วันที่ 28 ส.ค.2567 จากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงจังหวัดเลย จากอุทกวิทยาที่ 2 เลย สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3 (อุดรธานี) สถานีวัดระดับแม่น้ำโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน วัดได้เมื่อเวลา 07.00 น.ระดับน้ำโขงอยู่ที่ระดับ 14.91 ม. และวัดเวลา 11.00 น. ระดับน้ำโขงได้เพิ่มขึ้นสูงอยู่ในระดับ 15.04 ม. เพิ่มขึ้น 13 ซม. เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.25 ซม.ต่อชั่วโมง ทำให้แม่น้ำโขงที่ปากชมล้นตลิ่ง

โดยเฉพาะจุดบ้านคกไผ่ ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย น้ำโขงล้นตลิ่ง ทำให้ร้านอาหารซุ้มนั่งรับประทานอาหารที่อยู่ริมโขง ที่ยื่นลงในแม่น้ำโขง และร้านอาหารบริเวณท่าเรือคกไผ่ ถูกน้ำโขงท่วมเกือบมิดหลังคา

ส่วนพื้นที่หมู่บ้านที่อาศัยใกล้ริมแม่น้ำโขงมี 14 หมู่บ้าน 3 ตำบลคือ ต.ปากชม ต.ห้วยพิชัย และต.หาดคัมภีร์ น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน้ำไหลหนุนขึ้นมาตามแม่น้ำสาขา ทำให้หลายพื้นที่น้ำได้เอ่อล้นริมตลิ่ง และเริ่มท่วมพื้นที่ทางการเกษตร

ล่าสุดที่บ้านคกไผ่ ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย น้ำโขงได้เริ่มล้นตลิ่งแล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ทำให้ซุ้มนั่งรับประทานอาหารของร้านอาหารที่อยู่บริเวณท่าเรือคกไผ่น้ำท่วมชั้นล่างทั้งหมด

จากกรณีที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังจากที่ได้มีผู้ใช้บัญชี ลุงกำนันใจดี ได้มีการโพสต์คลิปมีการเผยแพร่เอกสารสำคัญ ที่มีการระบุวันที่ประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมามีเลขที่ตรงกับที่ออก ทำให้ชาวโซเชียลต่างฮือฮา ซึ่งผู้โพสต์เผยว่าเป็นเพียงการให้แนวทางในการซื้อรางวัลเท่านั้น

ล่าสุดมีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ ได้มีการเผยเลยหลุดจากกลุ่ม งวดประจำวันที่ 1 กันยายน 2567 โดยมีเลข 012 93 นอกจากนี้ยังพบว่า ในโซเชียลมีการปลอมช่องขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งให้แนวทางเลขหลายแบบ ส่วนเลขใบนี้นั้นเป็นเพียงแนวทาง ที่มีการอ้างว่าหลุดมาจากในกลุ่มเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบต่อไป

เรียบเรียงโดย mumkhao

อดีตประธานนปช. อัด เพื่อไทย จับมือ ประชาธิปัตย์ เดินบนซากศพประชาชน  บทเรียนนักต่อสู้ เตือน ทักษิณ อย่าฝันหวานเป็นรัฐบาลแล้วจะสบาย

วันที่ 28 ส.ค. 67 นาง ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทยส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยตั้งแต่นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาก็หน้ามืดหมดแล้ว คิดแต่ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ได้เป็นรัฐบาล โดยไม่คิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คิดแต่ว่าตัวเองต้องได้กลับมา หรืออาจนึกไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้กลับมาด้วย วิธีคิดของพรรคเพื่อไทยในตอนนี้ใช้โมเดลพรรคไทยรักไทยที่คิดว่าอย่างไรคนก็เลือกเขา ถ้าเขาทำเศรษฐกิจได้ดี แต่ต้องไม่ลืมว่าปัจจุบันประชาชนเปลี่ยนไปหลายตลบแล้ว

“ส่วนคนเสื้อแดงคิดว่าแม้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มาร่วมรัฐบาล ก็คงไม่เอาพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ตั้งแต่เอา 2 ลุงมาสืบทอดอำนาจ ทั้งที่ทั้ง 2 ลุงมีส่วนสำคัญในการเข่นฆ่าประชาชน และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเมือง แต่ก็กลายมาเป็นพวกเดียวกัน และกลายเป็นเครื่องมือของอำมาตย์ แต่ดิฉันก็เข้าใจได้ว่าเขาไม่ใช่พรรคที่ต่อสู้ในการพัฒนาการเมือง แต่เป็นพรรคที่ต้องการเป็นรัฐบาลเท่านั้น” นางธิดา กล่าว

นางธิดา กล่าวต่อว่า จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ 10 ล้านเสียง ก็ถือว่ามากไปด้วยซ้ำ มาตอนนี้ยังจะเอาพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมอีก รอบหน้าเชื่อว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยจะลดลงอีก เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาชนยังมองว่าเขาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้กับนักต่อสู้ว่าจะเอาตัวเองไปวางไว้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้ พรรคเพื่อไทยต้องไม่ลืมว่าทางเดินทุกวันนี้ไม่ใช่อยู่ๆ มีถนนให้เขาเดิน แต่เป็นทางเดินที่ผ่านซากศพประชาชนสร้างถนนให้เขาเดิน

นางธิดา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังคงมีความเกลียดชังนายทักษิณอยู่ เชื่อว่ายังต้องเจอปัญหาอีกมาก อย่ามัวฝันหวานว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะสบาย เพราะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะลงเอยอย่างไร

เมื่อถามว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์จับมือกัน ในฐานะที่เคยต่อสู้ทางการเมืองมารู้สึกอย่างไร นางธิดา กล่าวว่า ตนไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายทักษิณมานานแล้ว มันก็เหมือนเรียนรู้ธรรมชาติ รู้ธาตุแท้ของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร วันนี้รู้สึกสงสารมากกว่าหากเกิดอะไรขึ้น เพราะคนที่เป็นนายกฯ เป็นลูกเขาด้วย

“ถ้าเขาไม่จำอดีตของคนที่เคยเป็นศัตรูที่ทำร้ายเขา เขาก็คงไม่จำอดีตของคนที่เป็นมิตร ที่เคยต่อสู้มากับเขาเหมือนกัน” นางธิดา กล่าว

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษา ที่มอหินขาว จ.ชัยภูมิ เสียหลักลงข้างทาง เบื้องต้น มีครูได้รับบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเด็กนักเรียนทุกคนปลอดภัย โดยทางเพจ ชัยภูมิ ลูกพญาแล : Chaiyaphum city รายงานว่า ท่านนายกฯ ธีวรา วิตนากร ได้รับแจ้งรายงานเบืัองต้นแล้ว เป็นนักเรียนเทศบาล 2 เทศบาลเมืองชัยภูมิ เด็กทุกคนปลอดภัย คุณครูบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เนื่องจากลงจากรถแล้วเสียหลักล้มบนถนน

โพสต์

เรียบเรียงโดย mumkhao

หลังจากที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ และลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2567 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ที่เห็นชอบให้ปรับอัตราเพดานเงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นสูงที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว

จากเดิม เงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท

เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท

ปรับอัตราเพดานเงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นต่ำรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว

จากเดิมเงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท

เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนละ 11,000 บาท

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ออกระเบียบไว้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป ดังต่อไปนี้

กรณีที่ตำแหน่งของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่คณะกรรมการบริหารงานบุคคลกลางของข้าราชการแต่ละประเภทกำหนด หรือที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้นต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท

หากจำนวนเงินที่ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำรายใด ได้รวมกันแล้วไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท ให้ผู้นั้นได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนหรือค่าจ้างอีกจนถึงเดือนละ 11,000 บาท

ในกรณีที่ตำแหน่งของลูกจ้างชั่วคราวที่คณะกรรมการบริหารงานบุคคลกลางของข้าราชการแต่ละประเภทกำหนด หรือที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้นต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ให้ลูกจ้างชั่วคราวซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างอีกจนถึงเดือนละ 11,000 บาท

ทหารกองประจำการ ซึ่งได้รับเงินเดือนในระดับ พ.1 ถ้าได้รับเงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยงประจำตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการนั้นแล้ว มีจำนวนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นตามอัตราที่กระทรวงกลาโหมกำหนด แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงประจำตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมดังกล่าวแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท

การจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวตามระเบียบนี้เป็นการจ่ายชั่วคราว หากมีการปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการ และโครงสร้างค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการ กระทรวงการคลัง อาจเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ให้สอดคล้องกับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการและโครงสร้างค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการที่ปรับใหม่ได้ และให้ส่วนราชการมีคำสั่งการได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้แก่ผู้มีสิทธิ ก่อนเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้แก่ผู้มีสิทธิ

วันนี้ 28 ส.ค.67 ที่บ้านป่าฝาง ตำบลวังทรายคำ อำเภอเหนือจังหวัดลำปาง น้ำจากลำห้วยแม่เย็น ได้หลายหลากเข้าท่วมกลางหมู่บ้าน และทางเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวังเหนือ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยต้นธงชัยลำปาง นำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือหลังจากมีชาวบ้าน 2 คนเป็นชายติดอยู่บริเวณกลางเล้าหมู ที่เลี้ยงไว้กลางหมู่บ้าน

โดยน้ำลำห้วยนั้นได้เอ่อล้นเข้าท่วมเล้าหมู ชาวบ้าน 2 คน ได้เข้าไปช่วยพยายามจะเข้าไปช่วยหมูเพศเมีย ที่กำลังท้องแก่ 1 ตัว ออกมาแต่ระหว่างเข้าไปช่วยนั้น น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาย 2คนนั้น ติดอยู่บริเวณกลางเล้าหมู ซึ่งโอบล้อมไปด้วยน้ำที่ไหลเชี่ยว ออกมาไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวังเหนือ ได้นำเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเรือท้องแบนเข้าไปช่วย แต่ว่าเป็นไปด้วยความยากลำบากเจ้าหน้าที่ต้องอ้อมไปอีกทางหนึ่ง แล้วบอกให้ชาย 2 คนนั้นเดินออกมา หลังจากนั้นนำเรือท้องแบนเข้าไปรับตัวออกมาซึ่งสามารถช่วยออกมาได้สำเร็จ

สอบถามทราบว่าฝนจะตกหนัก และก็มีน้ำในลำห้วยไหลหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็วซึ่งชาย 2 คนนั้น เกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือออกมาด้วยได้สำเร็ จขณะที่แม่หมูท้องแก่นั้นยังติดอยู่บริเวณกลางเล้าหมูซึ่งโอบล้อมไปด้วยน้ำไหลเชี่ยวเป็นจำนวนมาก

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ฉบับที่ 6 มีผลถึง 28 ส.ค. 67

ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

ในวันที่ 28 สิงหาคม 2567

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยในช่วงวันที่ 28–29 ส.ค. 67 ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าว เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวนี้ไว้ด้วย

วันที่ 28 ส.ค. 67 ที่บ้านน้ำหลง ม.6 ต.วังซ้าย อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ขณะนี้กำลังประสบภัยจากฝนตกหนัก ที่น้ำป่าจากยอดเขาสูงไหลหลากลงลำห้วยหลายสาย และล้นทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านไปหลาย 10 หลังคาเรือน และในหลายหมู่บ้านของ ต.วังซ้าย

นอกจากนี้ชาวบ้านยังบอกว่า อ่างดินห้วยผักหละที่อยู่ด้านบนของพื้นที่ ต.ทุ่งฮั้วเกิดแตกกระแสน้ำจึงหลากมามาก และไหลเชี่ยวแรงท่วมตัดผ่านสะพานกลางหมู่บ้านไม่สามารถผ่านไปมาได้ โดยกระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวยังซัดกำแพงรั้วคอนกรีตของชาวบ้านพังเสียหายไปหลายหลัง เสาไฟฟ้าเริ่มเอียง จากแรงน้ำที่หลาดซัด ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่รีบร้องขอความช่วยเหลือไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ให้รีบตัดกระแสไฟฟ้า

นอกจากนี้บริเวณสะพานข้ามห้วยใกล้กับวัดบ้านน้ำหลวง ชาวบ้านก็ช่วยกันนำเศษกิ่งไม้ และเศษวัชพืชที่ไหลมาติดสะพานกลางหมู่บ้านออก เพื่อป้องกันไม่ให้สะพานพังถล่มไปจากกระแสน้ำที่ดันเศษต่างๆ ติดกับสะพาน แต่ชาวบ้านก็ทำได้ไม่นานมาก เพราะกระแสน้ำไหลมามากขึ้น จนถึงครึ่งเอว จึงต้องรีบออกมา สำหรับภัยทางธรรมชาติครั้งนี้ ถือว่าหนักสุดในรอบ 10 ปีที่เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในพื้นที่หมู่บ้าน

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.67 นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงความชัดเจนในการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า ต้องดูนโยบายรัฐบาลว่าจะแจกอย่างไร เชื่อว่าชัดเจนคือจ่ายให้กับกลุ่มเปราะบาง สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ ซึ่งข้อสรุปสำหรับกลุ่มเปราะบางกลุ่มแรกได้รับสิทธิแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตอนนี้มีจำนวนกว่า 15 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13-14 ล้านราย และคนพิการจำนวน 1 ล้านราย โดยใช้เงินจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท บวกกับงบฯกลางอีก 2 หมื่นกว่าล้าน เป็น 1.45 แสนล้าน โดยแจกในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ต้องรอกระทรวงการคลังสรุปตัวเลขอีกที โดยหากกรณีที่แจกเงิน 10,000 บาทไม่ทันแล้วไม่สามารถทำอะไรได้เลย ต้องพับโครงการไป หากจะทำโครงการอีกครั้งก็ต้องตั้งงบประมาณปีขึ้นใหม่อีกครั้ง

วันที่ 27 ส.ค.2567 กรมทางหลวง แจ้งว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 ในช่วงวันที่ 27- 28 ส.ค. 2567 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

กรมทางหลวงจึงได้เตรียมพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัย จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2567 พบว่าทางหลวงถูกน้ำท่วมจำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่ จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดสุโขทัย (7 สายทาง จำนวน 18 แห่ง) การจราจรผ่านไม่ได้ 16 แห่ง ดังนี้
จังหวัดเชียงราย 7 แห่ง

1. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 46+430 – 46+460 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้ผิวทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน
2. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 49+100 – 49+150 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้ผิวทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

3. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 56+040 – 56+230 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน
4. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 80+265 – 80+400 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

5. ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วง กม.ที่ 80+185 ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุสะพานขาด ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน
6. ทางหลวงหมายเลข 1155 ทรายกาด – บ้านลุง ช่วง กม.ที่ 27+400 – 27+500 ในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

7. ทางหลวงหมายเลข 1155 ทรายกาด – บ้านลุง ช่วง กม.ที่ 37+350 – 37+650 ในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางทรุดตัว ไม่มีเส้นทางเลี่ยงทดแทน

จังหวัดแพร่ 1 แห่ง
1. ทางหลวงหมายเลข 1125 นาปลากั้ง – วังชิ้น ช่วง กม.ที่ 11+650 – 13+400 ในพื้นที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ระดับน้ำสูง 90 ซม. ไม่มีเส้นเลี่ยงทางทดแทน

จังหวัดสุโขทัย 8 แห่ง
1. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 5+454 – 5+630 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 50 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
2. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 10+170 – 10+350 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 80 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
3. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 11+411 – 11+580 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 60 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
4. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 12+300 – 12+450 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 55 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
5. ทางหลวงหมายเลข 1177 ดอนระเบียง – ป่าไร่หลวง ช่วง กม.ที่ 12+790 – 13+175 ในพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 45 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.101 ศรีสัชนาลัย – แม่สิน
6. ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน – วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 12+725 – 13+550 ในพื้นที่อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 45 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงแยกเกาะวงษ์เกียรติ์ และทางเลี่ยงแยก อบต.วังทอง
7. ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน – วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 23+400 – 24+100 ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 100 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงสี่แยกท่าทองและสามแยกวังไม้ขอน เข้า ทล.101
8. ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน – วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 25+800 – 27+700 ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูง 100 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงสี่แยกท่าทองและสามแยกวังไม้ขอน เข้า ทล.101ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)