ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 15
Featured posts

“อุโมงค์รถ ไฟถล่ม” ข่าวดีพบสัญญาณชีพทั้ง 3 คน ช่วยคนแรก ได้ไม่เกิน 4 โมง

ความคืบหน้าล่าสุดเหตุอุโมงค์รถไฟถล่ม วันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 14.00น. ทางการรถไฟฯ แจ้งว่ามีข่าวดี พบสัญญาณชีพทั้ง 3 คน คาดว่าจะช่วยคนงานคนแรกได้ภายในวันนี้ ไม่เกิน 16.00น. โดยได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการตามเอกสาร

อุโมงค์รถไฟถล่ม ข่าวดีพบสัญญาณชีพทั้ง 3 คน ช่วยคนแรกได้ไม่เกิน 4 โมง

การรถไฟฯ เผยข่าวดี อุโมงค์รถไฟถล่ม ยังตรวจพบสัญญาณชีพทั้ง 3 ราย คาดสามารถช่วยคนงานคนแรกได้ภายในวันนี้ ไม่เกิน 16.00 น. นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์ว่า

อุโมงค์รถไฟถล่ม ข่าวดีพบสัญญาณชีพทั้ง 3 คน ช่วยคนแรกได้ไม่เกิน 4 โมง

ล่าสุด ยังตรวจพบสัญญาณชีพของคนงานทั้ง 3 ราย ทั้งนี้ หลังจากที่ทีมกู้ภัยของการรถไฟฯ ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนงานตลอดเวลาที่ผ่านมา ตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้ง ได้เสริมทีมกู้ภัย Hunan Sunshine จากประเทศจีน ซึ่งเป็นทีมกู้ภัยในพื้นที่ภัยพิบัติ จนทำให้ได้รับข่าวดีว่า ภายในวันนี้ ไม่เกิน 16.00 น. คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือคนงานคนแรกออกมาได้

อุโมงค์รถไฟถล่ม ข่าวดีพบสัญญาณชีพทั้ง 3 คน ช่วยคนแรกได้ไม่เกิน 4 โมง

อุโมงค์รถไฟถล่ม ข่าวดีพบสัญญาณชีพทั้ง 3 คน ช่วยคนแรกได้ไม่เกิน 4 โมง

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานยืนยันออกมาว่า 1 รายสัญญาณชีพยังปกติดี ส่วนอีก 2 ราย สัญญาณชีพอ่อน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งมือหาทางเข้าไปช่วยเหลือให้ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดเผยรายชื่อ ผู้สูญหายทั้ง 3 คน ในเหตุการณ์ดินถล่มในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ประกอบด้วย 1. หูเสียงหมิน เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ควบคุมงาน) 2. ตงชิ่น หลิน เพศชาย สัญชาติจีน (ขับรถแบ๊กโฮ) 3. แรงงานชาวเมียนมา ไม่ทราบชื่อ (ผู้ขับรถบรรทุก)

ด่วน! น้ำโขงวิกฤต เสาหลัก 12 เมตรจมไปแล้ว เริ่มล้นตลิ่ง เตือนพื้นที่นี้เก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 27 ส.ค.67 มีรายงานว่า ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 12.01 เมตร ซึ่งหลักวัดน้ำหลักแรกที่จับระยะ 12 เมตร ได้ถูกน้ำโขงท่วมแล้ว ขณะที่น้ำโขงได้ไหลเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุด โดยที่บ้านหนองบัว บ้านสะเงียว ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย น้ำได้เริ่มไหลเข้าพื้นที่ บ้านบางหลังอยู่ติดแม่น้ำโขงและเป็นที่ลุ่มต่ำ น้ำโขงสีแดงขุ่นก็ได้ไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้านและพื้นที่สวนบ้างแล้ว

ส่วนในตัวเมืองหนองคายเองน้ำได้ดันท่อระบายน้ำ ทางเทศบาลเมืองหนองคาย และองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคายได้เร่งสูบน้ำออกจากท่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า สถานการณ์น้ำโขงจะยังมีระดับที่สูงจนล้นตลิ่ง ไปจนถึงวันที่ 29 ส.ค.นี้ ระดับน้ำโขงคาดว่าจะมีระดับ 12.25 เมตร ซึ่งตลิ่งในตัวเมืองหนองคาย จะอยู่ที่ 12.20 เมตร ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าน้ำโขงอาจจะล้นทะลักเข้าตัวเมืองหนองคายได้ ให้เฝ้าระวังในช่วง 1-2 วันนี้

ประชาชนต้องเตรียมเก็บข้าวของขึ้นที่สูง เตรียมกระสอบทรายกั้นพื้นที่บ้านเรือน ร้านค้า ระวังสัตว์เลี้ยงให้พาไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน หากว่ายังคงมีฝนตกในพื้นที่ รวมถึงน้ำจากตอนเหนือของไทยและลาว ไหลลงมาสมทบก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของตัวเมืองหนองคายได้

ด่วน เชียงใหม่ น้ำป่าระลอกสอง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 น้ำแม่ใจเริ่มทะลักเข้าพื้นที่ตำบลเวียง ตั้งแต่บ้านแม่ใจเหนือ บ้านเวียงฝาง ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และน้ำแม่งอนเริ่มทะลักเข้าท่วมบ้านป่าจี้ บ้านทุ่งทอง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง ส่วนทางชาวบ้านในพื้นที่บ้านเปียงกอก ตำบลโป่งน้ำร้อนยังหากระสอบทรายมาไว้เพื่อป้องกันช่วงกลางคืน ถ้าฝนตกบนดอยอีกคงจะเข้าท่วมอีกรอบ ถึงแม้ว่าน้ำป่าจะมาเร็วลงเร็ว ก็ป้องกันรอบสอง พร้อมได้จัดเวรยามเพื่อเฝ้าระวังช่วงกลางคืนนี้หลายชุด

ส่วนทางบ้านแม่งอน บ้านทุ่งทอง บ้านป่าจี้ ตำบลแม่งอน ก็มีน้ำป่าจาดลำห้วยแม่งอนไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ถนนสัญจร บางช่วง ในบ้านทุ่งทองนั้นรถเข้าไม่ได้แล้วเวลานี้น้ำเริ่มท่วมสูงขึ้น 30 ซม. ขึ้นมาเป็น 1เมตรแล้วบางช่วง

ทาง ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง โทรมาแจ้งว่าตอนนี้ทางอำเภอแจ้งทุกฝ่าย ทั้ง อบต เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้จัดเวรยามพร้อมแจ้งความเคลื่อนไหวของระดับน้ำ24ชั่วโมง พร้อมกระสอบทราย ที่จะบริการป้องกันน้ำเข้าท่วมบ้านประชาชน แต่เวลานี้คงไม่ทันแล้ว น้ำป่าลงมาเร็วมากท่วมหลายพื้นที่ และท่านที่สัญจรเส้นทาง 107-1089 ฝาง บ้านป่าบง ตำบลเวียง ให้เลี่ยงใช้เส้นทางบายพาส เพราะจะสะดวกปลอดภัยกว่า น้ำเพิ่มลงมาเรื่อยๆท่วมพื้นที่หมู่บ้านที่อยู่ติดลำน้ำ แต่ก็จะมาไวไปไว ถ้าฝนทางทิศตะวันตกหรือดอยตกลงมาเพิ่มอีก ทางฝ่ายปกครองแจ้งทุกส่วนเตรียมพร้อม24ชั่วโมง ทุกตำบล ทุกหมู่บ้านแล้ว ทางนายอำเภอก็เปิดโทรศัพย์และวิทยุ24 ชั่วโมงสามารถแจ้งมาได้ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

ด่วน! สั่งปิดน้ำตกแม่สา เกิดน้ำป่าไหลหลาก

วันที่ 27 ส.ค.2567 นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก จึงขอปิดแหล่งท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

เบื้องต้น ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และทรัพย์สินของทางราชการยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด ในส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยังติดตามสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง

โดนวันนี้ ที่ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำปิง ครั้งที่ 6/2567 เพื่อติดตามสถานการณ์ความก้าวหน้าการดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2567 โดยมี คณะกรรมการลุ่มน้ำปิง หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

ในที่ประชุม ได้มีการรายงานสภาพอากาศในช่วงนี้ ซึ่งคาดว่า สถานการณ์ฝนในช่วงวันที่ 26-29 ส.ค. 2567 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน เคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศเมียนมา

ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ ส่งผลทำให้ภาคเหนือจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในบริเวณอ่าวไทยภาคเหนือ

ด้านการคาดการณ์สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ภาคเหนือ จำนวน 9 แห่ง ยังสามารถรองรับน้ำได้ ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่ง (ลุ่มน้ำปิง) พบว่า มีอ่างเก็บน้ำที่มีระดับน้ำ ร้อยละ 70 และให้เฝ้าระวัง จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่แพง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่,

อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ข้อน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, อ่างเก็บน้ำแม่โก๋น อ.พร้าว จ.เชียงใหม่, อ่างเก็บน้ำแม่ออน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่, อ่างเก็บน้ำแม่ผาแหน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่, อ่างเก็บน้ำห้วยบวกหลวง อ.เมืองตาก จ.ตาก และอ่างเก็บน้ำแม่เส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน

นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ยังได้ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 24-23 ส.ค. นี้ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่อายและอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ความก้าวหน้าหลังการดำเนินตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการครบทุกมาตรการ ซึ่งผลการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาล เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากฤดูฝนและเหตุอุทกภัย

อ่วมอีกจังหวัด! น้ำป่าหลาก ท่วมหมู่บ้านแล้ว

เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 27 ส.ค.2567 ว่าที่ร้อยตรี คฑา ลีลายุทธ หัวหน้าสมาคมกู้ภัยวังเหนือ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกวังแก้ว หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ เกิดน้ำป่าไหลหลากลงดอยมาจากน้ำตกวังแก้ว ตั้งอยู่ในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยหลวง ที่ 7 (ผาวี) ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่วัง อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

ฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ เตรียมยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังปริมาณน้ำล้นตลิ่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งประกอบด้วย หมู่บ้านฮ้าง บ้านแม่หีด บ้านห้วยป้าย และบ้านวังเจริญ หากมีเหตุด่วนฉุกเฉิน หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสมาคมกู้ภัยวังเหนือได้ตลอดเวลา เบอร์โทร 054-332-048 มือถือ 080-496-7020

ต่อมาเวลา 16.00 น. มีรายงานว่า น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ อ.วังเหนือแล้ว

ขณะเดียวกัน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน – Chae Son National Park โพสต์ประกาศ เนื่องจากช่วงกลางคืนที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน มีฝนตกชุกในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน จึงของดการท่องเที่ยวน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน น้ำตกแจ้ซ้อน อาบน้ำแร่ ลวกไข่ เป็นการชั่วคราว

สำหรับนักท่องเที่ยวที่จองบ้านพัก/ค่ายพักแรม ในวันที่ 27-28 สิงหาคม 2567 สามารถยื่นคำขอรับเงินคืนได้ทางเว็บไซต์ ระบบจองที่พัก สำนักอุทยานแห่งชาติ

ด่วน! ปิดน้ำตกแม่สา จ.เชียงใหม่ ชั่วคราว หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก จึงขอปิดแหล่งท่องเที่ยว เป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

เบื้องต้น ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และทรัพย์สินของทางราชการยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด

ฆ่ าโหดหนุ่มใหญ่ จับมือไขว้หลังหมกศพบ่อปลา อำพรางด้วยก่อหญ้า

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เวลา 10.00 น วันที่ 27 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตถูกนำมาทิ้งหมกภายในพงหญ้าริมบ่อปลา หมู่ที่ 7 ซอยข้างโรงพยาบาลรามาธิบดี สมุทรปราการ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน ชุดสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัด พร้อม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดบริเวณพงหญ้าริมบ่อปลา เจ้าหน้าที่ พบ ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นไม่ทราบ เพศและอายุ ถูกทิ้งหมกร่างบริเวณพงหญ้าริมบ่อปลา ในลักษณะมีกกหญ้าปิดอำพรางร่างไว้ ลำตัวอยู่ในบ่อปลา เห็นแต่เท้าที่โผล่พ้นน้ำ เจ้าหน้าที่จึงกั้นที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานเจ้าหน้าที่ตามลำดับ

โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิต เป็น ชาย 1 ราย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50-60 ปี สวมเสื้อโปโลสีเทา กางเกงขายาวสีครีม สวมรองเท้าแตะหูหนีบ มีแขนทั้ง 2 ข้างถูกพันธนาการด้วยเชือกไนล่อนสีเขียวมือไขว่หลัง ที่ศีรษะมีบาดแผลขนาดใหญ่จนกะโหลกแตก จากการโดนของแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ตามร่างกายมีรอยสักต้นแขน ทั้ง 2 ข้าง หลังมือด้านซ้ายและคอ แผ่นหลังมังกร ด้านหน้าเสือเผ่น โดยในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ พบ รอยล้อรถยนต์ขับเข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่มอบให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรนฤบดินทร์ สมุทรปราการ ชันสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

จากการสอบถาม ทราบว่า เมื่อคืน ( 27 สิงหาคม 2567 ) ช่วงเวลา 02.30 น ได้มีรถแท็กซี่เขียวเหลืองขับเข้ามาในจุดเกิดเหตุ คาดว่า หลังก่อเหตุเสร็จทางผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์แท็กซี่เข้าไปขอน้ำคนเฝ้าบ่อปลาดื่ม ซึ่งเลยเข้าไปจากจุดเกิดเหตุอีก 150 เมตร ซึ่งเป็นชาวรูปร่างสูง ตัวใหญ่ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับรถแท็กซี่ออกไป ก่อนที่ในช่วงเช้า เวลา 09.00 น คนงานที่เฝ้าบ่อปลาได้มาทำธุระส่วนตัวบริเวณนี้จะมาพบร่างผู้เสียชีวิตถูกอำพรางไว้ตรงนี้ คนงานเฝ้าบ่อปลาจึงไปบอกเจ้านายก่อนที่เจ้านายจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว

จากการสอบถาม นายไพศาล สุขแสงเนตร อดีตกำนันตำบลบางปลา เล่าว่า ลูกน้องของตนโทรมาบอกตนว่าเจอศพ ลูกน้องตนมาดูแลบ่อ แต่ตอนไปทำบุญเพราะวันพระลูกน้องโทรมาบอกตนเลยรีบมาที่บ่อและแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ลูกน้องเป็นพม่าก็จะพูดไม่พูดไทยไม่ค่อยได้ ลูกน้องตอนมาดูแลปลาและตัดหญ้าในบ่อ ตรงจุดที่เจอศพไม่ใช่บอกของตนเป็นบ่อของคนข้างๆ ลูกน้องน้องโทรไปหาตนตอนประมาณ 8 เศษ ๆ ตอนเข้าไปดูศพพร้อมผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่มาก็เข้าไปดูกัน 3 คนเป็นพยานพร้อมกัน พอเข้าไปคนเดียวไม่กล้าแต่ก็เห็นแต่รองเท้า

ส่วน นายธีระพงษ์ ฟักอ่อน ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า เวลาประมาณ 08.30 มีลูกบ้านโทรมาว่าเหมือนมีคนเอาถุงศพมาทิ้งไว้ ตนสอบถามว่าอยู่ตรงไหน ตนรีบมาดูเลยพบว่ารอยล้อรถแล้วก็มีรอยหญ้าราบ ตนเลยเดินดูและชะโงกหน้าไปดู เลยเห็นเป็นศพนอนหงายหน้ามีหญ้าปกปิดไว้ สังเกตเห็นได้มีเท้าโผล่ออกมาเป็นรองเท้าหูหนีบช้างดาวโผล่ออกมา ตนเลยรีบประสานงานเจ้าหน้าที่ ตอนกลางคืนแถวนี้เปลี่ยวและเงียบมากปกติก็จะมีสายตรวจวิ่งปกติตนก็จะวิ่งดูด้วยเพราะว่ามันเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 อำเภอ หมู่ 7 เป็นพื้นที่ถนนอะไรก็เพิ่งมาใหม่เป็นหมู่ที่กำลังพัฒนา และอีกอย่างเป็นหมู่บ้านทางผ่านเพราะอย่างนั้นก็จะมีรถวิ่งผ่านเยอะทั้งมอไซด์แข่งกันรถมาจอดพื้นที่มันกว้างบางทีเราอาจรอดเราไปได้บ้าง คนที่มาดูคนแรกเขาเป็นคนที่ดูบ่อปลาแถวนี้อยู่ ปกติเขาจะไปเข้าห้องน้ำอีกฝั่งแต่ห้องน้ำเต็มเขาเลยมาเข้าฝั่งนี้ เขาก็มาเห็นว่ามีรอยเขาโทรไปแจ้งเจ้าของบ่อเจ้าของบอกก็โทรมาแจ้งตนอีกที เห็นเขาบอกว่าเห็นแท็กซี่เข้ามาเหมือนว่าจะไปขอน้ำกินน่าจะมาหลังฝนตกไปแล้วประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ คนที่มาเห็นคนแรกน่าจะเจอศพตอนประมาณ 8:00 น ตนไม่เห็นรอยบาดแผลเพราะว่ามีหญ้าปิดอยู่ ลักษณะหักต้นปรือหักหญ้าปิดไว้ ลักษณะพื้นที่ที่สังเกตมีรอยล้อรถและหญ้าราบไปเลยเพราะเมื่อคืนฝนตกเขาน่าจะมาหลังฝนตกเดินหน้าแล้วถอยรถออกไปเลย ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลเป็นพื้นที่ของบ่อปลาข้างในมันก็จะตันไปไหนไม่ได้ก็มีแต่คนข้างในที่จะเข้าออก แท็กซี่เขียวเหลือง ลูกน้องจำทะเบียนข้างหลังได้แค่ 69 ทำทีมาขอน้ำกินเหมือนจะมาดูสถานที่ คนขับแท็กซี่ลักษณะสูงเป็นผู้ชายผิวคล้ำลงมาคนเดียว

ด้านผู้การปากน้ำ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ รุดเดินทางลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและอุกอาจไม่เกรงต่อกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสมุทรปราการ รายงาน

‘ทักษิณ’ บอกติดหนี้บุญคุณชาวเชียงราย 17 ปีไม่เคยลืม จ่อชงรัฐบาลแก้น้ำท่วม ชี้ต้องคุยจีน หลังปล่อยน้ำเข้าจำนวนมากลงน้ำโขง

วันที่ 27 ส.ค. 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังลงพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่า การเดินทางมาเชียงรายครั้งนี้เพราะถือว่าเป็นหนี้บุญคุณประชาชน 17 ปีไม่เคยลืมกัน เมื่อมีทุกข์ก็ต้องมาให้กำลังใจ ถือเป็นธรรมชาติของคนไทยที่ต้องรู้จักบุญคุณคน

นายทักษิณ กล่าวว่า จะนำปัญหาที่ได้รับฟัง กลับไปแจ้งรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยา ซึ่งน้ำท่วมเป็นภาวะซ้ำซาก เนื่องจากไม่ได้แก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ถ้าเริ่มใหม่วันนี้ ต้องทำทั้งระบบด้วยการตั้งงบประมาณจำนวนมาก ทุกลุ่มน้ำต้องได้รับการดูแลทั้งหมด

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง พบว่า มีน้ำไหลมากผิดปกติ ดังนั้น จะต้องพูดคุยกับประเทศจีนที่อาจปล่อยน้ำมามาก เพราะจีนเองก็เผชิญปัญหาน้ำท่วม เพื่อหารือเรื่องจังหวะการปล่อยน้ำไม่ให้ล้นตลิ่ง เบื้องต้นทราบว่า กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการพูดคุย

สำหรับการจัดการน้ำในประเทศ นายทักษิณ กล่าวว่า แม่น้ำก็เหมือนรถยนต์ ถ้าไม่มีเบรกก็อันตราย ดังนั้น จะต้องติดเบรกด้วยเขื่อน อ่างเก็บน้ำ หรือแก้มลิง

นอกจากนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เล่าให้ฟังว่า กรมชลประทานพร่องน้ำภาคกลางไว้รับน้ำจากภาคเหนือแล้ว เช่น เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสัก มีน้ำเหลือเพียง 20% เพียงพอรอรับน้ำได้อีกมาก จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ซ้ำรอยปี 2554

ด้าน น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ประชาชนต่างดีใจที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางมาในนามประชาชนคนหนึ่ง เพื่อเยี่ยมเยือนความเดือดร้อนจากน้ำท่วมภาคเหนือ จากเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มีน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะที่แม่น้ำอิงและแม่น้ำลาว เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก

น.ส.วิสาระดี กล่าวต่อว่า โดยมวลน้ำจากลำน้ำอิงจะถูกปล่อยมาจากกว๊านพะเยาซึ่งเป็นต้นทางเข้าสู่ จ.เชียงราย และไหลลงสู่แม่น้ำโขง หากมวลน้ำรอบใหม่มาถึงในเร็วๆ นี้ ปริมาณน้ำจะสูงมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำอิง ตั้งแต่ อ.เทิง อ.พญาเม็งราย อ.ขุนตาล และ อ.เชียงของ ซึ่งหลายหมู่บ้านยังคงจมอยู่ในน้ำ จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก

น.ส.วิสาระดี กล่าวอีกว่า ทราบจากจังหวัดเชียงรายว่าได้เกิดฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16-26 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้เกิดอุทกภัยและดินถล่ม รวมทั้งสิ้น 12 อำเภอ 35 ตำบล 194 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (5 ชุมชน) ราษฎรได้รับผลกระทบ 3,328 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 22,199 ไร่ บ่อปลา/นากุ้ง 241 บ่อ หมู 40 ตัว โค/กระบือ 22 ตัว ถนน 15 จุด โรงเรียน/อาคารบ้านพักครู 2 แห่ง

น.ส.วิสาระดี กล่าวต่อว่า ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เช่น อ.ป่าแดด มีน้ำท่วมขัง ต.ป่าแงะ 4 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว, ต.สันมะค่า กระทบ 3 หมู่บ้าน ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น ส่วนบ้านสันบัวคำหมู่ 3 เริ่มเข้าในชุมชนได้รับความเสียหาย 10 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว

น.ส.วิสาระดี กล่าวต่อว่า ส่วนที่ ต.ศรีโพธิ์เงิน น้ำท่วม 1 หมู่บ้าน ปัจจุบัน ระดับน้ำทรงตัว, ต.ป่าแดด น้ำท่วม 7 หมู่บ้าน และท่วมพื้นที่การเกษตรเพิ่มขึ้นประมาณ 2,500 ไร่ ท่วมบ่อปลา 20 บ่อ ท่วมถนน 10 จุด ปัจจุบัน ระดับน้ำทรงตัว และ ต.โรงช้าง น้ำท่วม 1 หมู่บ้าน จึงขอให้หน่วยงานราชการ ช่วยติดตามความช่วยเหลือให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน

เริ่มแผน ใช้ทุ่งบางระกำ เป็นที่รองรับมวลน้ำเหนือ ให้ชาวบ้านในพื้นที่เก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 จากสถานการณ์น้ำยมหลากในเขตภาคเหนือตอนล่าง ที่สุโขทัย น้ำไหลสูงสุดผ่าน อ.ศรีสัชนาลัย ในวันนี้ และน้ำส่วนหนึ่งกำลังไหลเข้ามาในเขตแม่น้ำยมสายเก่าของ จ.พิษณุโลก ที่บ้านวังขี้เหล็กหมู่ 10 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ทางชลประทานได้เปิดการระบายน้ำผ่านท่อระบายน้ำคลองแยงมุม เข้าทุ่งบางระกำโมเดล ซึ่งเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว โดยน้ำที่ทำการระบายเป็นน้ำจากคลองเมม หรือแม่น้ำยมสายเก่า และนับจากนี้ไปอีก 1 เดือนพื้นที่บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยพื้นน้ำ ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองเมมที่เป็นที่ต่ำได้เริ่มทยอยเก็บสิ่งของขึ้นมาไว้ริมถนนระหว่างหมู่บ้านกันแล้ว

ชาวบ้านวังขี้เหล็ก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม กล่าวว่า น้ำจากสุโขทัย เริ่มเข้ามาในพื้นที่ อ.พรหมพิราม ประมาณ 2 วันแล้ว ทางชลประทานจึงเริ่มปล่อยน้ำเข้าทุ่งบางระกำโมเดล ตั้งแต่ช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านที่พักอาศัยริมถนนฝั่งของคลองเมมหลายหลังคาเรือน ต้องขนของมาอาศัยอยู่ที่สูงชั่วคราว

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำยม วันที่ 27 ส.ค. 67 เวลา 07.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ Y.14 A อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,701 ลบ.ม./วินาที (เข้าสู่สถานการณ์แนวโน้มอุทกภัยในระดับวิกฤติ คือมากกว่า 1,200 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไป) ปริมาณน้ำยังไม่ไหลผ่านสูงสุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีการระบายน้ำเข้าสู่คลองหกบาท (คลองแม่น้ำยมฝั่งขวา) ในปริมาณ 480 ลบ.ม./วินาที แบ่งการระบายน้ำไปทางคลองผันน้ำแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน ปริมาณ 220 ลบ.ม./วินาที และระบายลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า มาทาง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ในปริมาณ 260 ลบ.ม./วินาที

ซึ่งภาพรวมแล้ว มีน้ำจากจังหวัดสุโขทัย เข้ามาในพื้นที่ จ.พิษณุโลก แล้ว กว่า 150-200 ล้าน ลบ.ม. ทางชลประทานได้เร่งผันน้ำไปทางคลอง DR2.8 ไปลงสู่แม่น้ำน่าน และมีการระบายน้ำจากแม่น้ำยมเข้าสู่ทุ่งบางระกำโมเดลแล้วเกือบ 50 ล้าน ลบ.ม. หรือ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยที่บริเวณทุ่งหนองมน ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม ยังมีน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำยมสายเก่าเข้าพื้นที่ของโครงการบางระกำโมเดลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นบริเวณกว้าง และมีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่หมู่ 9 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม บางส่วน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ต้องส่งรถสุขาไปให้ประชาชนได้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว

อั้นแล้วมาแรงแซงทุกสำนัก เลขเครื่องบินเล็กตกที่บางปะกง เกลี้ยงทุกแผง

ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ สลากกินแบ่งรัฐบาลประจำวันที่ 16 สิงหาคม 67 สำหรับวันนี้เราก็มีแนวทางมาฝากกันอีกเช่นเคย สำหรับวันที่ 1 ส.ค.67 อย่างไรก็ตามเน้นย้ำว่าเป็นแนวทางในการซื้อสลากกินแบ่งเท่านั้น และโปรดใช้วิจารณญาณ เป็นความชอบความเชื่อ ของแต่ละบุคคลเท่านั้น

ล่าสุดพบว่า ชาวโซเชียลแห่ซื้อเลขเครื่องบินเล็กตกเนื่องจากว่าเป็นข่าวดัง

เครื่องบินเล็กตก C208 เที่ยวบินที่ TFT209 ตกที่ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเลขที่นำไปซื้อลอตเตอรี่กันมากที่สุดคือ

208 209

Popular Posts

My Favorites

หมดเวลาทน! ลูกหมีควงทนายฟ้องลูกหนี้คนดังแล้ว

0
วันที่ 2 ก.ย. 67 ที่ ศาลแขวงพระนครใต้ น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ลูกหมี รัศมี ดาราและนางแบบชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้องลูกหนี้คนดัง ในข้อฉ้อโกง โดยมี ลิลลี่ เหงียน หรือ ลิลลี่ วันมะนี พอนสะหวัน ไฮโซสาวเชื้อสายเวียดนาม...