จากกรณีที่ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเบอร์ 1 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ สมัยที่ 2 ของตัวเอง และยังเป็นเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้นั้น

ทำให้แฟนๆชาวไทย ต่างออกมาโพสต์แสดงความยินดี เช่นผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ออกมาโพสต์ว่า #เหรียญทองเหรียญแรกของไทย วินาทีประวัติศาสตร์ และนับเป็นวินาทีแห่งความสุข หลังจาก เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เอาชนะ กั๊วจิง จากจีน ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เข้ามาคอมเมนต์ดูถูก ฮีโร่เหรียญทองของประเทศไทย ทำเอาทัวร์ชาวไทย ต่างพร้อมใจบุกเฟซของชายรายนี้ ต้นโพสต์คลิกที่นี่

ต้นโพสต์คลิกที่นี่

เรียบเรียงโดย mumkhao

เรียกได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั่วทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ สำหรับ เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาตไทย หลังจากที่เธอนั้นได้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส มาครองได้สำเร็จ

และถือเป็นประวัติศาสตร์ที่เธอสามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ 3 สมัยติดต่อกันเลยทีเดียว

ล่าสุดวันนี้ 13 ส.ค. 67 เทนนิส ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า

รู้สึกดีใจมากๆที่ได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีใครมารับ ได้รับผลตอบแทนจนรู้สึกหายเหนื่อย

ซึ่ง เทนนิส ได้พูดถึงจังหวะที่ก้มกราบ โค้ชเช ทำเพราะอยากขอบคุณโค้ชเชที่ทุ่มเทมาให้ตนโดยตลอด ต่างคนต่างเชื่อใจกันทั้งตอนฝึกซ้อมและลงแข่งขัน

ตอนนี้หลังจบการแข่งขันก็ไม่มีอาการบาดเจ็บมากขึ้น เพราะอาการบาดเจ็บของตนเป็นการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง

ตนยอมทนไม่ผ่าตัดเพราะต้องการแข่งโอลิมปิกทำหน้าที่ให้เสร็จก่อน หลังจากนี้คงไปเช็กร่างกายอย่างละเอียด

ส่วนอนาคตต่อจากนี้ยอมรับว่าอยากเป็นดารา สนใจงานในวงการบันเทิงมากๆ ถ้าอยากจะเล่นมากที่สุดก็คงจะเป็นซิทคอม เพราะเป็นคนตลก

ยืนยันว่า จะอำลาจากวงการเทควันโด หนังสือเล่มนี้มันจบอย่างสวยงามที่สุดแล้ว ตนก็เต็มที่ที่สุดในการเขียนหน้านี้

เล่มที่ชื่อว่า เทควันโด มันเต็มที่มากๆ ตนใส่สุดหมดแม็กซ์ตั้งแต่การฝึกซ้อม ตอนนี้มันสมบูรณ์ มันสำเร็จทุกอย่างแล้ว ตอนจบมันสวยงาม ไม่มีอะไรจะสวยงามไปมากกว่านี้

“วิว” เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักกีฬาเทควันโดหญิง เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกีฬาเทควันโดในบ้านเรา ซึ่งนับจนถึงตอนนี้ผ่านมานานถึง 20 ปี แต่ชื่อของเธอก็ยังคงเป็นที่กล่าวถึง เพราะเธอคือเจ้าของเหรียญรางวัลแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้จากกีฬาเทควันโด ในโอลิมปิก

ซึ่งในครั้งนั้น จอมเตะสาวดาวรุ่งในวัยเพียง 19 ปี ภายใต้การดูแลของ “โค้ชเช” ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย สามารถกรุยทางเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ในรุ่น 49 กก. ก่อนหยิบเหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬา โอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงเอเธนส์, ประเทศกรีซ เมื่อปี 2004

ล่าสุด อดีตจอมเตะสาววัย 39 ปี ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวว่า “20 ปีที่แล้ว วันนี้ในอดีต วันที่ 26 ส.ค. 2547 ครั้งแรกกับโอลิมปิก เอเธนส์ ปี 2004 ที่จารึกคำว่า ไทยแลนด์ ไว้ในประวัติศาสตร์”

“ไม่ใช่ทำให้ดีที่สุดทุกวัน แต่ทำให้เกินขีดความสามารถทุกวัน มันก็นำพาเราไปได้ไกลมากๆ จากเด็กที่ต้องนั่งรถเมล์สาย 8 ไปซื้อชุดเทควันโดมือสองกับแม่แถวคลองถม ราคา 100 บาท แข่งครั้งแรกสนับแข้งขาก็ไม่มีใส่เงินที่จะไปจ่ายค่าเรียนก็ไม่มี ได้ความเมตตาจากอาจารย์หลายๆท่านให้เรียนฟรี”

“ขอบคุณทุกประสบการณ์ทุกๆ คนที่อยู่ในช่วงชีวิต ที่คอยสนับสนุน และเห็นศักยภาพ เชื่อมั่นในตัววิว เพื่อนๆ ร่วมทีม โดยเฉพาะช่วงตอนฝึกซ้อมที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราที่แข็งแกร่ง ขอขอบคุณโค้ชเช ที่เคี่ยวเข็ญ ดึงศักยภาพจนเป็น วิว เยาวภา ตัวแทนประเทศไทย ที่ยืนอยู่บนโพเดี้ยมในหลายๆ ครั้ง”

“ขอบคุณพ่อ แม่ ที่คอย สนับสนุนทุกสิ่งอย่าง เกินกว่าจะบรรยายมาเป็นคำพูดหมด เพราะมันผ่านมาเยอะจริงๆ”

“สุดท้าย ขอบคุณตัวเองที่อดทนได้ ทำจนสุด และคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป เราจะไม่เสียดายและเสียใจ และภาคภูมิใจที่ประกายไฟเล็กๆในวันนั้น จุดติดขึ้นและกลายเป็นกองเพลิงที่ลุกโชติช่วงชัชวาลย์ต่อไป ต่อไป และ ต่อ ต่อ ไป ขอความสำเร็จ จงอยู่กับผู้ที่มีความเพียร”

ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการลุ้นระทึกของคนไทยทั้งประเทศ ที่ส่งใจไปเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทย ให้คว้าเหรียญกลับมาได้สำเร็จ

นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไทยส่งนักกีฬาลงแข่งโอลิมปิก 18 สมัย รวมทั้งหมด 638 คน คว้า 10 ทอง 8 เงิน 17 ทองแดง รวม 35 เหรียญ จาก 3 ชนิดกีฬาคือ ยกน้ำหนัก 5 ทอง 2 เงิน 7 ทองแดง, มวย 4 ทอง 4 เงิน 7 ทองแดง และเทควันโด 1 ทอง 2 เงิน 3 เหรียญทองแดง เป็นอันดับที่ 57 เมื่อรวมกับทุกชาติ

และหนึ่งในหน้าประวัติศาตร์โอลิมปิกชื่อของ “อุดมพร พลศักดิ์” หรือ น้องอร สู้โว้ย ถูกจารึกไว้ในฐานะนักกีฬาหญิงคนแรกของไทย ที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 28 ณ กรุงเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่นไม่เกิน 53 กก. โดยยกในท่าสแนชได้ 97.5 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์กได้ 125 กก. รวม 222.5 กก. โดยเป็นการทำลายสถิติโอลิมปิก ในท่าคลีนแอนด์เจิร์กของประเภทนี้ด้วย

ก่อนขึ้นยกน้ำหนักและคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน น้องอรตะโกนคำว่า “สู้โว้ย” ออกมาดังๆ เพื่อปลุกขวัญกำลังใจ จนกลายเป็นฉายาประจำตัว และเป็นวลีติดปากคนไทยมาจนปัจจุบัน ซึ่งเวลาผ่านมา 20 ปีเต็มพอดิบพอดี

อร อุดมพร พลศักดิ์ สมรสกับ นายชัยรัตน์ ล้อประกานต์สิทธิ์ อดีตนักกีฬายกน้ำหนัก เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ปัจจุบัน อร รับราชการทหาร ยศพันโท ในตำแหน่งนายทหาร แผนกประวัติบำเหน็จบำนาญ ช่วยราชการกองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 21 ค่ายสุรนารี นครราชสีมา และทำธุรกิจหอพักอยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดนครราชสีมา

ภาพล่าสุด น้องอร ในวันนั้น ที่กลายมาเป็น เสธ.อร ในวันนี้ ปรากฎตัวในคลิปของร้าน แซ่บทีมชาติ Zaapteamchad ร้านประจำของเหล่านักกีฬา ตั้งอยู่บริเวณการกีฬาแห่งประเทศไทย สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเธอได้มาร่วมกิจกรรมของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่จัดขึ้นเพื่อส่งกำลังใจทัพนักกีฬาสู้ศึกมหกรรมกีฬาระดับโลก “โอลิมปิกเกมส์ 2024” ผ่านโครงการ “ไทยสู้โว้ย” เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนที่เห็นคลิปตอนแรกบอกว่า จำพี่อรไม่ได้ ด้วยรูปลักษณ์และรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากภาพจำในอดีต แต่พอได้ยินเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ก็คุ้นเคยทันที เพราะ 20 ปีที่แล้ว เสียงนี้คือความสุขของคนไทยทั้งประเทศ

ถือเป็นอีกหนึ่งสาวดีกรีนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จนกลายเป็นฮีโร่ และเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ

ซึ่งนอกจากเทนนิสจะเป็นนักกีฬาเทควันโดแล้ว เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศตั้งแต่ปี 2559  จากการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในฐานะนักกีฬาเทควันโด

ก่อนจะถูกปรับเลื่อนยศเป็นเรืออากาศตรีหญิง จากการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 นั่นเอง

ล่าสุด ในปี 2024 หรือปี 2567 เทนนิส พาณิภัค ได้รับการประดับยศเรืออากาศโทหญิง อย่างเป็นทางการ

อยากรู้มั้ย ยศเรืออากาศโทหญิง เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หากเทียบกับอัตราเงินเดือนแล้วจะได้รับเท่าไหร่

ตามพระราชบัญญัติระเบียนข้าราชการทหาร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2558 ระบุ นายทหารสัญญาบัตรยศร้อยตรี

เรือตรี เรืออากาศตรี ถึงร้อยเอก เรือเอก เรืออากาศเอก ให้ได้รับเงินเดือนระดับ น.1

โดยอัตราบัญชีเงินเดือนข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ระบุว่า

นายทหารสัญญาบัตรยศดังกล่าวจะได้รับเงินเดือนระดับ น.1 ซึ่งมีอัตราเงินเดือนที่แบ่งตามขั้นตั้งแต่ 6,470-38,750 บาท

ขอบคุณข้อมูล: panipak2540

ความเคลื่อนไหวก่อนไฟต์ที่หลายคนตั้งตารอ เมื่อ บี จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง กำปั้นความหวังชาวไทย จะขึ้นสังเวียนดวลเดือดกับ อิมาน เคลิฟ กำปั้นจากประเทศแอลจีเรีย ที่มีกระแสดราม่าการตรวจเพศ ที่มีฮอร์โมนชายสูงกว่ากำหนด ในศึกมวยสากล รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง รอบรองชนะเลิศ โอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คืนนี้ 03.34 น. ตามเวลาประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ได้เงินแน่ ๆ แล้ว 4,800,000 ในกรณีที่ต้องการแบบแบ่งจ่าย (รับงวดเดียว 4 ล้านบาทถ้วน) บาท จากการการันตี มีเหรียญทองแดง ติดมือเป็นอย่างน้อย จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากในกรณีที่ สามารถล้ม อิมาน เคลิฟ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ยอดจะถูกขยับไปที่ 7.2 ล้านบาท สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ประธานที่ปรึกษา สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จะมอบเงินให้อีก 1 ล้านบาท รวมถึง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ระบุว่า บริษัท บางจาก จะให้อีก 2 ล้านบาท ยอดรวมจะไปแตะหลัก 10.2 ล้านบาท หากชนะนักชกแอลจีเรีย เข้ารอบชิงเหรียญทองได้สำเร็จ

เปิดเงินรางวัล “เวฟ” วีรพล นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ได้รับแล้วเท่าไหร่ หลังพลิกคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกได้ เผย นี่แค่เบื้องต้น คาดได้เพิ่มอีกหลังจากนี้

วันที่ 9 ส.ค.2567 ภายหลังจาก “เวฟ” วีรพล วิชุมา จอมพลังหนุ่มวัย 19 ปี นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าเหรียญเงิน ในรุ่น 73 กิโลกรัมชาย กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ได้สำเร็จไปแล้วนั้น

สำหรับเงินรางวัลที่ เวฟ วีรพล จะได้รับหลังคว้าเหรียญเงินได้ แบ่งเป็น เงินรางวัลจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NDSF) การกีฬาแห่งประเทศไทย 7.2 ล้านบาท (จ่ายเป็นเงินก้อนอัตราร้อยละ 50 ส่วนอีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 4 ปี)

เปิดเงินรางวัล “เวฟ” วีรพล นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ได้รับแล้วเท่าไหร่ หลังพลิกคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกได้ เผย นี่แค่เบื้องต้น คาดได้เพิ่มอีกหลังจากนี้

นอกจากนี้ ยังมีเงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 2.4 ล้านบาท และเงินรางวัลจาก บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) 5 แสนบาท รวมทั้งสิ้นตอนนี้วีรพลได้เงินรางวัลไปแล้ว 10.1 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงเงินรางวัลเบื้องต้นจากรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีเงินรางวัลจากหน่วยงานอื่น ๆ หรือภาคเอกชนต่าง ๆ ที่จะมอบให้นักกีฬาเพิ่มอีกหลังจากนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในฐานะฮีโร่ของประเทศไทยต่อไป

อ่านข่าว : วีรพล รับไม่รู้ทุบสถิติเยาวชนโลก – เผยมีปัญหาด้านกำลังใจ เหรียญเงินคือของขวัญ อ่านข่าว : ภาพชุดปารีสเกมส์ : วีรพล วิชุมา คว้าเหรียญเงิน ยกน้ำหนัก โอลิมปิกเกมส์

เปิดเงินเดือน โค้ชเช ผู้ปั้นเทควันโดทีมชาติไทย จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในโอลิมปิก จาก 2 เหรียญทองของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเหรียญทองเทควันโด ทีมชาติไทย สำหรับ โค้ชเช หรือ ชัชชัย เช ที่ทำให้ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาได้ถึง 2 สมัย

สำหรับ โค้ชเช เริ่มเป็นโค้ชเทควันโดให้กับทีมชาติบาห์เรน ในช่วงปี 2000 แต่เนื่องจากประสบปัญหาสภาพอากาศทำให้ต้องกลับบ้านเกิด ก่อนจะได้รับการติดต่อจากสหพันธ์เทควันโดสากลให้มารับหน้าที่โค้ชทีมชาติไทย แทนโค้ชคนเดิมที่ลาออกไป

ก่อนที่ในวันที่ 1 ก.พ.2545 โค้ชเช จะเริ่มบทบาทเป็นโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ซึ่งเริ่มวางรากฐาน และค่อยๆพัฒนานักกีฬาทีมชาติไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก เริ่มจาก “วิว” เยาวภา บุรพลชัย ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการเทควันโดไทย หลังสามารถคว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ แก่โค้ชเช

ก่อนที่ทีมชาติจะประสบความสำเร็จทุกครั้งในการแข่งขันโอลิมปิก โดยตามมาด้วย “สอง” บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินโอลิมปิก 2008 ที่จีน “เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2012 ที่สหราชอาณาจักร “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ โอลิมปิก 2016 ที่บราซิล

ก่อนที่จะประสบความสำเร็จสูงสุดในโอลิมปิก 2020 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหรียญทองจาก เทนนิส-พาณิภัค และล่าสุดอีกหนึ่งเหรียญทองจากน้องเทนนิส ในโอลิมปิก ปารีส 2024

สำหรับเงินเดือนของ โค้ชเช การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำหนดหลักเกณฑ์เงินเดือนของผู้ฝึกสอนไว้ดังนี้

ผู้ฝึกสอนต่างประเทศ ระดับผู้เชี่ยวชาญ

ผู้ฝึกสอนต่างประเทศ ระดับผู้เชี่ยวชาญ ได้รับ 100,000 – 150,000 บาทต่อเดือน ระดับสูง 60,000 – 100,000 บาทต่อเดือน ระดับทั่วไป ไม่เกิน 60,000 บาทต่อเดือน

โดย โค้ชเช เป็นผู้ฝึกสอนต่างประเทศ ระดับผู้เชี่ยวชาญ เรตเงินเดือนจะอยู่ที่ 100,000 – 150,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้สำหรับ ผู้ฝึกสอนไทย

ระดับ 3 ผู้มีเงินเดือนประจำ ได้รับ 40,000 บาทต่อเดือน ผู้ไม่มีเงินเดือนประจำ 50,000 บาทต่อเดือน ระดับ 2 ผู้มีเงินเดือนประจำ 30,000 บาทต่อเดือน ผู้ไม่มีเงินเดือนประจำ 40,000 บาทต่อเดือน ระดับ 1 ผู้มีเงินเดือนประจำ 20,000 บาทต่อเดือน ผู้ไม่มีเงินเดือนประจำ 30,000 บาทต่อเดือน

p>สืบนครบาล บุกรวบ ฟิลม์ อดีตนักบอลเยาวชนทีมชาติ ผันตัวเป็นหัวจ่ายย่านดินแดง ใช้เวลาว่างจากการซ้อม ขนยาบิ๊กล็อต สารภาพาอ้างต้นสังกัดไม่จ่ายค่าตัว

วันที่ 6 ส.ค.2567 เพจ สืบนครบาล IDMB รายงานว่า สืบนครบาล สืบ น.1 สน.ดินแดง ส่งทีมแกะรอยรวบ ‘ฟิลม์’ อดีตนักบอลเยาวชนทีมชาติ ที่ผันตัวเป็นหัวจ่ายชุมชนย่านดินแดง ใช้เวลาว่างจากการฝึกซ้อม ‘ขนยาบิ๊กล็อต’เก็บไว้ในห้องเช่าย่านดินแดง

ทีมสารวัตรแจ๊ะ และ ทีมสารวัตรอาท สืบ น.1 บุกจับกุมตัวไว้ได้ จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ อ้างว่าต้นสังกัดไม่จ่ายเงินค่าตัว ทำให้ต้องเข้าสู่เส้นทางสายดาร์ก

เบื้องต้น น.1 สั่งผู้การจ๋อ ผู้การ น.1 ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอย่างเด็ดขาด

การแข่งขันแบดมินตัน โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปอร์ เดอ ลา ชาแปลล์ อารีนา กรุงปารีส จบวันที่ 1 ส.ค.67 นักแบดมินตันลงแข่ง 3 ประเภท ชายเดี่ยว รอบ 16 คนสุดท้าย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 8 ของโลก ชนะ เคนตะ นิชิโมโตะ มือ 10 ของโลก 2-1 เกม

ชายคู่ รอบควอเตอร์ไฟนัล “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน ลงเล่นรอบ 8 คู่สุดท้าย แพ้ ลีหยาง กับ หวังชิหลิน จากไต้หวัน 0-2 เกม

และหญิงเดี่ยวรอบ 16 คนสุดท้าย “เม” ศุภนิดา เกตุทอง แพ้ อากาเนะ ยามากูชิ 0-2 เกม

ทำให้ทีมแบดมินตันไทย จาก 9 คน ล่าสุดเหลืออยู่ในเส้นทาง 2 คน โปรแกรมดังนี้

ชายเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้าย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 8 ของโลก พบ ฉือ ยู่ ฉี มือ 1 โลก ชาวจีน แข่งวันที่ 2 ส.ค.67 เวลาไทย 20.00 น.

หญิงเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้าย “เมย์” รัชนก อินทนนท์ พบ เกรกอเรีย ตุนจุง มือ 9 โลก ที่ชนะ คิม กาอึน จากเกาหลีใต้ 2-1 เกม 21-4, 8-21, 23-21

โดย เมย์ กับ ตุนจุง แข่งวันที่ 3 ส.ค. เริ่ม 13.30 น

คู่นี้เจอกัน 9 ครั้ง เมย์ สถิติเหนือกว่าเยอะ ชนะ 8 แพ้ 1 โดยโอลิมปิกที่โตเกียว ก็พบกัน และ รัชนก ชนะไปได้

สำหรับแบดมินตันไทย ไม่เคยได้เหรียญจากโอลิมปิกเกมส์