บันเทิง

Home บันเทิง Page 156

จบด้วยดี จูน เพ็ญชุลี-หนุ่ม กะลา ได้ข้อตกลงกันแล้ว

ล่าสุดทางทีมงานได้รับรายงานว่า “หนุ่ม กะลา” และ “จูน เพ็ญชุลี”  หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นมากมายจนหลายคนจับตามองว่าจะจบอย่างไร

โดยล่าสุดในวันนี้หลังจากที่ หนุ่มกะลา ได้ลาสิกขา  และได้มีการเคลียร์ปัญหากับ จูนเพ็ญชุลี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางด้าน  “ทนายเดชา” ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า จบแล้วครับหนุ่มกะลาและจูน ถอนฟ้องและไปหย่ากัน

ดาราหลายคนก็รอ หนุ่ม สุรวุฑ ทวงเงิน เผยเหตุผลผู้จัดอ้างไม่จ่าย บิ๊ก แนะ5ปีฟ้องเถอะเพื่อน

ดาราอีกหลายคนก็รอ หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน ทวงเงิน เผยเหตุผลผู้จัดละครอ้างไม่จ่าย บิ๊ก แนะโดนมา 5 ปี ฟ้องเถอะเพื่อน อีกหนึ่งมหากาพย์ทวงหนี้

เรียกว่าตามทวงเงินกันแบบข้ามภพข้ามชาติ นักแสดงหนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน โพสต์ประกาศกลางโซเชียลทวงเงินค่าตัวในการถ่ายละครแบบมาราธอนก็ยังไม่ได้เงิน

ทั้งที่ละครออนแอร์จบไปแล้วเกือบปี แถมรวมช่องเวลาถ่ายทำด้วยรวม 5 ปี แต่ก็ยังไม่ได้เงิน ล่าสุด หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน โพสต์ทวงเงินผู้จัดอีกว่า

“ละครถ่ายทำเสร็จแล้ว ออนแอร์จบไปเกือบปีแล้ว ในความเป็นจริง ช่องต้องจ่ายเงินให้ผู้จัดครบไปแล้ว ทำไมพี่ยังไม่จ่ายเงินให้พวกผมครับ? ”

ด้าน บิ๊ก ศรุต เพื่อนนักแสดงก็เข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “ค่ายไหนวะเนี่ย กูเคยโดนเต็มที่เกือบ2ปี มึงโดน5ปี ฟ้องเถอะเพื่อน”

หนุ่ม สุรวุฑ ยังโพสต์ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ค.67) อีกว่า “พี่บอกผมว่าละครขาดทุน นักแสดงต้องรับผิดชอบด้วยเหรอครับ? แล้วถ้าได้กำไร พี่จะแบ่งให้พวกผมเหรอครับ? นักแสดงอีกหลายคนก็รออยู่เช่นกันครับ”

ด้านเพื่อนนักแสดง เวฟ สาริน หรือ เวฟ วิภพ ก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า “มันก็จริงนะ เรารับจ้าง ไม่ใช่หุ้นส่วน”

หนุ่มก่อสร้างนัด ‘สาวพยาบาล’ ในแอปหาคู่ สวยตรงปกชวนเปิดห้อง-ตื่นมาทองหาย 3 บาท

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ร.ต.อ.ประวิทย์ อิ่มใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งความจาก นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด แจ้งว่า โดนหญิงสาวที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่ ก่อนพูดคุยกันทางไลน์ ชวนมานอนที่รีสอร์ทใน จ.อุดรธานี พอตื่นขึ้นมาปรากฏว่าสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทหายไปพร้อมกับสาวที่นัดนายเอ เล่าว่า ตนมาทำงานก่อสร้างกับน้าที่ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ประมาณ 3-4 เดือน ตนรู้สึกเหงาจึงได้เข้าไปในแอปหาคู่ ทำให้ได้รู้จักกับ น.ส.เซียส ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อ้างว่าเป็นพยาบาล อยู่ จ.ขอนแก่น ซึ่งรูปโปรไฟล์ก็สวมชุดพยาบาล หน้าตาสวย จึงได้พูดคุยจีบกันทางไลน์ ประมาณ 1 เดือน ต่อมาวันที่ 11 ก.ค. 67 ได้นัดพบ น.ส.เซียส ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณสี่แยกเขื่อนห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี”หลังเลิกงานตนก็ไปพบตามนัด ซึ่งตนก็ได้พบกับ น.ส.เซียส ซึ่งสวยตรงปก บอกว่ามากับแม่และน้องชาย และได้เปิดห้องพักไว้ 3 ห้อง หลังพูดคุยกันเสร็จก็ได้เข้าไปคุยกันต่อในห้อง ต่อมา น.ส.เซียส ได้ขอตัวออกไปทำธุระกับแม่และน้องชาย ส่วนตนก็เล่นอยู่ในห้องรอ ต่อมาตนเดินออกมาเล่นนอกห้อง พร้อมกับได้ล็อกประตู้ห้องพักไว้ พอจะเข้าไปในห้องก็พบว่าตนเอากุญแจผิดห้อง กลายเป็นกุญแจห้องน้องชาย น.ส.เซียส ตนจึงโทรฯ ไปบอก น.ส.เซียส ว่าลืมกุญแจในห้อง และกระเป๋าสะพายตนอยู่ในห้อง ซึ่งมีสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น และเอกสารทางราชการอยู่ในกระเป๋า น.ส.เซียส บอกว่าได้โทรฯ ติดต่อเจ้าของรีสอร์ทให้มาเปิดห้องให้ตนวันพรุ่งนี้ จึงให้ตนนอนรอที่ห้องพักน้องชายแล้วเผลอหลับไป” หนุ่มขี้เหงา กล่าว

หนุ่มขี้เหงา เล่าต่อไปว่า ตนมารู้สึกตัวตื่นเวลา 04.00 น. ตนจึงโทรฯ หา น.ส.เซียส ก็บอกว่าได้กลับเข้ามารีสอร์ทแล้ว และได้ไปเปิดห้องพักและเก็บสร้อยคอทองคำไว้ให้แล้ว แต่ตอนนี้ได้ออกไปทำธุระกับแม่และน้องชายไม่ต้องห่วง ตนจึงไปสอบถามพนักงานรีสอร์ท ทราบว่า น.ส.เซียส มาเปิดห้องพัก 2 ห้อง ไม่ใช่ 3 ห้องดังที่กล่าวอ้าง ตนจึงกลับไปทำงาน แต่ก็พยายามโทรฯ ติดต่อ น.ส.เซียส ให้นำสร้อยคอทองคำของตนมาคืน แต่ น.ส.เซียส ก็บ่ายเบี่ยงอยู่ตลอดเวลา บอกว่าไปทำธุระบ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง หรือขึ้นเวรบ้าง สุดท้ายก็บอกว่าสร้อยคอทองคำอยู่กับแม่ ตนจึงขอเบอร์โทรฯ แม่ น.ส.เซียส หนุ่มขี้เหงา เล่าต่ออีกว่า ตนได้โทรฯ ติดต่อกับแม่ น.ส.เซียส ชื่อว่า แม่นาง เพื่อขอสร้อยคืน แม่นางก็บอกว่าสร้อยอยู่กับแม่ แต่ยังกลับอุดรธานีไม่ได้ เพราะว่า น.ส.เซียส เกิดอุบัติเหตุที่ขอนแก่น เข้ารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ มีอาการเลือดคั่งในสมอง ส่งรูปคนป่วยนอนอยู่บนเตียงมาให้ดูด้วย ตนก็ให้กำลังใจ กระทั่งบอกว่าอาการปลอดภัย แต่ก็ยังไม่คืนสร้อยคอตน และบ่ายเบี่ยงที่จะเอาสร้อยมาคืนตลอด โทรฯ ไปก็ไม่รับสาย กระทั่งวันนี้ ตนจึงตัดสินใจมาแจ้งความกับตำรวจติดตาม น.ส.เซียส ให้นำสร้อยทองมาคืนตนด้วย ฝากถึง น.ส.เซียส ให้นำสร้อยทองมาคืน เพราะเป็นสร้อยทองที่ผมทำงานแล้วเก็บหอมรอมริบมาซื้อเก็บไว้ ตั้งแต่ทองคำบาทละ 3 หมื่นบาท เป็นน้ำพักน้ำแรงของผม ไม่ใช่ทรัพย์สินของคุณเบื้องต้นตำรวจจึงลงบันทึกประจำวัน และจะติดต่อ น.ส.เซียส ให้นำสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท มาคืนกับผู้เสียหายต่อไป.

Image9102-0

Image9105-0

w1200-27

w1200-28

w1200-29

w1200-30

สาแก่ใจยัง นัท โชว์หัวโล้น เคยสัญญา โกนหัว หากคืนดี โชค รถแห่

เล่นเอาชาวเน็ตขำพรืด เมื่อ “นัส จุฑารัตน์” อดีตภรรยาสุดแซ่บของนักร้องหนุ่ม “โชค รถแห่” ออกมาโกนหัวตามสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า หากกลับไปคืนดีกับอดีตสามีเมื่อไหร่ จะยอมโกนหัวให้ดู!

งานนี้ทำเอาแฟนคลับฮือฮา เพราะหลังจากที่ทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในฐานะผู้จัดการส่วนตัว ก็มีกระแสเรียกร้องให้นัสทำตามสัญญาที่เคยลั่นวาจาไว้ ล่าสุดสาวนัสก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โพสต์คลิปโกนหัว (ผ่านฟิลเตอร์) ลงโซเชียล พร้อมแคปชั่นเด็ดว่า “โอเคมั้ยกูโกนให้แล้ว ไม่ต้องเรียกกู กูโกนให้เลย จบมั้ย สาแก่ใจพวกมึงยัง กัดกันเก่งจริงๆ”

แม้จะเป็นแค่การโกนหัวผ่านฟิลเตอร์ แต่ก็เรียกเสียงฮาและคอมเมนต์แซวจากชาวเน็ตได้อย่างล้นหลาม บ้างก็บอกว่า “สาแก่ใจยังคะ” บ้างก็แซวว่า “นัทนี่ตัวตึงจริง ๆ”

งานนี้ไม่รู้ว่า “โชค รถแห่” จะว่ายังไง แต่ที่แน่ๆ “นัส จุฑารัตน์” ทำเอาชาวเน็ตหายคิดถึง และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เธอเป็นคนรักษาคำพูดจริงๆ

สำหรับเส้นทางรักของทั้งคู่ นัส ได้ออกมาเผยว่าเซ็นใบหย่ากับโชคแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2566 เพราะทนไม่ไหว โดนนอกใจเป็น 10 ครั้ง

แม้ว่าจบกันไม่สวยแต่ปัจจุบัน สายสัมพันธ์น่าจะดีขึ้นบ้างแล้ว นัทใจอ่อนยอมกลับมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวหลังโชคกระแสตก แถมล่าสุด มีโมเมนต์ที่ นัส โผล่กลางไลฟ์ของ โชค พร้อมบอกช่วยกันเลี้ยงลูก แบ่งกันทำหน้าที่พ่อและแม่ให้ดีที่สุด

ที่ดิน 800 ไร่ ‘ตั๊ก บงกช’ ปลูกผัก-ผลไม้ไว้ขายหาเงินเองไม่พึ่งเงินสามี

หลังจากที่ดาราสาว ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล ได้ใช้เวลาว่างช่วงที่ต้องอยู่บ้านเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ไปกับการปลูกต้นไม้-ผักสวนครัวกินเอง โดยเจ้าตัวได้ทำสวนบริเวณหลังบ้าน รวมถึงที่ไร่เบญจรงคกุลซึ่งเป็นไร่ของครอบครัว ช่วงหลังๆ มานี้เราเลยได้เห็นคุณตั้กโพสต์ภาพและคลิปขณะลงมือลุยทำสวนด้วยตัวเองอยู่บ่อยๆ ทั้งยังเผยผลผลิตของพืชผักที่ออกดอกออกผลงามเป็นประจำ ล่าสุด ตั้ก ได้โพสต์ภาพลงบนไอจีส่วนตัวเผยสภาพมือปัจจุบันที่เต็มไปด้วยคราบดินติดตามซอกเล็บจนกลายเป็นสีดำเต็มไปหมด หลังจากที่เจ้าตัวลุยทำสวนโดยไม่ได้ใช้ถุงมือ เพราะไม่อยากมือเเห้ง โดยเธอระบุข้อความบรรยายภาพไว้ว่า “เอ่อ ร้านเล็บวันไหนว่างค่ะ😌 #ด้วยความไม่อยากมือเเห้งเลยไม่ใส่ถุงมือเพราะพอน้ำเข้า มือเเห้งมาก😌” หลังโพสต์ดังกล่าว ได้มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนท์ชื่นชมในวิถีความเป็นเกษตรกรตัวจริง ทั้งยังเข้ามาแนะนำวิถีเอาดินออกมาจากซอกเล็บให้อีกด้วย

batch 1 107

batch 2 62

batch 3 56

batch 4 86

batch 5 86

batch 6 69

batch 7 56

batch 8 37

batch 9 31

batch 10 20

บ้าน ‘ไข่มุก รุ่งรัตน์’ ใช้ชื่อเสียงแลกเงิน 100 ต้องกินข้าวเหลือนายฝรั่งทุกเย็น

แม้จะสร้างชื่อด้วยการเป็นนักร้อง จนเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจนทุกวันและได้เลื่อนจากนักร้องขึ้นแท่นเป็นนางเอกเต็มตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ยกเป็นนางเอกละครเรติ้งพุ่งสุดๆ ของช่อง สำหรับ ไข่มุก รุ่งรัตน์ ที่ชีวิตก่อนเข้าวงการต้องดิ้นรนทุกอย่าง เพื่อให้ได้เงินมาช่วยแม่เลี้ยงดูครอบครัว

ตอนเด็กมีพ่อแม่พี่น้อง 5 คนคะในบ้าน แต่ว่าพ่อไม่ได้อยู่ด้วยจะมาบ้างเพราะว่าทำงาน เดือนละครั้งที่เจอพ่อ เสาหลักของบ้านคือแม่ หนูกับแม่จะช่วยหาเงิน

หนูเห็นแม่ลำบากมาตั้งแต่เด็กเลยอยากจะทำอะไรก็ได้ที่ช่วยแม่หาเงินได้ รับจ้างล้างจาน ลำบากแต่มีอาหารดีๆ กินทุกวัน เพราะว่าแม่เป็นแม่บ้านฝรั่งทำเสื้อผ้า ทำอาหาร คนจีน คนญี่ปุ่น

ซึ่งเวลาเขาทำอาหารปาร์ตี้ เขาจะกินของดีๆ ทุกอาทิตย์เขาจะปาร์ตี้กันอยู่แล้ว ซึ่งพออาหารมันเยอะมันไม่หมด เขาก็บอกแม่ให้เอากลับมาให้ลูกได้นะ เราก็ได้กิน

พอตอนประถมเราก็เริ่มไปรำครูพาไปก็ได้เงินมา บางทีก็ได้ติ๊บด้วย พอมัธยมเรารู้ว่าร้องเพลงได้เงินเยอะกว่าก็เลยร้องเพลง จนได้เงินเพิ่ม บางวันก็รับ 2 งาน

รวมติ๊บด้วยวันนึงก็ 3-4 พัน ทำเกือบทุกวัน เราคิดว่ามันได้เร็วและเรามีเวลาแค่ช่วงเลิกเรียนด้วยจะไปทำงานประจำก็ไม่ได้ เห็นแม่ลำบากมาแต่เด็กทำให้เราเป็นผู้ใหญ่เกินวัย

ใช่คะ ถ้าชีวิตหนูนิยามสั้นๆ ว่าทำไมถึงมีวันนี้หนูตอบคำเดียวคือแม่ ตั้งแต่อนุบาลหนูร้องเพลงวันเด็กร้องเต้นมีเวทีที่ไหนหนูจะขึ้นเพื่อเอาเงินรางวัลนั้นไปให้แม่

เพราะว่าเรามีน้อง หนูอยากมีน้องมาก เราเลี้ยงน้องตั้งแต่วันแรกเลย มันไม่ได้มีทุกเดือนคะ ช่วงที่หนูร้องเพลงจะเป็นช่วงปีใหม่ งานบวช งานสงกรานต์ พอแม่ไม่มีเงินส่ง

เราก็คิดว่าเราเรียนไม่เก่งจะไปสอบที่ไหนได้ เลยทำพอร์ตยื่นเรียนทุน 100% ก็ไปเล่าให้แม่ฟังแม่ดีใจมาก แต่เราไม่น้อยใจที่ไม่มีเงินเรียน เราเข้าใจแม่ หลังจากรู้ว่ามีที่เรียนแล้ว

แต่ในระหว่างเรียนจะเอาตังค์ไหนใช้ เพราะว่าหลังจากที่ไปประกวดรายการนึงก็ชนะ แต่เรามีปัญหาครอบครัวต้องใช้ตังค์ ตอนนั้นมีเป็นล้านแต่หมดไวมาก มีเรื่อยๆ เราก็ใช้เรื่อยๆ

อะไรที่ไม่จำเป็นซื้อก็ซื้อ เสื้อผ้าทีสิบยี่สิบชุด เราก็แบบเดี๋ยวมันก็มีงานเรื่อยๆ เดือนหน้าก็มี เราหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าเสมอ จนมาสามปีเรามาถามตัวเองว่าทำไมงานน้อยลง

เราก็ซอฟต์ลง แต่ก็ซื้อรถดาวน์ไป 500,000 ราคามัน 2 ล้าน แต่ตอนนี้ขายรถแล้วคะ หนูขับไม่เป็นแล้วหนูกลัวมันพัง เราก็เริ่มเรียนรู้แล้วงานก็ไม่ได้มีเหมือนเดิม

แล้วเงินมันหายไปมากแล้ว มีก้อนนึงที่เหลือมีค่าโน่นนี่ที่ต้องจ่ายที่เราสร้างไว้ทั้งรถทั้งคอนโด งานน้อยมากๆ จนพอแค่จ่ายหนี้ เอาเงินก้อนสุดท้ายที่เหลือดาวน์บ้าน

ยกให้เป็นอีกหนึ่งนางเอกที่ทั้งน่ารักและกตัญญูมาก ๆ เชื่อเลยล่ค่ะว่าที่เธอยังมีทุกวันนี้ได้เพราะความกตัญญูของเธอที่ทำให้ชีวิตของเธอสามารถไปต่อได้อย่างดี

‘มดดำ’ ไม่ทนแจงข่าว ‘ทักษิณ’ ถูกโยง เป็นสามี คนที่ 3 ของ ‘ลิลลี่ เหงียน’

เจอโยงไปแบบ งงๆ สำหรับข่าว “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกโยง เป็นสามี คนที่ 3 ของ “ลิลลี่ เหงียน” หลังเธอเคยออกมาเล่าว่า มีผัวมาแล้ว 4 คน ซึ่งผัวคนที่ 3 นั้น เธอบอกว่าเป็นถึงประมุข เป็นถึงนักการเมือง

ทำเอา “มดดำ” เพื่อนสนิทของ “โอ๊ค พานทองแท้” ร้อนใจ รีบแจงข่าวนี้ทันที ผ่านรายการข่าวใส่ไข่ ว่า “ลิลลี่ไปออกรายการฉัน เล่าว่าผัวคนที่ 1 คือเพื่อนแม่ นางชอบมีผัวแก่ๆ เพราะนางไม่เคยอยู่กับพ่อ คนที่ 2 ก็เป็นเพื่อนแม่ แบบไปเจอกันที่ร้านอาหาร อยู่ดีๆก็ปิ๊งกัน เป็นผู้บริหารบิดคอยในภูมิภาคเอเชีย เป็นคนฮ่องกงเสร็จแล้วไอคนนี้ตอนที่จะเลิก ก็ทิ้งเงินไว้ให้นาง 100 ล้าน แล้วก็ซื้อคอนโดให้นางอีกกี่ 10 ห้องก็ไม่รู้ แล้วบอกว่าไม่ต้องทำมาหากินนะ หน้าที่คอยเที่ยว ใช้เงิน อย่าทำงานนะ เพราะเธอโง่ แล้วซื้อคอนโดไว้ให้เพราะได้เก็บค่าเช่า แต่ที่เลิกกันเพราะความฝันของนางอยากเป็นดารา ผู้ชายก็เลยให้เลือกเอา ระหว่างฉันที่เป็นผัว หรือจะไปเป็นดาราปรากฎว่าคนที่ 3 ถ้าพูดไปทุกคนรู้จักหมดเลย เป็นประมุข เป็นนักการเมือง เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ หวยไปออกที่คุณทักษิณได้ไงก็ไม่รู้ คือมีโอกาสได้คุยกับลูกของคุณทักษิณ เอาจริงป่ะ เขาถามว่าใครว่ะ ลิลลี่ เหงียน เกิดมาไม่เคยรู้จัก แล้วอยู่ดีๆมาเกี่ยวอะไร คุณทักษิณเพิ่งกลับมา ไม่รู้จักอยู่ดีๆ คนเอาไปโยงคุณทักษิณได้ไงก็ไม่รู้ ไม่เกี่ยวกัน ในฐานะที่ไปถาม ขอยืนยันไม่ใช่คุณทักษิณ ล้าน% คือคนๆนั้นเขาบอกว่า.. (หัวเราะ) เขาบอกว่าเอิร์กเริ่มแฉแล้ว นักการเมืองโทรหาฉันเยอะมาก ฉันก็ไม่รู้ เขาออกมาแฉแล้ว วันนั้นนางก็เอ๋อๆ นางพูดไปเรื่อยๆ ตอนแรกฉันบอกไหนเขียนให้พี่ดูสิ ปรากฎว่านางเขียนภาษาไทยไม่ได้ คืออ่านได้แต่เขียนไม่ได้ แต่แจ็คพอตไปลงที่คุณทักษิณ ขอยืนยันว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวข้อง เขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน”

263198-0

image-big-5e6d8a02d363b

w1200-47

w1200-48

w1200-49

“นัส” อดีตเมีย “โชค รถแห่” โชว์คลิปโกนหัว ลั่นสาแก่ใจหรือยัง กัดกันเก่งจริงๆ

ก่อนหน้านี้ นัส จุฑารัตน์ อดีตภรรยา โชค รถแห่ ได้เคยประกาศไว้ตอนเลิกกับอดีตสามีว่า “ถ้ากลับไปคืนดีก็โกนหัว” จนกระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. ทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในฐานะผู้จัดการส่วนตัวชั่วคราว เนื่องจากเป็นงานทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศที่รับงานไว้ตั้งแต่ก่อนหย่า แถมทางด้านอดีตสามี โชค รถแห่ ก็ตามง้อ นัส เต็มที่

นัส อดีตเมีย โชค รถแห่ โชว์คลิปโกนหัว ลั่นสาแก่ใจหรือยัง กัดกันเก่งจริงๆ

ด้านชาวเน็ตต่างลุ้นตามให้ นัส กับ โชค รีเทิร์นกัน แต่บางส่วนก็เรียกร้องให้นัสทำตามสัญญาที่เคยลั่นวาจาไว้ จะโกนหัวถ้ารีเทิร์น โชค ซึ่งแม้ล่าสุดทั้งคู่ยังไม่ประกาศรีเทิร์นแต่อย่างใด แต่ทางด้าน สาวนัส  ก็ทนไม่ไหวโพสต์คลิปโกนหัว พร้อมถามด้วยว่า “โอเคมั้ยโกนให้แล้ว ไม่ต้องเรียก กูโกนให้เลย จบมั้ย สาแก่ใจพวกมึงยัง กัดกันเก่งจริงๆ”

นัส อดีตเมีย โชค รถแห่ โชว์คลิปโกนหัว ลั่นสาแก่ใจหรือยัง กัดกันเก่งจริงๆ

ทั้งนี้ แม้ว่า สาวนัส จะไม่ได้โกนหัวจริงๆ เป็นแค่การโกนหัวผ่านฟิลเตอร์ แต่ก็เรียกเสียงฮาและคอมเมนต์แซวจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ต่างแซวกันว่า ทำถึงมากแม่ , ทำถึงเกินพี่ เป๋นต้น

นัส อดีตเมีย โชค รถแห่ โชว์คลิปโกนหัว ลั่นสาแก่ใจหรือยัง กัดกันเก่งจริงๆ

นัส อดีตเมีย โชค รถแห่ โชว์คลิปโกนหัว ลั่นสาแก่ใจหรือยัง กัดกันเก่งจริงๆ

พระเอกดังเผยภาพบ้านหรู ใบเฟิร์น อดใจไม่ไหว โผล่เมนต์ชม

โลดแล่นในวงการบันเทิงมานานสำหรับ ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร เราจะเห็นผลงานของเขามากมายหลากหลายด้าน และจะเห็นว่าหนุ่มออฟนั้น งานปังมาโดยตลอด มีแต่ผู้ใหญ่รักและเอ็นดูป้อนงานให้รัวๆ แฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศก็ซัพพอร์ตเขาอย่างดี

วันนี้ทุกคนต่างบอกตรงกันว่าภูมิใจในตัวหนุ่มออฟอย่างมาก เมื่อเจ้าตัวโพสต์ภาพลงอินสตราแกรมส่วนตัว @tumcial เผยภาพโครงสร้างบ้านที่กำลังสร้าง หลังใหญ่อลังการ พร้อมแคปชั่นระบุว่า “ติดต่อเจเมเนเจอร์ได้เลยนะครับ”

ท่ามกลางคนบันเทิงและแฟนคลับต่างแสดงความยินดีกับหนุ่มออฟจำนวนมาก แม้กระทั่งสาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก็คอมเมนต์ยินดีบอกว่า “ปัง” อีกด้วย

เผยความสนิท กุ้งพลอย – เอก สายเต๊าะ เพิ่งเต้นเมร่อนฉลองวันเกิด วันที่เข้าคุกรุดเยี่ยม

เผยความสนิท กุ้งพลอย – เอก สายเต๊าะ เพิ่งเต้นเมร่อนฉลองวันเกิด วันที่เข้าคุกรุดเยี่ยม ขอโอกาสให้เพื่อน เชื่อออกมาจะปรับปรุงตัว ได้ต่อว่าเพื่อนในเหตุผลที่จะต้องปรับเปลี่ยน

จากกรณี กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ โพสต์คลิปไปขอโทษแม่หลังจากออกมาโพสต์ถึง เอก สายเต๊าะ ที่กำลังเป็นประเด็น สร้างความเดือดร้อนรำคาญปั่นป่วนเพื่อนบ้าน ล่าสุดถูกค้นบ้านคุมตัวไป สน.ดอนเมือง และยังไม่ได้รับการประกันตัวต้องนอนคุก

ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดราม่าถึง กุ้งพลอย คบเพื่อนไม่ดีต่างๆ นานา ซึ่ง กุ้งพลอย เองก็ยังได้ไปเยี่ยม เอก สายเต๊าะ ที่ สน.ดอนเมือง พร้อมขอโอกาสให้ เอก สายเต๊าะ ด้วย

กุ้งพลอย ยังบอกด้วยว่า กรณีถูกพาดพิงว่าทำไมคบคนไม่ดี คนเลว มีเพื่อนเลว เพื่อนชั่ว คนไม่ดี ขอตอบตรงนี้เลยว่า ในการทำงานของเรา หรือการเป็นเพื่อนของเรา กุ้งพลอย ก็เคยล้มเคยพลาดเคยผิด มาเหมือนกัน

ตอนกุ้งพลอยล้ม เคยผิดพลาดก็ยังมีคนให้โอกาสกุ้งพลอยเลย วันนี้กุ้งพลอยเชื่อว่าคนล้มคนพลาดก็ลุกขึ้นได้ อยู่ที่เขาออกมาจะปรับปรุงตัวยังไง เชื่อว่าเขาทำได้ อยู่ที่สังคมจะให้โอกาส

เราเป็นเพื่อนเราดูแลกันในส่วนของการทำงาน อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ความเป็นเพื่อนเราก็มาเยี่ยมเพื่อนเรา เขาได้รับบทลงโทษแล้ว

เราเป็นเพื่อนก็ให้กำลังใจเขาโดนด่าเยอะแล้ว เราก็ได้ต่อว่าเขาไปแล้วนิดหน่อยในเหตุผลที่เขาจะต้องปรับเปลี่ยน

ทั้งนี้ย้อนไปช่วงวันเกิด กุ้งพลอย เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์คลิปความสนิทกับเพื่อน เอก สายเต๊าะ โดยเต้นเพลงดัง เมร่อน พร้อมข้อความว่า “ขอบพระคุณนะคะพี่เอก ที่ช่วยน้องนะคะ สุขสันต์วันเกิดกุ้งพลอย” ด้วย

Popular Posts

My Favorites

ด่วน “ชรินทร์ นันทนาคร” สามี “เพชรา เชาวราษฎร์” เสียชีวิตแล้ว

0
ล่าสุดทางเฟสบุ๊คดาราภาพยนตร์ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวเศร้า วงการเพลงลูกกรุงได้สูญเสียนักร้องดัง "ชรินทร์ นันทนาคร" หรือ "อาฉึ่ง" ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2541  ในวัย 91 ปี ดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า "#เรื่องเศร้าคนบันเทิง สิ้นศิลปินแห่งชาติ #อาฉึ่ง #ชรินทร์นันทนาคร จากไปอย่างสงบด้วยโรคชรา สิริอายุ91ปี : : เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงลูกกรุง และวงการบันเทิง ต่อการจากไปของ ชรินทร์ นันทนาคร...