สำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า มนุษย์เงินเดือนที่เป็นผู้ประกันตนในกองทุนประสังคม เมื่อถึงยามเกษียณก็จะได้รับ เงินชราภาพ ซึ่งก็คือเงินที่สะสมจากการทำงาน หรือเงินที่ถูกหักสะสมค่าประกันสังคมในทุกๆ เดือน จำนวน 5% ของเงินเดือน (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท) ตั้งแต่ 250-750 บาท

โดยมีเงื่อนไขการเกิดสิทธิ เมื่อผู้ประกันตนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และได้ลาออกจากงาน สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนหรือเสียชีวิต ส่วนจะได้รับเงินบำเหน็จหรือบำนาญกรณีชราภาพนั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตน

โดยในส่วนของ “เงินบำเหน็จชราภาพ” คือ เงินที่ผู้ประกันตนจะได้รับเป็นเงินก้อน ส่วน “เงินบำนาญชราภาพ” คือ เงินที่ผู้ประกันตนจะได้รับรายเดือนไปตลอดชีวิต

กรณีเงินบำนาญชราภาพ

ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน และมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับบำนาญชราภาพในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน

ผู้ประกันตนที่รับบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับจากเดือนที่มีสิทธิได้รับบำนาญให้จ่ายบำเหน็จแก่ทายาท เป็นจำนวนเท่ากับเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตายคูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับบำนาญถึงแก่ความตายจนครบ 60 เดือน

ตัวอย่างการคำนวณ หากผู้ประกันตนทำงานได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท มาตลอด และส่งเงินสมทบมาแล้ว 20 ปี เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพได้ โดยมีวิธีคำนวณเงินบำนาญชราภาพ เป็น 2 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน (15 ปี) จะได้อัตราเงินบำนาญ 20%

ส่วนที่ 2 และในปีที่ 16 – ปีที่ 20 (5 ปี) จะได้รับอัตราเงินบำนาญ เพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อปี

รวมอัตราเงินบำนาญ 20 ปี จะได้ 20% + 7.5% = 27.5%

ดังนั้น ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน = 27.5% ของ 15,000 บาท คือ 4,125 บาทต่อเดือนตลอดชีวิต

กรณีบำเหน็จชราภาพ (จ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียว)

ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ได้รับเงินเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่จ่ายในกรณีชราภาพ เฉพาะส่วนของผู้ประกันตนเพียงฝ่ายเดียว

ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหน

นอกจากนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 ที่มีบุตรยังมีสิทธิได้รับ “เงินสงเคราะห์บุตร” ช่วยเหลือค่าครองชีพโดยจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรจำนวน 800 บาทต่อเดือน ซึ่งจะโอนเงินเข้าบัญชี ผ่านระบบพร้อมเพย์ทุกๆ สิ้นเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือ วันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนไม่เกินเที่ยงคืน

สำหรับรายละเอียดของการรับเงินสงเคราะห์บุตรมีดังนี้

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเกิดสิทธิ

ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39

จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน

ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น

อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่อาคารชินวัตร 3 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ควรต้องปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ว่า ท่านนายกฯ ฝ่ายงบประมาณ และฝ่ายเศรษฐกิจกำลังคุยกันถึงแนวทาง

ทั้งนี้ ความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีแน่นอน และต้องทำอย่างเร็ว ช้าไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจกำลังไหลลง ยิ่งลึกเท่าไหร่ก็ดึงขึ้นมายากเท่านั้น นายกฯ กำลังวางแผนกันอยู่ หลังจากทำงานได้แล้วคงสั่งการเลย

เมื่อถามย้ำว่าจากมุมมองอดีตนายกฯ ดิจิทัลวอลเล็ตควรต้องเดินต่อหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า คำว่าดิจิทัลวอลเล็ต มี 3 เรื่องในนั้น

1.การกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทำ

2.การให้ประชาชนเรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อใช้ประโยชน์ในโอกาสต่อไปข้างหน้า เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันเทคโนโลยีต้องทำต่อไป แต่ความเร่งด่วนอาจรอได้

3.อนาคตของดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวางไว้แล้วจะสามารถเชื่อมต่อเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลกับประชาชนได้ และเป็นช่องทางให้ประชาชนทำธุรกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเรื่องของเทคนิคที่ต้องมีต่อไป ซึ่งอันที่ 2 กับ 3 รอได้ แต่อันที่ 1 รอไม่ได้ แต่รูปแบบอาจอิงเทคโนโลยีบ้างหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องถูกกฎหมายและไม่ให้ขัดแย้งกับคนที่เห็นต่างเยอะเกินไป

เมื่อถามอีกว่าโครงการอาจเปลี่ยนแปลงแต่การอัดฉีดมีเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เท่าที่ตนเดินผ่าน ได้ยินนายกฯ คุยกับฝ่ายงบประมาณ ควรจะต้องทำ

เมื่อถามอีกว่าการแจกเป็นเงินสดจะตอบโจทย์กว่าหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ข้อดีของการแจกเงินสดคือเร็ว แต่ข้อเสียคือกลัวจะใช้ในสิ่งที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่เท่านั้นเอง

หนุ่มโพสต์ถามในกลุ่ม นี่ตัวอะไร หลังกินส้มตำใส่ปูแล้วเจอบางอย่างในกระดองปู เป็นลักษณะเส้นสีเหลืองในกระดองปู มองๆแล้วคล้ายพยาธิหรือไข่อะไรสักอย่าง ก่อนชาวเน็ตมาเฉลยให้ว่านี่แหละคือของอร่อย แต่ไม่แนะนำให้กินดิบๆเพราะเสี่ยงเรื่องพยาธิ

เขาโพสต์ถามว่า “มันคืออะไรครับ เจอในปูที่ใส่ในส้มตำ” พร้อมรูปกระดองปูที่หงายอยู่ มีเส้นสีเหลืองเล็กๆเกาะอยู่เต็มกระดอง

ชาวเน็ตมาเฉลยว่าเป็นมันปู ของอร่อย เป็นส่วนที่นำไปทำเป็นอ่องมันปู แต่แนะนำว่าไม่ควรกินดิบเพราะเสี่ยงพยาธิใบไม้ในตับ ถ้าจะกินควรทำให้สุกก่อน เป็นส่วนที่อร่อยคนนิยมกิน แต่ถ้ามันดิบจะมีลักษณะเป็นเส้นๆแบบนี้

หลายคนบอกว่าเห็นแล้วขนลุกเลย

คอมเมนต์ชาวเน็ต

“ไขมันปู ถ้าปูดิบจะเป็นแบบนี้แต่เราไม่กินแบบนี้ ชอบกินแบบสุกๆมันจะหอมๆ มันๆ หวานๆ จิ้มข้าวเหนียวเริศมาก”

“มันปู ถ้าเป็นดำๆลอยๆลูกปลิงเข็ม”

“แต่ถ้าเป็นปูดิบอย่ากินดีกว่า พยาธิเยอะมาก แต่ถ้ามันทำรวมไปกับอาหารแล้วมันก็อาจจะปะปนมาในอาหารแล้วแหละ”

“มันปูค่ะ ส่วนที่อ้วนที่สุด คอเลสเตอรอล 100%”

“ปูที่ไม่ใช่ปูทะเล พวกปูนา ปูที่จับได่ตามคลอง ถ้ากินดิบจะเสี่ยงมีพยาธิใบไม้ในตับนะครับ”

“มันคือ “มันปู” ค่ะ ถ้าไม่คิดมากเรื่องกินดิบก็กินได้ค่ะ ถ้าคิดมากก็ไม่ต้องกินค่ะ เพราะบางคนก็กลัวเรื่องพยาธิ”

“ของดิบจากบกหรือน้ำจืด ไม่ว่าสดหรือหมักหรือดองมีพยาธิทั้งหมด #ทำสุกเท่านั้น หมู-วัว ->ตัวตืด ปลา กุ้ง หอย ปู-> ใบไม้ในตับ/ปอด เนื้อสัตว์ดิบทุกชนิด มีพยาธิตัวจี๊ดด้วย”

ขอบคุณ นี่ตัวอะไร

เมื่อเวลา 07.45น.วันที่ 9 กันยายน2567 ร.ต.ท.วสันต์ ศรีนิล รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายเหตุเกิดภายมในหมู่บ้านฉัตรหลวง14 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน. พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน หน่วยกู้ชีพบัวเพ็ชร อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต1

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวมีรั้วรอบขอบชิดบริเวณหน้าบ้านพบผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อนางเสาวกุล สะสาเดาะห์ อายุ 53ปี เจ้าของธุรกิจตลาดและเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ฝ่ามือขวา 1 นัด หน้าท้อง 2 นัดแก้มซ้าย1นัด กระสุนถูกอวยัวะสำคัญเป็นเหตุให้เสียชีวิต ข้างกันพบผู้ได้รับบาดเจ็บ1ราย เป็นบุตรชายผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายกฤติน นาถวิล อายุ 30 ปี ตำแหน่งนายช่างเขียนแบบสังกัดอบจ.ปทุมธานี ถูกยิงที่ฝ่ามือซ้ายถูกนำตัวส่งร.พ.บางปะกอกรังสิต 2 ส่วนผู้ก่อเหตุคือพันโทจารุชาติ จารุปาณ อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญกองทัพบกซึ่งอยู่บ้านหลังติดกันทางทิศตะวันตก ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตนเองเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุโดยกระสุนยิงเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา ข้างกันพบอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซิกเซาเออร์ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอกเครื่องกระสุน 3 นัด นอกจากนี้บ้านที่เกิดเหตุประตูกระจกหน้าบ้านถูกยิงแตกเกลื่อนพบปลอกกระสุนตกอยู่ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ

สอบสวนเบื้องต้น นายกฤติน นาถวิล อายุ 30 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้การว่า บ้านหลังนี้ตนเองอยู่กับมารดา 2 คน โดยมารดาและเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกันมานานแล้วเรื่องแมว เพราะผู้ก่อเหตุชอบให้อาหารแมวจรแล้วในเข้ามาในบ้านตนเองที่เลี้ยงสุนัขและกัดแมวเสียชีวิตไปแล้วหลายตัว มารดาตนเองสงสารและไม่อยากให้แมวโดนกัดเลยพยายามคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาแต่เพื่อนบ้านไม่แก้และระหงระแหงกันเรื่อยมา กระทั่งเช้าที่ผ่านมาแมวได้เข้ามาอยู่ที่กระโปรงหน้ารถและไม่ยอมออกเพราะตนเองต้องไปทำงาน เลยเกิดความโมโหมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงโดยตอนนั้นตนเองอาบน้ำอยู่บนบ้านได้ยินเสียงปปืนตนเองจึงรีบลงมาด้านก็พบว่ามารดาถูกยิงแน่นิ่งไปแล้ว ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ จะเห็นตนเองยินอยู่หน้าประตูกระจกจึงยิงใส่ทันทีจนกระจกแตกละเอียด กระสุนถูกฝ่ามือซ้ายตนเองจึงวิ่งหลบเข้าบ้าน ก่อนโทรแจ้ง191และได้ยินเสียงปืนอีก1นัดคาดว่าผู้ตายยิงซ้ำมารดาตนเอง ก่อนจะทิ้งระยะไปครู่หนึ่งจะดังเสียงปืนอีกนัดคาดว่าผู้ก่อเหตุยิงตนเองเสียชีวิต ทั้งหมดตนเองได้ยินเสียงปืนดัง 5-6 นัด

ด้าน นางอโนทัย จารุปาน อายุ 63ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ ให้การว่า สามีเป็นข้าราชการเกษียณมา 4 ปี ป่วยมาตั้งแต่ ปี 2558 เพราะถูกฝนเหลืองและระเบิดโดยบ้านตนเองอยู่ 2 คน วันหยุดลูกจึงจะมาหาโดยสาเหตุเกิดเมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้ว ทะเลาะกันเรื่องลูกแมวเข้าบ้านเขาโดยเข้าไปวิ่งเล่นบ้านเขาแต่เขาก็ไม่ได้อะไรพูดจาดี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาสามีตนเองให้อาหารแมวและบ้านเพื่อนบ้านได้ด่าแมวโดยบอกว่าด่าในโทรศัพท์ จากนั้นสามีตคนเองก็บอกว่าผมให้อาหารแมวอยู่คุณมาด่าแบบนี้มันไม่ใช่จากนั้นก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนที่เพื่อนบ้านจะด่ามาว่า “ไอ้เป๋เวรกรรมมึงมีจริงมึงก็อยู่กับตัวของมึง” ก่อนที่สามีตนเองจะบอกว่ามึงปากอย่างนี้จึงได้อยู่ตัวคนเดียว จากนั้นก็ด่ากันใหญ่ก่อนที่สามีจะวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อหยิบปืนตนเองก็วิ่งตามไปแต่ไม่ทันก่อนที่สามีจะไปยิงเพื่อนบ้านและออกมาที่ถนนใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิต

ทาง เพื่อนบ้านใกล้กัน บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่มีอุปนิสัยดีพูดจาดี เวลาป่วยก็จะหายามาให้เป็นเพื่อนบ้านมาหลายปีแล้ว โดยผู้ก่อเหตุก็นับถือตนเองเรียกตนเองว่ายายอ้วนเพื่อนบ้านก็มีไม่กี่หลังก็มักจะคุยกันเรื่อยๆ เปิดประตูบ้านมาเจอกันก็จะทักกัน โดยผู้ก่อเหตุไม่มีอาการป่วยอัธยาศัยดีไม่คิดว่าตจะเกิดเหตุเช่นนี้

ทางด้าน นายสมบูรณ์ สะสาเดาะห์ อายุ 80ปี บิดาของนางเสาวกุล สะสาเดาะห์ คนตาย เปิดเผยว่า ลูกสาวลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า แมวของคนก่อเหตุเข้ามาภายในบ้านก่อนที่สุนัขในบ้านที่เลี้ยงไว้ไปกัดแมวเขาแค่นั้นจากนั้นก็ไม่ได้เล่าอะไรอีก โดยบ้านหลังเกิดเหตุอยู่กัน2คนกับลูกชายโดยมาอยู่ตั้งแต่สร้างโครงการใหม่ๆ ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ให้กำลังชุดสืบสวนเร่งสอบปากคำพยานบุคคลตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยพบว่าสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ที่มา brighttv

18 ส.ค. 67 – ที่อาคารวอยศ์ สเปซ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยชั่วคราว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าร่วมพิธีโปรดเกล้าฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีการมีพระราชทานอภัยโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า

กรณีของ นายทักษิณ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเกณฑ์การพระราชทานอภัยโทษ มีในแต่ละมาตรา ซึ่งหลักเกณฑ์หนึ่ง คือ คนที่อยู่เรือนจำ 1 ใน 3 หรือหากมีโทษมาก อย่างน้อยต้อง จำคุกมาแล้ว 8 ปี เพื่อรักษาสมดุลความรู้สึกทั้งภายนอกและภายในเรือนจำ รวมถึงหลักเกณฑ์อื่น เนื่องจากเป็นปีมหามงคล ตั้งแต่นักโทษชั้นกลางขึ้นไปที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ที่เป็นนักโทษเด็ดขาด และนักโทษกักขังแทนค่าปรับ ที่ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ รวมเกือบ 31,000 คน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ทุกคนที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จะต้องมีคณะกรรมการที่ประกอบด้วย อัยการ ศาล มาดูรายละเอียดรายบุคคล ส่วนผู้ที่ได้รับการพักโทษ จะได้รับการอภัยโทษทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 8,000 คน ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ ในกลุ่ม 1 ใน 3 ทั้งคดียาเสพติด และคดีทุจริต ก็จะได้รับการลดโทษ แต่ไม่ได้รับการปล่อยตัว

เมื่อถามว่า กระบวนการตรวจสอบ กรณีการพักรักษาตัวของ นายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจ หากพ้นโทษแล้วถือว่า จบเลยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งเรื่องต่างๆ เป็นกระบวนการตรวจสอบที่มีความเป็นอิสระ ทั้งนี้หาก ป.ป.ช. สอบถามมายังตนเอง ก็พร้อมให้ข้อมูลทุกอย่าง ส่วนจะรวมถึงกล้องวงจรปิดด้วยหรือไม่นั้น หากอยู่ในการครอบครองของกระทรวงยุติธรรม ก็สามารถให้ข้อมูลได้ แต่หากอยู่ในการครอบครองของหน่วยงานอื่น ก็จะต้องดูข้อกฎหมายว่า อนุญาตได้หรือไม่ และสำหรับในส่วนของตนเองในฐานะ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ทาง ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการเรียกเข้าให้ข้อมูล แต่น่าจะมีการเรียกส่วนของกรมราชทัณฑ์แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่า จะมีการตรวจสอบย้อนหลัง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ก็ทำตามกฎหมาย หากทำนอกเหนือกว่านั้นก็จะผิด อย่างที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเคยบอกไว้ ว่ากฎกระทรวง อาจจะไปละเมิดสิทธิ์ ดังนั้นเมื่อกฎกระทรวงออกมาก่อนแล้วได้รับข้อมูลมาแล้ว ก็จะรับฟังความคิดเห็นได้หลายฝ่าย พอในรัฐธรรมนูญใหม่ ให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เมื่อถามย้ำว่า ในขณะนี้ นายทักษิณ พ้นโทษแล้วใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ได้รับอภัยโทษ ครับ”

เมื่อเวลา 14.50 น. เพจเฟซบุ๊ก China Xinhua News ได้มีการโพสต์คลิปเหตุการณ์สะพานถล่ม พร้อมกับรายงานว่า วันเสาร์ (20 ก.ค.) หน่วยงานท้องถิ่นมณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เผยว่า เกิดเหตุสะพานทางหลวงในส่านซี ที่ถล่มลงมาเนื่องจากฝนตกหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย และสูญหายอีกกว่า 30 ราย

ตามการรายงาน ระบุว่า สะพานในอำเภอจ้าสุ่ย เมืองซางลั่ว พังทลายลงมาบางส่วนเมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. ของวันศุกร์ (19 ก.ค.) เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปฏิบัติการกู้ภัยบริเวณจุดเกิดเหตุ

เหตุสะพานถล่มทำให้ยานยนต์บางคันร่วงลงสู่แม่น้ำจินเฉียนที่อยู่ใต้สะพาน ซึ่งจำนวนยานยนต์ที่ประสบเหตุที่แน่ชัดนั้นยังอยู่ระหว่างการประเมิน อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยสามารถกู้รถ 5 คันที่ตกลงไปในแม่น้ำขึ้นมาได้แล้วเมื่อ 10.00 น. ของวันเสาร์ (20 ก.ค.)

ขอบคุณ China Xinhua News

จากกรณีที่เด็กชายชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถูกครูลงโทษเพราะติดเครื่องหมายชุดลูกเสือมาโรงเรียนไม่ครบ สั่งวิ่งรอบสนาม 5 รอบ ซึ่งเด็กป่วยหืดหอบอยู่แล้ว ทำให้หายใจไม่ทัน ครูโทรตามผู้ปกครองมาที่โรงเรียน นำลูกส่งคลินิก ก่อนส่งต่อ รพ.อำเภอ แต่เด็กเสียชีวิตในที่สุด ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้า

ซึ่งต่อมา ครูประจำชั้น เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุเด็กแต่งตัวติดเครื่องหมายชุดลูกเสือไม่ครบ จึงได้ทำโทษให้วิ่งหน้าแถว 3 รอบ ระหว่างทำโทษเด็กจึงรู้ว่าเด็กมีอาการผิดปกติ น้องบอกว่าหนูไม่ไหว ก็เลยถามว่าหนูไม่สบายใช่ไหม น้องบอกว่าครับ ไม่สบายก็เลยให้นั่งพักก่อน ส่วนตนเองก็มาสอนเด็กคนอื่นตามปกติ

สักพักหนึ่งหันไปเห็นน้องกำลังจะอาเจียน น้องบอกคุณครูโทรตามพ่อให้หน่อย ครูก็โทรหาพ่อให้บอกว่าน้องไม่สบายมารับน้องหน่อย แล้วให้น้องนอนพักรอพ่อ ไม่เกิน 5 นาที ครูไม่รู้ว่าน้องมีโรคประจำตัว รู้แต่ว่าไม่สบาย หยุดไปหลายวัน ช่วงเย็นตนจะนำพวงหรีดไปร่วมแสดงความเสียใจ และเป็นเจ้าภาพสวดศพ ทั้งนี้ คณะครู รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุดวันที่ 20 ก.ค. 67 หลังงานสวดอภิธรรมศพคืนแรก ผู้จัดการโรงเรียน ได้พูดคุยกับทางญาติถึงสาเหตุการเสียชีวิตโดยญาติให้ข้อมูลว่า น้องปอดติดเชื้อและสามารถเป็นได้ตลอดเวลา ซึ่งไม่เกี่ยวกับการถูกลงโทษ โดยทางโรงเรียนยินดีช่วยเหลือเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งทางญาติยอมรับและไม่ติดใจแต่อย่างใด

ใกล้วันหวยออก ชาวบ้านพากันกราบไหว้ขอพร พ่อปู่ศรีสุทโธ และ แม่ย่าศรีประทุมมา ที่เกาะคำชะโนดวังนาคินทร์ดินแดนพญานาคราช ไม่พลาดส่องเลขเด็ดขันน้ำมนต์ พ่อจ้ำทำพิธีที่ลานบวงสรวง

วันที่ 27 ส.ค.2567 ที่เกาะคำชะโนดวังนาคินทร์ดินแดนพญานาคราช พ่อปู่ศรีสุทโธ และ แม่ย่าศรีประทุมมา บ้านโนนเมือง ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศใกล้วันหวยออก นักท่องเที่ยวและชาวบ้านพากันมากราบไหว้ขอพรพ่อปู่และแม่ย่า เพื่อขอพรขอโชคลาภ

โดยจุดบริเวณต้นมะเดื่อยักษ์เวลานี้น้ำท่วมรอบต้นมะเดื่อยักษ์ ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนใกล้ศาลปู่น้ำสูงประมาณ 80 ซ.ม. หากฝนตกเพิ่มอีกคงจะท่วมจุดไหว้หน้าศาลพ่อปู่แม่ย่า ทำให้เข้ากราบไหว้ได้เพียง 2 จุดคือศาลพ่อปู่แม่ย่าและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

โดยที่ลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด พากันส่องขันน้ำมนต์ ที่พ่อจ้ำคำชะโนดทำพิธีขอโชคลาภเห็นเป็นคล้ายเลข 37,73 ส่วนที่ไม่ต้องส่องให้ปวดตามองไปเห็นทันทีคือที่โต๊ะบวงสรวงได้จุดธูปเสี่ยงโชคเป็นเลข 043,340 สุดแท้แต่ดวงใครดวงมันในงวดวันที่ 1 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 12 ส.ค.67 ร.ต.อ.สมบัติ สมบูรณ์ดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุชายจมน้ำเสียชีวิต อยู่ในป่ายูคาลิป ริมถนนหมู่ที่ 4 ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลโพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบศพชาย สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ นอนเสียชีวิตในสภาพน้ำลายฟูมปาก ทราบชื่อต่อมาว่า นายยอดรัก (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี เป็นคนงานตัดไม้ มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน เล่าให้ฟังว่า พวกตนเป็นคนงานบริษัติรับเหมา มาตัดไม้ยูคาลิปกันทั้งหมด 4 คน โดยผู้เสียชีวิตนั้นไม่สบายหยุดงานไป และเพิ่งเดินทางมาร่วมกับคนงานตัดไม้กับพวกตนเองเป็นวันแรก แต่ยังทำอะไรไม่ได้ บอกว่าร้อนมีอาการกระสับกระส่าย เดินไปเดินมาบอกว่าร้อน

ทางเพื่อนผู้ร่วมงานก็บอกให้ไปพักก่อน และเพื่อนร่วมงานก็ทำงานตัดไม้กันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ พบเห็นกระเป๋าลอยอยู่ในคูน้ำร่องสวน จึงเดินไปดูพบนายยอดรักนอนคว่ำหน้าอยู่ในคูน้ำร่องสวน จึงช่วยกันนำตัวขึ้นมาจากคูน้ำ และช่วยกันปั๊มหัวใจ พบว่าเสียชีวิตแล้วและมีน้ำลายฟูมปาก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเสียตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เมียนมาก็หนัก อิทธิพลของพายุ ยางิ ฝนตกหนัก เขื่อนเก็บน้ำทัพกุง ตอนบนเมืองเนปิดอว์แตกแล้ว มวลน้ำมหาศาลไหลทะลัก เขื่อนปองลองกำลังจะแตกด้วย มวลน้ำทั้งหมดไหลลงจากเนปิดอว์ลงไปภาคพะโคแล้วออกทะเล ไม่ส่งผลกระทบประเทศไทย

วันที่ 12 ก.ย.2567 จากอิทธิพลของพายุ ยางิ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมหนักในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ ขณะที่ฝั่งประเทศเมียนมาก็หนักไม่แพ้กัน โดย จิสด้า อัปเดตภาพดาวเทียม 7 อำเภอเชียงรายอ่วม ท่วมแล้ว 7.8 หมื่นไร่ แม่อาย เชียงใหม่ ท่วม 8 พันไร่ ยังพบน้ำท่วมขังกว่า 8 พันไร่ในเมียนมา คาดระบายสู่แม่น้ำโขง

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก Tai Community 0nline โพสต์เผยแพร่ภาพ มวลน้ำมหาศาลไหลทะลัก หลังเกิดเหตุเขื่อนทางตอนบนของเมืองเนปิดอว์แตก ขณะที่อีกเขื่อนกำลังจะแตกเช่นกัน

โดยเรื่องนี้ เพจเฟซบุ๊ก Tai Community 0nline ระบุเรื่องนี้ว่า น้ำท่วมเนปิดอว์หลายพื้นที่ ในภาพคือเขื่อนเก็บน้ำทัพกุง ตอนบนเมืองเนปิดอว์แตกแล้ว ห่างไปทิศตะวันออกของเมืองทัพกุง เขื่อนปองลองกำลังจะแตก มวลน้ำทั้งหมดจะไหลลงทางเนปิดดอว์ ซึ่งเหตุการณ์นี้น้ำไหลจากเนปิดอว์ลงไปภาคพะโคแล้วออกทะเล โดยไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก Tai Community 0nline