ด่วน กกต.แจกใบเหลือง ไม่รับรอง ชาญ พวงเพ็ชร์ จัดเลี้ยงจูงใจ ทำเลือกตั้งไม่สุจริต สั่งเลือกตั้งใหม่ นายกอบจ.ปทุมฯ ใช้ผู้สมัครชุดเดิมแข่ง

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใหม่ ตามมาตรา 106 วรรคสี่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562

หลังพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผล และพยานหลักฐานของสำนวนเรื่องร้องเรียนตามมาตรา 65 (3) แล้วเห็นว่า กรณีกล่าวหาว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ได้รับเลือกตั้งจัดเลี้ยงและมหรสพ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตนนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.67 มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม

อย่างไรก็ตาม มติสั่งเลือกตั้งใหม่ของกกต. ดังกล่าวเป็นการให้ใบเหลือง ดังนั้นการแข่งขันก็จะเป็นการใช้ผู้สมัครชุดเดิม โดยนายชาญ ซึ่งได้รับเลือกมาด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งคราวก่อน ยังคงสามารถลงแข่งขันได้ ส่วนวันเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศ

ทั้งนี้การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย 67 มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 949,421 คน มาแสดงตนขอรับบัตรเลือกตั้ง 472,536 คน โดยผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครหมายเลข 1 นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้ 203,032 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 3 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ 201,212 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 4นายนพดล ลัดดาแย้ม ได้ 16,983 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 2นายอธิวัฒน์ สอนเนย ได้ 7,122 คะแนน

มติเอกฉันท์ ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้องยื่นฟัน กกต. ล้มล้างปกครองฯ ปมออกประกาศคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้ามสมัครสว.เปิดช่องฮั้ว ชี้หลักฐานไม่ชัด ห่างไกลเกินกว่าเหตุ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณากรณี นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้ง 8 คน ร่วมกันใช้อำนาจตามกฎหมายดำเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

โดยออกประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่อง การมีลักษณะอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ตามมาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. พ.ศ. 2561 เกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะมีสิทธิสมัครรับเลือกเป็น สว.ในการแบ่งกลุ่มอาชีพต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในแต่ละกลุ่มอาชีพของตนเอง

การออกประกาศดังกล่าว มีลักษณะเป็นการเปิดช่องให้กลุ่มอาชีพเปราะบาง สามารถเข้าสู่กระบวนการเลือกได้เทียบเท่ากับผู้มีวิชาชีพ ความชำนาญชั้นสูง เป็นการเปิดโอกาสให้มีการสมยอมกัน เนื่องจากไม่มีกระบวนการคัดกรองกลุ่มอาชีพเปราะบางที่วางแผนรับจ้างมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือก สว. และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครที่มีเพียงผู้สมัครยืนยันและมีพยานรับรองเท่านั้น ส่งผลให้การเลือก สว.ไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

การกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 8 คน ที่ไม่ใช้อำนาจระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลงเหตุอันมีสภาพร้ายแรงในการเลือก สว. ที่เจตนาเปิดช่องให้มีการทุจริตปล่อยให้ผู้ไม่มีคุณสมบัติที่แท้จริงและกลุ่มอาชีพเปราะบางเข้าสู่กระบวนการเลือก สว. เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติมและเอกสารประกอบ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ และยังห่างไกลเกินกว่าเหตุที่แสดง ให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้ง 8 กระทำการใดๆ อันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ถูกร้องทั้ง 8 คน ประกอบด้วย 1.นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. 2.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ 3.นายปกรณ์ มหรรณพ 4.นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ 5.นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ 6.นายชาย นครชัย 7.นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กกต. และ 8.นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต

เมื่อดราม่าพาให้เราได้รู้จัก “Boxwall Flood Barrier” กำแพงกั้นน้ำท่วม นวัตกรรมใหม่ เทียบประสิทธิภาพกับ “กระสอบทราย” อย่างไหนดีกว่ากัน ?

สืบเนื่องจากเหตุดราม่า หนุ่มโพสต์มั่นใจว่า แผ่นสีแดงแปลกตา “Boxwall Flood Barrier” ที่ใช้สำหรับกั้นน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองน่าน ไม่น่าใช่ของเทศบาลฯ แน่นอน ทว่า ภายหลังเมื่อมีข้อมูลยืนยันว่า เป็นของเทศบาลฯ จึงได้มีการโพสต์ขอโทษ

จากดราม่าดังกล่าวนี้เอง ทำให้หลายคนอยากรู้จักเจ้า แผ่นพลาสติกสีแดงสด มันคืออะไร ถ้าเทียบกับ “กระสอบทราย” ตัวช่วยเจ้าประจำสถานการณ์น้ำท่วม ข้อดี-ข้อด้อย แตกต่างกันอย่างไร “อมรินทร์ทีวี ออนไลน์” จะพาไปรู้จัก นวัตกรรมป้องกันและจัดการปัญหาน้ำท่วมชิ้นนี้กัน

Boxwall Flood Barrier คืออะไร

Boxwall Flood Barrier หรือ กำแพงกันน้ำ วัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติก ABS มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก สามารถป้องกันน้ำเข้าพื้นที่ได้ในความสูงมาตรฐาน ระดับ 50 ซม. โดยคุณสมบัติช่วยเบี่ยงทางน้ำและป้องกันน้ำท่วม สามารถเคลื่อนย้ายสะดวก น้ำหนักเบา เป็นที่นิยมใช้หลายประเทศทั่วโลก

เทียบประสิทธิภาพ Boxwall Flood Barrier – กระสอบทราย แบบไหนดีกว่ากัน ?

1. Boxwall Flood Barrier หรือ แผ่นกันน้ำท่วม ข้อดีคือมีน้ำหนักเบาและติดตั้งเร็ว Boxwall 1 ชิ้น น้ำหนักอยู่ราว 3.4 กก. สามารถป้องกันน้ำท่วมสูงได้ 50 ซม. ลดการใช้กระสอบทราบได้ 15 กระสอบ น้ำหนักมากถึง 225 กก.

2. อายุใช้งานมากกว่า 10 ปี นำมาใช้ซ้ำได้ และจัดเก็บรักษาให้คงสภาพง่ายกว่ากระสอบทราย

3. แต่ Boxwall มีข้อสังเกตคือ จะใช้ได้ผลดีกับพื้นเรียบ หากนำไปใช้พื้นที่ลักษณะต่างระดับต้องใช้อุปกรณ์เสริมเป็นตัวช่วย ต่างจาก กระสอบทราย การใช้งานมีลักษณะที่ยืดหยุ่นกว่า

รวบรวมข้อมูลจาก : เพจลองวิเคราะห์ดู, pangolin.co.th, เทศบาลน่าน

สื่อต่างประเทศเผยแพร่นาทีสุดน่ากลัว ซูดาน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ประสบภัยพิบัติ เขื่อนแตก หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง จนอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนอาร์บัต (Arbaat) ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียเหนือของประเทศ รองรับปริมาณน้ำมหาศาลไม่ไหว จนเป็นเหตุให้เขื่อนแตก มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักท่วมหมู่บ้านกว่า 20 หมู่บ้าน ในเวลารวดเร็ว เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 ส.ค. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น

เจ้าหน้าที่ซูดาน เปิดเผยว่า เหตุการณ์เขื่อนอาร์บัตแตก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 60 ศพ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ทั้งพังหมดทั้งหลัง และเสียหายบางส่วน ถึง 50,000 หลัง ในขณะที่ Sudanese news อ้างข่าวจากกองทัพอากาศของซูดาน เผยว่า มีผู้สูญหายกว่า 100 ราย

สื่อท้องถิ่นในซูดาน ยังรายงานด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดเกี่ยวกับความเสียหาย ทั้งจำนวนผู้เสียชีวิต หรือผู้สูญหาย จากเหตุการณ์เขื่อนอาร์บัตแตก เนื่องจากสัญญาณมือถือล่ม

เขื่อนอาร์บัต ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองพอร์ต ซูดาน เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกของประเทศซูดาน ไปทางเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายระบบเขื่อนของซูดาน ที่ช่วยในเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศซูดาน

ด้านสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs หรือ OCHA) แถลงว่า เกิดฝนตกหนักในซูดานและน้ำท่วม มาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งสภาพอากาศสุดขั้วได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนประมาณ 317,000 ทั่ว 16 รัฐ ในประเทศซูดาน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าที่โลกออนไลน์เข้ามาแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก หลัง สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย ได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายโดยระบุว่า

เดินทางครั้งนี้ไปไกลแสนไกลเรยนะน้องแนน

ขอให้ผลบุญหนุนนำเดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดีนะ น้องได้ทำหน้าที่จิตอาสาได้ดีที่สุดแล้ว

#อุบัติเหตุรถอาสาชนรถบรรทุก18ล้อบาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างเดินทางไปช่วยน้ำท่วมสุโขทัย

#ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนน้องแนนด้วยนะครับ

#และขอให้พี่เจี๊ยบกับน้องปลอดภัยและหายไวๆนะครับ

#พี่น้องร่วมอุดมการณ์ #นางฟ้ากู้ภัย

#สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย #DRAT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคันดินกันแม่น้ำยมบริเวณม.5 บ้านวังโพธิ์ ต.ยางซ้าย อ.เมือง จ.สุโขทัย เกิดการทรุดตัวทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องเร่งเข้าช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน ขนย้ายสัตว์เลี้ยงและต้องเร่งกรอกกระสอบทราบทำแนวป้องกันน้ำท่วมบ้านตนเองอย่างเร่งด่วน

ด้านการระบายน้ำประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก ทำการยกบานระบายน้ำ บานที่1 2.8เมตร บานที่2-5 3.2เมตรเพื่อรับมวลน้ำจากจ.แพร่

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสุโขทัย รายงาน

วันที่ 22 ส.ค.67 จากกรณีเกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกในพื้นที่หมู่ 6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าโกงกาง ซึ่งเครื่องบินลำนี้ขึ้นบินจากสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางไปยังเกาะไม้ซี้ จ.ตราด แต่ขึ้นบินได้เพียง 10 นาที ก็เกิดระเบิดและพุ่งตกลงมาในพื้นที่ดังกล่าว

โดยมีรายงานว่า ในเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้ที่โดยสารมาทั้งหมด 9 คน เป็นนักบิน 2 คน นักท่องเที่ยว 5 คน และพนักงานต้อนรับ 2 คน สำหรับรายชื่อทั้ง 9 คนมีดังนี้

1.ด.ญ.ชาง จิง จิง อายุ 12 ปี
2.น.ส.ชาง จิง อายุ 43 ปี
3.น.ส.ทาง ยู อายุ 42 ปี
4.นายยิน จิน แฟง อายุ 45 ปี
5.ด.ญ.ยิน ฮาง อายุ 13 ปี
6.น.ส.นภัค จีระศิริ อายุ 35 ปี พนักงานต้อนรับ
7.น.ส.สิริยุพา อรุณาทิตย์ อายุ 26 ปี พนักงานต้อนรับ
8.นายพรศักดิ์ โตทับ อายุ 30 ปี ผู้ช่วยนักบิน
9.ร.อ.อนุชา เดชอภิรักษ์ชน อายุ 61 ปี นักบิน

นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว หลังสูญเสีย ชรินทร์ นันทนาคร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2541

และวันนี้ (21 สิงหาคม 2567) ได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ชรินทร์ นันทนาคร และเป็นวันแรกในการจัดพิธีสวดพระอภิธรรม ณ วัดธาตุทอง ท่ามกลางครอบครัว คนในวงการ และแฟนคลับที่มาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก

ทางด้าน แหวนแหวน ปวริศา หลานสาว อาชรินทร์ อุ้มลูกชาย น้องเอริค ปาริศ เข้าไปกราบลาคุณตาชรินทร์ครั้งสุดท้าย ซึ่งเธอถึงขั้นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ปล่อยโฮกลางงานด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

และครั้งนี้ถือเป็นการพาเหลนอย่าง น้องเอริค มาเจอทวด ชรินทร์ เป็นครั้งแรก หลังจากที่เจ้าตัวได้เผยความใจในผ่านโพสต์อาลัยคุณตาว่า “สิ่งที่เสียใจมากที่สุด ที่คุณตายังไม่ได้เจอเหลนปาริศ ลูกชายของแหวนแหวนเลย เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่อยากให้หลานออกไปไหนในช่วง 3 เดือนแรก และพอพ้น 3 เดือนได้ไม่ถึงอาทิตย์คุณตาก็เข้า ICU และไม่ได้กลับออกมาอีก

ทำได้เพียงแค่วิดีโอคอลคุยกับหลาน ช่วงวันสุดท้ายที่คุณตายังพอรู้เรื่อง เปิดคลิปเหลนให้ดูแล้วคุณตายังน้ำตาไหล สงสัยคงรู้ว่าจะไม่ได้เจอแล้ว อยากให้คุณตาได้สัมผัสกับเหลน ได้เป็นคุณทวดเต็มตัวสักครั้งในชีวิต หนูขอโทษนะคะที่เอาเหลนไปหาคุณตาไม่ทัน หนูเสียใจมากๆ เสียใจที่สุด”

ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง ยุบ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเป็นผลมาจากคดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

โดยศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์ กรรมการบริหารพรรค ที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 25 มี.ค. 2564 – 31 ม.ค. 2567 นั่นหมายรวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 2 ยุคของพรรคก้าวไกล เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง

ล่าสุด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ Medium แจ้งถึงเส้นทางชีวิตใหม่หลังถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยระบุว่า

ก้าวต่อไปของผม กับ บทบาทใหม่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในฐานะ Visiting Democracy Fellow, Harvard University

ผมขอใช้โอกาสนี้ในการประกาศว่า บทใหม่ของผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในภาคการศึกษานี้ ในฐานะ Visiting Democracy Fellow นี่เป็นโอกาสอันน่าตื่นเต้นที่จะได้ต่อยอดความมุ่งมั่นของผมในการส่งเสริมความเป็นผู้นำและหลักการประชาธิปไตยในภูมิภาคอาเซียน

การกลับมาฮาร์วาร์ดครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อผม เพราะในช่วงเวลาที่ผมเคยศึกษาที่นี่ ผมได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากอดีตผู้นำหลายท่านที่มาเป็น Visiting Fellows ที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่พวกเขามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศของพวกเขา และมาอาศัยอยู่ที่บอสตันเพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ รวมถึงผมเองเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ในครั้งนี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้เดินตามรอยพวกเขา เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ในการสร้างสังคมที่ดีขึ้น

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้การกลับมาฮาร์วาร์ดครั้งนี้มีความพิเศษคือการได้สัมผัสกับมุมมองระดับโลกที่ ฮาร์เวิร์ด นำเสนอ ที่นี่ไม่ได้เน้นเฉพาะประสบการณ์ของอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลก ทุกทวีป เพื่อมุมมองที่ครบถ้วน รอบด้าน

ในช่วงเวลาของการทำงานที่ฮาร์วาร์ด ผมจะมุ่งเน้นไปที่สองเป้าหมายหลัก:

1. การแบ่งปัน: ผมตั้งใจจะแบ่งปันประสบการณ์ของผมในด้านภาวะผู้นำ การต่อสู้ทางการเมือง ระบบประชาธิปไตย การทำนโยบายสาธารณะและการสร้างการส่วนร่วมของประชาชน ผ่านการคลุกคลีกับคนรุ่นใหม่ทั่วอาเซียนที่ไปเรียนที่ฮาร์วาร์ด ไม่จำกัดแค่นักเรียนคนไทย ผมหวังว่าจะได้ให้ความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางการเมือง ประชาธิปไตย และเศรษฐกิจสังคมของอาเซียนแก่ทั้งนักศึกษา คณาจารย์ และนักวิชาการที่ฮาร์วาร์ด

2. การเรียนรู้: ผมตั้งตารอที่จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศทางปัญญาอันอุดมของฮาร์วาร์ด ผ่านการสำรวจแนวปฏิบัติประชาธิปไตยทั่วโลกและกลยุทธ์ความเป็นผู้นำเชิงนวัตกรรม เศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ผมตั้งใจจะสะสมความรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถของผมในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญในบ้านเกิดของเราในประเทศไทยและที่อื่นๆ

เมื่อการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผมได้สิ้นสุดลงแล้ว ผมมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะใช้โอกาสนี้ในการไตร่ตรองถึงประสบการณ์และความท้าทายที่ผมเคยเผชิญในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง การทำงานด้านการสร้างผู้นำคนรุ่นใหม่ที่ฮาร์วาร์ดในครั้งนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เข้มข้นระหว่างสะสมความรู้ประสบการณ์ด้านการเมืองการปกครองและพบปะผู้นำทั่วโลก เพื่อกลับมาเป็นผู้นำทางการเมืองที่ดีกว่าเดิมเมื่อเวลามาถึง

ผมยังจะเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ และบอสตันเกือบทุกเดือน โดยไม่ทิ้งบ้านเกิดไปนาน วิธีการนี้จะช่วยให้ผมนำข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่ได้รับจากฮาร์วาร์ดมาปรับใช้ในความพยายามอย่างต่อเนื่องของผมในการพัฒนาประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน

ผมขอขอบคุณสำหรับโอกาสนี้และการสนับสนุนที่ผมได้รับอย่างจริงใจ มาร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับผู้นำรุ่นต่อไปของเรากันเถอะครับ

ด้วยความนับถือ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวถึงความชัดเจนในการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นไปตามกำหนดการเดิมหรือไม่ ว่า ขณะนี้ยังเชื่อว่าทันกรอบเวลาเดิม ตอนนี้ต้องมองว่าทันไว้ก่อน และยังไม่มีการทบทวนเรื่องปฏิทินงบประมาณในส่วนของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เนื่องจากอยู่ระหว่างรอทูลเกล้าฯ ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป็นไปตามกระบวนการของสภา

ซึ่งจะเข้าวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 4-6 ก.ย. หากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาต้องการที่จะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อจำเป็นต้องใช้เงินให้ทันเดือน ก.ย.นี้ หรือไม่นั้น นายเฉลิมพล กล่าวว่า ต้องใช้จ่ายให้ทันเดือน ก.ย.นี้ แต่หากเข้าสู่กระบวนการใช้จ่ายเงินตามระเบียบภายในเดือน ก.ย. สามารถใช้เป็นงบผูกพันได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นแจกเงินสดแทน มีการเสนอมาถึงสำนักงบประมาณแล้วหรือไม่ นายเฉลิมพล ระบุว่า ยังไม่มีแต่สามารถทำได้ หากยังมีวัตถุประสงค์เดิมได้ คือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ที่จะพิจารณา แต่ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการตั้งงบประมาณ

ส่วนงบประมาณปี 2568 หากใช้เพื่อรับวิกฤตเศรษฐกิจตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอได้หรือไม่ นายเฉลิมพล ยืนยันว่า หากมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถทำได้ แต่ต้องมาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปรับกรอบของโครงการที่ ครม.เคยเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายเฉลิมพล ระบุว่า

โครงการนี้ยังไม่ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ แต่ ครม.ได้เห็นชอบกรอบโครงการและวงเงินเพื่อให้สำนักงบประมาณมาตั้งงบประมาณ ดังนั้นเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่จะต้องมีการจัดทำนโยบาย แต่ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ ซึ่งงบประมาณนี้ถูกตั้งวัตถุประสงค์ไว้กว้าง ๆ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และชื่อถูกกำหนดเป็นงบกลางไม่ใช่งบสำหรับดิจิทัลวอลเล็ต

ที่มา thaipbs