ข่าวด่วน

Home ข่าวด่วน Page 33
Featured posts

ตามหาสาวมิตซูคนงาม หนีค่าห้องเช่า เห็นสภาพห้องรับไม่ได้จริงๆ

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มีรายงานว่า ในเฟซบุ๊กเพจ นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์ ได้มีการโพสต์ภาพห้องเช่าแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่า แอดมินดังกลุ่มเฟสบุ๊คดังระบุโพสต์ไว้ดังนี้

ตามหาสาวมิตซูคนงาม หนีค่าห้องเช่าเขาแล้วดูสภาพที่ทำไว้กับห้องเขา สภาพห้องกับหน้าตาช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ อยู่ได้ยังไงแบบนี้ แล้วตอนนี้เอาชุดทำงานที่ไหนใส่ รึว่าออกจากงานแล้ว เจ๊เจ้าของห้องเช่าแกใจดีนะ ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือลูกหอพอสมควร มีอะไรทำไมไม่พูดคุยกับแกก่อน แล้วไม่สมควรทิ้งความสกปรกไว้ให้เจ้าของห้องเช่าแบบนี้ น้องคนนี้หน้าตาดีมากด้วยนะ เฮ้อ!ไม่อยากจะคิดว่าเคยอาบน้ำไปทำงานบ้างไหม??

เจ้าของหอบอกให้ไปเอาเสื้อผ้าคืนนะ แกสงสารกลัวไม่มีชุดทำงานใส่

#รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

เครดิต #แอดมินเพจที่นี่บ่อวินรายงาน

โพสต์ดังกล่าว

เรียบเรียงโดย mumkhao

เปิด 18สินค้า เงินดิจิทัล 1หมื่นที่ร่วมโครงการไม่ได้

นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของร้านค้า ที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดจะเริ่มได้ ในไตรมาส 4 ของปีนี้ ว่า

ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะไปรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลกลาง เพื่อเตรียมพร้อมลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ตามกำหนดเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรอรับเงินในไตรมาส 4 ในปี 2567

โดยสินค้าก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภร เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ ยารักษาโรค เครื่องแบบนักเรียน เป็นต้น ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม ที่ร่วมโครงการไม่ได้ อาทิ สลากกินแบ่งรัฐบาล,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม (ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม) บัตรกํานัล บัตรเงินสด ทองคํา เพชร พลอย (อัญมณี) น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้าได้อีก ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ

ประกาศด่วนล่าสุด เงินดิจิทัล 10,000 ล่าสุดเพิ่มเงื่อนไขเข้ามาอีก เป็น 18 กลุ่ม

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมร้านค้า เพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท คาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 4 ของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายใน เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลร้านค้า ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งฐานข้อมูลร้านค้าให้กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. เพื่อรวบรวมในฐานข้อมูลกลาง เตรียมความพร้อมลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นแล้ว รวม 1,604,000 ร้านค้า

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รายละเอียดของร้านค้า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีนิติบุคคลขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 910,000 ราย จำนวนนี้มีร้านธงฟ้า 146,000 แห่ง และร้านอาหารธงฟ้า 5,000 แห่ง ที่กรมการค้าภายในดูแล มีร้านค้า (โชห่วย) หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าอาหาร ร้านค้าตลาดนัด และที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ดูแล 400,000 แห่ง รวมทั้งมีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแล 93,000 แห่ง และห้างค้าส่งปลีกและร้านสะดวกซื้อ ที่สมาคมค้าปลีกไทยดูแล โดยดำเนินการผ่านกระทรวงพาณิชย์ 50,000 แห่ง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า กำหนดการลงทะเบียน เบื้องต้นเดือนสิงหาคนี้จะเปิดลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ตามด้วยกลุ่มซัพพลายเออร์ และร้านค้าทั่วไป ส่วนกรณีมีการมองว่าการลงทะเบียนร้านค้า เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ยืนยันว่าการดำเนินการไม่ได้เป็นเช่นนั้น จะเน้นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งร้านค้าบุคคลธรรมดา ร้านธงฟ้า ร้านกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยท้องถิ่น ร้านสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอท็อป ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของชำ มีสิทธิหมด รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น

นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับรายการสินค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท ยกเว้นธุรกิจบริการและสินค้า 18 กลุ่ม (Negative List) ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ได้แก่ 1.สลากกินแบ่งรัฐบาล 2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ผลิตภัณฑ์ยาสูบ 4.กัญชา 5.กระท่อม 6.พืชกระท่อม 7.ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม 8.บัตรกํานัล 9.บัตรเงินสด 10.ทองคํา 11.เพชร 12.พลอย 13.อัญมณี 14.น้ำมันเชื้อเพลิง 15.ก๊าซธรรมชาติ 16.เครื่องใช้ไฟฟ้า 17.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 18.เครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้า Negative List หากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิด ที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ

ชาวบ้าน ขับไล่พ้นวัดแล้ว พระเมาแอ๋ ด่ากราด

จากกรณีที่มีช่างติดตั้งกระจกรายหนึ่งในอำเภอประทายได้ถ่ายคลิปวิดีโอพระรูปหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา ทรงตัวไม่อยู่เดินเซไปเซมา ซึ่งบทสนทนาภายในคลิปวิดีโอนั้นทางเจ้าของคลิปอ้างว่าทางพระที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้นมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนที่ทางเจ้าของคลิปจะถามพระรูปดังกล่าวว่าเมาหรือไม่ ซึ่งพระที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้นก็ยอมรับว่าเมาจริง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่วัดเตยกระโตน ม.1 ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งภายในบริเวณศาลาวัดที่เป็นจุดที่ช่างทำงานนั้น วันนี้ไม่มีช่างเข้ามาทำงานที่วัด เนื่องจากได้ติดตั้งกระจกเสร็จเรียบร้อยแล้ว และใกล้กันทางด้านหลังของศาลา เป็นกุฏิของพระที่ปรากฏในคลิปวิดีโอใช้เป็นที่พักอาศัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประตูทางเข้ากุฏิถูกคล้องด้วยกุญแจไว้ โดยไม่พบพระรูปดังกล่าวอยู่แล้ว <pชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณข้างกำแพงวัด เผยว่า พระรูปดังกล่าวได้ออกจากวัดไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าไปจำวัดอยู่ที่ไหน โดยนางอนงค์ พลยางนอก อายุ 70 ปี ชาวบ้าน บอกว่า พระที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้น มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ประมาณ 2-3 พรรษาแล้ว โดยปกติแล้วพระรูปนี้นิสัยดี ขยัน ช่วยพัฒนาวัด ทำนู่นทำนี่อยู่ประจำ แต่ในบางครั้งก็อารมณ์ร้อน โดยเฉพาะเวลาที่มีอาการเมาสุรา จะเปลี่ยนนิสัยเป็นคนละคน ซึ่งตนคิดว่า พระรูปดังกล่าวน่าจะดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (ยาตราพญานาค)

พอเมาก็จะมีอาการอย่างที่เห็นในคลิป คือ พูดจารุนแรงและมีการด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งชาวบ้านก็รู้แต่ก็ยังให้อภัย แต่มาถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ ชาวบ้านต่างรู้สึกไม่สบายใจ ทางคณะกรรมการวัดผู้นำชุมชนจึงได้ปรึกษาหารือ ก่อนมีมติให้พระรูปดังกล่าวออกจากวัดไป

ขณะเดียวกัน พระประสพโชค ปะสันนะจิตโต พระลูกวัด ที่จำพรรษาอยู่ในกุฏิข้างกัน บอกว่า พระรูปดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอนั้น พื้นเพเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนที่จะมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ประมาณ 2 พรรษา มีคนนิมนต์มาให้จำวัดอยู่ที่นี่ เนื่องจากพระที่วัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่จำนวนน้อย เพียง 3 รูปเท่านั้น โดยปกติแล้ว พระรูปนี้เป็นพระที่ขยันขันแข็ง แต่มีนิสัยอารมณ์รุนแรงตอนที่มีอาการเมา จะพูดจาหยาบคาย ซึ่งอาจทำให้วันที่เกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกับช่างที่มาทำงานที่วัด ซึ่งในวันเกิดเหตุตนไม่ทราบรายละเอียดว่า เหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากตนจำวัดอยู่ภายในกุฏิ ได้ยินแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายของพระรูปดังกล่าว และช่างที่มาทำงานที่วัด ซึ่งตนมารู้รายละเอียดภายหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวไปแล้ว

ด้านนายสมพร โคตรสัยยา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านเตยกระโตน ม.1 ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา พระรูปดังกล่าว ได้นั่งรถสามล้อพ่วงมาจากโรงพยาบาล แล้วมาลงที่บริเวณหน้าศาลาที่มีช่างกำลังติดตั้งกระจกอยู่ ก่อนที่จะเกิดการโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำหยาบคายอย่างรุนแรง และช่างได้ถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ตามภาพดังกล่าว ซึ่งตนไม่รู้ว่ามีเรื่องกระทบกระทั่งอะไรกัน รู้แต่เพียงว่า พระรูปดังกล่าวเป็นคนอารมณ์ร้อน ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายอย่าง จึงไปหาหมอเป็นประจำ ส่วนอาการเมานั้น ก็คาดว่า จะมาจากการดื่มยาที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม (ยาตราพญานาค) เพราะมีคนเห็นมาซื้อยาดังกล่าวที่ร้านค้าหน้าวัดเป็นประจำ เมื่อมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวลงในโซเชียลจนกลายเป็นข่าวไปทั่วประเทศ ก็ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการวัดและขอร้องให้พระรูปดังกล่าว ย้ายออกจากวัดไป ซึ่งพระรูปดังกล่าวก็ยินยอมแต่โดยดี แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่วัดไหน

ให้โชคทุกปี พิธีประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แห่ส่องทะเบียนรถเครนยกพระ งวด 1 ส.ค. 67

วันที่ 22 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดโพธิ์กลาง ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ได้จัดพิธีอัญเชิญชิ้นส่วนส่วนหน้าตักหลวงพ่อควร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานบนแท่นประดิษฐานที่สูงกว่า 6 เมตร โดยมีชาวบ้านและศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก และที่พลาดไม่ได้ผู้ที่เข้าร่วมพิธีต่างก็สังเกตป้ายทะเบียนรถเครนที่ใช้สำหรับยกองค์เผื่อจะเอาไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 ส.ค.2567 ที่จะถึงนี้

เมื่อรถเครนได้บรรทุกชิ้นส่วนหน้าตักขององค์พระมาถึงที่วัดชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาได้พากันแต่งกายด้วยชุดนางรำประจำหมู่บ้าน พร้อมกันรำถวายการต้อนรับและรำไปพร้อมกันนี้พระสงฆ์ได้เจริญพระพุทธมนต์ จนกระทั่งรถเครนได้ยกชิ้นส่วนประดิษฐานจะเสร็จสิ้น เป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งพิธีการผ่านไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีอุปสรรคหรือปัญหาใดๆ

พระครูสุตพัชรสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์กลาง เปิดเผยว่าวัดโพธิ์กลางได้ก่อตั้งมานับร้อยปีแล้ว เมื่อครั้งที่หลวงพ่อควรเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่สองได้อัญเชิญพระพุทธรูปเนื้อสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยมาไว้ที่วัดเพื่อให้ชาวบ้านได้กราบสักการะบูชา กระทั่งหลวงพ่อควรได้มรณภาพ แต่สมัยนั้นยังไม่มีการถ่ายภาพจึงทำให้ไม่มีภาพของหลวงพ่อควร ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันตั้งชื่อพระพุทธรูปที่หลวงพ่อควรนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดว่า “หลวงพ่อควร” เพื่อเป็นการรำลึกถึงหลวงพ่อควรที่ชาวบ้านเคารพบูชา มาจนถึงปัจจุบันนี้

ต่อมาวัดโพธิ์กลางและคณะศิษยานุศิษย์ได้เห็นพ้องกันว่าจะสร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อควรองค์ใหญ่ปางมารวิชัยหล่อด้วยทองเหลืองขนาดหน้าตัก 5 เมตร สูง 7 เมตร โดยแบ่งการหล่อออกเป็น 3 ชิ้นคือส่วนหน้าตัก ส่วนหน้าอก และส่วนเศียร โดยในวันนี้ได้อัญเชิญส่วนหน้าตักมาประดิษฐานไว้บนแท่นที่มีความสูง 6 เมตร และก็จะอัญเชิญชิ้นส่วนอื่นๆมาประดิษฐานในลำดับต่อไป โดยได้กำหนดไว้ว่าในส่วนเศียรนั้นจะนำมาประดิษฐานในวันทอดกฐินหลังจากวันออกพรรษา และก็จะมีพิธีพุทธาภิเษกเป็นลำดับต่อไป สาธุชนท่านใดที่ประสงค์จะร่วมบุญก็สามารถมาติดต่อได้ที่วัดโพธิ์กลาง ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ได้ทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ประกอบพิธียกชิ้นส่วนส่วนหน้าตักขึ้นประดิษฐานนั้นบรรดาชาวบ้านที่ชื่นชอบการเล่นหวยก็สังเกตที่ป้ายทะเบียนรถเครนที่ใช้ยกชิ้นส่วนหน้าตักหลวงพ่อควรเพื่อที่จะนำเอาไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2567 โดยเลขทะเบียนรถเครนคันดังกล่าวคือเลข 09242

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เพชรบูรณ์ รายงาน

สุดสลด โชเฟอร์แท็กซี่ปรับเบาะ นอนเสียชีวิตปริศนา

เมื่อเวลา 20.00 น วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภบางกรวย ได้รับแจ้งเหตุ พบโชเฟอร์แท็กซี่นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ ใกล้เคียงสหกรณ์ออมทรัพย์ ถนนนครอินทร์ ตำบลบางสีทอง อำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งรีบตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลนส์ มุ่งหน้า วงเวียนพระราม 5 พบรถ แท็กซี่ สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียนมฎ1869กทม. พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่บริเวณเงาะรถด้านคนขับ ทราบชื่อคือนายจรินทร์ เพชรนิล ไม่ทราบอายุ อาชีพ โชเฟอร์ขับแท็กซี่ สภาพศพสวมเสื้อ ยืดสีดำแขนสั้น สวมกางเกงขายาว ตรวจสอบ พบว่ารถคันดังกล่าว ไม่ได้ ติดเครื่องยนต์ สภาพศพ ขึ้นอืด มีกลิ่นเน่าเหม็น กำมือทั้งสองข้าง เลือดออกบริเวณปาก

จากการสอบถามนายเศรษฐพงศ์ พัฒนปัญญา อายุ60 ปี คนขับรถแท๊กซึ่เจอศพคนแรก กล่าวว่า ตนมาจอดรถบริเวณนี้เป็นประจำ มาจอดตอน 10 โมง ของทุกวัน ที่บริเวณนี้ ตนไม่รู้จักผู้ตาย แต่มีเพื่อนของผู้ตายเข้ามาดูอยู่ แต่มาเห็นรถของคนตายมาจอดประมาณ 7 โมงของเมื่อวาน มาจอดตากแดดนอนอยู่ในรถ ตนไม่ได้เอะใจอะไร หลังจากนั้นเวลา บ่าย 3 ตนได้มาจอดอีกครั้ง เห็นว่ารถของผู้ตายยังอยู่ และวันนี้ตนได้มาเจออีกครั้งพบว่ารถของผู้ตายยังอยู่ วันนี้ตนจึงเดินมาที่รถของผู้ตาย แต่คิดว่ายังหลับอยู่คิดว่ามาจอดหลับเหมือนเดิม ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว มองไม่เห็นว่าเขาหายใจ เพราะผู้ตายนิ่งอยู่ ตนจึงตามเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดู แต่ตนไม่ทราบว่าเขาจอดติดเครื่องรถอยู่หรือไม่แล้วเชื้อเลิงหมด จึงเสียชีวิต

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าวไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัว

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นนทบุรี รายงาน

นี่ตู้ทึบนะครับไม่ใช่รถเก๋ง สาวกดแอปฯผิด ชีวิตเปลี่ยน ก็ว่าแปลกๆรับของอะไร หน้าร้านเหล้า

นี่ตู้ทึบนะครับไม่ใช่รถเก๋ง สาวกดแอปฯผิด ชีวิตเปลี่ยน ก็ว่าแปลกๆรับของอะไร หน้าร้านเหล้า คนขับดผล รถตัวเองแต่ตัวผมเอง ไม่กล้าขึ้นรถเลย ตามสบายครับลูกค้า

วันที่ 22 ก.ค.2567 มีเรื่องราวที่กลายเป็นไวรัลในโซเชียล ที่ทำเอาชาวเน็ตมากันแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก เป็นภาพหญิงสาวนั่งอยู่ภายในห้องโดยสารของรถกระบะคันหนึ่ง โดยที่ตัวโชเฟอร์คนขับเองก็บอกว่า ตั วผมเองก็เพิ่งจะเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน ผมเองไม่กล้าเข้าไปนั่งในรถเลยครับ”

นี่ตู้ทึบนะครับไม่ใช่รถเก๋ง สาวกดแอปฯผิด ชีวิตเปลี่ยน ก็ว่าแปลกๆรับของอะไร หน้าร้านเหล้า

โดยสมาชิกจากกลุ่มรถรับจ้างขนของราคาถูก ขนย้าย ทั่วประเทศ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อควาระบุว่า “ขออนุญาตเจ้าตัวเรียบร้อยแล้วนะครับ รอจนส่งงานไม่ได้วิ่ง เพื่อนมารับเรียบร้อย -รถตัวเองแต่ตัวผมเองไม่กล้าขึ้นรถเลย ตามสบายครับลูกค้า”

ผู้โพสต์ เล่าว่า ฝากเตือนตอนเมา ดูแอปฯดีๆนะครับลูกค้า กดเรียกรถผิดรึเปล่าครับ นี่ตู้ทึบนะครับไม่ใช่รถเก๋ง แปลกๆรับของอะไรหน้าร้านเหล้า #บริการขนย้าย #ขนของเรียกได้ครับ ละแวกปริมณฑลกรุงเทพฯ ย้ายหอย้ายคอนโด เก็บบูธสถานที่จัดงาน #แค่โทร #เคนโกดังบ้านสวน

#ผมนี่ยืนงงแป๊บ #หัวฉันปวดมากนะ #ไว้ใจได้ แล้วคุณจะคิดถึงผม

ยุ่งยาก! ร้านค้าดัง ไม่เข้าร่วม โครงการดิจิทัลวอเลต

จากกรณีรัฐบาลเตรียมแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาและช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชนในขณะนี้ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุมีผู้ประกอบการร้านค้าสนใจร่วมโครงการกว่า 1.6 ล้านราย เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นจากบรรดาผู้ประกอบการค้าภายในเขตเทศบาลนครตรัง ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันเรื่องปัญหาสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการสำรวจบรรยากาศการค้าขาย ร้านอาหาร ประเภท ร้านกาแฟ ติ่มซำ ยามเช้า ต่างยอมรับลูกค้าหายไปไม่ต่ำกว่าครึ่ง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่มากกว่าปีที่ผ่านๆมา

แม้กระทั่งช่วงหลังการระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะที่ร้านค้าต้องแบกรับภาระต้นทุนประกอบการสูงมาก และประชาชนต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูง ทำให้ขาดกำลังซื้อ ก็ยังมีสภาพเศรษฐกิจที่ดีกว่าในปัจจุบัน ที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนที่สูงมาก ทั้งวัตถุดิบ สินค้าต่างๆที่ปรับขึ้นราคาโดยตลอด รวมถึงค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนมีกำลังซื้อน้อยลง โดยเฉพาะร้านค้าเล็กๆที่มีสายป่านทุนน้อย ได้รับความเดือดร้อนมาก

นายสัมพันธ์ ยิ้วเหี้ยง เจ้าของร้านโกสุย หมูย่าง ถนนห้วยยอด ภายในเขตเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า เศรษฐกิจซบเซาหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ประกอบกับเพิ่งผ่านพ้นเทศกาล และการเปิดเทอมมา นักท่องเที่ยวก็ไม่มี เพราะเป็นหน้ามรสุม ทำให้ร้านค้าซบเซาเหมือนกันทุกร้าน ทุกวันนี้จะเน้นขายเฉพาะสินค้าเด่นๆของร้าน เช่น หมูย่างเมืองตรัง เพราะพยายามรักษาลูกค้าประจำ และเจาะกลุ่มตลาดออนไลน์ เพื่อพาร้านและลูกน้องฝ่าปัญหาไปให้ได้ ค่าไฟร้านที่ตกเดือนละกว่า 4,000 บาท ต้องพยายามปรับลด เช่น ตู้แช่ลดลง 1 เครื่อง ทำให้ลดลงเหลือเดือนละกว่า 3,000 บาท แต่หากมีการปรับขึ้นค่าไฟอีก ก็จะต้องจ่ายเพิ่มที่ตัวเลขเดิมอีก อยากให้รัฐลดราคาน้ำมัน แก้ปัญหาสินค้าราคาแพง และตรึงค่าไฟออกไปอีก เพราะหากปล่อยให้มีการขึ้นราคา เชื่อว่าร้านอาหาร ร้านกาแฟ คงจะหยุดขายกันเป็นจำนวนมาก ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทางร้านจะไม่เข้าร่วม เพราะเห็นแล้วยุ่งยากหลายขั้นตอนกว่าจะได้เงิน รับมาแล้วต้องไปใช้จ่ายก่อน จึงจะเปลี่ยนเป็นเงินปกติได้ ยุ่งยาก และมีประชาชนจำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการใช้จ่าย

ด้านนางธนาภา โพธิ์วิจิตร เจ้าของร้านภาสินี ร้านชา กาแฟ ติ่มซำ ยามเช้า ถนนพัทลุง ภายในเขตเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจย่ำแย่มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านๆมาอย่างมาก สังเกตได้จากลูกค้าที่มาทานกาแฟ ติ่มซำยามเช้า ที่หายไปประมาณครึ่งหนึ่ง จากเดิมเคยมานั่งร้านกาแฟ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก่อนไปทำงาน หรือพาครอบครัวมานั่ง ก็หายไป อาจมาแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะคนไม่มีเงิน ขณะที่รัฐบาลก็ไม่มีแนวทางแก้ปัญหาออกมา อยากให้เร่งแก้ของแพง เพราะจะช่วยทั้งประชาชนและร้านค้า

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะเปิดให้ลงทะเบียนในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนตัวจะไม่ร่วมโครงการ เพราะไม่เห็นด้วยที่รัฐจะนำเงินจำนวนมหาศาลมาแจก ไม่อยากให้รัฐบาลเป็นหนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนเป็นหนี้ไปด้วย ควรนำเงินงบประมาณจำนวนมหาศาลดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศดีกว่านำมาแจก เพราะใช้แค่เดือนเดียวก็หมด และเมื่อเงินหมด จะทำยังไงต่อไป ปัญหาของแพง ค่าครองชีพสูงก็ยังอยู่ ความเดือดร้อนของประชาชนยังเป็นเหมือนเดิม รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ

ข้อมูล matichon

ฟอร์จูนเนอร์ชนกระบะกลางลำ รถพุ่งตกข้างทาง ดับสลด1 เจ็บ6 วงจรปิดจับภาพชัด

วันที่ 22 ก.ค. 67 พ.ต.ต.ประยงค์ หวังกุลกลาง สว.(สอบสวน) สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมารับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.หมูสี ว่า มีอุบัติเหตุรถชนกัน ถนนทางหลวงชนบท 3052 ปากช่อง-วังน้ำเขียว ช่วงซอย 1 กำนันวิฑูรย์ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง มีคนเจ็บหลายราย

หลังรับแจ้งจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรีบรุดออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.โยธิน วรรณทวี ผกก. พ.ต.ท.ชูเกียรติ แก้วอาจ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและ กู้ภัยสว่างวิชชาธรรมจุดหมูสี และ ปากช่อง

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ อีซูซุ ทะเบียนบุรีรัมย์ ตกอยู่ไหล่ทางด้านขวา สภาพกลางกระบะด้านซ้ายกลางคันถูกชนเสียหาย พบผู้บาดเจ็บกระเด็นตกจากรถบนถนน รวม 7 ราย เป็นคนงานต่างชาติ ชาวกัมพูชาทั้งหมด

กู้ภัยช่วยเหลือนำส่ง รพ.มกุฎคีรีวัน เขาใหญ่ พบว่าเสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงคนงาน และนำผู้บาดเจ็บส่งต่อ รพ.ปากช่องนานา โดยมีนายสุพิน ผู้ขับบาดเจ็บเล็กน้อย

ถัดไปกลางถนนใกล้กัน พบรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าเสียหายพังยัง ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่ง รพ.ปากช่องนานา

พ.ต.ต.ประยงค์ หวังกุลกลาง สว.(สอบสวน) สภ.หมูสี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ารถกระบะบรรทุกคนงานวิ่งจากปากช่องมุ่งหน้า ไปด้าน อ.วังน้ำเขียว และเลี้ยวขวาจะเข้าซอยตรงข้าม และมีรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ มาจาก อ.วังน้ำเขียว มุ่งหน้าจะไป ต.หมูสี ปากช่อง แล้วชนรถกระบะกลางคันขณะกำลังจะข้ามถนน

รถทั้ง 2 คันกระเด็นคนละทิศ จนทำให้มีคนงานนั่งมาในรถกระบะบาดเจ็บและเสียชีวิต ตรวจแล้วไม่พบรอยเบรก กำลังตรวจสอบเอกสาร และสอบสวนพยานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการกฎหมายต่อไป

เสียชีวิตแล้ว นายธีรยุทธ ขอแสดงความเสียใจ

วันที่ 21ก.ค.67 พ.ต.ต.ปรีชา เข็มศิริ สว.(สอบสวน)สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกง หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุรถชนคนบนทางด่วนบูรพาวิถีกม.40+300ขาเข้ากทม.หมู่ 6 ต.บางวัว อ.บางปะกง พบรถกระบะ สีขาว จอดอยู่ข้างทางติดขอบทาง

โดยยางหลังฝั่งขวาแตก และมีอุปกรณ์เปลี่ยนยางตกอยู่บนถนน บริเวณหน้ารถพบร่าง นายธีรยุทธ อายุ 31 ปี คนขับรถกระบะนอนเสียชีวิต ซึ่งมีภรรยา และคนในครอบครัวนั่งร้องไห้อยู่ข้างตัว

ใกล้กันพบรถบรรทุกหกล้อ สีขาว มีรอยบเฉี่ยวฝั่งซ้ายจอดอยู่ มีนายเมทนี อายุ 32 ปี เป็นคนขับสอบสวนนายเมทนี ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถเข้ากทม.พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตนมองไม่เห็น นายธีรยุทธ ที่นั่งเปลี่ยนยางอยู่ข้างถนน ทำให้เฉี่ยวชนร่างนายธีรยุทธ จนกระเด็น

ด้านน.ส.วารี อายุ 62 ปี แม่นายธีรยุทธ ให้การว่า ลูกชายกำลังขับรถไปเยี่ยมญาติที่นครปฐม ซึ่งมีภรรยากับลูก 3 คน และแม่กับพ่อไปด้วย โดยเพิ่งขับขึ้นทางด่วนรบูรพาวิถีไม่ถึง 5 นาที ยางหลังฝั่งขวาเกิดแตก จึงประคองรถไปจอดข้างทาง โดยไม่ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทางด่วนบูรพาวิถี ก่อนที่ลูกชายจะรีบลงไปเปลี่ยนยางเอง โดยมีพ่อลงไปโบกท้ายรถให้ แต่ระหว่างนั้นตนก็ได้ยินเสียงข้างรถ จากนั้นก็รีบลงไปดู ก็พบว่าลูกชายถูกรถชนไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจจะสอบสวนทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง

Popular Posts

My Favorites

ผัวพกปืน ไปตามเมียที่ร้านเหล้า หลังไปกับสาวหล่อ

0
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 สน.บางรัก รับแจ้งเหตุวิสามัญฆา-ตกรรมบริเวณหน้าร้านซิมพลี สาวหล่อ บางกอก เลขที่ 43/1 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ธเรศ วงศ์วรานุรักษ์ รอง ผกก.ป.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน...