ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 28
Featured posts

ลูกสาวสั่งผัวให้พาเเม่แท้ๆไปปล่อยทิ้งใต้สะพาน แม่ร่ำไห้ขอโทษ อยากกลับบ้าน

วันที่ 28 ก.ค.67 ผู้วื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า นายคงเดช เนียมไผ่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหญิงชรานั่งรถเข็นวีลแชร์ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ ใต้สะพานพระราม5 ใกล้กับปากซอยนรินทร์กลึง ต.บางไผ่ จึงประสานนายวีรวัฒน์ อินทรลักษณ์ เลขานุการ นายก อบต.บางไผ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ

นายไพรัตน์ สีน้ำเงิน อายุ 63 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำพระราม 5 ไปพบหญิงชรานั่งตากแดดอยู่เป็นเวลานานกว่า 2 ขั่วโมง โดยที่ไม่มีใครมารับตัวกลับจึงได้เข้าไปสอบถาม ทราบชื่อคือ นางสมาน พรมไฉยา อายุ 73 ปี ชาว จ.ขอนแก่น โดยเปิดเผยว่า ตนพักอาศัยอยู่ห้องเช่ากับลูกสาวคนเล็กที่ เมื่อวานมีปากเสียงกับลูกสาวเรื่องที่ตนต้องการไปทำบุญใส่บาตรให้กับลูกสาวคนโตที่เสียชีวิต ซึ่งตรงกับวันตายพอดี แต่ลูกสาวคนเล็กได้ต่อว่าตน ว่าจะมาพูดอะไรบ่อยๆ เขาไม่มีปัญญาไปทำบุญให้หรอก ตนก็บอกกับลูกสาวคนเล็กไปว่า แค่เราหุงข้าวหากับข้าวไปทำบุญใส่บาตรให้พี่สาวเขาก็ได้กินแล้ว ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร หลังจากนั้นตนก็ถูกลูกสาวคนเล็กบ่นไม่เลิก แม้กระทั่งออกไปทำงานกลับมาก็ยังบ่นเรื่องนี้อีก จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เขาให้ลูกเขยอุ้มตนขึ้นรถแท็กซี่พร้อมกับรถเข็น แล้วพามาปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้

นางสมาน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาถูกลูกสาวคนนี้กล่าวหาว่า ไปแจ้งตำรวจมาจับเขา ทั้งๆที่ตนเองไม่เคยไปโรงพักแจ้งความเลย เขาเข้าใจผิดเพราะเห็นตำรวจขี่รถมาจอดแวะเวียนมาคุยกับตนที่ห้องเช่า ก็กลายเป็นเรื่องกระทบกระทั่งกันเรื่อยมา จนมาถึงเรื่องทำบุญให้พี่สาวเขา ทำให้ตนคิดมาก ว่าทำไมลูกสาวคนนี้ถึงคิดกับคนที่เป็นแม่เขาแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังอยากกลับไปอยู่กับลูกสาวเหมือนเดิม ถ้าได้กลับไปอยู่กับลูกสาวอีกครั้ง จะระมัดระวังเรื่องคำพูดให้มากกว่านี้ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

ทางด้านนายไพรัตน์ สีน้ำเงิน อายุ 63 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำพระราม 5 กล่าวว่า เห็นคุณยายถูกนำมาทิ้งไว้เมื่อช่วงเช้า โดยคุณยายนั่งอยู่บนรถเข็นบนฟุตบาท จึงเดินไปดูแล้วเข็นคุณยายมาไว้ที่ร้าน เนื่องจากเกรงว่าฝนจะตก ซึ่งคุณยายไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง จอดรถเข็นอยู่เฉยๆ จากการสอบถามทราบว่าคุณยายมาจากซอยกรุงเทพนนท์ 13 ซึ่งเป็นบ้านของลูกสาว โดยคุณยายนั่งแท็กซี่มา จากนั้นรถแท็กซี่ได้ให้คุณยายลงตรงจุดนี้ ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงจึงได้ติดต่อผู้ใหญ่บ้าน เพราะทราบว่าคุณยายนั่งอยู่ตากแดดมาประมาณ 3 ชม.แล้ว

นายวีรวัฒน์ อินทรลักษณ์ เลขานุการ นายก อบต.บางไผ่ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ทางนายก อบต.บางไผ่ ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่มาตรวจสอบ จึงได้ประสานกับทาง พม.จ.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ หลังสอบถามจนสามารถติดต่อกับทางลูกสาวคุณยายและพูดคุยปรับความเข้าใจกันได้แล้ว จึงได้นำตัวคุณยายกลับไปส่งที่บ้านของลูกสาวตามเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนำตัวนางสนาม เข้ามาหลบแดดเพื่อสอบถามรายละเอียดจนได้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไปหาลูกสาวของนางสมาน ซึ่งใช้เวลาพูดคุยปรับความเข้าใจกันเกือบ 1 ชั่วโมง เนื่องจากลูกสาวของนางสมาน ยังคงอยู่ในอารมณ์โมโหและต่อว่านางสมาน ผู้เป็นมารดาว่าชอบหาแต่เรื่องมาให้ และไม่ขอรับตัวนางสมาน กลับมาอยู่ด้วย แม้จะมีความผิดจนต้องถูกดำเนินคดีก็ตาม จนกระทั่งนางสมาน ต้องยอมเอ่ยปากขอโทษบุตรสาว จึงทำให้อารมณ์เย็นลง ก่อนจะเปลี่ยนใจให้เจ้าหน้าที่พาตัวนางสมาน กลับมาส่งที่ห้องเช่าและอยู่ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องถูกส่งตัวไปยังสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนนทบุรี รายงาน

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวทหารกล้า จ.ส.อ.ธนศักดิ์ บัวขาว เสียชีวิตแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้า ที่โลกออนไลน์เข้ามาแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก หลังเพจ ชายแดนใต้ ได้ออกมาโพสต์ภาพโดยระบุว่า

#ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวทหารกล้า

จ.ส.อ.ธนศักดิ์ บัวขาว สังกัด บก.ควบคุม 4

เสียชีวิต ในขณะปฎิบัติหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายพื้นที่บ้านคลองช้าง ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขอแสดงความเสียใจ

เรียบเรียงโดย news.in.th

โปรดเกล้า ให้ถอดยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 34 ราย

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร ทั้งสังกัด กองบัญชากองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เนื่องด้วยไม่สมควรดำรงอยู่ในยศทหาร และ บรรดาศักดิ์ บางราย หนีราชการในเวลาประจำการ รวมทั้งสิ้น 34 ราย

อ่านทุกฉบับคลิกที่นี่

หมอแจ็ค ไทบ้าน เงินหายเกลี้ยงบัญชี ไม่เคยกดลิงก์ โทรหาแบงก์ เจอคำตอบเข้าไปยิ่งเดือด

วันที่ 26 ก.ค.67 หมอแจ็ค หรือ นาราภัทร งดงาม นักแสดงจากจักรวาลไทบ้าน จากบทบาท หมอแจ็ค ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง หมอปลาวาฬ ได้โพสต์คลิปลงใน TikTok @naraphat2540 หลังจู่ๆ เงินในบัญชีไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่มีรายการถอนออก โดยหมอแจ็ค เล่าว่า

ไม่รู้ว่าธนาคารจะรับผิดชอบยังไง เพราะเงินหายจากบัญชีเกลี้ยง ของแฟน 1 แสน และของผมด้วย ทั้งที่ไม่เคยกดลิงก์ ไม่เคยรับสายคอลเซ็นเตอร์ ไม่รู้ว่าเงินมันออกจากบัญชีไปได้ยังไง มันมีแต่รายการเข้า ไม่มีรายการออกเลย

ของแฟนผมประมาณ 1 แสน ของผม 4 บาท เดี๋ยวต้องดูอีกทีว่ามันจะจบยังไง ในกรณีนี้ที่มันไม่มีรายการเงินออก ธนาคารจะรับผิดชอบมั้ย เพราะเราฝากเงินไว้กับคุณ แต่ยอดเงินมันหายไปหมดเลย อันนี้เรื่องจริงไม่ได้ตลกนะ แต่มันตลกตรงที่ของผมมันมีแค่ 4 บาทเฉยๆ

จากนั้น หมอแจ็ค ก็มาอัดคลิปอัพเดต หลังมีคนคิดว่าเป็นแค่คอนเทนต์ เนื่องจากเงินหายไป 4 บาท ซึ่งเจ้าตัวก็อธิบายว่า ไม่ฮา เรื่องเงินหายจากบัญชีคือเรื่องจริง คือโดยเฉพาะแค่ธนาคารนี้ธนาคารเดียว แต่ถ้าเป็นธนาคารอื่นด้วยจะลนลานมาก

ถามว่ามันหายไปไหน เรื่องของเรื่องคือ โทรไปศูนย์ช่วยเหลือของธนาคารทราบว่า บัญชีโดนอายัด เพราะมีคนไปแจ้งความว่า พวกผมเป็นมิจฉาชีพไปโกงเงินเขามา ก็ไม่เข้าใจว่า ระงับทำไม ถ้าหากผมไม่ชอบคุณแล้วโทรไประงับก็สามารถระงับไปเลยเหรอ ไม่ตรวจสอบอะไรเลยเหรอ ถามหน่อย บัญชีผมมี 4 บาท ผมจะไปเอาของใครมา ซึ่งโดนระงับ 72 ชั่วโมง แต่มันน่าหัวเสียมาก

ผ่าตัดแล้ว สาวท้องโต ใช้เวลา 11 ชั่วโมง ยังอยู่ไอซียู เสียเลือด 10 ลิตรครึ่ง พี่สาวเครียดหนัก

จากกรณี นางพิม สุวันนะโค วัย 30 ปี หญิงสาวชาว สปป.ลาว ที่มีอาการท้องโตจากโรคเนื้องอกในมดลูกนับ 10 ปี เข้ามารักษาตัวที่ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จนชาวเน็ตทั่วโลกระดมทุนได้กว่า 1 แสนบาท ให้กับ นางพิม ใช้ในการผ่าตัดรักษา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว สาวลาวท้องบวม! ทนทุกข์ทรมาน 9 ปีคิดว่าไม่รอด FC รวมเงินส่งรักษา เคสแรกหมอไทย

ล่าสุดวันที่ 26 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เข็นเตียง นางพิม ออกจากลิฟต์เพื่อไปเข้าห้องผ่าตัด เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วานนี้ ซึ่งใบหน้ายิ้มแย้ม มีกำลังใจที่ดี จนกระทั่งเวลาผ่านไป 11 ชั่วโมง ในช่วง 22.00 น.คืนที่ผ่านมา นางพิม ออกมาจากห้องผ่าตัด เจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ญาติเข้าไปเยี่ยมได้ที่ห้องไอซียู โดยภาพหลังการผ่าตัดทางโรงพยาบาลยังไม่อนุญาตให้เผยแพร่

นางอัง สุวันนะโค พี่สาว ซึ่งอยู่ในอาการเครียด และอยากอยู่กับน้องสาวอย่างใกล้ชิด ไม่พร้อมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน จึงมียูทูบเบอร์สายบุญ ช่อง สาวกึ่ม ใจสะหว่าง และ บ่าวพามี มาให้ข้อมูลแทน โดยมีนักศึกษาคนไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ติดตามข่าว มาให้กำลังใจ สอบถามอาการของน้องพิมด้วย นางกงพ้าว หรือ สาวกึ่ม บอกว่า น้องพิมยังไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และยากระตุ้นความดัน ภาพที่เห็นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เพราะท้องยุบแล้ว เบื้องต้นจึงรู้สึกดีใจ อยากขอบคุณคณะแพทย์ แต่ยังมีความกังวล จนกว่าจะถอดเครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ จึงจะหมดห่วงว่า น้องพิมปลอดภัยแล้ว

สาวกึ่ม ยังอ้างข้อมูลจากการพูดคุยกับพยาบาลว่า น้องพิมเสียเลือดมากประมาณ 10 ลิตรครึ่ง จึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีจิตศรัทธาเข้าไปบริจาคเลือดทดแทนคลังเลือดกลางด้วยขณะที่ นายพามี บอกว่า มี FC คนไทย และลาว ที่ไปอยู่ต่างแดนหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น โอนเงินมาช่วยค่ารักษาพยาบาลกว่า 120,000 บาท เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ก็เพิ่งจ่ายค่ายาราว 50,000 บาท

จากการสอบถาม นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า อาการน้องพิม พ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง นพ.สมศักดิ์ ไม่ได้ตอบตรงๆ เพียงแต่บอกว่า กำลังดีขึ้น แต่ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด และคงไม่ได้แถลงข่าว รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสช็อก 2 พี่ชวนกันมาจบชีวิตในวัด ปรับทุกข์ด้วยกันเสร็จ ตัดสินใจจบชีวิต

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อัครเดช เพ็งวงษ์ สารวัตรเวรสอบสวนสภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในวัดหนองไผ่ หมู่ 2 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ เลขทะเบียน ขม 9020 นครราชสีมา จอดติดเครื่องยนต์อยู่ในศาลาโรงครัว ซึ่งรถได้ล็อกประตูทั้ง 4 ด้าน มองภายนอกมีร่างชายนั่งอยู่เบาะคนขับและร่างหญิงอยู่เบาะผู้โดยสาร โดยมีเตาอั้งโล่วางอยู่ด้านในมีเศษถ่านถูกเผาจนเป็นขี้เถ้า จึงประสานช่างกุญแจมาปลด

และได้มอบหมายให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาโคราช นำร่างผู้เสียชีวิตมาตรวจสอบทราบชื่อคือนายยศธวัช (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา และ น.ส.ยุวนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขต ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เพื่อให้แพทย์เวรนิติเวชชันสูตรตามกระบวนการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ

จากการสอบถามพระสมพงษ์ อติสโย อายุ 41 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นผู้พบร่างคนแรกและแจ้งเหตุร้าย เปิดเผยว่า อาตมาทำหน้าที่เปิดปิดประตูในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. เห็นรถเก๋งติดเครื่องยนต์ เมื่อมองไปด้านในต้องตกใจเห็นร่างชายหญิงเสียชีวิต

ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับวนเวียนมาช่วงบ่ายและผู้ชายได้ออกมาซื้อเครื่องดื่ม ส่วนนางอาร์ม แฟนสาวนายยศธวัช ทราบเหตุร้ายได้เดินทางมาดูร่างสามีกับเพื่อนๆ ระบุหลังแฟนขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิตมีอาการเครียดกลายเป็นคนคิดมากและต้องรับยาจิตเวช แต่ๆ ไม่กินต่อเนื่อง ตนและครอบครัวได้พยายามหาทางช่วยเหลือ นายยศธวัช กลับแสดงอาการปกติไม่ได้ป่วย สันนิษฐานมีความเครียดจึงได้ปรับทุกข์กับพี่สาวแล้วชวนกันมารมควันโดยใช้วัดเป็นสุสาน

โจ๋นัดเคลียร์ปมชกต่อยในงานบุญ สุดท้ายคุยไม่ลงตัว ยิงถล่ม ดับ 1 เจ็บ 2 ราย

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดในพื้น ม.15 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพนายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของชาวบ้านในบริเวณจุดเกิดเหตุ สภาพนอนตะแคงข้าง สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนต์ขาสั้น ข้างตัวพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ หน้าอกพบร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 2 นัด ทะลุหลัง

ห่างออกมา 200 เมตร ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบร่องรอยบนรถกระบะดีแม็ก ทะเบียน นครปฐม พบว่าถูกอาวุธปืนลูกซองยิงที่บริเวณประตูด้านคนขับและแคปเป็นรูพรุนหลายนัด และปลอกกระสุนตามจุดต่าง ๆ

จากการสอบถามนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกับพวกได้ไปงานประจำในหมู่บ้านที่จัดขึ้น โดยกลุ่มตนเองได้มีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวงาน ต่อมา ได้มีชายคนหนึ่งทักแชทมาในเฟซบุ๊กส่วนตัวบอกว่า เป็นพี่ชายของคนที่ถูกกลุ่มตนทำร้ายที่งานประจำปี โดยชายคนดังกล่าวบอกว่า ให้เข้ามาเคลียร์กันที่หน้าบ้านของชายคนดังกล่าว

จากนั้น กลุ่มของตนได้เดินทางมาด้วยกัน 6 คน พร้อมกับรถกระบะ 3 คัน เมื่อมาถึงก็ได้เข้าไปนั่งพูดคุยกันเพื่อตกลงค่าเสียหายที่เคยไปทำร้ายน้องชายของผู้ก่อเหตุ แต่ระหว่างที่พูดคุยกันก็เหมือนจะตกลงกันไม่ได้ ตนจึงเดินออกมายืนบนถนนที่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินเข้าไปในบ้าน พร้อมกับหยิบอาวุธปืนลูกซองยาวออกมาไล่ยิงกลุ่มของตน จนทำให้แตกกระเจิงไปหลบที่หลังรถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้าน

ระหว่างนั้นก็มีกลุ่มเพื่อนของผู้ก่อเหตุที่อยู่ดักซุ่มอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามประมาณ 3 คน ได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่พวกตน โดยพี่ชายตนคนที่เสียชีวิตถูกยิงได้รับบาดเจ็บแล้ววิ่งไปสิ้นใจที่บ้านของชาวบ้าน และมีพี่ ๆ ที่มาด้วยโดนยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คนแรกถูกยิงเข้าที่สะโพกขวา คนที่สองถูกยิงที่ต้นแขนขวา

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยคือนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวได้ที่บ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ นำตัวขึ้นรถไปสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือตอนนี้ ทางตำรวจทราบตัวแล้วกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี รายงาน

เรียบเรียง siamnews

2 พี่น้องดับคารถเก๋ง จอดกลางวัดโคราช พระเห็นผิดปกติตั้งแต่ช่วงบ่าย แฟนสาวเล่าปมสลด

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 26 ก.ค.67 พ.ต.ท.อัครเดช เพ็งวงษ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในวัดหนองไผ่ หมู่ 2 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ขม 9020 นครราชสีมา จอดติดเครื่องอยู่ในศาลาโรงครัว ซึ่งล็อคประตูทั้ง 4 ด้าน มองภายนอกพบร่างชายนั่งอยู่เบาะคนขับ และร่างหญิงอยู่เบาะผู้โดยสาร โดยมีอุปกรณ์รมควันวางอยู่ จึงประสานช่างกุญแจมาปลดล็อก ก่อนที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาโคราช จะนำร่างผู้เสียชีวิตมาตรวจสอบ รายแรกเป็นชาย อายุ 40 ปี เป็นพนักงานการไฟฟ้า อีกรายเป็นหญิง อายุ 42 ปี ทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน

จากการสอบถาม พระสมพงษ์ อติสโย อายุ 41 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกและแจ้งเหตุร้าย เปิดเผยว่า อาตมาทำหน้าที่เปิดปิดประตูในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. เห็นรถเก๋งติดเครื่องยนต์ เมื่อมองไปด้านในต้องตกใจเห็นร่างชายหญิงเสียชีวิต ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับวนเวียนมาช่วงบ่ายและผู้ชายได้ออกมาซื้อเครื่องดื่ม

ส่วน นางอาร์ม แฟนสาวของฝ่ายชาย ระบุว่า หลังแฟนขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิต มีอาการเครียดกลายเป็นคนคิดมาก และต้องรับยาจิตเวช แต่ไม่ได้กินต่อเนื่อง ตนและครอบครัวได้พยายามหาทางช่วยเหลือ แต่กลับแสดงอาการปกติไม่ได้ป่วย สันนิษฐานว่ามีความเครียดจึงได้ปรับทุกข์กับพี่สาวแล้วชวนกันมาก่อเหตุดังกล่าว

จับหนุ่มขายไอซ์ ไวอากร้า ให้กลุ่มเกย์ อึ้งฉีดเข้าเส้นก่อนมีเซ็กซ์ อ้างหมอ-พยาบาลเป็นลูกค้า

วันที่ 25 ก.ค. 2567 ร.ต.อ.พิชเยศ ชูเมือง หัวหน้าชุดตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือชุดตะวัน นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก 305 ของหอพักแห่งหนึ่งในซอยฉัยยากุล ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าทั้งขายและมั่วสุมเล่นยาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มเกย์

ขณะเข้าตรวจค้น พบนายวรศักดิ์ ลูกชายเจ้าของหอพักดังกล่าว ภายในห้องยังพบยาไอซ์ 5 ถุง น้ำหนักรวม 7.69 กรัม, อุปกรณ์การเสพไอซ์ 1 ชุด ,เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง, ถุงใช้แบ่งบรรจุยาไอซ์ จำนวนมาก, เข็มฉีดยา ใช้เป็นอุปกรณ์เสพไอซ์แบบเข้าเส้น 15 อัน และไวอากร้า อีกจำนวนหนึ่ง สำหรับยาไอซ์พบว่ามีการแพ็กใส่ซองกระดาษให้ดูดี แตกต่างจากการขายทั่วไปที่บรรจุใส่ในซองพลาสติกใส

สอบถามนายวรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ไอซ์ที่พบมีไว้เสพและแบ่งขายด้วย โดยขายถุงละ 500 บาท ลูกค้าจะทั้งคนทั่วไป กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีลูกค้าที่เป็นกลุ่มหมอและพยาบาลด้วย

นายวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนเพิ่งหันมาค้ายาไอซ์ไม่กี่เดือน หลังจากเริ่มมีปัญหาในครอบครัว เงินใช้จ่ายไม่พอ แม้จะเป็นลูกเจ้าของหอพัก แต่ต้องจ่ายค่าห้องค่าน้ำค่าไฟเองด้วย โดยสั่งซื้อยาไอซ์ผ่านทางแอพพลิเคชั่นของกลุ่มเกย์

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจโทรศัพท์มือถือของนายวรศักดิ์ พบว่ามีคลิปวิดีโอขณะกำลังใช้เข็มฉีดยา ซึ่งผสมไอซ์ในน้ำเกลือฉีดเข้าเส้นเลือด โดยนายวรศักดิ์ให้การอีกว่า ในการขายยาไอซ์บางครั้งจะมีคนขอซื้อเข็มฉีดยาด้วย

นายวรศักดิ์ ให้การต่อว่า กลุ่มลูกค้าที่เล่นไอซ์ด้วยวิธีฉีดเข้าเส้นเลือด ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเกย์ เพราะจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการสูบไอซ์ทั่วไป โดยเฉพาะเวลาจะมีเซ็กซ์ จะฉีดไอซ์เข้าเส้นเลือดก่อน เพราะจะทำให้ยาออกฤทธิ์มึนเมาเร็วขึ้นและเร้าอารมณ์มากขึ้นด้วย”

เจ้าหน้าที่คุมตัวนายวรศักดิ์ส่ง สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีในข้อหาทั้งเสพและค้ายาเสพติดฯ ด้านตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.หาดใหญ่ หรือชุดตะวัน เผยว่า ระยะหลังจากการเข้าตรวจค้นและจับกุมเอเย่นต์ขายยาไอซ์ จะพบเข็มฉีดยา สำหรับใช้เสพด้วยวิธีฉีดไอซ์เข้าเส้นมากขึ้น และส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มเกย์หรือชายรักชาย

สามีสงสัยเมียที่เป็นอัยการ เข้าห้องน้ำนานผิดสังเกต ได้ยินแต่เสียงกึกกัก ตัดสินใจใช้กุญแจไขเข้าไปดู เข่าทรุดทันที

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 พ.ต.ท.สมชาย สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลชัยภูมิเกิดเหตุมีคนไข้ผูกคอฆ่าตัวตายที่บ้านพักในหมู่บ้านอโนทัย ถนนศูนย์ราชการสาย1 ชุมชนสนามบิน ในเขตเทศบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และได้มาเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉินไอซียู โรงพยาบาลชัยภูมิ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจรุดไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลฯพบร่างนางสาววงเพชรศ์ น้อยคุณ อายุ 55 ปี อัยการจังหวัดฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ฯ สำนักงานอัยการจังหวัดชัยภูมิ นอนเสียชีวิตอยู่บนเปลคนไข้ ในสภาพสวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงสีนำตาล ตรวจสอบพบที่บริเวณลำคอมีรอยเขียวซ้ำ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลชัยภูมิ สอบถามญาติให้การว่านางสาววงเพชรศ์ น้อยคุณ อายุ 55 ปี อัยการจังวัดฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ฯ ได้ใช้สายไฟฟ้าผูกคอตัวเองกับช่องระบายอากาศในห้องน้ำ ภายในบ้านพัก ในหมู่บ้านอโนทัย ดังกล่าว หลังจากนั้นพ.ต.ท.สมชาย รัตนวิชัย สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดชัยภูมิ รุดเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุเพร้อมกับพ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ที่หมู่บ้านอโนทัย ถนนศูนย์ราชการสาย1 เลขที่265/41 ชุมชนสนามบิน ในเขตเทศบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

พบนายฉัตรชัย หนองยี่สุน อายุ 53 ปี สามีผู้เสียชีวิต ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าบ้านพักดังกล่าว จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ขณะที่นางสาววงเพชรศ์ น้อยคุณ ภรรยาเข้าไปอาบน้ำจะแต่งตัวเพื่อเดินทางไปทำงานที่สำนักงานอัยกสารจังหวัดชัยภูมิ สามีเห็นเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ จึงเดินเข้าไปเคาะประตูเรียกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงเอะใจได้พยามพังประตูแต่ประตูถูกล๊อกจากภายใน จึงได้วิ่งไปเรียกเจ้าหน้าที่โครงการให้นำกุญแจสำรองมาช่วยเปิดห้องน้ำ ออกดูถึงกับผงะเมื่อพบว่าภรรยา ได้ใช้สายไฟฟ้าสีขาวผูกคอตายติดอยู่กับลูกกรงเหล็กช่องระบายอากาศ ในห้องน้ำ หายใจรวยริน จึงได้แก้สายไฟฟ้าออกแล้วนำร่างขึ้นรถเก๋งรีบขับนำร่างไปส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ หลังแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจอยู่นาน นางสาววงเพชรศ์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ นายฉัตรชัย สามีจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รุดมาสอบสวนดังกล่าว

จากการสอบถามเบื้องต้นนางสาววงเพชรศ์ เป็นคนทำงานดีตำรวจหลายนายยังออกปากชมว่าเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีให้คำแนะนำในคดีต่างๆอย่างดีมาโดยตลอด แต่เมื่อทำงานมาใกล้เกษียณอายุราชการเหลืออีก 5 ปี แต่ชีวิตราชการยังถูกปรับย้ายไปมาหลายพื้นที่ก็ยังไม่ดีขึ้นและก็ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัยการจังหวัดเลย จนจะใกล้เกษียณแล้ว ต่อมานางสาววงเพชรศ์ ได้มีอาการเครียดและซึ่มเศร้า จนเพื่อนร่วมงานต่างทราบดี ต่อมาผู้ใหญ่ได้ปรับย้ายให้นางสาววงเพชรศ์ มาเป็นอัยการประจำฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ฯอีก จึงอาจเป็นสาเหตุให้นางสาววงเพชรศ์ เกิดอาการเครียดและป่วยซึมเศร้า จนคิดสั้นฆ่าตัวตายดังกล่าว หลังสอบสวนได้มอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลที่ อำเภอแวงน้อย จ.ขอนแก่น ต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ชัยภูมิ รายงาน

Popular Posts

My Favorites

ทนายเดชา ไลฟ์สดปมคดีดิไอคอน คดีอาจมีการเปลี่ยน เหล่าบอสอาจพ้นคุกทันที!!

0
จากกรณีคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ที่เป็นประเด็นร้อนเเรงมากมาย ล่าสุดทางด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ออกมาไลฟ์สดพูดถึงคดี ดิไอคอนกรุ๊ป อ้างกำลังมีความพยายามทำให้คดีแชร์ลูกโซ่กลายเป็นคดีเเพ่งโดยมีการฟ้องร้องคดีแพ่ง โดยได้กล่าวว่า ตนได้ข้อมูลมาว่า มีผู้เสียหายไปตกลงที่ศาลจบเเล้วจะมาเป็นพยานให้ตำรวจหรือไม่ เพราะไปตกลงกันจบได้รับเงินค่าเสียหายไปแล้ว มันจะทำให้ผู้ต้องฟาคดีฉ้อโกงประชาชนหลุดคดีหรือไม่อย่างไร มันเป็นสิ่งที่เขาเริ่มวิตกกังวล เพราะว่าผู้ต้องหาเงินเยอะ สมมุติมีอยู่หนึ่งพันราย ไปตกลงแล้ว500ราย โดยจ่ายเงินแบบผ่อนชำระเรียบร้อยเเล้ว ถามว่าผู้เสียหายคดีดิไอคอนจะไปเป็นพยานหรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องที่เขาตั้งคำถามมาเพราะจากคดีอาญาไปทำเป็นคดีแพ่งตกลงกันเรียบร้อยจ่ายเงินจ่ายทอง คือจบ เหล่าบอสที่ติดคุกตอนนี้ก็จะพ้นคุกทันที