ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 10
Featured posts

หกล้อส่งน้ำแข็ง โดน 2 สาว ขี่ จยย. ตัดหน้า คนขับกลัวเหยียบเด็ก หักหลบรถตกคลอง

นครราชสีมา – เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 25 ส.ค.2567 พ.ต.ท.ก้องภพ อาสานอก สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุรถจยย.ชนกับรถน้ำแข็งตกคลองชลประทาน ถนนเลียบคลองชลประทานสายพิมาย–ดงใหญ่ บริเวณสะพานบ้านน้อยหมู่ 15 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มีผู้บาดเจ็บ ตรวจสอบร้อมหน่วยกู้ภัยพันธุ์ศรีนคร

ที่เกิดเหตุพบ รถจยย. ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินดำ ทะเบียนนครราชสีมา ล้มอยู่กลางถนน ส่วนคนขับเป็นหญิง อายุ 17 ปี และเพื่อนหญิงอีก1คน อายุเท่ากัน บาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.พิมาย ในคลองน้ำพบรถ 6 ล้อ อีซูซุ ทะเบียนนครราชสีมา เป็นรถส่งน้ำแข็งวารีเทพ ตะแคงตกลงไปในคลองชลประทาน ส่วนคนขับสามารถปีนหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้

สอบถาม นายประยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี คนขับรถน้ำแข็งเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถคันดังกล่าวตระเวนส่งน้ำแข็งในตัวเมืองพิมาย และกำลังขับรถมุ่งหน้าไปส่งน้ำแข็งใน ต.ท่าหลวง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถ จยย.ของเด็กผู้หญิงโผล่มาจากซอยซ้ายมือ และจะข้ามไปยังฝั่งขวา ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองกระชั้นชิด ทำให้ตนที่ขับมาทางตรงเบรกไม่ทันพุ่งชนรถจยย.ล้มลงกลางถนน

ก่อนที่จะหักหลบลงไปในคลอง เพราะไม่งั้นรถของตนอาจเหยียบร่างของเด็กทั้ง 2 คน โชคดีที่ยังมีสติสามารถปีนออกมาทางหน้าต่างฝั่งซ้ายมือเพื่อหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้


เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำรถน้ำแข็งขึ้นมาจากคลองชลประทานได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ด่วน ฝ้าเพดานหอประชุม พังถล่มทับนักเรียนและครูบาดเจ็บ

วันที่ 29 สิงหาคม 67 ที่หอประชุม 100 ปี อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นหอประชุมอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้เกิดเหตุฝ้าเพดานหลังคาพังถล่มลงมาจนมีฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ซึ่งฝ้าเพดานที่พังถล่มลงมายังได้ทับนักเรียนและครูที่กำลังจัดนิทรรศการอยู่ภายในหอประชุมได้รับบาดเจ็บไป จำนวน 4 คน แต่ยังโชคดีที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บไม่มากนักนอกจากมีแผลถลอกตามศีรษะและมีเศษฝุ่นเข้าตา

โดยในช่วงที่เกิดเหตุกำลังมีการใช้หอประชุมเพื่อจัดงานการประเมินสถานศึกษาพอเพียงเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอของอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยมี พันจ่าเอกอนุสิทธิ์ บัวหุ่ง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว พร้อมด้วยคณะกรรมการประเมินฯจากส่วนกลาง ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนจำนวนมากไปร่วมงาน ซึ่งภายในหอประชุมก็มีการจัดซุ้มนิทรรศการของโรงเรียนต่างๆ ในเขตพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว และในขณะที่กำลังมีการบรรยายหลักเกณฑ์การประเมินฯจู่ๆฝ้าเพดานหอประชุมก็พังถล่มโครมลงมาโดยไม่มีใครคาดคิดจนสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุคาดว่าสาเหตุของฝ้าเพดานที่พังถล่มในครั้งนี้ เนื่องมาจากมีนกพิราบเข้าไปอาศัยอยู่ใต้หลังคาบนฝ้าเพดานเป็นจำนวนมากและมีการถ่ายมูลเอาไว้เป็นจำนวนมากเช่นกันจนทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นบนฝ้าเพดานประกอบกับฝ้าเพดานเก่ามีอายุการใช้งานมานหลายปีจึงทำให้เกิดพังถล่มลงมาจนทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

จากการสอบถาม พันจ่าเอกอนุสิทธิ์  บัวหุ่ง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว บอกว่า หอประชุมแห่งนี้ใช้งานมานานจึงทำให้มีการชำรุดไปบ้างและขณะนี้ได้แจ้งของบประมาณเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมไปแล้วและอยู่ระหว่างรออนุมัติงบประมาณในการเข้าดำเนินการซ่อมแซมอยู่

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ยโสธร รายงาน

กรุงเทพฯ จะเกิดวิกฤติ ซ้ำรอยน้ำท่วมปี 54 หรือไม่?!

จากสถานการณ์อุกภัย น้ำเพิ่มระดับท่วมสูง ในพื้นที่ตอนเหนือ สร้างความเสียหาย รวมถึงผลกระทบการใช้ชีวิตของประชาชน ทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่า น้ำท่วมในปีนี้ จะซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่ทะลักเข้ามาถึงกรุงเทพฯ หรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดด้าน “รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ไขข้อสงสัยไว้ว่า

“น้ำท่วมหนักในภาคเหนือ แล้วปีนี้ กรุงเทพฯ จะน้ำท่วมหนักด้วยมั้ย ?
ได้รับคำถามนี้มาเยอะเลย ด้วยหลายท่านกังวลกันว่า น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑลครั้งใหญ่อีก เหมือนสมัยปี พ.ศ. 2554 หรือเปล่า ? หลังจากเห็นข่าวอุทกภัยน้ำท่วมรุนแรงในหลายจังหวัดของภาคเหนือ

ผมประเมินคร่าว ๆ จากเว็บไซต์บริหารจัดการน้ำ อย่างคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ และศูนย์บริหารจัดการน้ำ กฟผ. ก็พบว่าทั้งตามเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ยังมีปริมาณรองรับน้ำได้อีกมากนะครับ

ส่วนใหญ่จะเห็นว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ ในเกณฑ์ปานกลาง… ยังไม่น่าจะมีปัญหาวิกฤตเหมือนในสมัยก่อน

ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในบางภูมิภาคนั้น ยังเป็นแค่พายุฝนที่เกิดขึ้นในฤดูมรสุม ในแต่ละปีเท่านั้นเอง ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญา (ซึ่งทำนายกันว่าจะเกิดในปีนี้ แต่ก็เลื่อนมาหลายเดือนแล้ว)

เลยไปลองหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และก็เอาบทสัมภาษณ์ของ ผศ.ดร.ภาณุ ตรัยเวช อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยา มาสรุปให้อ่านกันครับ

โดยสรุป อาจารย์ให้ความเห็นว่า “ปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ อาจไม่หนักเท่าปี 2554” น่าจะทำให้ทุกท่านกังวลน้อยลงบ้างนะครับ

‘ไขข้อข้องใจ ทำไมน้ำท่วม 67 จะไม่หนักเท่าปี 54 กับภาณุ ตรัยเวช’

น้ำท่วมภาคเหนือจะทำให้ไทยเจอวิกฤตอุทกภัยแบบปี 2554 หรือไม่ ? คำตอบคือ “ไม่” เพราะจริง ๆ ปีนี้เป็นปีแล้ง เป็นปี ‘เอลนีโญ’ ต้นปีจะเต็มไปด้วยข่าวความแห้งแล้ง ฉะนั้น สถานการณ์ปีนี้ไม่เหมือนกับปี 2554

ในปี 2554 ฝนตกก่อนฤดู เป็นปี ‘ลานีญา’ ที่ปริมาณฝนเยอะ ฝนมาเร็ว และฝนหยุดตกช้า

ปกติภาคเหนือ จังหวัดส่วนใหญ่จะระบายน้ำลงในแม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แต่จังหวัดเชียงราย การระบายน้ำลงแม่น้ำโขงเป็นหลัก

ต้องดูว่าพื้นที่ประสบอุทกภัย การระบายน้ำเป็นอย่างไร ระบายน้ำไม่ทัน น้ำจึงท่วม แม่น้ำโขงเต็มหรือไม่ และเป็นช่วงที่เขื่อน (ที่กั้นแม่น้ำโขง) ปล่อยน้ำมาพอดีหรือไม่ จนไม่ทำให้น้ำระบายได้

แม่น้ำปิง เขื่อนภูมิพล ดูตัวเลขล่าสุด ปริมาณน้ำ 40% เท่านั้นเอง ฉะนั้น ถ้าฝนตกลงมา แม่น้ำปิงก็ยังไม่น่าเป็นห่วง

แม่น้ำน่าน เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำอยู่ที่ประมาณ 70-80% คือใกล้เต็มแล้ว (แต่ที่ผมเช็กตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 60-70%)

ต้องดูว่า ถ้าฝนตกลงมาอีกในภาคเหนือ จะตกลุ่มน้ำไหน ถ้าตกลุ่มน้ำปิง ก็ไม่เป็นไร เพราะแม่น้ำปิงยังรับน้ำได้อีกเยอะ แต่ถ้าตกในลุ่มแม่น้ำน่าน ก็มีความเสี่ยง
แต่ถ้าเทียบกับปี 2554 เขื่อนสิริกิติ์น้ำเต็มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จึงไม่แปลกที่จะประสบอุทกภัยรุนแรง… ซึ่งต่างจากตอนนี้ ที่ปลายเดือนสิงหาคมแล้ว น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ก็ยังไม่เต็มแบบปี 2554 เลย
ความหนักของฝนในช่วงนี้ คือปลายฤดูฝน ช่วง 3 เดือนสุดท้าย (สิงหาคม-ตุลาคม) เป็นช่วงที่ฝนตกหนักอยู่แล้ว ยังเป็นไปตามธรรมชาติ

จังหวัดเชียงรายที่ประสบปัญหาอุทกภัยตอนนี้ ก็ไม่ได้ท่วมทั้งจังหวัด แต่ท่วมบางอำเภอ
ฉะนั้นตอนนี้สิ่งที่กำลังพูดถึงคือปัญหาท้องถิ่น ซึ่งขึ้นอยู่ในแต่ละพื้นที่จัดการ
ปัญหาภาวะโลกร้อน เกี่ยวข้องกับน้ำท่วมค่อนข้างมาก อย่างในปีนี้ จริง ๆ แล้วเป็นปีแล้ง แต่ยังเกิดน้ำท่วมได้
ปัญหาน้ำท่วม ไม่อยากมองภาพแค่กรุงเทพฯ หรือแยกเป็นพื้นที่ เพราะมันเกิดได้ทุกที่ และเวลาเกิดขึ้นมา ไม่ว่าเกิดรุนแรงหรือไม่รุนแรง ก็สร้างความสูญเสียขึ้นได้…”

สลด! 2 สาว พายเรือชมวิว ล่มจมก้นอ่างเก็บน้ำ ร่างกอดกันเสียชีวิต

วันที่ 29 ส.ค. 2567 เกิดเหตุมีคนจมน้ำบริเวณกลางอ่างเก็บน้ำโป่งดินดำ ม.1 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทางด้าน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำลงไปค้นหาร่างของผู้สูญหาย 2 ราย ชื่อ น.ส.พลอยไพลิน อายุ 16 ปี และ น.ส.ธีราพร อายุ 17 ปี ภายในอ่างเก็บน้ำ

ขณะที่บรรดาญาติและเพื่อน ได้มีการจุดธูปขอขมาพระแม่ธรณี เพื่อดลบันดาลให้พบ 2 ผู้สูญหายโดยเร็ว เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหากันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งพบร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย จมอยู่ใต้ก้นอ่างเก็บน้ำ สภาพศพกอดกันจมน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนฝั่ง ท่ามกลางความเศร้าสลดใจ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้ชักชวนกันขอให้เพื่อนชาย 2 ราย พายเรือไปกลางอ่างเก็บน้ำหวังที่จะชมวิวถ่ายรูป โดยคาดว่าเกิดเรือล่ม เนื่องจากไม่ชำนาญในการพายเรือ และว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้จมน้ำเสียชีวิต ส่วนเพื่อนที่ร่วมแคมป์ปิ้งอยู่บนฝั่ง และชาวบ้านไม่สามารถช่วยไว้ได้ทัน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฝากเตือนประชาชน นักท่องเที่ยว ไม่ควรลงเล่นน้ำ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ช่วงนี้ระดับน้ำลึก เสี่ยงอันตราย แต่เชื่อว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายอาจไม่มีประสบการณ์ลงเรือ จึงพยายามทิ้งเรือหาทางว่ายน้ำเข้าฝั่ง แต่ว่ายน้ำไม่เป็น จึงเป็นเหตุให้หมดแรงจมน้ำเสียชีวิต

ด่วน! น้ำล้นตลิ่งแล้ว เตือน 8 จังหวัด รีบเก็บของขึ้นที่สูง เฝ้าระวังมวลน้ำจ่อทะลักท่วม

วันที่ 29 ส.ค. 67 ระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 12.70 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 52 เซนติเมตร สูงกว่าตลิ่ง 50 เซนติเมตร ระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 1-2 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้

โดยระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูง ทำให้น้ำล้นตลิ่ง บริเวณชุมชนจอมมณี ตั้งแต่ซอย 4, 5, 6 และ ซอย 7 เขตเทศบาลเมืองหนองคาย น้ำได้ไหลเข้าพื้นที่ ท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนน ระดับน้ำที่ท่วมประมาณ 60 เซนติเมตร ชาวบ้านต่างพากันเก็บข้าวของขึ้นสูง อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ส่วนน้ำโขงท่วมถนนริมเขื่อนป้องกันตลิ่งในช่วงชุมชนจอมมณีถึงชุมชนหนองบัว สะเงียว น้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร เทศบาลเมืองหนองคายได้นำราวกั้นปิดทางเข้าออก แจ้งเตือนประชาชนไม่ให้สัญจรผ่าน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ รถยนต์เล็ก

ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ได้ออกประกาศเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำโขง จ.เชียงราย, จ.เลย, จ.หนองคาย, จ.บึงกาฬ, จ.นครพนม, จ.มุกดาหาร, จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี

โดยเฉพาะ จ.หนองคาย จะได้รับผลกระทบในหลายอำเภอ เช่น อ.เมือง, อ.ท่าบ่อ, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.สังคม, อ.โพนพิสัย, อ.เฝ้าไร่ และ อ.รัตนวาปี น้ำโขงจะล้นตลิ่ง ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงริมแม่น้ำโขงให้เตรียมความพร้อมจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ระมัดระวังการสัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด่วน! พ่อ-แม่ สารภาพแล้ว สาเหตุที่ลืมลูกในรถ จนเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ที่เข้าไปช่วยเด็กชายวัย 7 ขวบ หลังจากนอนหมดสติอยู่ในรถกระบะ ซึ่งจอดตากแดดที่บ้านพัก ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จะช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ก็ยื้อชีวิตไม่ได้ กระทั่งเสียชีวิตระหว่างถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ เพราะขาดอากาศหายใจ

ก่อนหน้านี้ นางสาง อายุ 34 ปี แม่ของเด็กเล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับสามีใหม่ โดยลูกชายเป็นเด็กพิเศษ และมักจะชอบแอบขึ้นไปเล่นบนรถ คาดว่า เข้าไปแล้วทำให้ประตูล็อกอัตโนมัติจึงออกมาไม่ได้

แต่ข้อมูลที่ได้รับ จากเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็น 2 สามี-ภรรยา ขับรถออกจากบ้านในช่วงเช้า และกลับเข้ามาบ้านในมาเวลา 10.00 น. เมื่อถึงบ้านทั้งคู่ก็รีบล็อคประตูรถ แล้วรีบไปดื่มเหล้า ปาร์ตีกันในบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน โดยลืมไปว่า มีลูกชายที่ยังอยู่ในรถด้วย กระทั่งมารู้ว่า ลูกหายไป และมาพบลูกหมดสติอยู่ในรถช่วงเวลา 15.00 น. แล้ว

ล่าสุดเช้าวันนี้ ความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ โดยตำรวจได้สอบปากคำ เพื่อนบ้าน และพ่อ-แม่ ของเด็ก โดยตรวจหาสารเสพติดในร่างกายแต่ไม่พบ ก่อนที่พ่อ-แม่ของเด็กจะยอมรับว่า ลืมและทิ้งลูกไว้ในรถจริง โดยเข้าใจว่า ลูกไปกับป้า เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังจากเสร็จงานศพจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

สุดเศร้า คนงานคนแรกเสียชีวิตแล้ว เร่งช่วยเหลืออีก 2 คน

สุดเศร้า คนงานคนแรกที่ถูกอุโมงค์รถไฟถล่มทับเสียชีวิตแล้ว แม้กู้ภัยพยายามช่วยสุดความสามารถ เร่งดำเนินการช่วยเหลืออีก 2 คน

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์การช่วยเหลือแรงงานที่ติดค้างภายในอุโมงค์นานเกือบ 5 วัน ซึ่งเกิดจากเหตุดินทรุดตัวภายในอุโมงค์ เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา

1724909697545

โดยล่าสุด วันนี้ (29 ส.ค. 67) เวลา 11.00 น. ได้รับแจ้งยืนยันจากทีมกู้ภัยของการรถไฟฯ และทีมกู้ภัย Hunan Sunshine จากประเทศจีน ว่าพบคนงานคนแรกที่ติดอยู่ในอุโมงค์เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้

s__6217751_0

โดยปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานทั้ง 3 ราย ทีมงานกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งจากปัญหาดินสไลด์ลงมาจากด้านบนอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดดินเพิ่มมากขึ้น การดันท่อช่วยชีวิตแล้วติดชั้นหินจนเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดินและหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยยังคงทำงานกันอย่างหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งค้นหาคนงานที่เหลืออีก 2 ราย โดยยังคงมีความหวังว่าจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทัน และตั้งเป้าหมายว่า ภายในวันนี้จะเร่งช่วยเหลือคนงานอีก 2 รายที่เหลือให้สำเร็จ

s__6217756_0

การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมเยียวยาให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้กำลังใจทีมงานกู้ภัยทุกคน โดยขอให้อดทน และใช้ความระมัดระวัง เน้นความปลอดภัยในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือคนงานอีก 2 ราย

s__6217752_0

1724909484145

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้การรถไฟฯ ตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุ และจัดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในทุกด้านประจำการที่ศูนย์ประสานงานฯ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนให้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ด่วน! พบร่างคนงานคนแรก เสียชีวิตแล้ว เหตุอุโมงค์รถไฟถล่ม เร่งช่วยอีก 2 คนที่เหลือ

วันที่ 29 ส.ค. 2567 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์การช่วยเหลือแรงงานที่ติดค้างภายในอุโมงค์นานเกือบ 5 วัน ซึ่งเกิดจากเหตุดินทรุดตัวภายในอุโมงค์ เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา

โดยล่าสุด วันนี้ (29 ส.ค. 67) เวลา 11.00 น. ได้รับแจ้งยืนยันจากทีมกู้ภัยของการรถไฟฯ และทีมกู้ภัย Hunan Sunshine จากประเทศจีน ว่าพบคนงานคนแรกที่ติดอยู่ในอุโมงค์เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ โดยปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานทั้ง 3 ราย ทีมงานกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ทั้งจากปัญหาดินสไลด์ลงมาจากด้านบนอุโมงค์อย่างต่อเนื่องทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดดินเพิ่มมากขึ้น การดันท่อช่วยชีวิตแล้วติดชั้นหินจนเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดินและหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยยังคงทำงานกันอย่างหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งค้นหาคนงานที่เหลืออีก 2 ราย โดยยังคงมีความหวังว่าจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทัน และตั้งเป้าหมายว่า ภายในวันนี้จะเร่งช่วยเหลือคนงานอีก 2 รายที่เหลือให้สำเร็จ

การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมเยียวยาให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้กำลังใจทีมงานกู้ภัยทุกคน โดยขอให้อดทน และใช้ความระมัดระวัง เน้นความปลอดภัยในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือคนงานอีก 2 ราย

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้การรถไฟฯ ตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุ และจัดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในทุกด้านประจำการที่ศูนย์ประสานงานฯ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนให้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวนครบาล รายงาน

พบร่างคนงานคนแรก เสียชีวิตในอุโมงค์รถไฟถล่ม

จากกรณีเกิดเหตุ อุโมงค์ทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ช่วงสถานีรถไฟจันทึก-คลองขนานจิต ม.2 ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อุโมงค์ที่ 3 มีความยาว 1.5 กิโลเมตร เกิดถล่มลงมา ทำให้มีผู้สูญหาย เป็นคนงานชาวจีน 2 คน และชาวเมียนมา 1 คน

สำหรับความคืบหน้า เวลา 11.00 น. วันที่ 29 ส.ค.67 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า รับแจ้งจากทีมกู้ภัยของการรถไฟฯ และทีมกู้ภัย Hunan Sunshine จากประเทศจีนว่า พบคนงานคนแรกที่ติดอยู่ในอุโมงค์เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้

โดยปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานทั้ง 3 ราย ทีมงานกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งจากปัญหาดินสไลด์ลงมาจากด้านบนอุโมงค์อย่างต่อเนื่องทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดดินเพิ่มมากขึ้น การดันท่อช่วยชีวิตแล้วติดชั้นหินจนเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดินและหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ

ทีมกู้ภัยยังคงทำงานกันอย่างหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งค้นหาคนงานที่เหลืออีก 2 ราย โดยยังคงมีความหวังว่าจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทัน และตั้งเป้าหมายว่า ภายในวันนี้จะเร่งช่วยเหลือคนงานอีก 2 รายที่เหลือให้สำเร็จ

การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมเยียวยาให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้ให้กำลังใจทีมงานกู้ภัยทุกคน โดยขอให้อดทน และใช้ความระมัดระวัง เน้นความปลอดภัยในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือคนงานอีก 2 ราย

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้การรถไฟฯ ตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุ และจัดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในทุกด้านประจำการที่ศูนย์ประสานงานฯ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนให้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

อย่าเพิ่งลบแอปทางรัฐกันนะ แจกเงินหมื่นเดือนหน้า

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังจะเดินหน้าในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล หรือดิจิทัลวอลเล็ตต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะอยู่ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ ส่วนขั้นตอนรายละเอียดต้องรอนโยบายจากรัฐบาลชุดใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับความเห็นของทุกภาคส่วน “มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะปรับปรุงรูปแบบเพื่อทำให้รวดเร็วเหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ต้องรอนโยบาย ซึ่งเราก็ได้หารือกันอยู่ตลอด แต่การเปิดเผยต้องรอให้เป็นทางการ ยืนยันว่าจะเป็นข่าวดี เป็นรูปแบบที่ทุกฝ่ายพอใจ”

สำหรับยอดการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ของประชาชนนั้น ขณะนี้ยังอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านคน และยอมรับว่ามีการชะลอตัวการลงทะเบียน อย่างไรก็ดี เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการลงทะเบียนแล้ว จะไม่ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนอย่างแน่นอน โดยในช่วงนี้ยังคงเป็นการลงทะเบียนของกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟนไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้ ส่วนกลุ่มเปราะบาง ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.-15 ต.ค.67.

Popular Posts

My Favorites

‘ใบเตย อาร์สยาม’ ร่ำไห้ รับหย่าสามี ‘ดีเจแมน’ แล้ว ยันไม่ทิ้งไปเยี่ยมอยู่ตลอด

0
จากกรณีที่มีข่าวลือว่า นักร้องสาว ใบเตย อาร์สยาม หรือ ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน ได้หย่ากับสามี ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุด ใบเตย ได้เปิดตัวเพลงใหม่ ‘แท่ด แท่ด’ ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ด้วยว่า “ค่ะ ตามนั้น ได้หย่ากันจริง หย่ากันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว...