ล่าหนุ่มหัวร้อน ฉุนสาวเบรกรถกะทันหัน ขี่จยย.ตามด่า บังคับจอด ปาหินใส่กระจกแตก
ล่าหนุ่มหัวร้อน ฉุนสาวเบรกรถกะทันหัน ขี่จยย.ตามด่า บังคับจอด ปาหินใส่กระจกแตก ผู้เสียหายเผยกลัวมาก ไปกับพี่สาวอีกคน สภ.นาจอมเทียน คาดได้ตัวเร็วๆ นี้
วันที่ 26 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี รายงานว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์ ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง แล้วใช้ก้อนหินปาเข้าที่กระจกด้านหลังรถเก๋งจนแตกเป็นรูขนาดใหญ่
พร้อมระบุข้อความว่า “นี่แหละค่ะนิสัยต่ำที่จริงใจ เราคุยด้วยดีๆ เรามาทางตรง แต่เค้ามาทางแยกด้วยความเร็วมาก และตัดหน้าเรา เราเห็นเราก็เบรคให้ แต่กลับขี่ตามมาด่าแต่คำต่ำๆ พอเราด่ากลับแค่คำเดียว หยิบก้อนหินและขี่ตาม แล้วเราไปกันกับพี่สาว 2 คน จริงๆ รู้สึกตกใจมากเพราะก้อนหินเฉียดหัวไปนิดเดียวและก้อนใหญ่พอสมควร”
“มีปัญญาปาก็มีปัญญาชดใช้ด้วยนะคะ เราไม่ได้บอกว่าเราไม่ผิด เราผิดที่ขับรถเร็วไปหน่อย ตอนแรกเราก็ยอมรับและขอโทษแล้ว แต่เค้ามาด่าเราแรงมาก จนเราต้องตอบโต้ แต่คำไม่ได้รุนแรงอะไรแต่สิ่งที่ได้ตามภาพค่ะ….(ปาเสร็จแล้วรีบขี่รถหนี)”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.มิน อายุ 21 ปี เจ้าของโพสต์ เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่าน ขณะกำลังขับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา มากับพี่สาว อายุ 27 ปี เพื่อกลับโรงแรมที่พักย่านชายหาดจอมเทียน พอมาถึงบริเวณสี่แยก ถนนจอมเทียนสาย 2 ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ขี่พุ่งออกมาตรงกลางสี่แยก ทำให้ตนต้องเบรกกะทันหัน
น.ส.มิน กล่าวต่อว่า ฝ่ายรถจักรยานยนต์ก็เบรกชะงักอยู่กลางสี่แยก มีผู้ชายอายุประมาณ 35-40 ปี เป็นคนขี่ หันหน้ามามองรถของตนด้วยสายตาเคียดแค้น ตอนนั้นตนคิดว่าไม่มีอะไร เพราะไม่ได้มีการบีบแตร หรือแสดงกิริยาไม่ดีใส่ ตนกับพี่สาวก็ขับรถออกมาตามปกติ
น.ส.มิน กล่าวต่อว่า หลังออกมาจากสี่แยกได้ประมาณ 200 เมตร ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขี่ตามมาประกบข้าง และเคาะกระจกรถ แล้วขับปาดหน้า บังคับให้จอดลงข้างทาง พอตนยอมจอดรถ และลดกระจกลง เพื่อจะพูดคุยกับชายดังกล่าว ปรากฏว่าถูกพูดจาหยาบคายและด่าเสียๆ หายๆ โดยที่ตนไม่ทันได้ตอบโต้ ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา จึงปิดกระจกรถ และขับรถหนี
น.ส.มิน กล่าวอีกว่า ชายดังกล่าวยังขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้านหลัง และใช้ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นปา ใส่เข้าที่กระจกด้านหลังจนแตกเป็นรูขนาดใหญ่ แถมก้อนหินยังเฉี่ยวผ่านศีรษะเฉียดไปนิดเดียว ส่วนฝ่ายคู่กรณีหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวกลับ แล้วหลบหนีไปทันที เหตุเกิดขึ้นภายในซอยนาจอมเทียน 2 หมู่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
น.ส.มิน กล่าวต่อว่า ตนกลัวและตกใจมาก ทั้งที่ฝ่ายคู่กรณีก็รู้ว่าตนทั้ง 2 คนเป็นผู้หญิง วันนั้นตนขับรถความเร็วประมาณ 60 กม./ ชม. แต่เมื่อเห็นรถคันดังกล่าวพุ่งมา ตนก็เบรกทัน และไม่ได้เกิดเหตุอะไรขึ้น แต่ชายคนดังกล่าวยังโมโหตามมาก่อเหตุ เบื้องต้นมีการเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.นาจอมเทียน แล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.นาจอมเทียน เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งนำภาพที่ผู้เสียหายสามารถบันทึกภาพได้ไปทำการตรวจสอบ เพื่อหาตำหนิรูปพรรณของคนร้าย เชื่อว่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุในเร็ววันนี้