วันที่ 13 สิงหาคม 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบนยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง พายุโซนร้อน เซินติญ และ อ็อมปึล ปกคลุมด้านตะวันออกและใต้ของประเทศญี่ปุ่น ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ความคืบหน้าเหตุเสียชีวิต 3 ศพในบ้านพักข้าราชการตำรวจ จ.ชลบุรี โดยรับแจ้งเหตุวันที่ 12 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 12.50 น. ท้องที่ สภ.เมืองชลบุรี สถานที่เกิดเหตุ บ้านพักข้าราชการตำรวจ ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี ในตอนแรกคาดสาเหตุเป็นเพราะสูดดมโซดาไฟ แต่ล่าสุดตำรวจสรุปแล้วพบว่าเป็นเพราะก๊าซไข่เน่า พร้อมเผยผลชันสูตรเบื้องต้น ผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย คือ

1. ร.ต.อ.หญิง อนัญญา บุษยากุล อายุ 60 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี

2. น.ส.น.ส.จิตรพิสุทธิ์ บุษยากุล อายุ 34 ปี

3. น.ส.ปัณณิกา บุษยากุล อายุ 24 ปี

พฤติการณ์ของคดี จากการสอบถามพนักงานสอบสวนได้ความว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี มีผู้พักอาศัยอยู่กัน 3 คน คือ ร.ต.อ.หญิง อนัญญา บุษยากุล อายุ 60 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี กับบุตรสาว 2 คน คือ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ บุษยากุล อายุ 34 ปี และ น.ส.ปัณณิกา บุษยากุล อายุ 24 ปี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 09.45 น. น.ส.อภิชญา เพ็ชรหลำ อายุ 34 ปี เพื่อนสนิทของ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ ได้ซื้อน้ำยาล้างท่อน้ำทิ้งมาให้ตามคำร้องขอของ ร.ต.อ.หญิง อนัญญา เนื่องจากท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำของบ้านอุดตัน

จากนั้นเมื่อมีการเทน้ำยาล้างท่อลงท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำ น.ส.ปัณณิกา ส่งเสียงว่ากลิ่นเหม็นเหมือนแอร์ไหม้ จากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ น.ส.อภิชญา ได้ขับรถยนต์ออกไปล้างและแวะเติมน้ำมัน แล้วกลับมาบ้านเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. จากนั้นได้เปลี่ยนเอารถจักรยานยนต์ขับออกไปซื้อข้าวและกลับเข้ามาบ้านอีกครั้งเวลาประมาณ 12.00 น. น.ส.อภิชญา เล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณห้องโถงด้านหน้าชั้นที่ 1 ของบ้านอยู่สักครู่จึงเดินไปตามสมาชิกคนอื่นให้มาทานข้าว จึงพบว่า สมาชิกทั้ง 3 คน หมดสติอยู่ภายในห้องน้ำของบ้านที่เกิดเหตุ จึงแจ้งเพื่อนบ้านช่วยกันช่วยปฐมพยาบาล โดย ร.ต.อ.หญิง อนัญญา และ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลชลบุรีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน น.ส.ปัณณิกา เสียชีวิต ณ สถานที่เกิดเหตุ

วัตถุพยานที่ตรวจพบ

1. บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ตรวจไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือร่องรอยรื้อค้น

2. พบขวดน้ำยาล้างท่อน้ำ จำนวน 1 ขวด ในถังขยะบริเวณห้องโถงชั้นที่ 1 ของบ้านที่เกิดเหตุ

3. ห่ออาหารที่เปิดรับประทานแล้ว จำนวน 1 ห่อ และยังไม่ได้รับประทานอีก 5 ห่อ บนโต๊ะภายในห้องโถงชั้นที่ 1 ของบ้านที่เกิดเหตุ

4. ขวดน้ำดื่มแล้ว จำนวน 5 ขวด บนโต๊ะภายในห้องโถงชั้นที่ 1 ของบ้านที่เกิดเหตุ

5. แก้วกาแฟยังไม่ได้ดื่ม จำนวน 1 แก้ว บนโต๊ะภายในห้องโถงชั้นที่ 1 ของบ้านที่เกิดเหตุ

6. พบศพ น.ส.ปัณณิกา ถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ แล้ววางไว้บริเวณทางเท้าด้านหน้าบ้านที่เกิดเหตุ

ซึ่งจากการชันสูตรในเบื้องต้นร่วมกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลชลบุรี พบเพียงบาดแผลฉีกขาดบริเวณเหนือคิ้วข้างขวา และไม่พบร่องรอยบาดแผลอย่างอื่นแต่อย่างใด ไม่พบรอยไหม้ที่ผิวหนังและช่องปาก สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า เสียชีวิตจากภาวะขาดอากาศ

เสียหาย 19 ล้าน แจ้งจับเท้าแชร์ โชว์บ้านหรูหลังใหญ่ รถหลายคัน สร้างภาพน่าเชื่อถือ มีรายวัน ราย 2-3 วัน รายสัปดาห์ และรายเดือน

วันที่ 13 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีตัวแทนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการถูกโกงแชร์ จำนวน 10 คน รวมตัวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง หลังถูก น.ส.เบ็น อายุ 45 ปี เท้าแชร์โกงเงินเล่นแชร์ รวม 19 ล้านบาท ขอให้ติดตามทวงเงินที่ถูกโกงคืนมาให้ด้วย

ลูกแชร์รายหนึ่ง เล่าว่า ก่อนหน้าจะถูกชักชวนให้มาร่วมวงแชร์ ได้รู้จักกันผ่านคนที่เล่นแชร์มาก่อน ซึ่งเห็นว่ามีโปรไฟล์น่าเชื่อถือ มีบ้านหลังใหญ่โตราคาหลายล้าน มีรถหรูยุโรปขับ 3-4 คัน มีหมาสัตว์เลี้ยงตัวละหลายแสนบาท ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ และเที่ยวต่างประเทศเป็นว่าเล่น แต่ไม่มีอาชีพหลัก จึงหลงเชื่อมาร่วมเล่นแชร์

กระทั่งถูกโกง จึงมารู้ภายหลังว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายถูกหลอกเช่นเดียวกัน โดยคาดว่า น.ส.เบ็น จะสร้างโปรไฟล์ให้น่าเชื่อถือ ซึ่งการชักชวนมาเล่นแชร์ พบว่ามีการเปิดวงแชร์หลายวงประมาณ 20 วง มีทั้งแชร์รายวัน หรือแชร์ราย 2 วัน ราย 3 วัน หรือรายสัปดาห์ และรายเดือน เป็นต้น

โดยมียอดวงเงินในแชร์ตั้งแต่หลักพันจนถึงแสนบาท โดยมียอดผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 19 ล้านบาท โดยมีลูกแชร์บางรายถูกโกงสูญเงินสูงกว่า 4-5 ล้านบาท ซึ่งการโกงมักจะอ้างว่าแชร์ล้ม ลูกแชร์ไม่ส่งเงินตามทวงไม่ได้

เสียหาย 19 ล้าน แจ้งจับเท้าแชร์ โชว์บ้านหรูหลังใหญ่ รถหลายคัน สร้างภาพน่าเชื่อถือ

หากถูกทวงถามบ่อยๆ ก็ข่มขู่จะใช้อาวุธยิงกรอกปาก และให้ไปฟ้องร้องเอา ล่าสุดอ้างว่าได้มีการจ้างบอดี้การ์ดมา เพื่อทวงเงินจากลูกแชร์ที่ไม่ส่งเงิน หรือมาคุ้มกันตัวเองก็ไม่ทราบได้ ซึ่งขณะนี้มีลูกแชร์ทยอยออกมาแจ้งความเอาผิดกับเท้าแชร์รายดังกล่าวหลายจังหวัดแล้ว พร้อมกับจะเปิดโปงให้เป็นอุทาหรณ์อย่าได้หลงเชื่อท้าวแชร์คนดังกล่าว และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามทวงเงินคืนให้ด้วย

วันที่ 13 สิงหาคม 2561 เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ธีรพงษ์ นาขวา สารวัตร เวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่ามีอุบัติเหตุ รถตู้ชนท้ายรถกระบะบรรทุกเหล็ก บนถนนตลิ่งชันสุพรรณบุรี มุ่งหน้านพวงศ์ หมู่ที่ 1 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกู้ชีพโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว และอาสามูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถตู้วิ่งโดยสารสาธารณะ สายกรุงเทพฯ-อู่ทองสุพรรณบุรี ยี่ห้อ Toyota สีขาว หมายเลขทะเบียน 10-2 469 สุพรรณบุรี ที่เสียหลักตกข้างทาง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บชาบและหญิง จำนวนหลายราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว เร่งให้การช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส และใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ Isuzu สีขาวหมายเลขทะเบียน บต-7945 กทม. ซึ่งบรรทุกเหล็กและจอดอยู่ข้างทาง

ด้านนายเดีย คนขับรถตู้ กล่าวว่า รับผู้โดยสารมาจากปิ่นเกล้า สายใต้เก่า จำนวน 6 คน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะบรรทุกเหล็กขับอยู่ด้านหน้า ตนเบรกไม่ทันจึงไปชนท้าย และเสียหลักตกลงไปข้างทาง จนทำให้ผู้โดยสาร 6 รายได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามคนขับรถตู้ และคนขับรถกระบะ ถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะประสานรถยกนำรถตู้ขึ้นจากริมถนน

สาวเรียกรถผ่านแอปฯ ถามคนขับหล่อตี๋ไหม ก่อนขอยกเลิก ไรเดอร์พิมพ์ด่ากลับอย่างเจ็บ “นี่แอปหารถครับ ไม่ใช่แอปหาผัว” โซเชียลชี้หิวไปแอปฯอื่น

เป็นเรื่องที่ถูกแชร์กันต่อในโลกออนไลน์จำนวนมาก หลังจากที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว3 ได้เปิดแชตข้อความระหว่างผู้โดยสารสาว ที่เรียกใช้บริการ ไรเดอร์ ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง

ลูกค้า : รอหน้าคอนโดค่ะ ไรเดอร์ : กำลังไปครับ ลูกค้า : หล่อตี๋ขาวไหมคะ ไรเดอร์ : ตามรูปเลยครับ ลูกค้า : งั้นขอยกเลิกนะคะ ไรเดอร์ : นี่แอปหารถครับ ไม่ใช่แอปหาผัว

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งมองว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่ทำคอนเทนต์ขำ ๆ รวมถึงมองว่าหากหิวอย่างว่าจริง ๆ ควรไปแอปหาคู่ดีกว่าไหม

ปฏิทินวันหยุดราชการมีการกำหนดโดยคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วยวันหยุดราชการตามปฏิทินไทยและวันหยุดราชการตามปฏิทินสากล แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

วันหยุดราชการประจำปี เป็นวันหยุดราชการที่ตรงกับวันสำคัญต่างๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ วันแรงงานแห่งชาติ วันรัฐธรรมนูญ เป็นต้น

วันหยุดราชการเฉพาะกิจ เป็นวันหยุดราชการที่ประกาศโดยคณะรัฐมนตรีเพื่อกรณีพิเศษ เช่น วันพระราชพิธีสำคัญ วันรัฐพิธีสำคัญ เป็นต้น

ปฏิทินวันหยุดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดยวันหยุดราชการเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมใช้ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหรือทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในด้านการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย

โดยวันหยุดเดือนกันยายน 2567

ไม่มีวันหยุดราชการ

วันหยุดเดือนตุลาคม 2567

วันอาทิตย์ 13 ตุลาคม 2567 วันนวมินทรมหาราช หรือ วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันจันทร์ 14 ตุลาคม 2567 วันหยุดชดเชย วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันพุธ 23 ตุลาคม 2567 วันปิยมหาราช

วันหยุดเดือนพฤศจิกายน 2567

ไม่มีวันหยุดราชการในเดือนพฤศจิกายน 2567

วันหยุดเดือนธันวาคม 2567

พฤหัสบดี 5 ธันวาคม 2567 วันพ่อแห่งชาติ

อังคาร 10 ธันวาคม 2567 วันรัฐธรรมนูญ

อังคาร 31 ธันวาคม 2567 วันสิ้นปี

วันหยุดเดือนธันวาคม 2567

รียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก กรณีของพ่อแม่คู่หนึ่งในโจวโข่ว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แชร์ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน พร้อมข้อความบ่งบอกถึงความรู้สึกเศร้าที่พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งลูกสาววัย 1 ขวบไว้ที่บ้าน เพราะงานในพื้นที่บ้านเกิดนั้น เงินไม่ดี ทำให้ต้องเลือกจากมาทำงานไกลบ้าน เพื่อหาเงินเลี้ยงดูลูกตัวน้อย

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงต้องส่งลูกน้อยไปให้คุณย่าของเด็กช่วยดูแล มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ในบ้านนั้น แต่พ่อแม่ไม่ค่อยได้ดูส่วนหนึ่งเป็นเพราะงานยุ่ง และอีกส่วนหนึ่งกังวลว่าจะทนคิดถึงไม่ไหว อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งผู้เป็นพ่อบังเอิญได้เห็นเหตุการณ์สะเทือนใจจนน้ำตาไหล

ภาพจากกล้องวงจรปิดตรงหน้า ลูกสาววัย 1 ขวบเล่นอยู่ที่บริเวณสนามหน้าบ้านเพียงลำพัง และเพราะคิดถึงพ่อแม่มากๆ จึงวิ่งไปที่หน้ากล้องวงจรปิดเพื่อ เรียกหา เมื่อไม่มีเสียงใครตอบกลับมา เด็กน้อยก็พยายามส่งเสียงเรียกให้ดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่น่าเศร้าก็ยังไม่มีการตอบรับอยู่ดี

เมื่อมองดูใบหน้าที่น่าสงสารของลูกสาว พ่อแม่อดไม่ได้ที่จะสะเทือนใจ ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรักและคิดถึงลูกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้ระยะห่างระหว่างพวกเขาอยู่ไกลมากๆ จนไม่สามารถวิ่งกลับไปกอดลูกได้ทุกครั้งตามต้องการสุดท้ายทั้งสองตัดสินใจดูกล้องให้บ่อยขึ้น และใช้กล้องนี้เองเป็นช่องทางในการพูดคุยกับลูกสาวให้มากขึ้น

ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระพันปีหลวง ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 12 สิงหาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พุทธศักราช 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของบรรพชิตจีนและญวน แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย และทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่บูชาพระรัตนตรัยที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่แท่นมณฑลบูชาเทวดานพเคราะห์ จากนั้น พระราชทานเงินแก่ข้าราชการผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาส์น แล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาส์น แล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์

เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่ประธานสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 93 รูป เสร็จแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับ

เมื่อวันที่ 12 ส.ค.67 ร.ต.อ.สมบัติ สมบูรณ์ดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุชายจมน้ำเสียชีวิต อยู่ในป่ายูคาลิป ริมถนนหมู่ที่ 4 ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลโพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบศพชาย สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ นอนเสียชีวิตในสภาพน้ำลายฟูมปาก ทราบชื่อต่อมาว่า นายยอดรัก (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี เป็นคนงานตัดไม้ มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน เล่าให้ฟังว่า พวกตนเป็นคนงานบริษัติรับเหมา มาตัดไม้ยูคาลิปกันทั้งหมด 4 คน โดยผู้เสียชีวิตนั้นไม่สบายหยุดงานไป และเพิ่งเดินทางมาร่วมกับคนงานตัดไม้กับพวกตนเองเป็นวันแรก แต่ยังทำอะไรไม่ได้ บอกว่าร้อนมีอาการกระสับกระส่าย เดินไปเดินมาบอกว่าร้อน

ทางเพื่อนผู้ร่วมงานก็บอกให้ไปพักก่อน และเพื่อนร่วมงานก็ทำงานตัดไม้กันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ พบเห็นกระเป๋าลอยอยู่ในคูน้ำร่องสวน จึงเดินไปดูพบนายยอดรักนอนคว่ำหน้าอยู่ในคูน้ำร่องสวน จึงช่วยกันนำตัวขึ้นมาจากคูน้ำ และช่วยกันปั๊มหัวใจ พบว่าเสียชีวิตแล้วและมีน้ำลายฟูมปาก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเสียตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

วันที่ 12 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า ช่างรับเหมาเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากทนายโต้ง หลังจากซื้อหวยงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 แล้วถูกรางวัล ได้เงิน 4 แสนบาท โดยทันทีที่รู้ตัวว่าถูกหวย ก็ประกาศให้ลูกน้องหยุดงาน 1 วัน พร้อมจัดเลี้ยง

อย่างไรก็ตาม การซื้อหวยครั้งนี้เป็นหวยใต้ดิน เมื่อโทรศัพท์หาเจ้ามือหวย ก็ได้รับคำตอบว่า ต้นทางยังไม่โทรศัพท์มา และไม่สามารถติดต่อได้อีก เจอแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรม โดยเจ้ามือหวยใต้ดิน ก็เป็นผู้รับเหมารายใหญ่ในพื้นที่

นายอ้วน ยอมรับว่า ตนซื้อหวยใต้ดินเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ก็อยากให้เอาผิดคนโกง ตนถูกรางวัลหวยใต้ดิน ยังไงก็ควรได้รับเงิน อีกทั้งตนยังไปบนกับย่านาคว่า ขอให้ได้เงินค่าหวยนี้มา

ทั้งนี้ ในทางกฎหมายไม่สามารถบังคับให้เจ้ามือหวยจ่ายเงินค่าหวยได้ ทำได้แต่เพียงแจ้งความจับเจ้ามือหวยว่าขายหวยใต้ดินเท่านั้น เนื่องจากการเริ่มต้นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ยังไงกฎหมายก็คุ้มครองไม่ได้