที่ 1 ส.ค. แต่ไม่รับปากว่าจะสามารถคืนเงินทั้งหมดให้ได้ ส่วนเรื่องตั๋วที่จะบินไปเกาหลีเพื่อถ่ายโฆษณาร่วมกับลิซ่า black pink นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งจะโทรติดต่อกลับมาแจ้งเป็นระยะๆ