ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 33
Featured posts

สลดใจ เด็กสองพี่น้องหนียาย ออกมาเล่นน้ำคลายร้อน สุดท้ายจมน้ำ เสียชีวิต 2 ราย

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2567 ร้อยตำรวจเอกนวพล กาญจนสาธิต รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบริเวณบ่อน้ำภายในพื้นที่บ้านเขาตอง หมู่ 9 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ่อดินลูกรังขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ที่ริมขอบบ่อพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายและเด็กหญิง ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ เด็กชายบี (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี และเด็กหญิงใหม่ (นามสมมุติ) อายุ 6 ปี โดยที่ข้างศพของเด็กทั้งสองมีพ่อแม่นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ อยู่ใกล้ๆ

สอบถามแม่ของเด็กที่เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เด็กทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน โดยก่อนเกิดเหตุ เด็กทั้งสองคนอยู่ที่บ้านกับยาย ซึ่งห่างจากบ่อน้ำจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยพ่อและแม่ออกไปทำงานที่โรงแรมในพื้นที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งช่วงสายของวันนี้ยายของเด็กได้โทรมาบอกว่าเด็กทั้งสองคนหายออกไปจากบ้าน พ่อและแม่จึงรีบกลับมาที่บ้านและออกตามหา ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงก็ยังไม่พบตัว กระทั่งได้ทราบข้อมูลจากคนเลี้ยงวัว ซึ่งมาเลี้ยงวัวอยู่บริเวณใกล้เคียงบ่อน้ำดังกล่าว บอกว่าพบรองเท้า 2 คู่ อยู่บริเวณริมสระน้ำ พ่อและแม่ของเด็กจึงรีบเดินทางไปดู และพบว่าเป็นรองเท้าของลูกทั้งสองคนของตน ผู้เป็นพ่อจึงรีบกระโดดลงไปในบ่อน้ำก่อนจะพบร่างของลูกชายและลูกสาวจมน้ำเสียชีวิตอยู่ที่ก้นบ่อดังกล่าว

เบื้องต้น แพทย์ทำการชันสูตรศพของเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ คาดว่าเด็กทั้งสองคนน่าจะชักชวนกันออกจากบ้านเพื่อมาเล่นน้ำคลายร้อน แต่เนื่องจากบ่อดังกล่าวเป็นบ่อดินลูกรังที่มีความลื่นอาจจะทำให้เด็กลื่นตกลงไปบริเวณกลางบ่อน้ำและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.กาญจนบุรี รายงาน

2

ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระพันปีหลวง

ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระพันปีหลวง ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 12 สิงหาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พุทธศักราช 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของบรรพชิตจีนและญวน แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย และทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่บูชาพระรัตนตรัยที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่แท่นมณฑลบูชาเทวดานพเคราะห์ จากนั้น พระราชทานเงินแก่ข้าราชการผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาส์น แล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาส์น แล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์

เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่ประธานสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 93 รูป เสร็จแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับ

2

ด่วน! ปิดน้ำตกแม่สา จ.เชียงใหม่ ชั่วคราว หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก จึงขอปิดแหล่งท่องเที่ยว เป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

เบื้องต้น ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และทรัพย์สินของทางราชการยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด

2

พบร่างแล้ว! ตาวัย 73 ปี ถูกน้ำป่าซัดดับ ลอยไปไกลอีกหมู่บ้าน

วันที่ 7 ก.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสริมงาม จ.ลำปาง รับแจ้งว่ามีคนพลัดตกน้ำสูญหาย บริเวณลำน้ำห้วยแม่ลา บ้านเหล่ายาว ม.4 ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง จึงประสานทางสมาคมกู้ภัยเสริมงาม จัดกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ร่วมค้นหาผู้สูญหายกับชาวบ้านในพื้นที่

โดยข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้สูญหายชื่อ นายเสาร์ อายุ 73 ปี ชาวบ้าน บ้านเหล่ายาว ม.4 ต.เสริมกลาง ก่อนเกิดเหตุออกไปหาของป่าเขตบ้านเหล่ายาว จนช่วงเย็นไม่ได้กลับเข้าบ้าน ญาติจึงแจ้งทางกำนันให้ประกาศช่วยกันตามหา

ประกอบกับช่วงนั้นก่อนนี้เกิดฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำหลากในลำห้วย จึงคาดว่านายเสาร์คงตกลำห้วยแม่ลา และถูกน้ำพัดหายไป กระทั่งช่วงเช้าทางชาวบ้านแจ้งกู้ภัยร่วมกันออกตามหาอีกครั้ง

ต่อมาเวลาพบศพ นายเสาร์ เสียชีวิตอยู่ใกล้กับลำน้ำห้วยแม่ลา เขตหมู่บ้านทุ่งฮ้าง ม.5 ซึ่งน้ำลดระดับลงแล้ว จึงประสานร้อยเวร สภ.เสริมงาม และแพทย์เวรโรงพยาบาลเสริมงาม ร่วมชันสูตรพลิกศพฯ ทางญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทางญาติ เพื่อนำไปบำเพ็ญพิธีทางศาสนาต่อไป

2

แย่แล้ว! มวลน้ำซัดถนนขาดพังยาว 300 เมตร น้ำท่วมจมหมื่นไร่

วันที่ 1 ก.ย.2567 สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย แม้หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำในแม่น้ำยมจะลดลงบ้างแล้ว แต่ที่หมู่ 6 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ชาวบ้านยังคงผวาหนัก หลังจากน้ำป่าและมวลน้ำจากแม่ยมที่ไหลทะลักผ่านคันดินแตกตรงใต้สะพานสิริปัญญารัต จนทำให้น้ำทะลักท่วมไปหลายหมู่บ้าน

ล่าสุดมวลน้ำมหาศาลจากจุดแตกดังกล่าว ผสมกับน้ำป่า ได้ไหลมากัดเซาะถนนทางหลวงหมายเลข 1195 เส้นวังทอง-วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว ปัจจุบันมวลน้ำได้กัดเซาะเป็นโพรงลึกและพังทั้งแถบเป็นระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร

แล้วก็มีถนนบางช่วงถูกกระแสน้ำกัดขาดเกือบ 30 เมตร ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปิดเส้นทางการจราจร พร้อมนำเครื่องจักรลงพื้นที่ เตรียมหาแนวทางแก้ปัญหาให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้โดยเร็ว

ความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ ก็ยังไหลมาไม่หยุด ธารน้ำใจจากเมืองชลบรี นำโดย บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน), บริษัท คอมพริ้นท์ ชลบุรี จำกัด, บริษัท เอเซีย รีไซเคิล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด, บริษัท อีโค แมเนจเม้นท์ อินดัสเตรียล จำกัด , บริษัท ภวัต โลจิสติกส์ จำกัด และ บริษัท เอส พี เค เครน จำกัด

ได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของจำนวนมาก ส่งมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย โดยมี นายองอาจ เพ็งเอี่ยม และ นายนราธิป ภูมิถาวร รองประธานหอการค้าจังหวัดสุโขทัย เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมลงพื้นที่นำไปแจกถึงมือชาวบ้านใน ต.คลองยาง ต.ย่านยาว ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ล่าสุดพบมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 7 อำเภอ 49 ตำบล 263 หมู่บ้าน 7,873 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 43,747 ไร่

2

ตำรวจยังลำบาก พ.ต.ท. ร้องสื่อ หลังโดน อดีตผกก. บุกรุกที่ แจ้งความแล้วแต่คดีอืด อ้างบารมีนายพลข่ม

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.5 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว กรณีได้รับความเดือดร้อน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการทำหน้าที่ของตำรวจผู้ที่จะต้องคอยดูแลความเดือดร้อนของประชาชนตามกฎหมาย โดยได้นำผู้สื่อข่าวไปยังแปลงที่ดินเกษตรกรรมที่มีทุเรียน มังคุด ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว เนื้อที่รวมประมาณ 30 ไร่เศษ โดยแปลงที่ดินอยู่บนริมเส้นทางขึ้นน้ำตกเสม็ดชุน หมู่ 7 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแปลงที่ดินทำกินของบรรพบุรุษตกทอดมาถึงบิดา และปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของตนเองและน้องสาว เป็นที่ดินครอบครองทำกิน มีสมุดเกษตรกรกำกับไว้เช่นเดียวกับที่ดินในย่านนี้

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.5 ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสิงหาคม 2566 มีนายตำรวจนอกราชการยศพันตำรวจเอก อ้างว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นของเขา ทั้งที่ครอบครัวของผมทำกินมายาวนาน ก่อนรุ่นพ่อ จนมาถึงรุ่นพ่อและตกทอดมาถึงพี่น้องในครอบครัวโดยมีตนเองและน้องสาวเป็นผู้ครอบครองทำกินมาต่อเนื่อง จนเกิดเหตุการณ์ขึ้น เข้าใจว่านายตำรวจรายนี้ มาซื้อที่ดินแปลง นส.3ก ที่อยู่แนวลำห้วยสาธารณะฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีแนวเขตแผนที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่กลับอ้างครอบครองล้ำข้ามมาจนเกิดข้อพิพาทกับตนเอง ซึ่งได้ไปแจ้งความต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง คือ ร่วมกันบุกรุก 2 คดี และลักทรัพย์ผลอาสิน (ผลประโยชน์รายได้อันเกิดจากต้นผลไม้) 1 คดี นับแต่สิงหาคม 2566 จนมาครบสิงหาคม 2567 ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นมีการลอบนำเอาเสาปูนรั้วลวดหนามมาปักยึด และขึ้นป้ายอ้างนายตำรวจ ชั้นยศ พันตำรวจเอก 1 คน พลตำรวจตรี 2 คน และขึ้นป้ายพร้อมประกาศขายหรือเช่า โดยน้องสาวและชาวบ้านได้บันทึกภาพไว้ทั้งหมด เป็นพฤติการณ์ที่รับไม่ได้ หลังจากนั้น ได้เดินทางกลับบ้านมาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ขนอม ส่วนรั้วนั้นได้ถูกรื้อออกทิ้งไปแล้ว

แรกเริ่มแจ้งนั้น อิดออดบ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความ จึงบอกว่าหากไม่รับแจ้งให้บันทึกว่าไม่รับแจ้ง แต่ท้ายที่สุดเมื่อรู้ว่าเป็นตำรวจด้วยกัน จึงรับแจ้ง แต่กลับไม่มีการตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดตามวิสัย จนกระทั่งแจ้งความครั้งที่ 2 เป็นไปในทำนองเดียวกัน ทั้งการสอบสวน สอบพยานเป็นไปอย่างล่าช้าอย่างมาก จนกระทั่งครั้งที่ 3 มีการบุกรุกอีกครั้ง ถึงขั้นเอาคนงานมาเก็บเอาทุเรียนไปเป็นจำนวนมากและผลอาสินอื่นๆ มีการแจ้งความอีก แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเป็นรูปธรรม นี่ขนาดว่าเป็นตำรวจด้วยกัน

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.5 ยังระบุด้วยว่าในการทำคดีนั้น ทางตำรวจควรทำไปตามข้อเท็จจริงตั้งต้นในการพิพาท ที่เหลือนั้นเป็นการต่อสู้กันในทางคดี ตามพยานหลักฐานขั้นตอนศาลให้เป็นที่สุดไม่ควรล่าช้า มีการแทรกแซงหรือไม่นั้น ไม่อาจรู้ได้ ส่วนตัวยังได้ร้องไปยังจเรตำรวจเรียบร้อยแล้ว และทางจเรส่งเรื่องกลับมาที่ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช

แต่นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ แจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษร อ้างว่ามูลคดีความผิดทางอาญายังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ในฐานะที่เป็นพนักงานสอบสวนจึงต้องตั้งคำถามว่า หากอ้างเหตุเช่นนั้น เหตุใดจึงไม่มีการแสวงหาพยานหลักฐานใดๆ เพิ่มให้สิ้นกระแสในชั้นพนักงานสอบสวน

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยังระบุด้วยว่า นี่ขนาดเป็นตำรวจด้วยกันยังเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงประชาชนทั่วไปเลย จะเป็นอย่างไร การเปิดเผยข้อมูลนี้ ถือเป็นกรณีตัวอย่างให้เห็นอะไรได้อีกหลายอย่าง ประชาชนเดือดร้อนจะพึ่งพาความเป็นธรรมได้จากใคร

2

เริ่มแผน ใช้ทุ่งบางระกำ เป็นที่รองรับมวลน้ำเหนือ ให้ชาวบ้านในพื้นที่เก็บของขึ้นที่สูง

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 จากสถานการณ์น้ำยมหลากในเขตภาคเหนือตอนล่าง ที่สุโขทัย น้ำไหลสูงสุดผ่าน อ.ศรีสัชนาลัย ในวันนี้ และน้ำส่วนหนึ่งกำลังไหลเข้ามาในเขตแม่น้ำยมสายเก่าของ จ.พิษณุโลก ที่บ้านวังขี้เหล็กหมู่ 10 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ทางชลประทานได้เปิดการระบายน้ำผ่านท่อระบายน้ำคลองแยงมุม เข้าทุ่งบางระกำโมเดล ซึ่งเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว โดยน้ำที่ทำการระบายเป็นน้ำจากคลองเมม หรือแม่น้ำยมสายเก่า และนับจากนี้ไปอีก 1 เดือนพื้นที่บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยพื้นน้ำ ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองเมมที่เป็นที่ต่ำได้เริ่มทยอยเก็บสิ่งของขึ้นมาไว้ริมถนนระหว่างหมู่บ้านกันแล้ว

ชาวบ้านวังขี้เหล็ก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม กล่าวว่า น้ำจากสุโขทัย เริ่มเข้ามาในพื้นที่ อ.พรหมพิราม ประมาณ 2 วันแล้ว ทางชลประทานจึงเริ่มปล่อยน้ำเข้าทุ่งบางระกำโมเดล ตั้งแต่ช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านที่พักอาศัยริมถนนฝั่งของคลองเมมหลายหลังคาเรือน ต้องขนของมาอาศัยอยู่ที่สูงชั่วคราว

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำยม วันที่ 27 ส.ค. 67 เวลา 07.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ Y.14 A อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,701 ลบ.ม./วินาที (เข้าสู่สถานการณ์แนวโน้มอุทกภัยในระดับวิกฤติ คือมากกว่า 1,200 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไป) ปริมาณน้ำยังไม่ไหลผ่านสูงสุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีการระบายน้ำเข้าสู่คลองหกบาท (คลองแม่น้ำยมฝั่งขวา) ในปริมาณ 480 ลบ.ม./วินาที แบ่งการระบายน้ำไปทางคลองผันน้ำแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน ปริมาณ 220 ลบ.ม./วินาที และระบายลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า มาทาง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ในปริมาณ 260 ลบ.ม./วินาที

ซึ่งภาพรวมแล้ว มีน้ำจากจังหวัดสุโขทัย เข้ามาในพื้นที่ จ.พิษณุโลก แล้ว กว่า 150-200 ล้าน ลบ.ม. ทางชลประทานได้เร่งผันน้ำไปทางคลอง DR2.8 ไปลงสู่แม่น้ำน่าน และมีการระบายน้ำจากแม่น้ำยมเข้าสู่ทุ่งบางระกำโมเดลแล้วเกือบ 50 ล้าน ลบ.ม. หรือ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยที่บริเวณทุ่งหนองมน ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม ยังมีน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำยมสายเก่าเข้าพื้นที่ของโครงการบางระกำโมเดลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นบริเวณกว้าง และมีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่หมู่ 9 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม บางส่วน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ต้องส่งรถสุขาไปให้ประชาชนได้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว

2

สั่งสอบด่วน!! ผู้ใหญ่บ้านตบป้า ตบป้าวัย 59 ปีฟันร่วงเจ็บหนักต้องนอนรพ

จากกรณี ผู้ใหญ่บ้านที่พัทลุงถูกแจ้งความทำร้ายร่างกายป้าวัย 59 ปี ลูกบ้าน ฟันหัก ร่างกาย ใบหน้ามีบาดแผลฟกช้ำน่วมทั้งตัว เหตุจากนำฝูงวัวไปเลี้ยงในที่ดินแปลงเดียวกัน เจอกันตอนต้อนวัวกลับเลยมีเรื่อง ล่าสุดนายอำเภอตั้งกรรมการสอบแล้ว พร้อมนำกระเช้าไปเยี่ยมผู้เสียหายที่รพ. ลูกสาวยอมรับกลัว แต่จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 17.45 น วันที่ 27 สิงหาคม 2567 นางสาววรรณา ชูแย้ม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.15 ต.ตำนาน อ.เมือง จ.พัทลุง ได้นำนางเกษม ชัยสุริยา อายุ 59 ปี ผู้เป็นแม่ ส่งโรงพยาบาลพัทลุง

หลังได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย จนเลือดกบปาก ฟันหัก 1 ซี่ ร่างกายและใบหน้ามีบาดแผลฟกช้ำ น่วมไปทั้งตัว แพทย์ทำแผล ให้น้ำเกลือ และให้นอนรักษาตัวที่ รพ.พัทลุง นางสาววรรณา ลูกสาว เล่าว่าผู้ก่อเหตุคือ ผู้ใหญ่หมา หรือนายพงษ์พันธ์ เอียดหมุน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลท่าแค อ.เมืองพัทลุง โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่นางเกษม ผู้เป็นแม่ กำลังไปเอาฝูงวัวที่ล่ามไว้บนที่ดินของเพื่อนบ้านกลับเข้าคอก ได้เจอกับผู้ใหญ่บ้านกำลังไปต้อนฝูงวัวที่ปล่อยเลี้ยงไว้ในที่ดินแห่งเดียวกันกลับเข้าคอกเช่นกัน ขณะที่นางเกษมกำลังต้อนวัวอยู่นั้น ผู้ใหญ่บ้านได้เข้ามาต่อว่า

ทำนองไม่พอใจที่นางเกษม เอาฝูงวัวที่เลี้ยงมาปล่อยเลี้ยงในที่ดินแห่งเดียวกันและห้ามไม่ให้นางเกษม นำวัวมาเลี้ยงที่ดินดังกล่าวอีก “แต่แม่บอกว่า ขออนุญาตเจ้าของที่แล้ว จะเอายังไงก็ให้เจ้าของที่มาพูดกับเธอเอง และบอกด้วยว่าวัวของแม่มีไม่กี่ตัว พ่อของผู้ใหญ่บ้านมีวัวที่นำมาเลี้ยงในที่ดินมากกว่าอีก

และแม่ยืนยันจะเลี้ยงในที่ดินตรงนี้จนเกิดการโต้เถียงกัน ทำให้ผู้ใหญ่บ้านไม่พอใจ เดินเข้าไปทำร้ายร่างกายแม่ ทั้งเตะ ต่อย ตบและถีบ จนแม่ล้ม ต้องยกมือไหว้ ร้องขอชีวิต ขอว่าอย่าทำร้าย อย่าทำแบบนี้เพราะไม่ใช่ใครมาจากไหน คนในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นลูกบ้าน แต่ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ฟัง ส่วนเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย

หลังซ้อมแม่จนหนำใจ ยังขู่แม่ด้วยว่าหากเรื่องนี้ถึงโรงพัก กูจะเอาให้ถึงที่สุด” นางสาววรรณา ลูกสาว ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้เธอเองและครอบครัว รู้สึกหวาดกลัว เพราะผู้ใหญ่มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่ก็ขอแจ้งความ เพราะผู้ใหญ่บ้านทำเกินไป มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำและครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อประมาณเกือบ 10 ปี นางเกษม เคยถูกบิดาของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ตบหน้าหลังทะเลาะกันเรื่องวัวไปกินหญ้าที่แปลงของครอบครัวผู้ใหญ่บ้าน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ทั้งสองครอบครัวมีเรื่องระหองระแหงกันมาบ่อยครั้ง

จากนั้นเวลา 22.00 น. หลังจากแพทย์ให้นางเกษมนอนพักฟื้นที่ รพ.พัทลุง นางสาววรรณา ลูกสาว ได้เดินทางไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.วัลลภ ยั่งยืน ร้อยเวร สภ.เมือง พัทลุง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแม่ ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมนำตัวผู้เสียหายมาสอบสวนหลังจากแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล พร้อมจะเรียกผู้ใหญ่บ้านมาสอบสวนและตั้งข้อกล่าวหาต่อไป ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สอบถาม นางสุวรรณดี มากมณี อายุ 65 ปี ชาวบ้านตำบลท่าแค อ.เมืองพัทลุง เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ในเบื้องต้นเพิ่งทราบเรื่องจากข่าวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่ทราบรายละเอียด แต่ในฐานะเจ้าของที่ดินไม่เคยห้ามหรือร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านในเรื่องการเลี้ยงวัวในสวนยาง เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยได้รับผลกระทบอะไร เป็นไปได้มั้ย ที่ผู้ใหญ่บ้านจะหวงที่ดินไว้ให้พ่อเลี้ยงวัวจึงห้ามคนอื่นเลี้ยง ด้านนายภักดิ์ เอียดหมุน อายุ 70 ปี พ่อผู้ใหญ่หมา กล่าวว่า

เข้าใจว่าผู้เสียหายมีนิสัยอย่างไร กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าลูกชายคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เนื่องจากอีกฝ่ายคงจะด่าทอหรือต่อว่า ที่ลูกชายไปเป็นคนกลางให้ลูกบ้านที่ร้องขอให้ช่วยตักเตือนคนเลี้ยงวัว อย่าเอามาเลี้ยงในสวนยางพาราเพราะจะมีผลกระทบ แต่หลังจากเตือนคงจะมีการด่าทอ ลูกชายในฐานะผู้ใหญ่เลยทนไม่ไหว ขณะที่นางสาวศรอนงค์ สงสมพันธ์ นายอำเภอเมืองพัทลุง กล่าวว่าเบื้องต้นได้เรียกนายพงพันธ์หรือ ผู้ใหญ่หมา มาสอบถามเกี่ยวกับเหตุณ์กระทำความรุนแรงแล้ว

โดยผู้ใหญ่หมาบอกตนว่าเป็นแค่คนกลางไปคุยไม่ให้ผู้เสียหายนำวัวไปเลี้ยง แต่ถูกด่าทอเลยเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ลงมือทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ดี ในฐานะนายอำเภอได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้ใหญ่บ้านในการใช้ความรุนแรงและต้องระลึกอยู่เสมอว่าเราเป็นผู้ใหญ่บ้านเป็นนักปกครอง และหลังจากนี้จะได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 15 วัน เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ ตนต้องลงไปดูแลและเยียวยาเพื่อเป็นกำลังในการที่ถูกกระทำความรุนแรง

ต่อมาวันที่ 28 ส.ค. นางสาวศรอนงค์ สงสมพันธ์ นายอำเภอเมืองพัทลุง ได้นำกระเช้าเยี่ยมนางเกษมที่ รพ.พัทลุง เพื่อเป็นกำลังใจและดูช่องทางการในการช่วยเหลือเยียวยา โดยนางเกษม ยังคงมีอาการปวดตามร่างกาย ใบหน้าบวมและมีเลือดออกในปาก เนื่องจากฟันหักไป 1 ซี่ และอีก 2 ซี่โยก แพทย์ยังให้นอนรักษาตัวที่ โรงพยาบาลอีกระยะ ขณะที่นางสาววรรณา ชูแย้ม บุตรสาว บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัวยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ล่าสุดตอนนี้เธอเป็นห่วงแม่มาก เพราะอาการโดยรวมยังไม่ดีขึ้น

ทั้งมีความกังวลและหวาดกลัวในเรื่องความปลอดภัย นางสาววรรณา บอกกับทีมข่าวด้วยว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจจะเพราะปมเหตุความขัดแย้งของครอบครัวของเธอกับผู้ใหญ่บ้านที่มีมาตลอด และเหตุจูงใจอีกเรื่องน่าจะมาจากเรื่องที่ดินของป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ที่ผู้ใหญ่บ้านขอที่ดินไปเพื่อทำเป็นทางสาธารณะแต่ป้าไม่ยอมยกให้เป็นที่สาธารณะ แต่อนุญาตให้ทำถนนได้ เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใหญ่บ้านและอาจเป็นปมเหตุในเรื่องนี้ด้วย ส่วนแม่ปกติก็เป็นคนไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้วเพราะป่วยมีโรคประจำตัว ผู้ใหญ่บ้านไม่น่าจะทำกับครอบครัวของเธอแบบนี้เลย

2

ชาย-หญิงขี่ซาเล้ง เอาแมวใส่กระสอบทิ้งวัด เดอะโฮปสงขลาวอนเจ้าของช่วยหา ชี้ผิด

วงจรปิดจับภาพชัด ชาย-หญิงขี่ซาเล้ง เอาแมวใส่กระสอบทิ้งวัด เดอะโฮปสงขลาวอนเจ้าของช่วยหา ชี้ผิดกฎหมาย รับจะหาบ้านใหม่ให้ แต่ยังหาไม่เจอ

วันที่ 27 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.สงขลา รายงานว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดที่จับภาพชายและหญิง 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง คาดมีอาชีพเก็บของเก่า นำแมวใส่กระสอบไปทิ้งไว้หน้าประตูโรงเรียนเทศบาล 3 ติดกับวัดคอหงส์ เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ขณะนั้นมีฝูงสุนัขวิ่งไล่เห่าตามมาด้วย ทำให้แมวกลัววิ่งกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในโรงเรียน ซึ่งในโรงเรียนก็มีสุนัขอยู่เช่นกัน

ล่าสุดวันนี้นางสมคิด บุหงาชาติ ประธานเดอะโฮปสงขลา และนายวิทยา กลางวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 3 พร้อมครู ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่แมวถูกนำมาทิ้ง แต่ไม่พบแมวแม้แต่ตัวเดียว คาดว่าน่าจะหนีไปแล้ว เพราะกลัวสุนัขทำร้าย ผ่านมา 2 วันแล้ว ไม่รู้ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร

นายวิทยา ผอ.โรงเรียนเทศบาล 3 กล่าวว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนเอาสุนัขและแมวมาทิ้งไว้ในวัดคอหงส์และภายในโรงเรียนซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน จากภาพกล้องวงจรปิดน่าจะไม่ใช่ตัวเดียว เขานำใส่กระสอบมาทิ้งโดยไม่สนใจใยดีว่าจะเป็นหรือตาย อยากบอกว่าแม้วัดจะเป็นเขตอภัยทาน แต่ถ้าเอาหมาเอาแมวมาทิ้งไว้แบบนี้โอกาสตายสูง เพราะจะถูกสุนัขในวัดกัดตายหรือพิการ

ด้านนางสมคิด บุหงาชาติ ประธานเดอะโฮปสงขลา เปิดเผยว่า อยากให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่างสุดท้ายที่จะเอาหมาแมวไปทิ้งไว้ในวัด เพราะมีแค่ 2 ทาง คือตายกับพิการ จากการถูกสุนัขเจ้าถิ่นทำร้าย เจ้าของควรออกมาแสดงตัวเพื่อช่วยกันตามหาแมว เพราะแมวจะคุ้นเคยกับเจ้าของ ทางเดอะโฮปสงขลาจะหาบ้านใหม่ให้ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าแมวที่ถูกนำมาทิ้งเป็นหรือตายอย่างไร เพราะยังหาไม่พบ

2

กรมทางหลวง อัปเดต 16 เส้นทาง น้ำท่วม-ดินสไลด์ การจราจรผ่านไม่ได้

วันที่ 27 ส.ค.2567 กรมทางหลวง แจ้งว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 ในช่วงวันที่ 27- 28 ส.ค. 2567 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

กรมทางหลวงจึงได้เตรียมพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัย จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2567 พบว่าทางหลวงถูกน้ำท่วมจำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่ จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดสุโขทัย (7 สายทาง จำนวน 18 แห่ง) การจราจรผ่านไม่ได้ 16 แห่ง ดังนี้
จังหวัดเชียงราย 7 แห่ง

1. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 46+430 – 46+460 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้ผิวทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน
2. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 49+100 – 49+150 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้ผิวทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

3. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 56+040 – 56+230 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน
4. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 80+265 – 80+400 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

5. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 80+185 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุสะพานขาด ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน
6. ทางหลวงหมายเลข 1155 ทรายกาด – บ้านลุง ช่วง กม.ที่ 27+400 – 27+500 ในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

7. ทางหลวงหมายเลข 1155 ทรายกาด – บ้านลุง ช่วง กม.ที่ 37+350 – 37+650 ในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

จังหวัดแพร่ 1 แห่ง
1. ทางหลวงหมายเลข 1125 นาปลากั้ง – วังชิ้น ช่วง กม.ที่ 11+650 – 13+400 ในพื้นที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ระดับน้ำสูง 90 ซม. ไม่มีเส้นเลี่ยงทางทดแทน

จังหวัดสุโขทัย 8 แห่ง
1. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 5+454 – 5+630 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 50 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
2. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 10+170 – 10+350 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 80 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
3. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 11+411 – 11+580 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 60 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
4. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 12+300 – 12+450 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 55 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
5. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 12+790 – 13+175 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 45 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
6. ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน – วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 12+725 – 13+550 ในพื้นที่อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 45 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงแยกเกาะวงษ์เกียรติ์ และทางเลี่ยงแยก อบต.วังทอง
7. ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน – วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 23+400 – 24+100 ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 100 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงสี่แยกท่าทองและสามแยกวังไม้ขอน เข้า ทล.101
8. ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน – วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 25+800 – 27+700 ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 100 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงสี่แยกท่าทองและสามแยกวังไม้ขอน เข้า ทล.101ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)

2

Popular Posts

My Favorites

จะรับผิดชอบยังไง! สาวสระแก้วสอบติดครูที่ 1 ผ่านไป 3 วันชื่อหาย ลาออกจากที่ทำงาน คืนหอพัก เตรียมตัวกลับบ้าน สุดท้ายใจสลาย

0
13 ก.ย. จากกรณี สาวโพสต์ขอความเป็นธรรม สอบติดพนักงานราชการ อันดับ 1 แต่ชื่อหาย ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว แถลงการณ์ เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่ง ครูผู้สอนแล้ว แถลงการณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ตามที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน...