ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 31
Featured posts

ปภ. เตือน 6 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.00 น.

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะสั้น

ภาคเหนือ จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ (อ.เมืองฯ บุ่งคล้า) และนครพนม (อ.เมืองฯ ท่าอุเทน)

ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี) จันทบุรี (อ.เมืองฯ ขลุง มะขาม เขาคิชฌกูฏ) และตราด (ทุกอำเภอ)

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง

ภาคกลาง จ.จันทบุรี (อ.เมืองฯ ขลุง เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่) และตราด (อ.เมืองฯ)

ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า ระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง เพื่อความปลอดภัยควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่ถ้ำและน้ำตก

พื้นที่เฝ้าระวังทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง

ภาคกลาง จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

ภาคใต้ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ พื้นที่ปากแม่น้ำและที่ราบลุ่มชายฝั่งระวังผลกระทบจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง

2

พรุ่งนี้ฟ้าคะนอง เตือนพายุโซนร้อนพระพิรุณ

23 กรกฎาคม 2567 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อน “พระพิรุณ” บริเวณประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับในระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

ออกประกาศ 23 กรกฎาคม 2567

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย

18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดน่าน ตาก และอุตรดิตถ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส   อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดพังงา ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

2

ลูกทัวร์ 52 ชีวิตถูกไกด์จีนด่ากราด เพราะโมโหใช้เงิน ช้อปปิ้งน้อยไป แถมให้ไปซื้อเพิ่ม

ห่วยแตก! ลูกทัวร์ 52 ชีวิตถูกไกด์จีนด่ากราด เพราะโมโหใช้เงิน ช้อปปิ้งน้อยเกินไป แถมไล่ลงไปซื้อเพิ่ม เร่งสอบพฤติกรรม

จากคลิปวิดีโอที่กำลังเป็นประเด็นอย่างมากบนโลกโซเชียลจีน เมื่อไกด์ชาวจีนรายหนึ่งกำลังโมโห ด่าลูกทัวร์ทั้ง 52 ชีวิต เหตุเพราะลูกทัวร์ใช้จ่ายน้อยเกินไป โดยไล่ลงไปซื้อเพิ่ม ทางการจีนเร่งสอบพฤติกรรมสุดเกรี้ยวกราด

ตามรายงานเผยว่า บริษัททัวร์ของจีนแห่งหนึ่ง ได้จัดทัวร์เยือนสถานที่ท่องเที่ยวเทียนจิน ประเทศจีน โดยคลิปวิดีโอเผยให้เห็น ไกด์ท้องถิ่นสาวรายหนึ่งที่กำลังโมโห เกรี้ยวกราดยืนด่าบรรดาลูกทัวร์ทั้ง 52 ชีวิตอยู่หน้ารถ หลังพาแวะจุดช้อปปิ้งในเมืองไท่หยวน แต่ลูกทัวร์ซื้อของไปแค่ 900 หยวน หรือราว 5,500 บาท

ทำให้ไกด์สาวโกรธเป็นอย่างมาก จึงควบคุมสติไม่อยู่ ด่าลูกทัวร์หยาบคาย โดยไกด์สาวบอกกับลูกทัวร์บนรถว่า “มีคนอยู่ที่นี่ 52 คน และพวกคุณใช้เงินไปทั้งหมดเพียง 5,500 บาท ฉันสูญเสียเงินไปมากนะ มีหลายคนออกมามือเปล่า”

ไม่พอเธอยังบอกอีกว่า “พวกคุณมีแต่คนแก่ๆ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แต่พวกคุณทำแบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติชาวเมืองไท่หยวนเลย น่าขายหน้ามาก” “ถ้าคุณใช้เงิน คุณก็คือพระเจ้า แต่ถ้าคุณไม่ควักเงินออกมาใช้เลย คุณมันก็คือคนห่วย!” เธอพูดทิ้งท้ายอย่างเจ็บแสบ

อย่างไรก็ตาม เธอจึงขอให้ลูกทัวร์ที่ไม่ได้ซื้อของอะไรติดไม้ติดมือ ช่วยลงไปซื้อของกันไม่ต่ำกว่า 2,000 หยวนหรือราว 10,000 บาทค่อยกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง

ซึ่งหนึ่งในลูกทัวร์ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้บอกว่า เมื่อมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวแวะลงซื้อ แต่ปรากฏว่าทุกคนเดินดูของแล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าซื้อ เลยซื้อกันไปนิดหน่อย ทำให้ไกด์โกรธจัด จึงแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมแบบที่เห็น

ภายหลังเมื่อคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวน็ตแสดงความไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ต่อมาด้านสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวท้องถิ่นจึงได้เข้าไปสอบสวนเรื่องนี้ และพบว่าไกด์สาวรายนี้ ไม่มีใบอนุญาตการเป็นไกด์ และหากผิดจริงเธออาจถูกสั่งลงโทษปรับมากถึง 30,000 หยวนหรือราว 150,000 บาท

2

นางรำแห่เทียนพรรษา หวิดดับหมู่ วิ่งหนีวุ่น รถชนกัน 8 คันรวด 

วัน 23 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งแชร์คลิปเหตุการณ์ขณะจัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษา โดยมีการจัดขบวนนางรำกำลังทำการร่ายรำ อยู่บริเวณถนนหน้าตลาดไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่จะตกใจวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น โดยไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หลังเหตุการณ์สงบจึงทราบว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถที่จอดไว้ริมทางอย่างจังหลายคันจนกระเด็นข้ามฟุตบาทเกาะกลางริมถนน หวิดชนขบวนแห่ของสาวๆที่กำลังทำการแสดงการร่ายรำอยู่

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุดังกล่าว ทราบว่าวันเกิดเหตุทางเทศบาลตำบลไร่ใหม่มีการจัดกิจกรรมประเพณีแห่เทียนพรรษา โดยตั้งขบวนแห่จากเทศบาลเพื่อนำไปร่วมประกอบพิธีที่วัดท่ามกลางฝนปรอยๆ

ขณะที่กำลังมีกิจกรรมการร่ายรำของชมรมกลุ่มสตรีในพื้นที่กำลังทำการแสดงตามถนนเส้นรอง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดมีรถยนต์ไม่ทราบรุ่นวิ่งมาจากขาล่องใต้ชนเข้าท้ายรถที่จอดไว้บริเวณริมทางเข้าอย่างจัง จนรวบเอาบางคันกระเด็นขึ้นเกาะกลางริมถนนทำให้บรรดาสาวนางรำทั้งหลายแตกตื่นวิ่งหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ทำเอาสาวๆนางรำร้องเสียงหลงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.จิตติมา จิระราชวโร หรือ เจ๊หมวย เจ้าของแผงลอตเตอรี่หน้าตลาดไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด เจ้าของคลิปเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่ตนกำลังไลฟ์สดขบวนแห่เทียนชมการแสดงการร่ายรำของนางรำชมรมสตรีอยู่บริเวณริมถนนด้านหน้าตลาดนั้น

เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากขณะที่นางรำ กำลังร่ายรำอยู่มีรถไม่ทราบรุ่นวิ่งมาเร็วมากบวกกับถนนลื่นเนื่องจากมีฝนตกปรอยๆทำให้เกิดเหตุการณ์ชนกัน ซึ่งเกิดขึ้นเร็วมาก หลังเกิดเหตุจึงทราบว่ามีรถยนต์ได้รับความเสียหายรวมทั้งหมด 8 คัน ส่วนคนในรถบาดเจ็บเล็กน้อย จึงนำคลิปมาลงเตือนภัยใช้รถใช้ถนนขับขี่ปลอดภัยอย่าประมาท

2

วิธีลงทะเบียนแอปทางรัฐ 4 ขั้นตอนง่ายมาก รับเงิน 10,000

เงินดิจิทัล 10,000 เปิดวิธีลงทะเบียนแอปฯทางรัฐ 4 ขั้นตอนง่ายมาก ก่อนเริ่มลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 นี้ พร้อมเปิดเงื่อนไขล่าสุดเงินดิจิทัล10000 ตัดสิทธิ 2กลุ่ม ทั้งร้านค้า และ ตัวบุคคล คือ กลุ่มบุคคลที่เคยกระทำผิดเงื่อนไขโครงการของรัฐในอดีต หรือมีเรื่องการฟ้องร้องการเรียกเงินคืนอดีต ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ามีอยู่ประมาณ 10,000 ราย เปิดช่องทางลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐ รับเงินดิจิตอล 1 หมื่น

1. ทาง App Store

2. ทาง Google Play

ขั้นตอนลงทะเบียนเงินดิจิทัล แอปทางรัฐ 4 ขั้นตอน ง่ายๆ

1. ดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐ

2.เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือก สมัครสมาชิก

3.สแกนบัตรประชาชน และ ใบหน้าของผู้ใช้งาน

4.ระบุบัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่านเพื่อเริ่มใช้งาน

เงื่อนไขล่าสุด เงินดิจิทัล 10,000 บาท

– ผู้มีสิทธิลงทะเบียนเงินดิจิทัล แอปทางรัฐ ต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2567 เด็กมีอายุ 16 ปีขึ้นไป แต่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาทขึ้นไป แม้จะเป็นเงินที่พ่อแม่ออมให้ลูกก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ เพราะเป็นผู้มีรายได้ อีกทั้งเกณฑ์เงินฝากในบัญชีระบุไว้ชัดเจนว่า หากเกิน 500,000 บาท ถูกตัดสิทธิ์

– เกณฑ์รายได้ รับเงินดิจิทัล 10,000

จะทำการวัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธ.ค. 2566 กำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 840,000 บาท หรือมีเงินเดือนไม่เกิน 70,000 บาท

– เกณฑ์เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท นับเฉพาะเงินฝากสกุลบาท รวมกันทุกบัญชี ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น บัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก เงินฝากกระแสรายวัน ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์สลากออมสิน หุ้น พันธบัตร โดยนับวันสิ้นสุด 31 มี.ค. 2567

6 ช่องทางยืนยันตัวตนเงินดิจิทัล 10,000 ดังนี้

1.ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ทางรัฐ

2.ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ Thai ID

3.ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ

4.ตู้บุญเติม

5.เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ไทย

6.เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven

2

ตามหาสาวมิตซูคนงาม หนีค่าห้องเช่า เห็นสภาพห้องรับไม่ได้จริงๆ

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มีรายงานว่า ในเฟซบุ๊กเพจ นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์ ได้มีการโพสต์ภาพห้องเช่าแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่า แอดมินดังกลุ่มเฟสบุ๊คดังระบุโพสต์ไว้ดังนี้

ตามหาสาวมิตซูคนงาม หนีค่าห้องเช่าเขาแล้วดูสภาพที่ทำไว้กับห้องเขา สภาพห้องกับหน้าตาช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ อยู่ได้ยังไงแบบนี้ แล้วตอนนี้เอาชุดทำงานที่ไหนใส่ รึว่าออกจากงานแล้ว เจ๊เจ้าของห้องเช่าแกใจดีนะ ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือลูกหอพอสมควร มีอะไรทำไมไม่พูดคุยกับแกก่อน แล้วไม่สมควรทิ้งความสกปรกไว้ให้เจ้าของห้องเช่าแบบนี้ น้องคนนี้หน้าตาดีมากด้วยนะ เฮ้อ!ไม่อยากจะคิดว่าเคยอาบน้ำไปทำงานบ้างไหม??

เจ้าของหอบอกให้ไปเอาเสื้อผ้าคืนนะ แกสงสารกลัวไม่มีชุดทำงานใส่

#รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

เครดิต #แอดมินเพจที่นี่บ่อวินรายงาน

โพสต์ดังกล่าว

เรียบเรียงโดย mumkhao

2

เปิด 18สินค้า เงินดิจิทัล 1หมื่นที่ร่วมโครงการไม่ได้

นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของร้านค้า ที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดจะเริ่มได้ ในไตรมาส 4 ของปีนี้ ว่า

ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะไปรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลกลาง เพื่อเตรียมพร้อมลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ตามกำหนดเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรอรับเงินในไตรมาส 4 ในปี 2567

โดยสินค้าก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภร เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ ยารักษาโรค เครื่องแบบนักเรียน เป็นต้น ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม ที่ร่วมโครงการไม่ได้ อาทิ สลากกินแบ่งรัฐบาล,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม (ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม) บัตรกํานัล บัตรเงินสด ทองคํา เพชร พลอย (อัญมณี) น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้าได้อีก ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ

2

ประกาศด่วนล่าสุด เงินดิจิทัล 10,000 ล่าสุดเพิ่มเงื่อนไขเข้ามาอีก เป็น 18 กลุ่ม

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมร้านค้า เพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท คาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 4 ของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายใน เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลร้านค้า ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งฐานข้อมูลร้านค้าให้กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. เพื่อรวบรวมในฐานข้อมูลกลาง เตรียมความพร้อมลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นแล้ว รวม 1,604,000 ร้านค้า

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รายละเอียดของร้านค้า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีนิติบุคคลขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 910,000 ราย จำนวนนี้มีร้านธงฟ้า 146,000 แห่ง และร้านอาหารธงฟ้า 5,000 แห่ง ที่กรมการค้าภายในดูแล มีร้านค้า (โชห่วย) หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าอาหาร ร้านค้าตลาดนัด และที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ดูแล 400,000 แห่ง รวมทั้งมีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแล 93,000 แห่ง และห้างค้าส่งปลีกและร้านสะดวกซื้อ ที่สมาคมค้าปลีกไทยดูแล โดยดำเนินการผ่านกระทรวงพาณิชย์ 50,000 แห่ง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า กำหนดการลงทะเบียน เบื้องต้นเดือนสิงหาคนี้จะเปิดลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ตามด้วยกลุ่มซัพพลายเออร์ และร้านค้าทั่วไป ส่วนกรณีมีการมองว่าการลงทะเบียนร้านค้า เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ยืนยันว่าการดำเนินการไม่ได้เป็นเช่นนั้น จะเน้นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งร้านค้าบุคคลธรรมดา ร้านธงฟ้า ร้านกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยท้องถิ่น ร้านสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอท็อป ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของชำ มีสิทธิหมด รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับรายการสินค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม (Negative List) ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ได้แก่ 1.สลากกินแบ่งรัฐบาล 2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ผลิตภัณฑ์ยาสูบ 4.กัญชา 5.กระท่อม 6.พืชกระท่อม 7.ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม 8.บัตรกํานัล 9.บัตรเงินสด 10.ทองคํา 11.เพชร 12.พลอย 13.อัญมณี 14.น้ำมันเชื้อเพลิง 15.ก๊าซธรรมชาติ 16.เครื่องใช้ไฟฟ้า 17.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 18.เครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้า Negative List หากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิด ที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ

2

ชาวบ้าน ขับไล่พ้นวัดแล้ว พระเมาแอ๋ ด่ากราด

จากกรณีที่มีช่างติดตั้งกระจกรายหนึ่งในอำเภอประทายได้ถ่ายคลิปวิดีโอพระรูปหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา ทรงตัวไม่อยู่เดินเซไปเซมา ซึ่งบทสนทนาภายในคลิปวิดีโอนั้นทางเจ้าของคลิปอ้างว่าทางพระที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้นมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนที่ทางเจ้าของคลิปจะถามพระรูปดังกล่าวว่าเมาหรือไม่ ซึ่งพระที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้นก็ยอมรับว่าเมาจริง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่วัดเตยกระโตน ม.1 ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งภายในบริเวณศาลาวัดที่เป็นจุดที่ช่างทำงานนั้น วันนี้ไม่มีช่างเข้ามาทำงานที่วัด เนื่องจากได้ติดตั้งกระจกเสร็จเรียบร้อยแล้ว และใกล้กันทางด้านหลังของศาลา เป็นกุฏิของพระที่ปรากฏในคลิปวิดีโอใช้เป็นที่พักอาศัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประตูทางเข้ากุฏิถูกคล้องด้วยกุญแจไว้ โดยไม่พบพระรูปดังกล่าวอยู่แล้ว <pชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณข้างกำแพงวัด เผยว่า พระรูปดังกล่าวได้ออกจากวัดไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าไปจำวัดอยู่ที่ไหน โดยนางอนงค์ พลยางนอก อายุ 70 ปี ชาวบ้าน บอกว่า พระที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้น มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ประมาณ 2-3 พรรษาแล้ว โดยปกติแล้วพระรูปนี้นิสัยดี ขยัน ช่วยพัฒนาวัด ทำนู่นทำนี่อยู่ประจำ แต่ในบางครั้งก็อารมณ์ร้อน โดยเฉพาะเวลาที่มีอาการเมาสุรา จะเปลี่ยนนิสัยเป็นคนละคน ซึ่งตนคิดว่า พระรูปดังกล่าวน่าจะดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (ยาตราพญานาค)

พอเมาก็จะมีอาการอย่างที่เห็นในคลิป คือ พูดจารุนแรงและมีการด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งชาวบ้านก็รู้แต่ก็ยังให้อภัย แต่มาถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ ชาวบ้านต่างรู้สึกไม่สบายใจ ทางคณะกรรมการวัดผู้นำชุมชนจึงได้ปรึกษาหารือ ก่อนมีมติให้พระรูปดังกล่าวออกจากวัดไป

ขณะเดียวกัน พระประสพโชค ปะสันนะจิตโต พระลูกวัด ที่จำพรรษาอยู่ในกุฏิข้างกัน บอกว่า พระรูปดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอนั้น พื้นเพเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนที่จะมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ประมาณ 2 พรรษา มีคนนิมนต์มาให้จำวัดอยู่ที่นี่ เนื่องจากพระที่วัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่จำนวนน้อย เพียง 3 รูปเท่านั้น โดยปกติแล้ว พระรูปนี้เป็นพระที่ขยันขันแข็ง แต่มีนิสัยอารมณ์รุนแรงตอนที่มีอาการเมา จะพูดจาหยาบคาย ซึ่งอาจทำให้วันที่เกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกับช่างที่มาทำงานที่วัด ซึ่งในวันเกิดเหตุตนไม่ทราบรายละเอียดว่า เหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากตนจำวัดอยู่ภายในกุฏิ ได้ยินแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายของพระรูปดังกล่าว และช่างที่มาทำงานที่วัด ซึ่งตนมารู้รายละเอียดภายหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวไปแล้ว

ด้านนายสมพร โคตรสัยยา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านเตยกระโตน ม.1 ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา พระรูปดังกล่าว ได้นั่งรถสามล้อพ่วงมาจากโรงพยาบาล แล้วมาลงที่บริเวณหน้าศาลาที่มีช่างกำลังติดตั้งกระจกอยู่ ก่อนที่จะเกิดการโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำหยาบคายอย่างรุนแรง และช่างได้ถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ตามภาพดังกล่าว ซึ่งตนไม่รู้ว่ามีเรื่องกระทบกระทั่งอะไรกัน รู้แต่เพียงว่า พระรูปดังกล่าวเป็นคนอารมณ์ร้อน ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายอย่าง จึงไปหาหมอเป็นประจำ ส่วนอาการเมานั้น ก็คาดว่า จะมาจากการดื่มยาที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม (ยาตราพญานาค) เพราะมีคนเห็นมาซื้อยาดังกล่าวที่ร้านค้าหน้าวัดเป็นประจำ เมื่อมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวลงในโซเชียลจนกลายเป็นข่าวไปทั่วประเทศ ก็ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการวัดและขอร้องให้พระรูปดังกล่าว ย้ายออกจากวัดไป ซึ่งพระรูปดังกล่าวก็ยินยอมแต่โดยดี แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่วัดไหน

2

ให้โชคทุกปี พิธีประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แห่ส่องทะเบียนรถเครนยกพระ งวด 1 ส.ค. 67

วันที่ 22 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดโพธิ์กลาง ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ได้จัดพิธีอัญเชิญชิ้นส่วนส่วนหน้าตักหลวงพ่อควร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานบนแท่นประดิษฐานที่สูงกว่า 6 เมตร โดยมีชาวบ้านและศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก และที่พลาดไม่ได้ผู้ที่เข้าร่วมพิธีต่างก็สังเกตป้ายทะเบียนรถเครนที่ใช้สำหรับยกองค์เผื่อจะเอาไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 ส.ค.2567 ที่จะถึงนี้

เมื่อรถเครนได้บรรทุกชิ้นส่วนหน้าตักขององค์พระมาถึงที่วัดชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาได้พากันแต่งกายด้วยชุดนางรำประจำหมู่บ้าน พร้อมกันรำถวายการต้อนรับและรำไปพร้อมกันนี้พระสงฆ์ได้เจริญพระพุทธมนต์ จนกระทั่งรถเครนได้ยกชิ้นส่วนประดิษฐานจะเสร็จสิ้น เป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งพิธีการผ่านไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีอุปสรรคหรือปัญหาใดๆ

พระครูสุตพัชรสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์กลาง เปิดเผยว่าวัดโพธิ์กลางได้ก่อตั้งมานับร้อยปีแล้ว เมื่อครั้งที่หลวงพ่อควรเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่สองได้อัญเชิญพระพุทธรูปเนื้อสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยมาไว้ที่วัดเพื่อให้ชาวบ้านได้กราบสักการะบูชา กระทั่งหลวงพ่อควรได้มรณภาพ แต่สมัยนั้นยังไม่มีการถ่ายภาพจึงทำให้ไม่มีภาพของหลวงพ่อควร ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันตั้งชื่อพระพุทธรูปที่หลวงพ่อควรนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดว่า “หลวงพ่อควร” เพื่อเป็นการรำลึกถึงหลวงพ่อควรที่ชาวบ้านเคารพบูชา มาจนถึงปัจจุบันนี้

ต่อมาวัดโพธิ์กลางและคณะศิษยานุศิษย์ได้เห็นพ้องกันว่าจะสร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อควรองค์ใหญ่ปางมารวิชัยหล่อด้วยทองเหลืองขนาดหน้าตัก 5 เมตร สูง 7 เมตร โดยแบ่งการหล่อออกเป็น 3 ชิ้นคือส่วนหน้าตัก ส่วนหน้าอก และส่วนเศียร โดยในวันนี้ได้อัญเชิญส่วนหน้าตักมาประดิษฐานไว้บนแท่นที่มีความสูง 6 เมตร และก็จะอัญเชิญชิ้นส่วนอื่นๆมาประดิษฐานในลำดับต่อไป โดยได้กำหนดไว้ว่าในส่วนเศียรนั้นจะนำมาประดิษฐานในวันทอดกฐินหลังจากวันออกพรรษา และก็จะมีพิธีพุทธาภิเษกเป็นลำดับต่อไป สาธุชนท่านใดที่ประสงค์จะร่วมบุญก็สามารถมาติดต่อได้ที่วัดโพธิ์กลาง ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ได้ทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ประกอบพิธียกชิ้นส่วนส่วนหน้าตักขึ้นประดิษฐานนั้นบรรดาชาวบ้านที่ชื่นชอบการเล่นหวยก็สังเกตที่ป้ายทะเบียนรถเครนที่ใช้ยกชิ้นส่วนหน้าตักหลวงพ่อควรเพื่อที่จะนำเอาไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2567 โดยเลขทะเบียนรถเครนคันดังกล่าวคือเลข 09242

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เพชรบูรณ์ รายงาน

2

Popular Posts

My Favorites

เปิดภาพวัยเด็ก “จอย รินลณี” เป็นตัวแทนโรงเรียนอัญเชิญพระเกี้ยว สวยทุกยุคจริงๆ

0
เรียกว่าเป็นภาพหาดูยาก ที่ขอย้อนเรื่องราวในอดีตมาให้ได้เห็นกันอีกครั้ง สำหรับนักแสดงสาว จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ กับวัยเด็กที่จดจำไม่เคยลืม ล่าสุด จอย รินลณี ได้เผยภาพขณะที่เธอถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจากโรงเรียน อันเชิญพระเกี้ยว ในงานกีฬาสีห้าพระเกี้ยว “น.ส.รินลณี ศรีเพ็ญ ตัวแทนโรงเรียนหอวัง อัญเชิญพระเกี้ยว ณ งานกีฬาห้าพระเกี้ยว #ขอบคุณโรงเรียนหอวัง และคุณครูอาจาร์ยทุกท่านนะคะ รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างสูงค่ะ #สุสูสังละภะเตปัญญัง #ผู้ฟังดีย่อมเกิดปัญญา ยังคงยึดมั่นคำสอนของลูกน้ำตาลเหลืองเสมอค่ะ #ขอบคุณสื่อที่เอามาลงด้วยนะคะ” งานนี้แฟนๆ ต่างเข้ามากดไลก์และคอมเมนต์ชื่นชมในความสวยกันสนั่น...