ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 24
Featured posts

ยายพาหลาน 8 ขวบ ขึ้นเขาหาหน่อไม้ โดนเจ้าป่าเจ้าเขาบังตา หลานหาย

ยายพาหลาน 8 ขวบ ขึ้นเขาหาหน่อไม้ โดนเจ้าป่าเจ้าเขาบังตา หลานหาย ตามหาวุ่น ชาวบ้านเจอห่างจากจุด 2 กม. ตกใจสภาพรองเท้า เด็กน้อยเผยเรียกแล้วแต่ไม่มีใครได้ยิน

เมื่อเวลา 14.30. น. วันที่ 12 ส.ค.2567 สภ.ตลุกดู่ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กวัย 8 ขวบหายตัวอยู่บริเวณเชิงเขาเพชรผาลาด หมู่ 17 ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบริเวณเชิงเขาเพชรผาลาด ซึ่งเป็นเขาขนาดใหญ่ ภายในป่าเขามีต้นก่อไผ่อยู่มากมาย

พบกับชาวบ้านที่กำลังเดินออกตามหา น้องเอ (นามสมมติ) วัย 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 โดยมี นางนารีรัตน์ (สงวนนามสกุล) ยายของน้องเอ อยู่ในอาการกำลังทุกข์ใจ เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 09.00 น. ยายจะออกไปหาหน่อไม้ที่เขา โดยน้องเอ ขอไปหาหน่อไม้กับยายด้วย ยายจึงขี่รถ จยย.มากับหลาน โดยจอดรถไว้ทางขึ้นเขา แล้วเดินเข้าไปพร้อมกับหลาน

เลือกหาบริเวณข้างล่างเขา ระหว่างที่อยู่บริเวณเขา หลานปวดฉี่จึงให้ฉี่บนเขา ต่อมาตัวยายเดินลงมาส่งหลานที่รถจยย.รอบแรก แล้วบอกกับหลานว่าให้ยืนรออยู่ตรงนี้ แป๊บนึง เดี๋ยวยายจะไปหาหน่อไม้ต่อ

ระหว่างที่ยายเดินลงมาจากเขารอบที่ 2 ก็ไม่พบหลานแล้ว ตอนนั้นทุกข์ใจร้อนรน ได้ตะโกนบอกชาวบ้าน ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ พร้อมชาวบ้าน ช่วยเดินออกตามหาหลาน 2-3 ชั่วโมง แต่ไม่พบ จนได้พูดบนไว้ในใจว่าขอให้หลวงพ่อเคลือบวาจาศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้พบเจอหลานด้วย

กระทั่งล่าสุดมีชาวบ้านรายหนึ่ง ที่เข้าไปหาหน่อไม้ เดินลงมาจากเขา พบเจอตัวเด็กอยู่เพียงลำพัง นั่งหลบซ่อนตัวอยู่ใกล้กับพุ่มไม้ ซึ่งติดกับทางขึ้นลงเขา อีกเขาฝั่งหนึ่ง โดยสภาพรองเท้าผ้าใบของหลานขาดลุ้ย ทั้ง 2 ข้าง ชาวบ้านจึงรีบนำตัวเด็ก ไปส่งที่บ้านของเด็ก

กระทั่งตัวยายทราบข่าว ว่ามีชาวบ้านแจ้งมาว่าพบตัวเด็กแล้ว ได้รีบออกจากป่า ขี่รถจยย.ไปหาหลานที่บ้าน พร้อมสอบถามหลาน ว่าหายไปไหนมา หลานบอกกับยายว่า หนูไปอยู่หน้าถ้ำ แต่ไม่ทราบตรงไหน พร้อมกับเห็นทุกคนตอนออกตามหาหลาน แต่ไม่มีใครได้ยิน ที่หลานตะโกนเรียกเลย

ทั้งนี้ ยายเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเชื่อสิ่งลี้ลับเจ้าป่าเจ้าเขา เนื่องจากรอบแรกที่เข้าไปหาหน่อไม้บนเขากับหลาน หลานไปฉี่ที่บนเขา โดยที่ไม่ได้กราบไหว้ขอขมากับเจ้าที่เจ้าทาง คาดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น พร้อมกับได้พาหลานไปที่เขาอีกรอบหนึ่ง เพื่อนำธูปเทียนดอกไม้ น้ำแดง เหล้าขาว น้ำ 1 ขวด ไปจุดกราบไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอขมา ในสิ่งที่เรามองไม่เห็น

พร้อมกับพาหลานไปชี้จุดฝากเขาอีกที่หนึ่งซึ่งเป็นจุดแรก ที่เด็กบอกว่าวิ่งมาจนรองเท้าขาด ซึ่งระยะทางห่างจากจุดที่จอดรถ จยย.ประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร ก่อนที่หลานจะมาหลบซ่อนตัวที่จุดที่สอง ที่ชาวบ้านมาพบแล้วนำมาส่งที่บ้าน

ครั้งนี้ตัวยายเองได้สวมใส่สร้อยคอหลวงพ่อแกะ วัดป่าคา ติดตัวไว้ที่คอหลานตลอด คาดว่าครั้งนี้หลวงพ่อแกะน่าจะช่วยหลานตนเอง ใหัแคล้วคลาดปลอดภัยในครั้งนี้ พร้อมขอเตือนชาวบ้านว่าหากไปหาหน่อไม้บนเขา หากเด็ก หรือลูกหลาน ขอไปด้วยอย่าเอาไปเด็ดขาด หวั่นว่าจะเป็นเหมือนตนเอง

เปิดเส้นทางพายุโซนร้อน 3 ลูก เข้าไทยหรือไม่ เช็กจังหวัด ฝนถล่ม

อัปเดตเส้นทาง พายุ บริเวณมหาสมุทรตะวันตก มี พายุโซนร้อน ก่อตัว 3 ลูก ได้แก่ พายุโซนร้อน “มาเรีย” (MARIA) พายุลูกที่ 5, พายุโซนร้อน “เซินติญ” (SON-TINH) พายุลูกที่ 6 และ พายุดีเปรสชัน ซึ่งคาดว่าจะแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน ในระยะต่อไป โดยพายุเหล่านี้ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย เนื่องจากอยู่ห่างไกลมาก อาจจะมีผลกระทบกับประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงเตือนผู้ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นในระยะนี้ให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

ขณะที่ สภาพอากาศ วันนี้ ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ 12:00 น. วันนี้ ถึง 12:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส   อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร และอำนาจเจริญ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนัก บางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ปภ. เตือน 5 จังหวัด 13 อำเภอ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM รายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เวลา 08.00 น.

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะสั้น

– ภาคเหนือ จ.เชียงราย (อ.เชียงของ เทิง) พะเยา (อ.ปง ภูซาง เชียงคำ) และน่าน (อ.ปัว บ่อเกลือ เชียงกลาง ทุ่งช้าง ท่าวังผา)

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย (อ.สังคม) และบึงกาฬ (อ.บุ่งคล้า เซกา)

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง

– ภาคกลาง จ.อ่างทอง (อ.ป่าโมก) และพระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล เสนา ผักไห่)

ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า ระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง เพื่อความปลอดภัย ควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่ถ้ำและน้ำตก

ออสเตรเลียช็อก เฮลิคอปเตอร์ตกใส่หลังคาโรงแรมดังกลางดึก ต้องอพยพแขก 400 คน

วันที่ 12 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.50 น. เกิดอุบัติเหตุระทึก เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง ตกกระแทกบริเวณหลังคาอาคารของโรงแรมดับเบิลทรีในเครือฮิลตัน เมืองเคนส์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ทำให้เกิดเพลิงไหม้และต้องอพยพแขกผู้เข้าพักราว 300-400 คนออกจากอาคารกลางดึก

หลังจากตรวจสอบพบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นเครื่องยนต์คู่ ชิ้นส่วนใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ที่แตกหักเสียหาย หล่นลงไปในสระว่ายน้ำของทางโรงแรม นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยอาการของทั้งสองอยู่ในระดับคงที่

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุในแถลงการณ์ว่า ในเฮลิคอปเตอร์มีนักบินเพียงคนเดียวและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ทีมสืบสวนและทีมนิติเวชกำลังดำเนินการเพื่อระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต

เคทลิน เดนนิง ที่ปรึกษาทีมกู้ชีพควีนส์แลนด์กล่าวว่า ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวหลุดออกมาจากตัวเครื่อง โดยมีชิ้นหนึ่งตกอยู่บริเวณเคนส์ เอสพลานาด ซึ่งเป็นเส้นทางเดินชมเมือง และอีกชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่ก้นสระว่ายน้ำของโรงแรม โดยที่ยังลุกไหม้อยู่

สำนักงานความปลอดภัยและการขนส่งของออสเตรเลีย ส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังที่เกิดเหตุแล้ว รวมทั้งขอร้องให้ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์และถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอไว้ ตั้งแต่ช่วงก่อนจนถึงหลังเกิดเหตุ ช่วยส่งภาพและคลิปมายังหน่วยงานด้วย

ชมคลิปคลิกที่นี่

ชัดเจนแล้ว เรื่องเงินดิจิทัลแลกเป็นเงินสด

จากกรณี สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ พูดคุยกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงประเด็นเกี่ยวกับ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยช่วงหนึ่งสอบถามเรื่องข้อกังวลว่า อาจจะเกิดช่องโหว่ที่ทำให้บางกลุ่มได้ผลประโยชน์ รวมทั้งเมื่อแจกเงินดิจิทัลแล้ว ก็อาจจะถูกนำไปแลกเป็นเงินสด ดังนั้นจะมีวิธีดูแลจัดการอย่างไร

ทั้งนี้ นายสรยุทธถามว่า เราจะสามารถป้องกันคนเอาเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไปแลกเป็นเงินสดอย่างไร ในกรณีที่คนที่ต้องการที่จะแลก อยากได้เงินสดไปซื้อเหล้า เอาไปจ่ายค่าไฟ โดยยอมที่จะเสียส่วนต่าง เช่น มีเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่ขอแลกเป็นเงินสด 7,000 บาท ให้ร้านกินกำไรไปเลย 3,000 บาท

ซึ่งนายจุลพันธ์ยอมรับว่า เรื่องนี้มันยากที่จะป้องกันได้ 100% แต่ตนจะบอกว่า เงินดิจิทัล 10,000 บาท มีค่าเท่ากับเงินสด 10,000 บาท การจะเอาเงินดิจิทัลไปแลกเงินสดในราคาที่ลดลง มันไม่ฉลาด และเงินดิจิทัลใช้ได้กว้าง ใช้ได้ทุกที่ อีกอย่างคือ หากต้องการซื้อสินค้าที่อยู่ในลิสต์ต้องห้าม คุณสามารถเอาเงินสดไปซื้อได้ แล้วค่อยใช้เงินดิจิทัลไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคแทน การจะเอาเงินดิจิทัลไปแลกเงินสดในมูลค่าที่ลดลง ถือเป็นเรื่องไม่ฉลาด

อีกประเด็นคือ เรามีระบบการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ข้อมูลในระบบไม่หาย เช่น ร้านค้าร้านหนึ่ง ปกติขายได้เฉลี่ย 4,000 แต่อีกวันขายได้กระโดดไป 80,000 ระบบจะต้องแจ้งเลย แล้วหน่วยงานก็จะต้องไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ได้มีการซื้อขายสินค้าจริงก็จะดำเนินการ ซึ่งในอดีต เคสที่รัฐดำเนินคดีและเรียกเงินคืนรวมทั้งตัดสิทธิ

ด้านนายสรยุทธถามต่อว่า ในมุมของร้านค้าร้านเล็ก เนื่องจากกว่าจะได้เงินสดก็นาน ร้านจะไม่มีเงินสดไปซื้อกับร้านรายย่อยอื่น ๆ ได้ แบบนี้สุดท้าย เงินก็จะหมุนเข้าสู่ร้านใหญ่ นายจุลพันธ์ก็ตอบว่า ร้านรายย่อยสามารถขึ้นทะเบียนกับเราได้ เพื่อให้มีตัวเลือกที่กว้างขึ้น และเราจะดึงซัพพลายเชนเข้ามาถึงผู้บริโภคดีขึ้น ทำให้เกิดความคล่องตัว อีกอย่างคือ เงินสดในระบบมีอยู่ 10 ล้านล้าน ส่วนเงินดิจิทัลนั้นเพียง 5 แสนล้าน ดังนั้นเงินในระบบไม่ได้หายไปไหน ดังนั้น การที่ร้านไปซื้อข้าวของมาขาย ไม่จำเป็นต้องใช้ดิจิทัลวอลเล็ตทุกเคสอยู่แล้ว

สุดท้าย นายจุลพันธ์ยืนยันว่า เชื่อว่าหลังจากรัฐบาลแถลงครั้งล่าสุด จะเกิดผลในทางบวกต่อเศรษฐกิจ เมื่อทุกคนรู้ว่าช่วงปลายปีเงินจะลงมา จีดีพีปีนี้ขยับแน่นอน ร้านค้าและโรงงานต้องเริ่มผลิตสินค้า ขยับจ้างงาน และหลังจากนั้นจะเกิดผลเต็มรูปแบบ และคาดว่าประชาชนจะได้ทันใช้เงินดิจิทัลก่อนสงกรานต์และปีใหม่

ตำรวจยังลำบาก พ.ต.ท. ร้องสื่อ หลังโดน อดีตผกก. บุกรุกที่ แจ้งความแล้วแต่คดีอืด อ้างบารมีนายพลข่ม

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.5 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว กรณีได้รับความเดือดร้อน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการทำหน้าที่ของตำรวจผู้ที่จะต้องคอยดูแลความเดือดร้อนของประชาชนตามกฎหมาย โดยได้นำผู้สื่อข่าวไปยังแปลงที่ดินเกษตรกรรมที่มีทุเรียน มังคุด ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว เนื้อที่รวมประมาณ 30 ไร่เศษ โดยแปลงที่ดินอยู่บนริมเส้นทางขึ้นน้ำตกเสม็ดชุน หมู่ 7 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแปลงที่ดินทำกินของบรรพบุรุษตกทอดมาถึงบิดา และปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของตนเองและน้องสาว เป็นที่ดินครอบครองทำกิน มีสมุดเกษตรกรกำกับไว้เช่นเดียวกับที่ดินในย่านนี้

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.5 ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสิงหาคม 2566 มีนายตำรวจนอกราชการยศพันตำรวจเอก อ้างว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นของเขา ทั้งที่ครอบครัวของผมทำกินมายาวนาน ก่อนรุ่นพ่อ จนมาถึงรุ่นพ่อและตกทอดมาถึงพี่น้องในครอบครัวโดยมีตนเองและน้องสาวเป็นผู้ครอบครองทำกินมาต่อเนื่อง จนเกิดเหตุการณ์ขึ้น เข้าใจว่านายตำรวจรายนี้ มาซื้อที่ดินแปลง นส.3ก ที่อยู่แนวลำห้วยสาธารณะฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีแนวเขตแผนที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่กลับอ้างครอบครองล้ำข้ามมาจนเกิดข้อพิพาทกับตนเอง ซึ่งได้ไปแจ้งความต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง คือ ร่วมกันบุกรุก 2 คดี และลักทรัพย์ผลอาสิน (ผลประโยชน์รายได้อันเกิดจากต้นผลไม้) 1 คดี นับแต่สิงหาคม 2566 จนมาครบสิงหาคม 2567 ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นมีการลอบนำเอาเสาปูนรั้วลวดหนามมาปักยึด และขึ้นป้ายอ้างนายตำรวจ ชั้นยศ พันตำรวจเอก 1 คน พลตำรวจตรี 2 คน และขึ้นป้ายพร้อมประกาศขายหรือเช่า โดยน้องสาวและชาวบ้านได้บันทึกภาพไว้ทั้งหมด เป็นพฤติการณ์ที่รับไม่ได้ หลังจากนั้น ได้เดินทางกลับบ้านมาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ขนอม ส่วนรั้วนั้นได้ถูกรื้อออกทิ้งไปแล้ว

แรกเริ่มแจ้งนั้น อิดออดบ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความ จึงบอกว่าหากไม่รับแจ้งให้บันทึกว่าไม่รับแจ้ง แต่ท้ายที่สุดเมื่อรู้ว่าเป็นตำรวจด้วยกัน จึงรับแจ้ง แต่กลับไม่มีการตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดตามวิสัย จนกระทั่งแจ้งความครั้งที่ 2 เป็นไปในทำนองเดียวกัน ทั้งการสอบสวน สอบพยานเป็นไปอย่างล่าช้าอย่างมาก จนกระทั่งครั้งที่ 3 มีการบุกรุกอีกครั้ง ถึงขั้นเอาคนงานมาเก็บเอาทุเรียนไปเป็นจำนวนมากและผลอาสินอื่นๆ มีการแจ้งความอีก แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเป็นรูปธรรม นี่ขนาดว่าเป็นตำรวจด้วยกัน

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.5 ยังระบุด้วยว่าในการทำคดีนั้น ทางตำรวจควรทำไปตามข้อเท็จจริงตั้งต้นในการพิพาท ที่เหลือนั้นเป็นการต่อสู้กันในทางคดี ตามพยานหลักฐานขั้นตอนศาลให้เป็นที่สุดไม่ควรล่าช้า มีการแทรกแซงหรือไม่นั้น ไม่อาจรู้ได้ ส่วนตัวยังได้ร้องไปยังจเรตำรวจเรียบร้อยแล้ว และทางจเรส่งเรื่องกลับมาที่ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช

แต่นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ แจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษร อ้างว่ามูลคดีความผิดทางอาญายังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ในฐานะที่เป็นพนักงานสอบสวนจึงต้องตั้งคำถามว่า หากอ้างเหตุเช่นนั้น เหตุใดจึงไม่มีการแสวงหาพยานหลักฐานใดๆ เพิ่มให้สิ้นกระแสในชั้นพนักงานสอบสวน

พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยังระบุด้วยว่า นี่ขนาดเป็นตำรวจด้วยกันยังเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงประชาชนทั่วไปเลย จะเป็นอย่างไร การเปิดเผยข้อมูลนี้ ถือเป็นกรณีตัวอย่างให้เห็นอะไรได้อีกหลายอย่าง ประชาชนเดือดร้อนจะพึ่งพาความเป็นธรรมได้จากใคร

น้ำไหลทะลักท่วมอำเภอปางมะผ้า นักท่องเที่ยวติดในรีสอร์ท 6 คน จนท.เร่งเข้าช่วย

วันที่ 12 ส.ค. 2567 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งด่วนจากมิสเตอร์เตือนภัยและชุดกู้ภัยของอำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ว่าได้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากดอยห้วยไร่หลากลงมารวมกับน้ำจากน้ำลาง เข้าท่วมหมู่บ้านและพื้นที่ของโครงการศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน

นอกจากนี้ยังพบว่ามีสะพานอีกไม่น้อยกว่า 2 แห่ง ได้รับความเสียหาย ทำให้การเข้าให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทะเล ประกอบกับในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดเวลา

เบื้องต้นพบว่าน้ำได้ท่วมพื้นที่ศูนย์วิจัยข้าว ระดับสูงกว่า 160 เซนติเมตรและปริมาณน้ำได้ท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พบมีคนติดอยู่ในรีสอร์ทในหมู่บ้านบ้านไร่จำนวน 6 ราย ประกอบด้วยชาย 3 คน เป็นเด็ก 2 คน และหญิง 3 คนซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังหาแนวทางในการเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว

สำหรับผู้ที่ติดอยู่ในรีสอร์ท ได้เข้าไปพักในรีสอร์ทในหมู่บ้านบ้านไร่ ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาและเมื่อเกิดน้ำท่วมบริเวณศูนย์วิจัยพืชไร่ปางมะผ้า ซึ่งอยู่ก่อนถึงบ้านไร่ ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกมาได้

วิสุทธิ์ ไม่หนักใจ พรรคประชาชน เสียงตอบรับคึกคัก

วิสุทธิ์ ไม่ห่วง ‘พรรคประชาชน’ ได้เสียงตอบรับคึกคัก เชื่อ นโยบาย ‘เพื่อไทย’ เรียกความเชื่อมั่นได้ ลั่น รอดูตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถึงเวลาจริงจะทำได้หรือไม่

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานสส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาชน (ปชช.) มีผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวนมาก และสามารถระดมเงินบริจาคได้มากกว่า 20 ล้านบาท ในระยะเวลาดำเนินการเพียงไม่กี่วัน ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้รู้สึกหนักใจ แฟนคลับของใครก็ย่อมสนับสนุนพรรคของตัวเองเป็นเรื่องปกติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาชนประกาศความเชื่อมั่นจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวในการเลือกตั้งปี 2570 นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คงต้องดูว่าถึงเวลาจะทำได้จริงหรือไม่ ขณะนี้เหลือเวลาอีก 3 ปี สถานการณ์ในอนาคตไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบาย และการแก้ปัญหาความเดือนร้อนให้ประชาชน จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและเสียงตอบรับจากประชาชนในการเลือกตั้งสมัยหน้า

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะขณะนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใกล้จะแจกเงินถึงมือประชาชนในปลายปีแล้ว รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรหลายอย่างก็ดีขึ้น ก็ยิ่งจะทำให้เสียงตอบรับของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยดีขึ้นมาก

เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย71 สุดลำบาก ขายน้ำพริกได้วันละ100 ของาน

เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย 71 ปี เล่นหนัง-ละครดังหลายเรื่อง สุดลำบาก ผันตัวขายน้ำพริก ได้วันละ 100 บาท อยากมีงานบรรเทาค่าใช้จ่าย ไร้เพื่อนในวงการเยี่ยม

วันที่ 11 ส.ค.2567 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า “ขออนุญาตลงโพสต์นี้นะคะ และต้องขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของภาพก่อน บังเอิญเราอยู่หมู่บ้านที่เห็นนักแสดงท่านนี้ที่รับบทพระในหลาย ๆ เรื่อง ตอนนี้แกอาจจะไม่มีงานละครเลย หรือไม่มีคนจ้างเลยค่ะ

แกนั่งขายน้ำพริกอยู่ท้ายหมู่บ้านร่มเย็นคลอง 2 ลำลูกกา กระปุกละ 10 บาท มีเก้าอี้ตัวหนึ่ง โต๊ะตัวหนึ่งวางแล้วดูท่าทางจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เราอยากให้หน่วยงานเข้าไปดูแลช่วยเหลือแก เพราะที่บ้านเราไปขายของค่ะ แล้วแม่ค้าตรงนั้นสงสารก็เลยซื้อให้แกกินทั้งผัวทั้งเมียเลย

เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย 71 ปี เล่นหนัง-ละครดังหลายเรื่อง สุดลำบาก ผันตัวขายน้ำพริก ได้วันละ 100 บาท อยากมีงานบรรเทาค่าใช้จ่าย ไร้เพื่อนในวงการเยี่ยม

เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย 71 ปี เล่นหนัง-ละครดังหลายเรื่อง สุดลำบาก ผันตัวขายน้ำพริก ได้วันละ 100 บาท อยากมีงานบรรเทาค่าใช้จ่าย ไร้เพื่อนในวงการเยี่ยม

เราไม่แน่ใจว่าผู้หญิงที่มาช่วยขายใช่เมียแกหรือเปล่า เพราะดูสติจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อยากให้ข้อความนี้ส่งไปถึงหน่วยงานหรือเทศบาลคูคต หรือเพจสายไหมให้เข้ามาช่วยเหลือดูแกหน่อยได้ไหมคะ

เพราะแกจะใส่อยู่ชุดเดียวตลอดคือเสื้อสีดำกับกางเกงขาสั้นสีดำคล้ายชุดนักกีฬาแล้วก็นั่งอย่างนั้นทุกวันเวลาที่บ้านเราไปซื้อของหรือขายของตรงนั้นก็จะเห็นแกนั่งมองตอนนั้นคนนี้เขาซื้อของกินแล้วอดไม่ได้ค่ะเลยต้องนำมาลงช่วยกันแชร์หน่อยนะคะ”

หลังจากที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ค้นหาความจริง และสอบถามชาวบ้านทราบเรื่องที่มีคนโพสต์นั้นเป็นเรื่องจริง และได้พบชายดังกล่าวทราบชื่อ นายโยธิน มาพบพันธ์ อายุ 71 ปี ก่อนที่จะเป็นนักแสดง เคยมีอาชีพเป็นช่างภาพให้นิตยสารฉบับหนึ่ง

เพื่อนชักชวนให้เป็นดารารับเชิญ มีคนในกองถ่ายทักว่า หน้าเหมือนสมเด็จโต พรหมรังสี จึงแคสบทพระ ต่อมาได้โกนศีรษะ หน้ายิ่งเหมือนสมเด็จโต เลยได้บทพระเรื่อยมา

จากการสอบถาม ป้าสาคู (นามสมมติ) อายุ 67 ปี เปิดร้านขายสาคู กล่าวว่า เคยเห็นแสดงเป็นพระในหนังและในละคร ซึ่งเขาขายน้ำพริกกระปุก น่าจะประมาณ 15 บาท เห็นขายมานานแล้ว แต่รู้ว่าเขาเคยเป็นดาราหนังและเคยแสดงหนังแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเขายังแสดงหรืออะไรอยู่ไหมไม่รู้เหมือนกัน

ป้าสาคู กล่าวต่อว่า แต่เขาก็ยังพูดรู้เรื่องอยู่นะ ดูชีวิตเขาเหมือนจะลำบาก ทราบมาว่าเขาคอยดูแลหอพัก แต่คนแถวนี้ไม่ค่อยรู้จักแต่ป้ารู้จัก ป้าจำได้ แต่เขาก็ไม่แสดงตัวว่าเขาเป็นดารา ก็ดีนะเขารู้จักค้าขาย รู้จักทำมาหากิน แต่ก็มีคนมาสนับสนุน

ป้าสาคู กล่าวอีกว่า ขายตั้งแต่เวลา 06.00 น. สาย ๆ ก็กลับแล้ว รู้มาว่าคอนโดที่เขาพักอาศัยนั้นเป็นเพื่อนที่ให้มาพักที่รู้จักกัน อัธยาศัยดีไม่หยิ่ง ซึ่งขายอยู่ปากซอยใกล้ ๆ กับป้านี่แหละ ใช้รถเข็นเล็ก ๆ ลากเข็นมาวางขาย มากัน 2 คน 2 ผัวเมีย มีโต๊ะมีถาด ใส่เสื้อเก่า ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ป้าก็ไม่เคยอุดหนุนเขานะ แต่ส่วนมากเขาก็เอามาให้กิน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ลำลูกกาคลอง 2 ซอยลำลูกกา 13 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อพบ นายโยธิน มาพบพันธ์ อดีตนักแสดงหลายเรื่อง อาทิเช่น นางนาค, สะใภ้พระโขนง, พยัคฆ์ยี่เก, ชาติพยัคฆ์คมนักเลง, ทองเอกหมอยาท่าโฉลง, ฤทัยบดี, พี่นาค, ทองดีฟันขาว และอีกหลาย ๆ เรื่อง

นายโยธิน กล่าวว่า ตอนนี้เป็นผู้ช่วยแฟนขายน้ำพริก รับเขามาขาย กระปุกละ 20 บาท 45 บาท ช่วงนี้ไม่มีงานแสดง ส่วนมากก็ขายไม่ค่อยหมด ได้วันหนึ่งตก 100-200 บาท ช่วงนี้ไม่มีงานแสดงเลย ชีวิตก็ลำบาก ห้องที่อยู่นี้เป็นห้องของเพื่อนแฟนที่ให้มาอยู่ เสียแต่ค่าน้ำค่าไฟเท่านั้นเอง

นายโยธิน กล่าวตอ่ว่า ถามว่าลำบากไหมก็ลำบาก ไม่มีเงิน ส่วนโรคประจำตัวก็มีเบาหวานความดัน ก็กินยาทุกวันทุกเดือน ถึงตัวเองแสดงหนังมามากกว่า 20 ปี อาการป่วยก็เพิ่งเป็นมาได้ 6 เดือนนี้เอง

ส่วนงานแสดงก็ห่างหายมา 1 ปีแล้ว ตอนนี้ก็อยากจะให้ช่วยเรื่องงานมากกว่าอยากจะแสดงหนัง เพราะจะทำให้เราฝึกพูดด้วย หากจะพูดบทก็พอได้ ส่วนเพื่อน ๆ นักแสดงที่เคยแสดงหนังด้วยกัน ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมบ้างเลย แต่ก็เคยทำงานกับเข้มอัศวินช่อง 7 ส่วนเพื่อนดาราที่มาเยี่ยมก็ยังไม่มี

อยากมีงานทำ คือทำงานแบบ extra ไป ๆ มา ๆ ได้ ทุกวันนี้ถามว่าท้อไหมท้อ ท้อไม่มีเงิน แต่ไม่อยากตาย ใจไม่ไม่ถึง ถามว่าเบื่อไหมก็เบื่อ ส่วนไปขายน้ำพริกก็ตื่นประมาณ 04.00 น. แล้วแต่บางวัน บางครั้งก็เวลา 06.00 น. ส่วนเลิกขายก็ประมาณก่อนเที่ยงทุกวัน

ส่วนวันนี้เลิกเร็วเนื่องจากแฟนต้องเข้าโบสถ์ ส่วนลูก ๆ ก็มีครอบครัวอยู่ต่างประเทศ กับเมียเก่า แต่ก็ไม่เคยมาเยี่ยม เขาอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ลูกอีกคนหนึ่งก็รับราชการอยู่ที่แม่กลองแต่ไม่สนิทกัน

ไม่ขออะไรมาก ทุกวันนี้อยากมีงานทำมากกว่า บางคนเคยเห็นลุงแสดงก็ช่วยซื้อช่วยสนับสนุน ที่สำคัญคือการไม่มีเงินไม่มีงานก็แย่ แต่ก่อนลุงก็เป็นช่างภาพนิตยสารกรังด์ปรีเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ แต่ตอนนี้เพื่อนก็เสียชีวิตไปแล้ว

เสียชีวิตแล้ว น.ส.วารี ขอแสดงความเสียใจ

วันที่ 11 ส.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนทะเล รับแจ้งเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำตกถนน บนถนนซอยพิเศษ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากทางเข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี และกู้ชีพกู้ภัยขุนทะเล บางใหญ่ สมหวัง

ที่เกิดเหตุมืดมากพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ชุมพร สภาพตกถนนพลิกคว่ำตะแคงซ้ายอยู่ในคูข้างทาง มีรถจักรยนต์ 1 คันถูกชนกระเด็นตกอยู่ใต้ท้องรถกระบะ และพบรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ถูกชนล้มคว่ำอยู่บนถนน มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย

ส่วนใหญ่แขนหักผิดรูป มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย ทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 รายชื่อ น.ส.วารี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะดังกล่าวคนขับชื่อ นายเกียรติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ก่อนเกิดเหตุขับรถมาด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่อยู่ข้างหน้า 2 คัน ทำให้ น.ส.วารี คนขับถูกชนอย่างจังสาหัสนอนกลางถนน และรถจักรยานยนต์อีกคันถูกชนกระเด็นตกถนน สาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวนของตำรวจ

ถนนซอยพิเศษ มอ.สายดังกล่าว มีสภาพขรุขระและไม่มีไฟแสงสว่างจนมีสภาพมืดมาก ทั้งที่เป็นเส้นทางมหาวิทยาลัย 2 แห่ง และมีหน่วยงานราชการจำนวนมาก รวมทั้งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการใดๆ และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีผู้บาดเจ็บหลายราย จนครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอีก

Popular Posts

My Favorites

เสียชีวิตแล้ว นางรัชนี รถจยย. ชนสนั่น ขอแสดงความเสียใจ

0
วันนี้ (25 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน บริเวณบริเวณสี่แยกถนนรัตนเขต ตัดกับถนนโนนตาล ใกล้กับหอนาฬิกา เขตเทศบาลเมืองยโสธร อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร เนื่องจากเป็นสี่แยกไม่มีสัญญาณไฟจราจร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า แยกวัดใจ กระทั่งมีรถจักรยานยนต์คันที่ถูกชนขี่มาตามถนนจากฝั่งขวาของจอแล้วชะลอความเร็ว เพื่อข้ามสี่แยกไปยังฝั่งตรงข้าม โดยระหว่างที่กำลังขี่ไปถึงกลางสี่แยกได้มีรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่ขี่จากฝั่งด้านล่างของจอด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนกันอย่างจัง จนทำให้รถทั้ง 2 คัน ล้มลงกับพื้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ...