บันเทิง

Home บันเทิง Page 135

“แอน อรดี” เคลียร์ดราม่าเป็นหมอลำโตนฮ้าน! เผยเรื่องในอดีตที่พูดให้คนอื่นฟังไม่ได้

เปิดเส้นทางหมอลำสุดฮอต “ณิชนันทน์ อินทรสอน” หรือ “แอน อรดี” กว่าจะโด่งดังอย่างทุกวันนี้ เคยด้อยค่าน้อยใจตัวเองจนไม่อยากร้องเพลง เกือบเป็นโรคซึมเศร้า แทบไปต่อกับชีวิตไม่ได้ พร้อมเคลียร์ดราม่าเป็นหมอลำโตนฮ้าน! ในรายการ “เบิ้ล AM”

แอน อรดี

ปีนี้ได้ยินข่าวว่า พี่แอน มีการรับเลี้ยงลูกบุยธรรมด้วย เป็นมายังไงครับ น้องเป็นฝาแฝดด้วย ?แอน อรดี : ใช่แล้วค่ะ ก็เป็นเรื่องที่แปลก คืออยู่ดีๆ คุณยายกับคุณแม่เขาพามาเจอพี่บอยก่อน แล้วก็บอกว่าครอบครัวเลี้ยงไม่ไหวช่วยรับน้องไปอุปการะได้ไหม คือด้วยความที่เขามีลูก 6 คน คนแรกมีคนอุปการะไปแล้ว ก็เหลือ 5 คน แต่คุณแม่เขาก็คอยมาถามสารทุกข์สุกดิบตลอดนะคะ

โตมาเราก็ไม่ได้ปิดกั้นก็จะบอกเขาว่านี้คือคุณแม่ ?แอน อรดี : ใช่ค่ะ ต้องบอกค่ะ ต้องให้เขารู้จักกตัญญู

ชื่อน้องพลอยและน้องเพชร มีแววที่จะเป็นนักร้องฝาแฝดสาวในอนาคตไหม ?แอน อรดี : แน่นอนค่ะ ดิฉันจะตั้งใจปลุกปั้นเป็นอย่างดี ตอนนี้ 1 ขวบ 4 เดือน

แอน อรดี

จุดเริ่มต้นของการเป็นหมอลำ ?แอน อรดี : คือเกิดจากความจำเป็น คือพ่อกับแม่แยกทางกัน เราก็ต้องหาค่าเทอมให้น้อง แค่คิดว่าหมอลำสามารถทำให้เรามีรายได้ ก็เลยมาเข้าประถมบันเทิงศิลป์ ทุกๆเย็นคุณพ่อ ส. จะมีสมุดกลอนลำ เอาไปท่องเด้อตอนเย็นก็มาร้องให้พ่อฟัง ก็เริ่มจากนางเอกน้อยไปก่อน เดินตาม แล้วก็ได้ร้องเพลงเต้ยบ้าง ร้องเพลงหมอลำบ้าง แต่ว่ายังไม่ได้ลำเรื่องอะไร ฝึกดูท่าทาง ดูเทคนิค ดูการพูดอะไรไปก่อน ช่วงนั้นก็อยู่ประมาณ ม.4 – ม.5 จากนั้นก็ไปศิลปินภูไท แล้วก็กลับไปประถมบันเทิงศิลป์อีกรอบหนึ่ง แล้วก็มาสาวน้อยเพชรบ้านแพง และหมอลำใจเกินร้อย

กลายเป็นกระแสไวรัลเพลงเก่ากลับมาดังใหม่นั่นก็คือเพลง “ลืมฮูดซิบ”แอน อรดี : เป็นเพลงของน้อง แรนดี้ อีสาน ค่ะ ตอนที่ได้ยินเพลงนี้ทีแรกก็ยังไม่รู้จักน้อง แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเราเป็นนักจัดรายการวิทยุ แล้วช่วงนั้นเราก็เปิดเพลงน้องซึ่งดังมากในสมัยนั้น คือตอนนั้นอายุ 13 ใช่ไหม เลยรู้สึกว่าเด็กคนนี้ทำไมร้องเพลงเก่งจัง เพลงก็ดีก็รู้สึกชอบตั้งแต่ตอนนั้น ในปัจจุบันเราก็เลยคิดว่าเพลงนี้น่าจะเอากลับมาเล่น เพราะดนตรีดีและเข้าใจง่ายคิดแค่นี้เลย

มีช่วงหนึ่งที่ แอน อรดี เกือบเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากจะทำอะไรต่อแล้ว ไม่อยากร้องเพลงด้วยซ้ำ ?แอน อรดี : ไม่รู้ว่าชีวิตต้องการอะไร เราก็เจอเหตุการณ์ดราม่ามาก็เยอะ คอมเมนต์อะไรก็เยอะทำไมช่วงนั้นอ่อนแอจังเลย จิตใจไม่แข็งแรง เหมือนเดิมหรือว่าเราพักผ่อนน้อย หรือทำงานเยอะไป พยายามคิดแต่มันไม่มีคำตอบ แอนเคยทักไปหาเบิ้ลเพื่อที่จะอยากรู้ว่าคำถามที่อยู่ในใจมันคืออะไร เราอยากได้ยินจากคนที่เขาประสบความสำเร็จแล้วเขาผ่านมาได้ยังไง เราก็เลือกที่จะทักหาเบิ้ล โทรหาเบิ้ลว่าถ้าแอนคิดอย่างนี้แสดงว่าเราเป็นยังไงอยากฟังมุมมองของเบิ้ลด้วย

แอน อรดี

อะไรเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้กลับมามีความสุขแล้วก็เดินหน้าในการลุยงานได้ดีอย่างปัจจุบัน ?แอน อรดี : เวลาที่มันเป็นสำคัญเราก็จะเห็นแฟนคลับ เห็นทุกคนมาอยู่รอบข้างเรา เราก็เลยรู้สึกว่านี่ไงมันคือสิ่งที่ดีแล้วไง แล้วยังจะต้องถามอะไร กลัวอะไรอีก เหมือนกับการคุยกับตัวเองเรื่อยๆ แล้วก็สะกดจิตตัวเองว่าเธอต้องมีความสุขสิทุกคนอยากมาอยู่ตรงนี้นะ ทำไมเธอต้องน้อยใจตัวเอง ด้อยค่าตัวเอง ก็เลยเริ่มหาอะไรที่สนุกสนานมาดู อะไรขำๆ ก็ดู จนได้มีโอกาสคุยกับพี่บอยตรงๆ ตอนแรกแกก็ว่าเราเป็นบ้าหรือเปล่า คือแกเป็นคนที่ไม่เชื่อว่าโรคซึมเศร้ามีจริง แกเป็นคนที่ค่อนข้างจัดการกับตัวเองได้ดี แกก็อยากให้เราเข้มแข็งไปด้วยกัน

มีดราม่าเรื่องหนึ่งที่อยากจะเคลียร์ใจด้วยก็คือถูกตราหน้าว่าเป็นหมอลำโตนฮ้าน คืออะไร ?แอน อรดี : ปกติหมอลำเขาจะอยู่จนจบฤดูกาล ฤดูกาลหนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 9 เดือน ตั้งแต่กันยายนจนถึงพฤษภาคม คำนี้จะเป็นคำที่ติดอยู่ในใจแอนมาตลอด ทุกครั้งที่เราจะย้าย ทุกครั้งที่เราจะปรับเปลี่ยน แอนจะโดนด่าตลอด จะมีดราม่าตลอด ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะหายไปจากแอนเมื่อไหร่ จริงๆ แล้วช่วงปีแรกตั้งแต่แอนไปอยู่ที่ประถมบันเทิงศิลป์ช่วงหนึ่งแอนได้กลับมาเรียน มาประกวดชิงช้าสวรรค์ เรียนจบเข้ามหาวิทยาลัย

สักพักหนึ่งครอบครัวแยกย้ายก็ต้องไปหาเงิน เข้าหมอลำอีกครั้งหนึ่ง ก็คือกลับไปศิลปินภูไท คุณพ่อวีให้โอกาสให้ชีวิตใหม่กับแอนเลยก็อยู่ได้ประมาณ 2-3 ปีก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องออกจากวงกะทันหันซึ่งถือว่าเป็นปีที่พีคของแอนมาก ปีนั้นสังข์ทองรจนาดังมาก งานเข้าเยอะมาก แต่เนื่องจากเราเองมีปัญหาส่วนตัว

ซึ่งจริงๆแล้วแอนคบกับลูกชายพ่อวี แล้วตอนนั้นมันเปิดเผยไม่ได้ก็คบกันตามประสาวัยรุ่น ตอนนั้นเราก็อายุประมาณ 22-23 แล้ว แล้วก็รู้สึกว่ามันไปต่อกันไม่ได้ เราเองก็เหมือนหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวเขาไปแล้ว ถ้าเราจะออกย้ายไปข้างนอกคนในวงก็จะมองยังไง

มันทำตัวลำบาก อึดอัดใจ เป็นเรื่องที่เราพูดให้คนอื่นฟังไม่ได้ว่าเราคบกัน ทำให้แอนปรึกษาคุยกับใครไม่ได้คือนอนร้องไห้ทุกคนด้วยความเป็นเด็กก็เลยเก็บกระเป๋าไม่อยู่แล้วหนีออกจากบ้าน มีผลกระทบเพราะเราเป็นนางเอก เขาก็หาคนเข้ามาไม่ทันแล้วก็เจ้าภาพหลายๆ งานก็ไม่พอใจทำไมไม่ใช่เรา ซึ่งเขาเองก็ได้รับผลกระทบเยอะมาก เชื่อไหมว่าปรากฎการณ์ในช่วงนั้นมันทำให้กลุ่มหมอลำตั้งกฎขึ้นมาว่าเราควรที่จะมีการเซ็นสัญญาให้กับพระเอกนางเอกเพื่อจะให้อยู่จบฤดูกาลเพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้

แอน อรดี

ช่วงนั้นปิดโทรศัพท์ 7 วันไปอยู่กับคุณย่าที่ขอนแก่น พอเริ่มรู้สึกว่าแข็งแรงก็โทรไปหาแม่อิ๋ว พ่อดาบ ส. ว่าหนูอยากทำงานเพราะหนูไม่มีตังค์เลย แม่รับหนูได้ไหม เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวแม่เคลียร์ให้ แม่อย่าว่าหนูนะเพราะหนูไม่รู้จะทำยังไงจริงๆแล้ว แต่หนูขอโทษที่ทำให้ทุกคนลำบากใจ เราก็กลับไปอยู่ประถมบันเทิงศิลป์วันที่เรามาขึ้นเวทีครั้งแรกก็ลุ้นว่าคนจะพูดยังไง แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าฟีคแบคทางศิลปินภูไทเขาไม่โอเคว่าให้เราสารพัดว่า คอยดูสิจะอยู่ได้นานสักเท่าไร สักหน่อยมันก็โตนฮ้านอีก คือทุกอย่างเป็นการเริ่มต้นใหม่ก็จริง

แต่มันก็เป็นอะไรที่ยังติดอยู่ในใจ เราก็ทำงานแบบไม่มีความสุข นั่งทบทวนแล้วก็ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าถ้าได้มีโอกาสแก้ตัวจะไม่ทำแบบนั้นอีก จะเป็นคนดีทำที่ถูกต้อง จะไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีก แล้วถ้าเกิดว่าเราได้มีโอกาสเติบโตพัฒนาขึ้น มีโอกาสสอนน้องๆ เราจะแนะนำไม่ให้คนอื่นทำเหมือนเรา จะเป็นกระบอกเสียงในเรื่องนี้ อันนี้คือสิ่งที่ตั้งใจไว้ ก็พยายามพิสูจน์ตัวเองให้คนเหล่านั้นเขาได้เห็นว่าเราตั้งใจนะ

“เอสเธอร์” ยอมคืนดี “เคน ภูภูมิ” สงสัยเปลี่ยนตัวเองได้จริงมั้ย แสดงละครอยู่หรือเปล่า

เป็นอีกคู่รักวงการบันเทิงที่หลายคนช่วยกันลุ้น สำหรับ ”เอสเธอร์ – เคน ภูภูมิ“ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวยุติความสัมพันธ์ พร้อมกับที่หนุ่ม “เคน ภูภูมิ” เดินหน้าขอจีบใหม่อีกครั้ง วันนี้ ”นิกกี้ ณ ฉัตร“ บุกไปหานางเอกสาว ”เอสเธอร์“ ถึงร้าน “สุปรีย์” ที่ถือเป็นธุรกิจครอบครัว และพากันทำกิจกรรมตลอดวัน พร้อมล้วงความรักเรื่องหัวใจ “คบกันมา 8 ปีมีหึงหวงมั้ย?” เอสเธอร์เผย “ช่วงแรกที่คบมีบ้าง แต่เข้าใจงาน ก็จะเลือกไม่ดูผลงานกัน”

367a8894.mov.01_39_47_04.stil

นิกกี้ถามแทนใจผู้ชาย “มีเช็กมือถือกันมั้ย?” เอสเธอร์ยอมรับว่าเช็กรู้รหัสกันหมด เมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เคนเดินหน้าขอจีบใหม่ “เขาจีบใหม่นานมั้ย หรือจริงๆ ก็รอเค้าอยู่” เอสเธอร์รับ “ไม่นาน เราแค่อยากให้เขาปรับปรุงนิสัย ให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวเขา ตัวเราด้วย อย่างของตัวเองคือ นิ่ง อยู่ด้วยไม่สนุก”

367a8901.mov.02_28_12_18.stil

เคนจีบใหม่ยังไง? เอสเธอร์บอกว่า “จากเป็นคนไม่เคยถามไถ่ ก็เห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น ไม่ใช่แค่กับเรา ครอบครัวเรา คนรอบข้าง หน้ามือเป็นหลังมือเลย ก็ถามเขา เธอแสดงละครหรือเปล่า เรารู้จักเธอมานาน เธอจะเปลี่ยนได้จริงมั้ย แต่ยอมรับว่าความสัมพันธ์ดีขึ้นมากๆ”

3x7a1343.mov.04_20_32_08.stil

นิกกี้ยังทิ้งท้าย คำถามสุดจี๊ดว่าจะมีข่าวดี เตรียมสละโสดหรือยัง งานนี้เอสเธอจะตอบว่ายังไง ไปฟังเต็มๆ พร้อมกันใน รายการซุปตาร์พาตะลุย วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอสดี ช่อง 34

10 เรื่องราวชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี แม่ ไม่ปลื้ม

ทำความรู้จัก 10 เรื่องราวชีวิต “เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์” อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี “แม่ไม่ปลื้ม” หลังออกตัวหนุน “บิ๊กตู่” พร้อมบอกไม่ต้องการเป็นทาสอเมริกา แค่นี้ก็ลำบากจะตายแล้ว

ตกเป็นประเด็นที่โซเชียลจับตามอง สำหรับกรณีเมื่อวานนี้(22 พ.ค.66) นักแสดงรุ่นใหญ่ “เปิ้ล จารุณี” หรือ “จารุณี สุขสวัสดิ์” เดินทางไป “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เพื่อให้กำลังใจ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” พร้อมกับแสดงจุดยืนปกป้องสถาบัน เพราะไม่ต้องการเห็นชาติสูญสิ้นสลายเหมือนอาร์เจนตินา หรือเวเนซุเอลา รวมถึงบอกว่า

“เรารักชาติ ไม่ต้องการให้ต่างประเทศเข้ามา และไม่ต้องการไปเป็นทาสของสหรัฐฯ หรือประเทศอื่นๆ เพราะปัจจุบันก็ลำบากอยู่แล้ว เราจะอยู่กันอย่างไรต่อไปได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เราทำงานอะไรไม่ได้เพราะประเทศไม่ใช่ของเรา”

ซึ่งภายหลังที่ข่าวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป โซเชียลก็วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น ส่งผลให้ชื่อของ เปิ้ล จารุณี ติดเทรนด์บนโซเชียล วันนี้ “สปริงบันเทิง” จึงขอพาทุกคนไปรู้จักดารารุ่นใหญ่ “เปิ้ล จารุณี” เจ้าของวลี “แม่ไม่ปลื้ม” กันให้มากขึ้น ดังนี้

1. เปิ้ล มีชื่อจริงว่า จารุณี สุขสวัสดิ์ เกิด 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นนักแสดงหญิงลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส บิดาเป็นชาวฝรั่งเศส ชื่อแฟร์น็อง เดส์แน็ช (Fernand Desneiges) และมารดาเป็นชาวไทย ชื่อระเบียบ สุขสวัสดิ์

2. เป็นเจ้าของฉายา “ดาราทอง”, “ราชินีจอเงิน”, “ราชินีนักบู๊” หนึ่งในตำนานนางเอกหนังไทยขวัญใจมหาชน นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของวลี “แม่ไม่ปลื้ม” ในละคร “ขิงก็รา ข่าก็แรง” ด้วย

10 เรื่องราวชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี แม่ไม่ปลื้ม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ฉุนสื่อจี้ถามปล่อย ส.ว ฟรีโหวตเลือกนายกฯ? เปิ้ล-จารุณี โผล่ให้กำลังใจ

เปิ้ล จารุณี เล่าอุทาหรณ์ชีวิต เคยรถคว่ำเป็นอัมพาต คิดปลิดชีพตัวเอง 3 ครั้ง

เปิดสาเหตุ เอส กันตพงศ์ วูบหมดสติกลางงานอีเวนต์ เบื้องต้นอาการยังวิกฤต

3. ก่อนเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง เปิ้ล จารุณี เคยทำงานในสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ โดยทำหน้าที่จำหน่ายบัตรผ่านประตูและเครื่องดื่ม รวมถึงเคยแสดงเป็นสโนว์ไวท์ในขบวนพาเหรดของสวนสนุก และเคยทำงานรับจ้างเป็นจับกังและคนงานก่อสร้าง เพื่อส่งเสียตนเองเรียนหนังสือและส่งให้ครอบครัว

4. สำหรับการเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงนั้น เริ่มจากแสดงภาพยนตร์ในสังกัดสีบุญเรืองฟิล์มเรื่อง “สวัสดีคุณครู” เป็นเรื่องแรกภายใต้การกำกับการแสดงของบรมครู “พันคำ” เมื่อปี 2520 โดยแสดงร่วมกับนางเอกวัยรุ่นอีกคน คือ “กาญจนา บุญประเสริฐ” ก่อนจะเป็นนางเอกเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่อง “รักแล้วรอหน่อย”

5. จากนั้นเธอก็ได้แสดง “บ้านทรายทอง” เมื่อปี 2523 ซึ่งเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 9 ล้านบาท ตามด้วย “พจมาน สว่างวงศ์” ซึ่งทำรายได้ถล่มทลายไม่แพ้กัน ทำให้ชื่อของ เปิ้ล จารุณี เป็นที่ต้องการของบรรดาผู้สร้าง ผู้กำกับ สายหนังและแฟนภาพยนตร์ไทย จนได้รับสมญานามจากสื่อมวลชนว่าเป็น “ดาราทอง”

10 เรื่องราวชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี แม่ไม่ปลื้ม

6. จากฝีมือการแสดงขั้นเทพนั้น ทำให้เธอมีงานหลั่งไหลเข้ามามากมาย จนได้ชื่อว่าเป็น “นางเอกคิวทอง” สามารถแสดงได้ทุกบทบาท ทั้งบู๊ ตลก แก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซน ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น

7. นอกจากผลงานละครจะโด่งดัง เป็นที่รู้จักมากๆ แล้ว ในวงการภาพยนตร์ก็โด่งดังไม่แพ้กัน เพราะภาพยนตร์ที่มีเธอร่วมแสดง ทำเงินได้ดีทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กหรือฟอร์มใหญ่ จนมีการการันตีว่า “ถ้าหนังเรื่องไหนได้จารุณีเป็นนางเอกแล้ว รับรองไม่มีเจ๊งหรือขาดทุนอย่างแน่นอน”

8. แฟนภาพยนตร์รักและศรัทธาในตัว เปิ้ล มาก ถึงขั้นก่อตั้ง “ชมรมสุขสวัสดิ์” เพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน ถือเป็นแฟนคลับยุคแรกๆ ของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ยุคที่ยังไม่มีระบบสารสนเทศและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย

9. ย้อนไปปี 2524 เปิ้ล จารุณี เคยประสบอุบัติเหตุผิดคิวกลางกองถ่ายหนัง “ลูกสาวกำนัน” กับฉากขับเรือในคลอง ที่ต้องเล่นจริงแสดงจริง โดยเรือหางยาวพุ่งเข้าชนกับเสาสะพานไม้อย่างจัง ทำให้ร่างตกลงไปในคลอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เปิ้ลต้องเข้าผ่าตัดถึง 5 ครั้ง ต้องใช้เหล็กดามกระดูกไว้และเข้ารับกายภาพบำบัด

10. ในปี 2565 เปิ้ล จารุณี เคยออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตที่ไม่ได้สวยหรู เคยรถคว่ำหลังหักเป็นอัมพาต ไม่รู้สึกตั้งแต่ช่วงเอวไปขณะหนึ่ง ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนั้น ส่งผลต่อระบบการขับถ่ายไม่ทำงาน นอกจากนี้ยังเคยเกือบฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง ทั้งกินยานอนหลับ และกรีดท้อง เพราะความน้อยใจครอบครัว

10 เรื่องราวชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี แม่ไม่ปลื้ม

10 เรื่องราวชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี แม่ไม่ปลื้ม

10 เรื่องราวชีวิต จารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตราชินีจอเงิน เจ้าของวลี แม่ไม่ปลื้ม

เปิดบ้าน แสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

ส่องภาพคู่รักดารารุ่นใหญ่ “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ” ที่อบอุ่นมาก

เป็นอีกคู่รักดารารุ่นใหญ่ของวงการบันเทิงไทยที่ครองรักกันมายาวนานระหว่างนักแสดงหนุ่ม “น็อต นุติ” และนักแสดงสาว “กวาง กมลชนก” ที่ทั้งคู่นั้นแต่งงานมาแล้วกว่า 17 ปี แต่ยังหวานชื่นไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังโซ่ทองคล้องใจถึง 2 คนนั่นคือ “น้องเน็ต เนตต์” และ “น้องเนย เนตรทราย” นับเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว

วันนี้เราจะพาไปส่องบ้านครอบครัว “เขมะโยธิน” กัน เพราะเมื่อมีเวลาว่าง ครอบครัวนี้มักจะใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้าน แถมบ้านหลังนี้ยังโดดเด่นไปด้วยการแต่งหินวางเรียงโชว์ พร้อมปลูกต้นเล็บมือนางให้เลื้อยเป็นซุ้มเหนือประตู ให้ชุ่มชื่นใจ ว่าแล้วมาชมกันดีกว่า

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เปิดบ้านแสนอบอุ่น ของคู่รักดารา “กวาง กมลชนก-น็อต นุติ”

เบื้อง หลังความสำเร็จ ‘สมจิต จงจอหอ’ ประดับยศ พันโทแล้ว

ต้องบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก สำหรับ “สมจิตร จงจอหอ” เป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นชาวไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2 สมัย เหรียญทองซีเกมส์ 3 สมัย และได้รับเกียรติให้เป็นผู้เชิญธงชาติไทย นำคณะนักกีฬาทีมชาติไทย ในพิธีปิดโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 26

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

เมื่อปี พ.ศ. 2558  “สมจิตร” ได้ตั้งค่ายมวยเป็นของตัวเอง ในชื่อสมจิตรยิม เปิดสอนมวยไทยแก่เยาวชนและผู้ที่สนใจ ที่จังหวัดนครราชสีมา

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

เเละล่าสุดก่อนอื่นต้องขอเเสดงความยินดี เมื่อ “สมจิตร จงจอหอ” ได้ก้มกราบเท้าแม่ หลังรับการเลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท สมจิตร จงจอหอ (สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย)

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

อีกทั้ง “สมจิตร จงจอหอ” ก็ได้โพสต์ระบุข้อความว่า  “กราบคุณแม่ฝ้าย ดวงวิญญาณพ่อเช้า ที่ ปลูกฝังให้ลูกคนนี้เป็นคนดี ขอบคุณครอบครัวผู้อยู่เบื้องหลัง ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านทุกสาย สายเรียน สายมวย และอาจารย์โค้ชชีวิตสุดท้ายขอบคุณกัลยานิมิตที่ดี เพื่อนผ้องน้องพี่ที่รักกัน ที่อยู่ด้วยกัน ได้ที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันที่ตักเตือนกัน ที่ให้กำลังใจ (จากใจ สมจิตร จงจอหอ)”

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

สมจิตร จงจอหอ ก้มกราบเท้าแม่ เลื่อนขั้น ประดับยศเป็นพันโท

คู่รัก ดาราเบอร์ต้น สลัดภาพ คนดัง หอบลูกๆไปไถนา-จับปู

อีกหนึ่งครอบครัวยที่น่ารักและอบอุ่นมากๆสำหรับครอบครัวของ กาย รัชชานนท์ และ ฮารุ สุประกอบ พร้อมลูกๆ น้องคีริน, น้องไนร่า และน้องเอเดน หลายคนต่างชื่นชมการเลี้ยงลูกของพวกเขา ที่พาลูกเปิดประสบการณ์ในหลายเรื่อง เป็นประสบการณ์ที่ลุยกันสุดๆ ไม่กลัวเลอะ ไม่ถือตัวอีกด้วย ล่าสุด ทั้งคู่พาลูกๆไปจับปูและลองไถนา โดยสาวฮารุโพสต์คลิปลงอินสตราแกรมส่วนตัว @harusuprakob พร้อมแคปชั่นระบุว่า “ไถนาครึ่งวันยังไม่ใกล้เสร็จ เพื่อนเลยไล่ไปจับปู #3ยอดกุมาร #guyharufamily #กุมารtravelbackpack” ท่ามกลางแฟนคลับแห่คอมเมนต์ชื่นชมจำนวนมาก

453285646 1513283259626995 2457569982533127555 n

1722573058390

1722573050639

1722573039556

1722573030173

1722573018090

453119947 443201048700598 2901626632689171010 n

453393986 386858774427834 788092525688973311 n

453641499 344951295218878 7682007690199683826 n

453490829 1661983074561583 4182804988363314854 n

453357069 1016626686830048 5829577214541693767 n

453527061 1032693305524203 5139700423067664448 n

453475594 1041765253982531 6826267590729034416 n

แน็ก – กามิน โชว์ท้องกลางไลฟ์ บอกด้วยเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย รู้ใจกันสุดๆ

แฟนคลับแชร์ภาพ สาวกามิน กำลังเอาไดร์เป่าผมมาตรวจท้อง แน็ก ชาลี พร้อมข้อความว่า เด็กผู้ชายหรือผู้หญิง

พร้อมทั้งเผยคลิป ขณะ แน็ก ชาลี และ กามิน กำลังไลฟ์สดช่วยกันทำมาหากินขายของกันอยู่ มีการโฟกัสไปที่พุ่งของ แน็ก และ กามิน ก็บีบพุงแน็ก

จากนั้น แน็ก เดินไปหยิบ ไดร์เป่าผมมาให้ กามิน ก็รับมุกรู้ทันทีว่าต้องเล่นมุกอะไร โดยเอาไดร์เป่าผมมาตรวจครรภ์ แน็ก ด้าน แน็ก ถาม boy or girl กามิน ก็ตอบว่า boy พร้อมทั้งบอกใกล้คลอดแล้วด้วย

เรียกเสียงฮา แฟนๆ ก็ต่างคอมเมนต์แซว อาทิ กามินทำชาลีท้อง ใกล้คลอดละ!, พอชาลีหยิบไดร์มา กามินก็รู้ว่าจะเล่นมุกแบบไหนกัน รู้ใจกันสุดๆ , โอ้ยท้องแทนซะล่ะ , รู้ใจกันจริงๆค่ะ ส่งมุกไหน กามินรับได้ตลอดเลย

เดี๋ยวนี้ไม่มองตาก็รู้ใจกันแล้วหรือนี่ เขาคือคนเดียวกันแล้วจริงๆๆ น่ารักๆๆๆ , แหมมมมม รู้ด้วยนะ ว่าชาลีชอบลูกชาย , กามินอยากได้ลูกชาย เป็นต้น

พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

เป็นประเด็นไม่จบจนต้องถึงมือนักธุรกิจสาว มิเรียน อัคเซลการ์ด มาไล่ตอบคอมเมนต์ที่คนจับตาความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม ดีเจพีเค ปิยะวัฒน์ ทั้งกระแสข่าวตั้งท้อง แต่งงาน รวมไปถึงเรื่องเลิกลา

ซึ่งมิเรียน บอกชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้ท้อง และไม่ได้มีแพลนแต่งงานค่ะ , ไม่เลิก ไม่ท้องค่ะคอนเฟริม
ล่าสุดถึงคิว พีเค เคลื่อนไหวบ้างโดยเจ้าตัวโดยแชร์โพสต์ของแฟนสาวจูงมือกันแสนหวาน ตอกย้ำความสัมพันธ์รัก สยบทุกข่าวเม้าท์!!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

 พีเคโพสต์ภาพนี้ชัด! หลังถูกจับสัมพันธ์มิเรียนตั้งท้อง-แต่ง-เลิก?!

หย่าภรรยา-ใช้ชีวิตลำพังกลับ ดูเปลี่ยนไปมาก ล่าสุด ‘ออย ธนา’ ในวัย 47 ปี หล่อโกงอายุ เหมือน หยุดเวลาไว้เมื่อ 10 ปี

ออย ธนา เปิดใจสถานะโสดรับเลิก เธอ รวรีย์ แยกกันอยู่มาครึ่งปี ตอนนี้โฟกัสแค่เรื่องลูก รับได้คนกลางไกล่เกลี่ย เผยเจ็บจนจุก ถึงขั้นเป็นซึมเศร้า มดดำ ยังบอก จบแบบโหด

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวคราวว่า ออย ธนา ได้เลิกราและแยกทางกับภรรยา เธอ รวรีย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด (25 เมษายน 2565) ออย ก็ได้ออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวผ่านรายการ แฉ พร้อมยอมรับสถานะตอนนี้โสดมาเกือบครึ่งปีแล้ว ซึ่งช่วงแรกที่ชวนมาออกรายการยอมรับว่ายังมาไม่ไหว ไม่รู้จะพูดอะไร กลัวพูดไปแล้วจุก

โดยตอนนี้เหลือเพียงสถานะพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ถามว่าจุกขนาดไหน คือพอเราตั้งเป้าโกลสุดท้ายไว้ว่า มนุษย์พ่ออย่างเรา ครอบครัวเราอยากสร้างให้ดีก่อน วันหนึ่งมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันหายไป มันไม่รู้จะทำอะไรเลย คือก็มี พี่ดุ๊ก ภาณุเดช ไลน์มาถามเป็นไงบ้าง เราก็บอกว่าไม่รู้จะทำอะไรเลยพี่ แบลงก์ไปหมด ถ้าทำงานยังมีอะไรให้คิด แต่เมื่อไหร่ที่อยู่คนเดียวมันจะคิดวนไปวนมา หลาย ๆ อย่าง เพราะอะไร ทำไม ไปเรื่อย ๆ ในช่วงแรก ๆ

ส่วนเรื่องมันเกิดจากโพสต์ไอจีเศร้า ๆ เจ้าตัวก็ยอมรับว่ามันคงฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะทำอะไร หาทางออกทางโน้นทางนี้ระบาย ทั้งที่มันไม่ควรบ้าง เราก็หาเพื่อนคุย โพสต์ เขียน แล้วก็มีกำลังใจดี ๆ พออ่านก็ช่วยได้เยอะ

ด้าน มดดำ ก็บอกว่ามีคนถามเยอะมาก แต่เราไม่มีไลน์ได้แต่ฝากคนอื่นไปบอกให้สู้ ๆ นะ เพราะเขาก็เปลี่ยนไปเยอะ วันหนึ่งมีครอบครัวฝันเต็มที่ ไปไม่ถึงฝัน แต่ก็ยังมีลูกไง ด้านออยก็เผยว่า ใช่เราก็ช่วยกันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยอมรับว่ามันอาจจะไม่สมบูรณ์มาก เรายังเป็นพ่อแม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ช่วยกันทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ให้เขาไม่ได้ขาดอะไร

ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับชีวิตคู่ที่บอกว่าตัวเองที่เวิ่นเว้อจนทำให้เข้าใจผิดไป ออยก็ชี้แจงว่า หลายคนคงจะเดาเป็นอะไร เขียนอะไรที่ไม่ควรเขียน เราก็เหมือนขอโทษด้วยมีบางสิ่งกระทบบางคนที่เสียหาย คือเป็นเราที่เวิ่นเว้อไปเอง พยายามจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนทุกคู่ที่มีปัญหาบ้าง และมันเดินมาถึงจุดหนึ่งที่คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เราทำยังไงกันดี ดีกว่า เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอนนั้นก็ช่างมัน เอาเป็นว่าจะเดินหน้าต่อไปยังไงให้ดีที่สุด

เมื่อถูกถามว่า มีช่วง 3 เดือนเก็บตัวไม่เจอคนเลยเหรอ ซึ่งออยก็กล่าวว่า ตอนนั้นยังทำงานต่อ ละครใกล้จบ ช่วงรอยต่อละคร ก็ว่างด้วย มีโควิดไม่ควรออกไปไหนด้วย หลาย ๆ อย่างรวม ๆ กันก็ไม่ได้อยากเจอใคร ตอนนั้นก็อยู่กับตัวเองตลอดเวลา มันก็มีทั้งข้อดีและไม่ดี ข้อดีมีเวลาคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ควรจะทำอะไร ข้อไม่ดีมันจะวนเวียน เราจะอยู่ที่เดิม

มดดำ ยังถามถึงว่าเป็นพระเอกมาตั้งแต่เด็ก ตอนจบละครแฮปปี้เอนดิ้ง ชีวิตจริงเป็นไหม ซึ่งออยก็ตอบว่า มันไม่เสมอไป ทุกคนมีทางเดินที่ต่างกันไป มุมมองที่ต่างกัน บทสรุปความคิดที่ไม่เหมือนกัน โจทย์มีเยอะมากมายสามารถเกิดอะไรขึ้นได้กับชีวิตทุกคน จุดที่ตนยืนก็ไม่เหมือนกับจุดที่เขายืน เพราะเรามองไม่เหมือนกัน

ออย ยังยอมรับว่ากว่าจะตั้งหลักได้วนเวียนในตัวเองหลายเดือน จนรู้สึกว่าเราออกไปทำงานไม่ได้ ออกไปใช้ชีวิต ไปเล่นละครไม่ได้ จนไลน์คุยกับเพื่อนไม่ไหวแล้ว ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตเดินต่อไป ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไร เหมือนหลอกตัวเอง สะกดจิตตัวเองว่าพอแล้วไม่เสียใจแล้ว พอแค่นี้ คิดดีกว่าว่าเราจะทำอะไร แต่ก็ได้แบบหลอก ๆ แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย พยายามใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไร มันยากที่จะออกมาพูดอะไร คือเราอึดอัด ตอนนั้นก็หาอะไรมาทำเพื่อให้ลืม

สำหรับเรื่องลูกจากที่ไม่ได้เจอลูกก็ได้กลับมาเจอลูกทุกอาทิตย์แล้ว ซึ่งออยเปิดเผยว่า จากที่เราตกลงกันไม่ได้ หาคนกลางมาคุยไกล่เกลี่ยให้เรา เป็นคนที่สำคัญพอให้เรายอมรับ มีคนคุยให้มีบทสรุปที่มีผลทางข้อกฎหมาย ให้เราปฏิบัติ

งานนี้ทำเอามดดำถึงกับบอกว่า จบแบบโหดเหมือนกันเนาะ ด้าน ออย ก็บอกว่าให้เรียกว่าจบแบบเคลียร์ดีกว่า ไม่สนว่าคุณจะมีปัญหาอะไรกัน เอาต่อจากนี้คุณต้องทำอะไร ซึ่งมันก็มีขึ้นมาก ต่อไปนี้เราไม่สนว่าเราจะทะเลาะอะไรกัน เราจะโฟกัสที่เด็กให้ได้ประโยชน์ที่สุด เขาก็สั่งเรามาสั่งเขามา มีผลทางปฏิบัติต้องช่วยกันดูแลให้ดีที่สุด

ส่วนเรื่องของอนาคตถามว่าจะมีคนมาดูแลเราไหมหรือปิดประตูไปเลย เข็ดกับความรักไปเลยไหม คือตอนนี้ยังไม่รู้เลย ตอนนี้ทำทีละอย่าง เราเพิ่งพ้นจากความมึน อึดอัด จากที่เราไม่รู้ว่าจะทำอะไรและรู้สึกว่างเปล่ามาก หายไปหมดเลย แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วเราต้องดูแลลูกเรา

ขณะที่ น็อต ก็บอกว่าโชคดีที่ไม่เป็นถึงโรคซึมเศร้า ซึ่งออยก็บอกว่า มีซึมเศร้า เข้าใจคนที่ดาวน์สุด ๆ มันสามารถคิดอะไรไม่ดีเยอะแยะมันมี คิดว่าทุกคนต้องมีที่่ผิดหวังจากอะไรบางอย่าง หล่นจากตึกแรง ๆ มันไม่รู้ว่าเจ็บด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ดีขึ้น ได้มาดูแลลูกสาว มีส่วนช่วยให้เขาเจริญเติบโตไปช่วยกันดูแล คือเราก็ติดลูกมาก

“แชมเปญ เอ็กซ์” จากเซ็กซี่สตาร์ พลิกผันชีวิตหัน หน้าสู่การเกษตร ทำไร่ทำ สวนกว่า 200 ไร่

หลังห่างหายไปจากวงการบันเทิงไปกว่า 10 ปี สำหรับอดีตนางแบบเซ็กซี่และนักแสดงชื่อดังอย่าง แชมเปญ เอ็กซ์ หรือ จันทร์เพ็ญ ชุณห์ศรี ที่ผันตัวเองไปเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว ทำไร่ ทำนา และสวนผสม ร่วมกับสามีดีกรีนักบินอย่าง แวน-วันชาติ ชุณห์ศรี บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ของไร่วันจันทร์เพ็ญที่ตำบลโคกปี่ฆ้องอำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ด้วยความคิดถึงรายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 จึงได้เชิญสาวแชมเปญ เอ็กซ์ มาเยือนรายการ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าตอนนี้ชีวิตแฮปปี้สุดๆ มีคิดถึงแต่ก็วงการอยู่บ้าง

หายจากวงการบันเทิงไปกี่ปี

แชมเปญ เอ็กซ์ : “10 ปีกว่าค่ะ ไปทำสวนอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว คือ แบบนี้ค่ะ แม่ของสามีเขายกที่ดินแบ่งที่ดินให้ลูกชายเขาสี่คนใช่ไหมค่ะ แล้วสามีพี่เป็นคนที่สี่ แล้วเขาแบ่งให้คนล่ะ 120 ไร่ ตอนได้เราไม่ใช่จะดีใจนะ เครียดมาก คือเราจะทำอะไรดี ปลูกผักปลูกหญ้าก็ไม่เป็นนะ พอได้มาเราก็คุยกับสามีขายไหม เราคงทำอะไรไม่เป็นหรอก คงไม่ไหว เพราะตอนนั้นเราใช้ชีวิตอยู่แต่ในวงการ”

แชมเปญ เอ็กซ์ : “แต่คือ ช่วงนั้นเศรษฐกิจ ก็ไม่ดี แล้วแม่ก็ป่วยก็ดูแลแม่ไปพอแม่เสียก็ไม่ได้ทำอะไร มีความสุขมา เราก็ไปเที่ยวแล้วก็ทำบุญ สามีก็ไม่ได้บินแล้วพอ 3-4 ปี หลังจากนั้นยกที่ให้เราก็ตกใจ”

แชมเปญ เอ็กซ์ : “พอเขายกให้ คือ พอเราสวดมนต์ไปสวดมนต์มากขึ้น มันมีความคิดดีที่ดีออกมาว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย ที่เขายกที่ดินให้กับลูกหลานเพราะเขารักและเขาเป็นห่วง เพราะเผื่อวันหนึ่งที่ลูกหลานไม่มีที่ไปอย่างน้อยก็ได้มีผืนนา ผืนไร่ ที่เขายกให้ได้มีที่ทำกิน พี่ก็เลยคิดว่าควรจะทำสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินเรานะ เพราะเรายังมีแรงจะทำอยู่ สามีเราก็ยังแข็งแรง”

สุดท้ายก็เลยเกิดขึ้นมาเป็น ไร่วันจันทร์เพ็ญ

แชมเปญ เอ็กซ์ : “ใช่ค่ะ จันทร์เพ็ญ คือชื่อเรา แต่แฟนเราชื่อ วันชาติ ก็เลยรวมกันได้ชื่อนี้”

พอได้ชื่อไร่แล้วตอนนั้นตัดสินใจยากไหมว่าจะเริ่มปลูกอะไร

แชมเปญ เอ็กซ์ : “คิดอยู่นานมาก แล้วตอนนั้นคือสามีเขาไปเจอเพื่อนเก่าเขาที่อยู่ซาอุฯ คุณหลานปลูกยางสิ ลุง ปลูกยางมันขึ้นทุกวันเลยนะ มันไม่ยากคือ ยางพารานะคะคือเราก็คิดเพราะเราไม่เคยปลูก คุณลุงบอกว่าไม่ยากหรอกเดี๋ยวลุงมาช่วย เราก็เลยตัดสินใจไปเรียนกับลุง ไปเรียนเองเลยค่ะ เขาก็สอนเราก็ไปจองกล้ายางเลย ตอนแรกเราลองปลูกร้อยไร่ก่อน เราก็จองกล้ายาง 8,700 กว่าต้น เราก็เลยลองถามคุณลุงว่า คือเราเรียนรู้ทำยังไง คือ คิดว่าเราจะจ้างคนมาก็จ้างคน จ้างตั้งแต่เหนือ ใต้ ออก ตก คือ ทุกคนบอกว่าจะมา สุดท้ายไม่มีใครมาเลยเพราะว่ายางมันขึ้นทุกวันๆ ทุกคนก็ปลูกของตัวเองหมด สุดท้ายไม่มีใครลุงบอกเราต้องทำเองทำเองแปดพันกว่าต้น เราก็ลงมือทำเลย ใส่เสื้อกล้ามลงกล้าปลูกเองเลย เพราะตอนนั้นเรายังหาคนงานไม่ได้ แล้วคือ ตอนนั้นสามีไปบิน”

แชมเปญ เอ็กซ์ : “ลุง เขาแนะนำว่าให้เราไปหาซื้อหลอดที่ใช้สำหรับดูดชาไข่มุก มาเผื่อใส่คอยางเวลายางเวลายางมันโตกันไม่ให้ทรายมันเข้าเวลาฝนตกทรายมันโดนคอยางแล้วมันจะไหม้ แล้วมันจะตาย แล้วเราก็ต้องขุด ต้องปลูกให้คนงานดูด้วย เป็นคนในหมู่บ้านที่เราอยู่เลยค่ะ เราเหมือนจะสร้างรายได้ให้เขา แต่เราก็ไปขอความช่วยเหลือเขาด้วย”

สุดท้ายแปดพันกว่าต้นรอดไหม

แชมเปญ เอ็กซ์ : “ตายไปพันกว่าต้น เพราะว่าฝนมันตก แล้วเราก็ไม่รู้ว่าพื้นดินตรงนั้นด้วย แล้วเราก็ซ้อมๆ ให้ดินตรงนั้นดีขึ้นที่ทำให้ต้นไม้ตาย เราก็ใส่ปุ๋ยใส่อะไรเต็มที่เลย พอผ่านไปหนึ่งปี สายป่านขาดเพราะเราหมดทุนด้วย แล้วคือช่วงนั้นน้ำท่วมที่กรุงเทพฯ ด้วย ที่ประเทศไทย เราก็เลยปรึกษาสามีว่า หรือเราจะปลูกข้าวแทนดี เขาก็บอกว่าดีๆ ปลูกข้าว ปลูกไม่สวยไม่เป็นไรเพราะเราปลูกไว้กินเอง”

แปลว่ายางที่เราปลูกตัดทิ้งหมดเลยใช่ไหม

แชมเปญ เอ็กซ์ : “ไม่หมดค่ะ เอาที่ส่วนที่มันเสียออก ตรงที่ชื้นแฉะเราก็ปลูกเป็นนาไป ปลูกข้าวไปค่ะ เราก็ปลูก 10 ไร่ ข้าวได้ถังกว่าเอง”

แชมเปญ เอ็กซ์ : “แต่ตอนนี้เราคิดว่าเราจะปลูกข้าวสวยๆ สัก 1 ไร่ ทำเป็นมุมถ่ายรูป แต่เพี้ยกินไม่ใช่เราไม่ดูแลนะคะ แต่พอแมลงพวกนี้ลงมันก็จะลงเร็วมาก เราแค่ไปบวชถือศีลแค่ 10 วันเอง เลยคิดว่าตรงไหนพังเราก็เอาไปซ่อม”

เคยคิดไหมว่าจะเลิกทำแล้ว

แชมเปญ เอ็กซ์ : “ไม่เคยคิดพี่เพราะไม่เคยคิดจะถอยหลัง คิดแต่จะไปข้างหน้า ทำอะไรก็ทำให้สุดๆ ไปเลย”

มีความสุขไหมเพราะชีวิตเราผกผันมากจากที่อยู่ในวงการบันเทิงแล้วต้องไปอยู่ตรงนั้น

แชมเปญ เอ็กซ์ : “มีความสุขนะคะ เพราะว่าเรามีคุณภาพชีวิตที่ดี ในน้ำมีปลา (แต่พี่ไม่ตกปลานะ) มะนาว ก็ได้ใช้ เพราะเราก็ปลูกเอง”

ไม่คิดถึงแบบอาชีพหน้าที่การงานของเราเหรอ ได้แต่งตัวสวยๆ มีคนชื่นชม

แชมเปญ เอ็กซ์ : “คิดว่าอิ่มตัวมาก ถามว่าคิดถึงไหม คิดถึงมาก แต่ทุกอย่างก็ตามยุคตามสมัยนะคะ เราก็ต้องเข้าใจยุคและสมัยโอกาสต่างๆ นั้นๆ ด้วย ถ้ามีก็ทำแต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร”

คือจากที่เราอยู่จุดเซ็กซี่สตาร์ แล้วเข้าไปอยู่ในโหมดสาวชาวสวน และ เข้าสู่สายธรรมะ ได้ยังไง

แชมเปญ เอ็กซ์ : “เริ่มแรกรู้จักอาเล็ก-ธานินทร์ อินทรเทพ พาไปที่เมืองกาญฯ ตอนนั้นคือเราเป็นเหมือนภูมิแพ้ มันคันไปทั่ว แล้วอาเล็กก็บอกว่ามีอาจารย์หลวงพ่อ อยากให้ เอ็กซ์ ตอนนั้น อาเข้าชวนอยู่เป็นปี เราก็เกรงใจเราเลยไป แล้วเราก็ไปเห็นพระอาจารย์เขาดูแลรักษาคนไข้ฟรีเขาไม่คิดอะไรเลย เราเห็นแบบนั้น เราเลยขอพระอาจารย์ว่าเรากินสมุนไพรด้วยได้ไหม พระอาจารย์ก็บอกว่ากินได้กินไปสิ เราก็กิน พอได้สัก 3-4 เดือน เราก็บอกหลวงพ่อว่าเราอยากจะช่วยงานเราทำอะไรได้บ้าง ขายส้มตำ เพราะมีลูกน้องทำส้มตำอร่อย พอทำให้ 2 เดือน ลูกน้องหนีกลับบ้านไปไม่บอกเราเลย เราก็ต้องตำเอง เราก็คิดว่าถ้าเราตั้งใจเป็นจิตอาสาขอให้เราตำอร่อยแล้วกัน จากนั้นทุกอาทิตย์เราก็ตำมาตลอด แล้วคือเราก็ตำอร่อยมาก”

แชมเปญ เอ็กซ์ : ตอนนี้ก็เปิดร้านอาหารอยู่ที่บ้านนะคะ แต่เปิดโต๊ะเดียวกลัวโควิด เพราะเราทำคนเดียวด้วยค่ะ เลยขายโต๊ะเดียวพอ

เห็นเปิดร้ายอาหารขายแบบนี้มีของมาให้ชิมด้วยไหม

แชมเปญ เอ็กซ์ : “มีน้ำพริกค่ะ พริกคั่วหัวฟาด คั่วเองเลยค่ะ โลโก้เป็นแม่มดขี่พริก ขวดละ 130 บาทค่ะ สะอาด อร่อย แน่นอนค่ะ”

Popular Posts

My Favorites

ปังตั้งแต่เด็ก ‘น้องคากิ’ ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์ รับค่าตัวแล้ว 1 ล้านบาท ถึงโรงพยาบาล

0
กลายเป็นขวัญใจของพี่ป้าน้าอา สำหรับ น้องคากิ ลูกชายสุดน่ารักของ แจ็ค แฟนฉัน และนักแสดงสาวหน้าหวาน ใบหม่อน กิตติยา หลังคลอดลูกคนแรก เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดมาก็ทำให้หลายคนที่ถูกหวยกันถ้วนหน้า เพราะหลายคนโชคดีจากเลขห้องของ น้องคากิ นั่นเอง และล่าสุดกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนฮอฮา เพราะหลังจากที่น้องคากิเกิดมาเพียง 6 วัน ก็สามารถสร้างเงินได้ถึงล้านแล้ว! เพราะ...