“เสนาหอย” เผยปมภาพจำในใจ ไม่อยากแต่งงาน ผู้หญิงเดินมาบอก “จะไปแต่งกับคนอื่น” เล่นเอาช็อค เผยความรักกับ น้องเค้กส้ม ถึงไม่มีงานแต่ง แต่จะไม่ปล่อยมือ
เป็นการเปิดใจของ “เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” อีกครั้งเรื่องความรักกับแฟนสาว “น้องเค้กส้ม” ที่เจ้าตัวยืนยันผ่านในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มีเบนซ์ พรชิตา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร ว่าจะไม่แต่งงานแน่นอน เผยประสบการณ์จำฝังใจ เพราะเคยมีสาวเดินมาบอกจะแต่งาน แต่เจ้าตัวดันตอบกลับว่าไม่พร้อม ทั้งๆ ที่สาวคนนั้นไม่ได้จะมาแต่งงานด้วย พร้อมกันนี้ยังควงน้องสาวคนสนิทอย่าง “ซาร่า นลิน โฮเลอร์” มาพูดคุยถึงความสนิทสนม พร้อมเผยเรื่องความผูกพัน ที่ถ้าไม่มีพี่หอยวันนั้น ก็ไม่มีซาร่าในวันนี้ !
ตั้งแต่รายการนั้นจนถึงตอนนี้เพิ่งเจอกันครั้งแรกเลยใช่มั้ย? เสนาหอย : “ที่มาวันนี้เพราะอยากเจอเขา ล่าสุดไปเจอลูกเขา เขาไปถ่ายรายการยูทูบ ลูกน่ารักมาก”
ซาร่า : “ก็ชวนพี่หอยไปคนแรก พี่เขาอาจจะมีของติดไม้ติดมือมาหรือเปล่า เพราะตอนนั้นที่เจอหลานเพิ่ง 2 เดือนยังไม่ได้ตอนนั้น ก็เลยจะมาทวงตอนนี้ ขอบคุณพี่หอยที่มาในตอนนั้นเพราะตอนนั้นหาใครไม่ได้จริงๆ พี่หอยเป็นคนที่ช่วยในทุกสถานการณ์ มีงานนึงเราไปสาย ไปเกือบไม่ทันแต่โชคดีที่มีพี่หอยด้วย เราไปถึงเฉียดฉิว”
พี่หอยเจอหลานครั้งแรกความรู้สึกเป็นยังไง? เสนาหอย : “คือจริงๆ แล้วต้องบอกว่าผมอยู่ในสถานการณ์ของเขาตั้งแต่ผมได้เจอเขาตั้งแต่หลังจากกลับเมืองจีน จนเขาได้มีลูก เจอหลานครั้งแรกมันย้อนภาพต่างๆ ที่เขาได้ทำงานกับเรามาตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันที่อยากจะมีวันนี้เพื่อให้แม่เขา”
ซาร่า : “คุณแม่เขาอยากมีหลาน เราไม่ได้คิดว่าต้องวางแผน สุดท้ายเราพูดกับตัวเองเสมอว่าถ้าหากมีบุญได้มีก็ขอให้เขามาแบบธรรมชาติซึ่งเขาก็มาจริงๆ”
คุณแม่อยากมีหลานแล้วตัวซาร่าเองอยากมีมั้ย? ซาร่า : “ก็อยากมีแต่ไม่ได้คิดว่าจะมาในรูปแบบไหนหรือว่าจะต้องวางแผนแบบไหน ก็ยังบอกตัวเองเสมอว่าถ้าหากจะมาก็ให้มา”
สนิทกันตั้งแต่กลับมาจากจีน? ซาร่า : “คือตอนที่เรากลับมาจากจีน เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ เพราะหายไปจากวงการบันเทิงไปนานมากแล้วพี่หอยเป็นคนให้โอกาส คือมีรายการใหม่ของพี่หอย ตอนแรกเราไปเป็นแขกรับเชิญ”
เสนาหอย : “เจอกันครั้งแรก เป็นรายการเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ก็แนะนำตัว เขาบอกว่าเพิ่งกลับมาจากจีน หนูไม่มีงานเลยค่ะ ตอนนั้นเขาไปเป็นนักร้องที่จีนแล้วกลับมาเหมือนเริ่มต้นใหม่ แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ผมประทับใจคือ วันนั้นมันเป็นด่านๆ แล้วมันมีอยู่ด่านนึงชื่อว่ากำแพงซ่ามหาประลัย เขาก็สวนเบาๆ แบบไม่คิดว่า น่าเรียนจังเลยนะคะ กำแพงซ่ามหาวิทยาลัย คำนี้แหละที่ผมว่าคนนี้มีแวว เขามีอารมณ์ขันที่แปลกๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาไม่เล่น เลยคิดว่าคนนี้น่าสนับสนุน
หลังจากนั้นทำรายการฮาจะเกร็ง และงานเข้าที่เล้าเป็ด เป็นละครที่เล่นแล้วมีแขกรับเชิญแล้วไม่ให้แขกรับเชิญขำ ถ้าขำจะมีตัวเม่นตัวเล็กๆ วิ่งมาตี ผมก็เลยเชิญเขาไปให้มาเป็นหนึ่งในแก๊งงานเข้าที่เล้าเป็ด ผมมั่นใจว่าเขาทำได้ แต่พอเทปแรกๆ เขามาร้องไห้ บอกว่าเล่นไม่ได้ ผมก็บอกว่าพยายามต่อไป เวลาเล่นตลก เราอย่าว่าคอมเมนต์ตอนที่เราเล่น เล่นไปเลย สนุกกับมัน เขาพัฒนาไปเรื่อยๆ”
ซาร่า : “แต่ละคนมีความเป็นเกษตรมากๆ เพราะชำนาญ(ยิ้ม) ในรายการนั้นพี่เขาสอนหนู คือที่เราร้องไห้เพราะเราไม่อยากทำให้พี่เขาผิดหวังในตัวเรา เขาให้โอกาสเรา เราจะทำได้ไหม เพราะเราเป็นคนสวยไง เราขายหน้าตา แต่ถ้าทำเป๊ะไป จะทำให้รายการเขาไม่ดีไหม (ยิ้ม) แต่ไม่ได้ถึงขั้นจะล้มเลิกทุกอย่าง ขอบคุณที่ได้โอกาส จะทำดีที่สุด พี่หอยบอกว่าทำไปเถอะ เพราะมีทีมตัดต่อ เล่นทิ้งเล่นขว้างไปเถอะ”
เสนาหอย : “เราต้องพยายาม เล่นเข้าไปใส่ให้เกิน 100 ยิงเป็น 100 เอาแค่อันเดียว เราต้องลอง คนที่ไม่เคยเล่น แรกๆ อาจจะไม่มีเสียงหัวเราะ เงียบจนได้เสียงแอร์เลยก็ว่าได้ เขาคล้ายๆ กับผม เขาเหมือนผมตรงที่ตลกคนอื่นไม่เอา แต่คนนี้เอา”
เหมือนกันตรง “ซุปตาร์พยายาม”? ซาร่า : “เล่นไปก่อน ดีกว่าไม่ได้เล่น ถ้าจะมีความสุขก็ต้องมีความสุขตอนนี้ ดีกว่าไม่มีความสุข ก่อนถึงวันเสาร์(หัวเราะ) พี่หอยไม่เคยทิ้งเราเลย ทำงานด้วยกันบ่อยมากขึ้น อัพเดตกันตลอด อย่างมีมุขไฟช็อต เราก็ขอโทษก่อนถีบ เราก็กลัวมุขนี้ฝังใจเขาหรือเปล่า ถ้าทำอะไรไป หนูต้องขอโทษนะ ที่บางครั้งหนูไม่ได้บอกพี่”
เสนาหอย : “แต่ไม่ใช่ทำก่อน แล้วค่อยขอโทษเหรอ แต่เดี๋ยวก่อนนะ หนูต้องพบแพทย์แล้วนะ (หัวเราะ)”
มุขไหนที่เราไม่สามารถช่วยเขาได้เลย? เสนาหอย : “ผมว่าถูกสอนๆ มา ถ้าเล่นอะไรแล้วอย่าปล่อยคนที่เล่น ถึงมันจะถึงจุดสุดท้ายได้ยินเสียงแอร์ หรือแมลงวันที่ตายอยู่ในช่องแอร์ เราก็ต้องไปให้ถึง มันอาจจะไม่ตลก แต่มึงกล้าเนอะ เพราะมันมีบ่อยเหมือนกัน สุดท้ายเราต้องจับมือกันให้แน่ ห้ามปล่อย สุดท้ายเราไม่ได้โกรธ ไม่ได้คิดอะไร มันเป็นกำลังใจให้คนเล่น”
ซาร่า : “นอกจากมีคนให้กำลังใจแล้ว มันคือความรักความผูกพัน ถ้าไม่มีพี่ในวันนั้น ก็ไม่มีซาร่าในวันนี้ เพราะเราเป็นคนเล่นมุขไปเรื่อย ไม่มีทางลง พี่หอยก็ต้องมาเบรก”
อำกันขนาดนี้ มีโกรธไหม? เสนาหอย : “ไม่มีนะ การเล่นตลกกัน มันเล่นด้วยคาแร็กเตอร์ เล่นด้วยเหตุการณ์เฉพาะหน้า จริงๆ ไม่มีเตี๊ยม มองตา ทำให้สุด ไม่มีโกรธ เพราะเล่นไปก็ไม่มีเรื่องจริง แต่เราต้องมองตากันตลอด”
ซาร่า : “ยิ่งโดนอำ ยิ่งดัง คนจะได้สนใจ”
เวลาเรามองซาร่า เหมือนเขาเป็นลูกสาวที่ปลุกปั้นมา? เสนาหอย : “คืออย่าใช้คำว่าปลุกปั้น เราไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้น เราเห็นน้องสาวคนนึงในวันนั้นที่เขามาพูดกับเรา ถึงไม่มีเส้นทางในการเดินในสายนี้ ผมเชื่อว่าเขาเดินได้ แต่เขาเพียงไม่รู้ว่าเขามีความสามารถ เรามีความสุขที่เขามีครอบครัว มันเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน จนเขามีน้อง เขาสมบูรณ์ทั้งการงาน ความรัก เขารักแม่มาก ให้แม่เป็นที่หนึ่ง ขนาดสร้างบ้าน เขายังวาดแปลนบ้านเอง”
ซาร่า : “เราอาจจะเป็นแค่เชิงเทียน ที่รอคนมาจุดไฟ”
แล้วความรักของพี่หอยล่ะ? เสนาหอย : “ของพี่เหรอ ความสุขของพี่ไม่ได้มีเด็กคนนึงแล้วมาเป็นเหมือนเรา มันอาจจะไม่ใช่ แต่พี่รู้สึกว่าความสุขของพี่คือได้อยู่กับคนคนนึงแล้วจะเดินไปทำอะไรในสิ่งที่เราคิด เคยมีความรู้สึกว่าอยากมีนะ เห็นคนอื่นมี แต่ความสุขของเราอาจจะไม่ใช่ตรงนั้น อยากจะอยู่กับใครสักคนไปไหนมาไหนด้วยกันจนเกษียณ และพาคนๆ นึงไปเที่ยวรอบโลก”
ไปเจอเขาได้ยังไง? เสนาหอย : “เป็นคนเดียวที่ไม่ได้เจอหน้าห้องน้ำ ไปเจอในรายการวิลลี่ ฮอลลีวูด เกมไนท์ เขามาทำอาชีพเสริม มาทำเสื้อผ้าดูแลคุณวิลลี่ ผมเห็นคนนี้โอเคนะ วิลลี่บอกไปขอไลน์ซิ ตอนแรกเขาไม่ให้ไลน์ วิลลี่บอกให้ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวมันก็ตาย สมบัติมันเยอะ ซึ่งคนนี้เป็นที่รักแบบที่เป็นเสนาหอย ผมชอบเขาวันไหน วันแรกที่เจอเขา ผมก็ชอบแบบนั้นมาตลอดก็ดูแลเขาดีมากทุกตรงเลย”
ความรักทุกวันนี้เป็นยังไงบ้าง? เสนาหอย : “ทุกวันนี้ความรักมันนิ่ง เมื่อก่อนความรักของผมมันขึ้นลง แต่ตอนนี้ผมบอกได้เลยสต๊อปอยู่ตรงนี้แบบนิ่งๆ ทำอะไรก็ได้ให้ชีวิตเราปักหมุดแล้วว่านี่แหละใช่ เรื่องแต่งงาน มันคือภาพจำ ที่มีผู้หญิงคนนึงบอกจะมาแต่งงาน มาบอกเรา เราบอกไม่พร้อม เขาก็บอกกลับมา ไม่ใช่กับพี่ จะไปแต่งกับคนอื่น ใจหล่นไปเลย ช็อค เรามั่นใจเขาจะแต่งงานกับเรา แต่เขาไม่ได้จะแต่งงานกับเรา
แต่หนึ่งอย่างของ น้องส้มที่ผมบอกกับเขาก่อนที่จะจับมือกันว่าเราจะไปด้วยกันคือไม่แต่งงานได้มั้ย เพราะการแต่งงานในความคิดผมอาจจะคิดไม่ถูกก็ได้ การแต่งงานมันเหมือนเป็นการผูกมัด สัญญาทุกอย่างว่าต้องรักตลอดชีวิต ถ้าเราจะรักกันไม่ต้องมีตัวหนังสือ ไม่ต้องมีงาน แค่เราจับมือไม่ปล่อยดีกว่ามั้ย ในสังคมนี้มันอาจจะมีสิ่งเร้าที่ทำให้เราต้องแยกกัน แต่ผมบอกเขาเลยว่าผมจะทำให้ดีที่สุด และผมจะไม่ปล่อยมือคุณในทุกสถานการณ์ มีอะไรให้ ให้ได้ ให้ตอนที่รักกันอยู่ให้ไปเลย เดี๋ยวตอนไม่รักกันแล้วถ้าจะให้อะไรบางอย่างจะให้ด้วยความไม่รัก อยากให้อะไรเขาให้เลย”
ยุดนี้คิดแบบนี้เยอะ? ซาร่า : “ใช่ ก็ไม่ได้แต่งงานเหมือนกันเพราะว่าด้วยความที่ระยะเวลามันค่อนข้างสั้นมากในการรู้จักกับคนคนนึง แต่ว่าเรารู้แล้วว่าเขาจะจับมือเราไม่ปล่อยหรือว่าเขาจะอยู่กับเราในทุกๆ สถานการณ์หรือว่าเห็นหนทางที่จะเติบโตไปด้วยกัน ถ้าเราโอเคกับคนคนนี้แล้วเขาให้อะไรเราที่เรารู้สึกว่าเพียงพอสำหรับเรา แค่นั้นก็พอ ตอนนั้นที่บอกคุณแม่ว่าท้องแม่ก็ไม่ได้ตกใจ คุณแม่ค่อนข้างเปิดใจมาก แต่ว่าสิ่งที่ได้รับตอบมาในที่สุดก็มีหลานแล้ว รู้สึกว่านี่แหละมันคือความสวยงามของความรักจริงๆ”
ซาร่าน่าจะมีลูกคนที่2? ซาร่า : “ ไม่เคยแพลนค่ะ แต่ถ้าจะมาก็ให้เป็นธรรมชาติ ไม่ได้กำหนดว่าต้องดูฤกษ์วันตกไข่ ตกฟาก ไม่ได้ถึงขนาดนั้น”.